ตอนเย็น
“กลับมาแล้วค่ะน้าเดือน ”
“จ้า ไปอาบน้ำอาบท่า จะได้ลงมากินข้าวนะโฟกัส ”
น้าเดือนบอกฉัน ทั้งที่ยังง่วนอยู่ในครัวเหมือนเดิม
“น้าเดือนคะ คือหนูไปสมัคงานไว้ที่ผับค่ะ หนูต้องเริ่มงานวันนี้ ”
ฉันรีบบอกน้าเดือน เพราะฉันต้องเริ่มงานคืนนี้แล้ว พอฉันพูดจบ น้าเดือนก็วางมือจากครัว แล้วหันมามองหน้าฉัน
“ทำที่ผับเหรอ สถานที่แบบนั้นน้าว่ามันอันตรายไปนะ ลองหาที่อื่นดูก่อนมั้ย เราไม่ได้ร้อนเงินขนาดนั้นนะโฟกัส ”
น้าเดือนพูดขึ้นอย่างเป็นห่วง แต่ฉันจะบอกน้ายังไงว่าฉันร้อนเงินมาก เพราะฉันต้องกลายเป็นหนี้ก้อนโตอย่างกระทันหัน
“น้าเดือนคะ อีกอย่างหนูสงสารพ่อกับแม่ หนูอยากช่วยแบ่งเบาภาระของพวกท่านบ้างค่ะ ผับนี้เป็นของพี่ชายเพื่อนหนูค่ะ ไม่น่ามีอันตรายอะไร ”
ฉันพูดให้น้าสบายใจ ไม่งั้นน้าเดือนคงไม่ยอมแน่ เพราะรับปากพ่อกับแม่ฉันเป็นมั่นเป็นเหมาะ ว่าจะดูแลฉันให้ดี
“คิดดีแล้วใช่ไหม เราพึ่ง19เอง จะดูแลตัวเองได้เหรอ ”
“ได้สิคะ น้าเดือนไม่ต้องห่วงอะไรเลย หนูโตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้วค่ะ ”
ฉันพูดอย่างมั่นใจ ยังไงฉันต้องทำงานนี้ให้ได้
“อ่าๆ~งั้นก็ตามใจ แต่ถ้ามีอะไรต้องบอกน้านะ ”
“ได้ค่ะน้าเดือน งั้นหนูไปอาบน้ำแต่งตัวนะคะ ต้องเริ่มงานวันนี้แล้ว ”
“จ๊ะ~”
ฉันรีบขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว และขับมอเตอร์ไซค์คู่ใจไปที่ผับ
ผับเวลาต่อมา
“โฟกัสใช่ไหมจ๊ะ~ตามพี่แนนมารับชุดเร็ว ”
พอมาถึงก็มีพี่ผู้หญิงเดินมาเรียก และพาฉันไปยังห้องแต่งตัว พร้อมยื่นชุดสีแดงให้ฉัน
“ใส่ชุดนี้นะ แต่งหน้าเป็นไหม ”
“ไม่ค่อยเป็นเท่าไหร่ค่ะ ”
ฉันตอบพี่แนนไปตามความจริง ปกติฉันใช้แค่ลิปมันกับแป้งฝุ่น
“งั้นไปเปลี่ยนชุดก่อน เดี๋ยวพี่ให้แหว๋วมาแต่งให้
แต่วันหลังต้องหัดแต่งเอง แล้วก็ต้องซื้อเครื่องสำอางมาเองเข้าใจมั้ย ”
พี่แนนอธิบายอย่างใจดี
“เข้าใจค่ะพี่แนน ”
ฉันเดินเข้ามาในห้องแต่งตัว รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเอาซะเลย มันใหม่มากสำหรับเด็กต่างจังหวัดแบบฉัน ฉันแต่งตัวเสร็จแล้ว ด้วยชุดกระต่ายน้อยสีแดงโชว์อกโตๆกระแทกตา และกระโปรงสั้นจุ้ดจนเห็นเรียวขาอ่อน ฉันกลืนน้ำลายเหนียวลงคอ มันจะยั่วเกินไปมั้ยอ่า
“น้องโฟกัส เสร็จรึยังจ๊ะ ”
เสียงเรียกฉันจากด้านนอก
“เสร็จแล้วค่ะ ”
ฉันฮึบอีก1ทีแล้วเปิดประตูออกไป
“พี่แนนให้พี่มาแต่งหน้าให้จ๊ะ พี่ชื่อแหว๋วนะ ”
พี่คนที่มาใหม่รีบแนะนำตัว
“สวัสดีค่ะพี่แหว๋ว รบกวนด้วยนะคะ ”
ฉันพูดกับพี่แหว๋วอย่างเกรงใจ แต่งหน้าไม่เป็นไม่พอ ยังไม่มีเครื่องสำอางเป็นของตัวเองอีก
“หึ!!ใสซื่อน่ารักเชียว มาๆพี่แต่งหน้าให้”
ฉันนั่งลงที่เก้าอี้ ปล่อยให้พี่แหว๋วแต่งหน้าทำผมให้อยู่ซักพัก
“ลืมตาได้เลยจ๊ะ โฟกัสสวยมากๆเลย ยิ่งทำผมแบบนี้ยังกะสาวญี่ปุ่นแหนะ ”
พี่แต่งหน้าให้ฉันซะสวยเช้งกะเด๊ะเลย และยังมัดจุกขึ้นสองข้างอย่างน่ารัก
“ขอบคุณค่ะพี่แหว๋ว พี่แต่งหน้าเก่งมากๆเลย
หนูแทบจำตัวเองไม่ได้เลยค่ะ ”
สกิลการแต่งหน้าพี่แหว๋วคือที่สุด
“เบ้าหน้าน้องสวยจ๊ะ ตอนยังไม่แต่งก็สวยออร่ามากแล้ว พอแต่งเพิ่มนิดหน่อยคือสวยมากเลย
พี่แนนบอกให้พี่ดูแลเรานะ ช่วงนี้ก็ทำงานคู่กับพี่ไปก่อน ”
“ได้เลยค่ะ ขอบคุณพี่แหว๋วนะคะ ”
ฉันยิ้มดีใจ อย่างน้อยๆก็ได้ทำงานกับคนใจดี
พี่แหว๋วแลดูใจดีเป็นกันเองมากๆ
“งั้นตามพี่มาจ๊ะ อยู่ที่นี่ไม่ต้องสนใจใครนะ อาจจะมีพวกขี้อิจฉา กระแนะกระแหนบ้าง แต่แค่เราปล่อยผ่านก็พอ ”
ในระหว่างทาง พี่แหว๋วก็แนะนำฉันในเรื่องต่างๆไปด้วย
“ค่ะพี่แหว๋ว”
ฉันรับฟังที่รุ่นพี่สอนทุกอย่าง และเดินตามพี่เข้ามาในห้องรวม ที่นี่ยังมีพีอาร์อีกหลายคน แต่ละคนคือเซ็กซี่ขยี้ใจเอามากๆ แต่พอมาถึงคือ…อย่างที่พี่แหว๋วบอกเด๊ะเลย หลายคนมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า หลายคนไม่สนใจในการมาของฉัน แทบไม่มีคนยิ้มให้เลยก็ว่าได้
“นั่งรอคิวจ๊ะ เดี๋ยวพี่แนนจะมาเรียก ”
ฉันนั่งรอเงียบๆ บีบมือตัวเองจนชุ่มเหงื่อ ตื่นเต้นใจเต้นรัวไปหมด ภาวนาให้เจอลูกค้าใจดีก็พอ
“แอ้ม พริกไทย มินนี่ VIP6จ๊ะ”
และพี่แนนก็รันคิวไปเรื่อยๆ
“แหว๋ว โฟกัสVIP9จ๊ะ ”
“ป๊ะ เราไปVIP9 ไม่ต้องตื่นเต้นนะ ”
ฉันเดินตามพี่แหว๋วขึ้นไปชั้นสอง ใจเต้นแรงแทบหลุดจากอกแล้ว
-ธีร์ธัช-
“หึ!!”
ผมยิ้มมุมปาก มองเห็นยัยตัวแสบโฟกัสมาแต่ไกลๆ ใส่ชุดนี้แล้วสวยเอ็กซ์ซะด้วย น่าหม่ำเหมือนกันแฮะ
“เชี้ยธีร์ มึงชอบแกล้งน้องจังว่ะ ”
ไอ้วาคิมถามขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ เมื่อเห็นผมเอาแต่จ้องโฟกัส วันนี้ผมมากันแค่สามคน ส่วนอีกสองตัวที่มีแฟนแล้ว ชวนยากชิบหาย
“มึงแดกๆไปเถอะสัสคิม เหล้าฟรีบ่นอยู่ได้ ”
ผมล่อให้ไอ้คิมกับไอ้ปอร์เช่ออกมาดื่มเป็นเพื่อน
ถามว่าวันนี้อยากดื่มมั้ย…ตอบเลยว่าไม่…อยากมาดูเด็กปากแจ๋วทำงานมากกว่า ดูซิ จะเก่งเหมือนปากรึเปล่า เธอเดินมาทางที่โต๊ะผมนั่ง ก่อนเดินเลยไปยังโต๊ะอีกตัว ที่มีกลุ่มลูกค้า5คนนั่งรออยู่ น่าจะไม่ทันสังเกตเห็นผมนะ ไม่งั้นคงแยกเขี้ยวใส่ผมแล้ว
-โฟกัส-
“สวัสดีค่ะเฮียขา ”
พอเดินมาถึงโต๊ะ พี่แหว๋วก็ทักทายลูกค้าอย่างมืออาชีพ
“โฟกัส…สวัสดีลูกค้าสิ ”
แล้วพี่แหว๋วก็หันมาสะกิดฉัน ฉันรีบทักทายลูกค้าอย่างเงอะงะ พยายามเก็บอาการแล้วนะ
แต่มันก็ยังตื่นเต้นอยู่ดี
“สวัสดีค่ะเฮีย ”
ฉันมองลูกค้ารอบโต๊ะอย่างไม่เต็มตานัก ไม่รู้ว่าต้องโฟกัสที่ใคร และไม่รู้ด้วยว่าต้องทำตัวยังไงดี
“เด็กใหม่เหรอ เฮียไม่เคยเห็นหน้า มานั่งข้างเฮียสิมา ”
เสียงทุ้มของหนึ่งในลูกค้าเอ่ยขึ้น ฉันก็นั่งลงนะ แต่ก็เว้นระยะห่างเอาไว้ด้วย ส่วนพี่แหว๋วก็นั่งข้างกับอีกคน ลูกค้ากลุ่มนี้อยูในวัยทำงาน อายุนะจะ30กว่าๆแล้ว น่าจะอยู่ในวัยทำงาน และแต่งตัวดีกันทั้งโต๊ะเลย
“ชื่ออะไรละเรา ”
พอนั่งลง ลูกค้าก็ถามชื่ออีก
“ชื่อโฟกัสค่ะ ”
“รินเหล้าให้เฮียสิโฟกัส ”
“ได้ค่ะ เฮียดื่มแบบไหนคะ ”
ฉันเริ่มเอนเตอร์เทนลูกค้า และพยายามทำตามที่พี่แหว๋วทำ
“ดื่มเป็นเพื่อนเฮียหน่อยสิ ”
พอดื่มไปได้ซักพัก ลูกค้าก็ขอให้ฉันดื่มเป็นเพื่อน
“เฮียคะ หนูดื่มไม่เป็นจริงๆ ”
ฉันรีบปฏิเสธลูกค้าอย่างสุภาพ ฉันไม่เคยดื่มของพวกนี้จริงๆ
“ ทำงานแบบนี้ ถ้าไม่ดื่มเป็นเพื่อนลูกค้า
ก็ไม่สนุกน่ะสิ”
พอลูกค้าพูดมาแบบนี้ฉันก็หน้าเจื่อนเล็กน้อย แต่ก็ยังพยายามยิ้มอยู่
“ คือหนูยังเรียนอยู่เลยค่ะ หนูมารับงานเพราะเป็นงานพาร์ทไทม์ หาเงินค่าเทอมค่ะเฮีย พรุ่งนี้หนูก็ต้องไปเรียนแต่เช้า เฮียเห็นใจหนูหน่อยนะคะ”
ฉันพยายามพูดอ้อนอย่างสุดความสามารถ
“ หาเงินค่าเทอมหรอ งั้นเอาแบบนี้ดีหรือเปล่า
แก้วละ 1000 เป็นไง”
แล้วลูกค้า ก็ควักแบงค์ 1000 ออกมา พร้อมกับพันไว้รอบแก้วเหล้า ‘ แก้วละ 1000 เลยหรอ’
ฉันคิดลังเลในใจ ถ้าได้เพิ่มอีกหนึ่งพันบาท ก็เท่ากับค่าแรงวันนี้ของฉันสองพัน
“ ว่าไงล่ะ อยากได้เงินค่าเทอมหรือเปล่า”
ฉันครุ่นคิดซักพัก เอาวะ แค่แก้วเดียวคงไม่เมามากหรอก
“ ได้ค่ะเฮีย”
ฉันรับแก้วเหล้าพร้อมแบงค์พัน มาถือไว้ในมือ
แค่ก้มลงมอง กลิ่นฉุนก็ตีขึ้นจมูกแล้ว
อึก~อึก~
ฉันกระดกรวดเดียวหมดเพื่อเงิน แต่ก็เล่นเอาเกือบพุ่งกลับออกมาเหมือนกัน
“โฟกัสน้ำจ๊ะ”
จนพี่แหว๋วต้องรีบยื่นน้ำมาให้
“ขอบคุณค่ะพี่แหว๋ว ”
“หึๆ ”
เสียงขำดังขึ้นรอบโต๊ะ เหมือนฉันเป็นของเล่นแก้เบื่อของพวกเขา