“อืม…แล้วพร้อมเริ่มงานวันไหนล่ะ ”
“ขอเป็นพรุ่งนี้เลยค่ะ หนูขอเวลาเตรียมตัวหนึ่งวัน ”
ยังไงฉันก็ต้องบอกน้าเดือนก่อน เพราะมันเป็นงานกลางคืน
“ตกลง พรุ่งนี้เตรียมเอกสารมายื่นด้วยนะ ”
“ได้ค่ะ ขอบคุณผู้จัดการมากนะคะ”
ฉันยิ้มกว้างดีใจ ในที่สุดฉันก็ได้งาน วันละ1พัน 1เดือนก็3หมื่น ถ้าเป็นแบบนี้นะ ฉันก็จะใช้หนี้นายนั่นได้ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน ฉันออกจากผับมุ่งหน้ากลับร้าน กว่าจะคุยธุระเสร็จตอนนี้ก็ฟ้ามืดแล้ว ยิ่งไม่ได้โทรบอกน้าเดือนด้วย
วันต่อมาที่มหาลัย
“ไง…โฟกัส สรุปได้งานรึเปล่า ”
พอมาถึงมหาลัย สมายด์ก็ยืนยิ้มกว้างถามขึ้นอย่างตื่นเต้น
“ได้สิ ขอบใจแกนะ ”
“อื้อ…ไม่เป็นไร อะไรพอช่วยได้ฉันก็ช่วย ”
สมายด์คือดีมากๆเลยละ ไม่รังเกียจด้วยว่าบ้านฉันจนหรือรวย ในระหว่างที่เรากำลังยืนคุยกัน
รถหรูสีดำก็ขับมาจอดตรงหน้าพวกเรา ฉันกับสมายด์ก็มองดูตามสัญชาตญาณ พอรถจอดนิ่งสนิทประตูสองฝั่งก็เปิดออกพร้อมกัน แต่พอเห็นเจ้าของรถแค่นั้นแหละ ฉันก็ไม่อยากมองให้เปลืองลูกกะตา พี่ธีร์กับเด็กปี1ที่ชื่อเพลงลงรถมาพร้อมกัน พึ่งขอเบอร์กันเมื่อวานเอง วันนี้มาส่งกันซะละ
“บ๊ายบายค่ะพี่ธีร์ ”
เพลงยกมือโบกไปโบกมา พร้อมบอกลาเสียงอ้อน
“ครับ ตั้งใจเรียนนะ เดี๋ยวรถพี่ซ่อมเสร็จวันไหน
พี่พาไปเที่ยว ”
พี่ธีร์พูดอย่างสบายอารมณ์ สองมือล้วงกระเป๋า
อีกทั้งยังสวมแว่นกันแดด เท่ตายแหละ
“ตกลงค่ะ น้องเพลงไปนะคะ”
“บ๊ายบายครับ ”
เขายกมือโบกลาเธอเบาๆ พร้อมยิ้มละมุนมองตามแผ่นหลังเล็กของเพลงไปจนหลับตา ก่อนหันมามองที่พวกฉันสองคน
“สวัสดีค่ะพี่ธีร์ แฟนเหรอคะ ”
สมายด์ถามขึ้นอย่างเป็นกันเอง แต่ฉันหนะไม่มองหน้าเขาด้วยซ้ำ ขี้เก๊กชะมัด
“แค่ขำๆหนะครับ ”
ขำๆงั้นเหรอ ขอให้เจอตอเข้าซักวัน ดูซิว่าจะขำออกรึเปล่า
“ขำๆเหรอคะ ”
“ใช่ครับ เด็กน่ารักขี้อ้อน พี่ก็เอ็นดูหน่อย เพราะเงินเหลือใช้ ”
ต่อให้ไม่หันหน้าไปมอง ก็พอรู้ว่าหมอนี่พูดประชดฉันแน่ๆ ขอให้ถูกหลอกจนหมดตัวทีเถอะ
“พี่ธีร์นี่ตลกจังนะคะ ”
“พี่พูดความจริงครับ ถ้าบางคนแถวนี้ อยากเปลี่ยนจากปากดีมาอ้อนพี่บ้าง พี่ก็อาจจะลองคิดดูก็ได้นะครับ ค่าซ่อมรถพี่อาจจะยกให้ฟรีๆก็ได้ ”
พอได้ยินประโยคที่จงใจพูดถึงฉันแค่นั้นแหละ
ฉันนี่หันขวับไปมองทันที แต่ตอนนี้เขาถอดแว่นแล้ว และกำลังมองฉันอยู่ คิ้วดกดำของเขาเลิกขึ้นกวนๆ ส่งสายตายั่วเย้ามาให้ฉัน
“ฝันไปเถอะ ฉันไม่ยอมลดศักดิ์ศรีไปอ้อนพี่ให้เสียระบบหรอก ชิ!!”
พูดจบฉันก็สะบัดหน้าหนีจนคอแทบเคล็ด เดินลิ่วๆขึ้นตึกไป
“เอ้อ~แล้วฉันจะคอยดู ”
แต่ก็ยังได้ยินเสียงตะโกนตามหลังมาอีก
-ธีร์ธัช-
“พี่ธีร์ดูไม่ชอบเพื่อนหนูเอามากๆเลยนะคะ ”
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับน้องมายด์ แต่เพื่อนน้องมายด์ไม่เคารพรุ่นพี่ เจอหน้ากันก็ฟาดงวงฟาดงาใส่ ถ้าลองทำตัวน่ารัก เป็นไปได้เหรอครับ ที่คนอย่างพี่จะไม่เอ็นดู ”
สมายด์เลิกคิ้วนิดๆ
“อืม งั้นหนูขอตัวนะคะ ”
“ครับ ”
ผมขับรถกลับมาที่คณะวิศวะอีกครั้ง แต่พอผมเดินมาถึง เพื่อนๆก็มองกันใหญ่ ผมเลิกคิ้วสูงพร้อมถามขึ้น
“พวกมึงมองหน้ากูเพื่อ”
“ได้ข่าวว่ามึงไปส่งเด็กที่คณะเมียกู คนไหนอีกวะสัสธีร์ ”
ผมยิ้มให้กับคำถามของไอ้ภู
“ข่าวไวดีหนิ ชื่อน้องเพลง ตัวเล็กๆอกโตๆ
ขี้อ้อนพูดเพราะ และที่สำคัญจีบติดง่ายด้วยดิ
รู้จักกันเมื่อวาน วันนี้กูขอไปรับ น้องยอมเฉยเลย”
ผมยังไม่ได้ทำอะไรน้องนะครับ ถ้าเด็กไม่ยินยอม ผมก็ไม่ได้ฝืนใจอะไร
“มึงนี่จะคุยไปทุกคณะเลยรึไง ”
“ช่วยไม่ได้นี่หว่า ก็กูเกิดมาหล่อ ไม่แปลกที่ใครต่างก็สนใจ ”
ผมพูดขำๆกับกลุ่มเพื่อน จนพวกมันส่ายหัวเอือมระอากันหมด
“กูเบื่อสัสธีร์ชิบหาย เรื่องหลงตัวเองยืนหนึ่ง ”
คุยกันไม่นานพวกเราก็ขึ้นเรียน
ห้าว~
กว่าจะจบคลาสเช้าทำผมเกือบหลับ
ตอนเที่ยง
“วันนี้พวกมึงไปกินข้าวกับกูป่ะ ”
พออาจารย์สั่งเลิกคลาส ไอ้ภูก็ชวนพวกผมไปกินมื้อเที่ยงที่คณะสถาปัตย์
“กูไป ”
ผมเสนอตัวก่อนเลย ช่วงนี้ต้องรีบทำคะแนนกับน้องเพลง เพราะปลากำลังสนใจเหยื่อ
“กูไม่ไปนะ พาแอลลี่ไปกินข้างนอก ”
ไอ้คูเปอร์ไม่ไป แต่มันก็แบบนี้ตลอดแหละ เอาใจแฟนจัด
“มึงสองตัวอะ ไปป่ะ ”
ผมหันไปถามเพื่อนอีกสองคน วาคิมกับปอร์เช่
ที่ไม่ว่าพวกผมจะลากไปไหนพวกมันก็ไป
“ไปดิ /กูก็ไป ”
แล้วพวกผมก็เดินไปที่คณะสถาปัตย์ เอาจริงแค่สี่หนุ่มฮอตแบบพวกผมก็เอาอยู่นะ สาวๆกรี๊ดกันใหญ่ แค่ผมยักคิ้วให้หน่อย ก็เขินตัวบิดกันแล้ว
“พี่ธีร์…ไม่เห็นบอกเลยค่ะ ว่าจะมากินข้าวที่นี่ด้วย ”
พอเดินมาถึงที่คณะสถาปัตย์ น้องเพลงก็ดีใจใหญ่ ผมบอกแล้วว่าเด็กหนะเต๊าะง่ายสุดแล้ว
“เซอร์ไพรส์ไงครับ อยากกินอะไรวันนี้พี่เลี้ยงเองเพื่อนน้องเพลงด้วยนะ
พวกมึงด้วยนะกูเลี้ยงเอง ”
-โฟกัส-
ทำเป็นใจป๋าจะเลี้ยวข้าวโชว์สาว เสียใจฉันไม่รับหรอก แล้วช่วงนี้ชอบเสนอหน้ามาที่คณะสถาปัตย์บ่อยด้วยนะ
“โหพี่ธีร์ใจดีจังเลยค่ะ พวกแกได้ยินแล้วใช่ป่ะ
พี่ธีร์เลี้ยง ”
“หุ้ย~~ขอบคุณนะคะ ”
ดีที่พวกเรานั่งกันคนละโต๊ะ แต่ไม่ไกลกันมาก
ยังได้ยินที่พี่ธีร์กับเพลงอ้อนกันไปมา
“น้องโฟกัสไม่ต้องจ่ายค่าข้าวนะครับ วันนี้เพื่อนพี่เลี้ยง”
“ไม่เป็นไรค่ะพี่ภู หนูไม่กินของเขาหรอก ”
ฉันปฏิเสธชัดเจน พี่ๆก็คงเข้าใจแหละ