Ep.9
Fang talk.
"อีนี่! อยากตายหรือไงวะ!!?"
"…" ฉันยกมือทั้งสองข้างตั้งกาดขึ้นเพื่อเตรียมสู้ไม่ถอย ก่อนจะหันไปมองติณณ์ที่ตอนนี้ลงไปนั่งอยู่กับพื้น เพราะแรงผลักของฉันทำให้เขาที่ไม่ทันตั้งตัวเสียหลักและล้มลงไป
"ถอยไป! ถ้าไม่อยากเจ็บตัว เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับมึง กูไม่อยากทำร้ายผู้หญิง!"
"พะ...พวกแกนั่นแหละที่ต้องถอย! อยู่ๆ จะมาทำร้ายกันแบบนี้ได้ยังไง มีสิทธิ์อะไร" ฉันตะโกนถามพวกมันกลับไปด้วยน้ำเสียงสั่นๆ เพราะความกลัว
ใช่ค่ะ! ฉันกลัว!
ที่เห็นฉันถีบพวกมันก่อนหน้านี้ คือฉันก็ไม่รู้ว่าตัวเองไปเอาความกล้ามาจากไหน ตอนนั้นฉันรู้แค่ว่าฉันต้องทำอะไรสักอย่างก่อนที่พวกมันจะได้ลงมือ
"หึ! ไม่รู้เรื่องอะไรก็ถอยไปดีกว่า อย่าหาว่าพวกกูไม่เตือน" ไอ้คนที่โดนฉันถีบพูด พร้อมกับค่อยๆ ก้าวเข้ามาหาฉันช้าๆ ทำให้ฉันต้องก้าวถอยหลังหนีมันด้วยขาที่มันเริ่มสั่น
"หยุดนะ! ฉันบอกให้หยุดไงวะ ฟังภาษาไทยไม่รู้เรื่องหรือไง!!"
"แต่จะว่าไป มึงมันก็สวยใช้ได้อยู่นะ เป็นเมียมันล่ะสิ ถึงได้ปกป้องมันออกนอกหน้าขนาดนี้" มันเริ่มมองฉันด้วยสายตาแทะโลม และเดินใกล้ฉันเข้ามาเรื่อยๆ
"บอกให้หยุดไงวะ ถ้าเดินเข้ามาอีกก้าว ยะ...อย่าหาว่าฉันไม่เตือนเหมือนกันนะ!"
กึก! เท้าของมันหยุดชะงักลงหลังจากที่ฉันตะโกนออกไป แต่ไม่นานมันก็ระเบิดหัวเราะออกมา และมองฉันด้วยสายตาดูหมิ่น ก่อนจะหันไปพูดกับติณณ์ที่ยืนมองหน้าพวกมันอยู่
"เฮ้ย! เมียมึงสวยดีว่ะ พวกกูขอเอาไปให้เสี่ยขัดดอกเล่นๆ สักคืนสองคืน…!!"
ผั้วะ!! ตุ๊บ!
ไม่รอให้มันพูดจบ ติณณ์ก็พุ่งเข้ามาปล่อยหมัดใส่หน้าไอ้คนพูดอย่างแรงก่อนจะถีบซ้ำอีกที ทำให้มันล้มลงไปกองกับพื้น
ส่วนอีกคนพอเห็นเพื่อนตัวเองโดนทำร้าย มันก็รีบพุ่งเข้าไปกระชากไหล่ติณณ์ ติณณ์รีบจับมือของมันเอาไว้ ก่อนจะออกแรงทุ้มมันลงพื้นและตามไปเตะซ้ำ!เสียงดังอั๊ก!
"เก่งเหรอวะ ห้ะ!?" คนที่โดนติณณ์ต่อยไปคนแรกลุกขึ้นมาแล้วก้มลงไปหยิบแท่งเหล็กที่ถูกวางอยู่บริเวณนั้นขึ้นมา หมายที่จะเข้าไปทำร้ายติณณ์อีกครั้ง
ติณณ์รีบหันกลับมามอง เมื่อไอ้คนนั้นมันง้างแท่งเหล็กขึ้นเพื่อหมายจะฟาดลงหัวติณณ์แต่ก็ฟาดไม่โดน เพราะเขาเบี่ยงตัวหลบทัน พร้อมทั้งใช้เท้าถีบ ทำให้มันถลาตัวไปข้างหน้า
ฉันเบิกตาขึ้น เมื่ออยู่ๆ พวกมันทั้งสองคนก็ชักมีดพกขนาดสั้นออกมา แบบนี้ไม่ดีแน่ พวกมันมีตั้งสองคน แบบนี้ติณณ์เสียเปรียบแน่
"เก่งนักก็ผ่านมีดกูไปให้ได้ละกัน!!" พูดจบมันก็รีบพุ่งตัวเข้ามาหาติณณ์อีกครั้ง
หมับ!
ติณณ์เบี่ยงตัวเพียงเล็กน้อยและยกมือขึ้นไปจับแขนข้างที่มันถือมีดเอาไว้ จากนั้นก็บิดแขนมันให้ไขว้อยู่ที่หลัง จนเสียงกระดูกดังก็อก! ทำให้มีดที่อยู่ในมือมันล่วงลงพื้น ก่อนที่ติณณ์จะใช้เท้าเตะมีดเล่มนั้นออกไปให้ห่างจากตรงนั้นทันที
และฉันก็รีดวิ่งไปหยิบมีดเล่มนั้นขึ้นมา ก่อนจะวิ่งเข้าไปใกล้ๆ ติณณ์และหันทางปลายแหลมของมีดออกไปหาพวกมัน
"อย่าเข้ามานะ!"
"ทำอะไรของเธอวะ ถอยออกไป!" ติณณ์ขมวดคิ้วหันมามองฉัน ก่อนจะพูดออกมาด้วยเสียงหงุดหงิด แต่ฉันไม่สน สายตาฉันยังมุ่งไปที่อีกคนหนึ่งที่ยังถือมีดอยู่
ตอนนี้คนเริ่มมามุงดูเหตุการณ์กันเยอะขึ้นเรื่อยๆ บางคนก็ถือสมาร์ตโฟนขึ้นมาถ่ายรูป ถ่ายวีดิโอ บางคนก็กดพิมพ์ยุกๆยิกๆ ฉันก็ได้แต่ภาวนาว่าให้มีใครสักคนโทรแจ้งตำรวจทีเถอะ ไม่ใช่เอาแต่อัพเดตสถานการณ์อย่างเดียว
ส่วนสมาร์ตโฟนของฉันก็ไม่ได้เอาลงมาจากรถ ฉันเลยโทรแจ้งเองไม่ได้
"หยุด! อย่าเข้ามา!" ฉันพูดเสียงดังพร้อมกระชับมีดในมือให้มั่น เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น
"บอกให้ออกไปไง เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับเธอ!" ติณณ์ที่ยังล็อกแขนไอ้คนนั้นอยู่ หันมาพูดกับฉันอย่างใส่อารมณ์นิดๆ
"มาถึงขนาดนี้แล้วติณณ์ ไม่เกี่ยวก็ต้องเกี่ยวแล้วล่ะ!" จะให้ฉันวิ่งออกไปตอนนี้มันก็ไม่ทันแล้วปะ ฉันถือมีดเข้ามาอยู่ในวงขนาดนี้แล้ว!
"ยุ่งไม่เข้าเรื่อง หลบ!"
เขาว่าฉันก่อนจะสั่งให้ฉันหลบเสียงเข้ม เพราะจังหวะที่ฉันหันไปคุยกับเขา ไอ้คนที่ถือมีดอยู่มันใช้โอกาสที่ฉันเผลอพุ่งเข้ามา และพอเขาสั่งให้ฉันหลบเสร็จติณณ์ก็ออกแรงเหวี่ยงไอ้คนที่เขาล็อกตัวเอาไว้ ให้หันไปเผชิญหน้ากับเพื่อนของมัน ทำให้เพื่อนมันชักมีดกลับเกือบไม่ทัน
ติณณ์ปล่อยตัวคนที่เขาล็อกตัวไว้ออก ก่อนจะยกเท้าขึ้นถีบมันอย่างแรง จนมันเสียหลักไปชนเพื่อนของตัวเองและล้มไปด้วยกัน
ตุ๊บ!
จากนั้นติณณ์ก็เดินไปหยิบกระเป๋าตัวเองขึ้นมา ก่อนจะล้วงเอาเงินออกมาจำนวนหนึ่งแล้วโยนใส่หน้าพวกมัน
"เอาไปแค่นี้ก่อน! แล้วรีบไสหัวไปซะ"
"!?!" ฉันได้แต่มองภาพตรงหน้าด้วยความงุนงงและสงสัย ทำไมเขาต้องให้เงินพวกนั้นด้วย
สองคนนั้นรีบหยิบเงินขึ้นมานับ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาพูดกับเขาอย่างไม่ยอม
"หมื่นห้า ? ไม่ครบนี่หว่า!"
"จะเอาไม่เอา ถ้าไม่เอาก็ไม่ต้องเอา เอาคืนมา!"
"??" คืออะไร หมายความว่าอะไร ฉัน...ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
"เบี้ยวกูทุกรอบ แถมจ่ายก็จ่ายไม่ครบอีก มึงจะเอายังไงกันแน่วะ ต้องให้เสี่ยมาจัดการมึงเองมั้ย !?"
"…" ติณณ์เงียบไม่พูดอะไรตอบโต้คนพวกนั้น
นี่เขา...เป็นหนี้เหรอ ?
เท่าที่ฉันยืนฟังที่เขาพูดกันคือติณณ์ติดหนี้คนพวกนั้นอยู่ แล้วก็เหมือน...เขาจะเบี้ยวจ่ายคนพวกนั้นด้วย
"พูดมา! มึงจะเอาไง! จะจ่ายหรือไม่จ่าย" สองคนนั้นลุกขึ้นมา ก่อนจะเดินเข้ามาหาติณณ์ช้าๆ ด้วยท่าทางเอาเรื่อง และครั้งนี้ติณณ์ก็ไม่มีท่าทีว่าจะตอบโต้ใดๆ เลย
"กูชักจะหมดความอดทนกับมึงแล้วนะ ทวงกี่ครั้งๆ ก็หนีตลอด!" หนึ่งในสองคนนั้นยื่นมือออกมากระชากคอเสื้อติณณ์ ก่อนจะจ้องหน้าเขาอย่างต้องการคำตอบ ซึ่งติณณ์ก็เอาแต่เงียบไม่ยอมพูดอะไรออกมาเลย
"เท่าไหร่ ?" แล้วก็เป็นฉันเองที่ทนยืนมองเหตุการณ์ตรงหน้าไม่ไหวและตัดสินใจถามพวกนั้นออกไป
"!!" คำถามของฉัน ทำให้ติณณ์รีบหันขวับมามองหน้าฉันทันที ก่อนจะหันไปมองคนพวกนั้น ส่ายหน้าเบาๆ อย่างไม่ต้องการให้คนพวกนั้นบอกฉัน
"อะไร ?" คนพวกนั้นถามฉันกลับ ฉันก็เลยถามย้ำพวกมันไปอีกครั้ง
"เขาติดหนี้พวกนายเท่าไหร่"
"หึๆ! อีนี่มันเอาเรื่องว่ะ สงสัยจะรักกันมาก"
"บอกมาสิว่าเขาติดหนี้พวกนายเท่าไหร่" ชักช้าอยู่ได้ ฉันเริ่มจะโมโหและหมดความอดทนแล้วนะ
"สามล้านไม่รวมดอกเบี้ย"
"แค่เงิน 3 ล้าน ไม่เห็นต้องลงไม้ลงมือกันขนาดนี้เลย รออยู่นี่! เดี๋ยวฉันมา"
"เธอจะทำอะไร นี่มันเรื่องของฉัน ฉันจัดการเอง" ฉันหันไปมองหน้าเขาเล็กน้อย ก่อนจะเมินทำเป็นไม่สนใจและวิ่งกลับไปที่รถของตัวเอง เพื่อไปหยิบสมาร์ตโฟน แล้วเดินกลับมาที่จุดเกิดเหตุอีกครั้ง
แต่...
"อ้าว ? พวกนั้นไปไหนแล้วล่ะ" พอฉันวิ่งไปเอาสมาร์ตโฟนที่รถเสร็จ กลับมาฉันก็ไม่เจอคนพวกนั้นแล้ว เหลือเพียงแค่ติณณ์ที่กำลังเดินไปหยิบกระเป๋าตัวเองขึ้นมา แล้วหันมามองหน้าฉัน
"-_-"
"สองคนนั้นไปไหนแล้วอะ ?" ฉันถามเขาพร้อมกับมองไปรอบๆ แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะเห็นไอ้สองคนนั้นเลย อีกทั้งคนที่มุงดูก็ค่อยๆ สลายตัวกันออกไปแล้ว
ทำไมมันไวจัง ฉันว่าฉันวิ่งไปแค่แป๊บเดียวเองนะ
"กลับไปแล้ว" เขาตอบฉันเสร็จก็หมุนตัวเตรียมจะเดินออกไป แต่ฉันก็รีบวิ่งไปขวางเขาเอาไว้อีกครั้ง ก่อนจะถามในสิ่งที่ตัวเองอยากรู้ออกไป
"นายไปติดหนี้พวกมันได้ยังไงอะ แล้วทำไมนายต้องหนีไม่จ่ายพวกมันด้วย ?"
"-_-!"
"เงินเดือนหมอก็ได้เยอะอยู่ไม่ใช่เหรอ หรือว่านาย...!"
"จะหยุดพูดได้ยัง"
"ติณณ์ฉันถาม ทำไมนายถึงต้องให้พวกมันมาทำร้ายขนาดนี้ด้วย ดูสิเนี่ย หน้านายมีแต่รอยช้ำ!" ฉันพูดพร้อมกับยื่นมือออกไปเพื่อจะขอดูรอยช้ำบนใบหน้าเขา ไปโดนมาเมื่อไหร่เนี่ย! เมื่อกี้เขาก็ไม่ได้โดนอะไรนะ
"เรื่องของฉัน เธอไม่ต้องยุ่ง" เขาพูดพร้อมกับปัดมือฉันออกแล้วหันหน้าหนีไปอีกทาง
"แล้วนายไปติดหนี้พวกนั้นได้ยังไง" หนี้นอกระบบแบบนั้นน่ะ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ก็ไม่มีใครอยากเป็นหรอกนะ เพราะนอกจากดอกเบี้ยจะโหดแล้ว การทวงหนี้ก็โหดมากๆ ด้วย ให้ตายสิ ฉันรู้สึกไม่ดีเลยจริงๆ
"มันไม่ใช่เรื่องที่เธอต้องรู้"
"ทั้งหมดมันเท่าไหร่ล่ะ รวมดอกเบี้ยแล้วมันเป็นเท่าไหร่ที่นายติดพวกนั้นน่ะ เดี๋ยวฉันจ่ายให้ก่อนก็ได้ ...ติณณ์!! นายจะไปไหน เดี๋ยวสิ!!" เขาไม่ฟังที่ฉันพูดเลย แถมยังทำหน้าเบื่อหน่ายและเดินหนีฉันอีกต่างหาก
"จะตามมาทำไม ถ้าจะมาพูดต่อจากที่พูดเมื่อกี้ก็กลับไปซะ ฉันไม่อยากฟัง" เขาหันมาพูดกับฉันเมื่อเห็นว่าฉันวิ่งตามเขามา แต่...เห้อ ในเมื่อเขาพูดมาขนาดนี้แล้ว ฉันจะพูดอะไรได้ล่ะ นอกจากเปลี่ยนเรื่องคุย
"โอเคๆ งั้นคุยเรื่องอื่นแทนก็ได้"
"มีอะไร ?" เขาถามทั้งๆ ที่เท้ายังเดินอยู่ และไม่ได้หันมามองฉันเลยแม้แต่น้อย
"ไหนๆ นายก็เจ็บตัวแบบนี้แล้ว งั้นวันนี้...ให้ฉันไปส่งนายที่หอนะ"
"-_-!!"