Ep.10

1875 คำ
Ep.10 Fang talk. "หยุด ไม่ต้องตามมาแล้ว เธอจะตามฉันขึ้นห้องหรือยังไง ?" ติณณ์ที่กำลังจะก้าวเท้าเข้าไปในหอพักของตัวเองหยุดชะงัก แล้วหันมาพูดกับฉันที่กำลังจะเดินตามหลังเขาเข้าไปด้วยสีหน้าหงุดหงิด "กะ...ก็ไปส่งไง แค่จะเดินขึ้นไปส่งเอง" ฉันตอบเขาเสียงเบาพร้อมกับยื่นนิ้วออกไปเขี่ยกำแพงแก้เก้อ "ส่งแค่นี้ก็พอ แล้วก็กลับไปได้แล้ว" "แต่นายขาเจ็บนะ ถ้าเกิดเดินขึ้นบันไดไปแล้วนายล้มไปจะทำยังไง" ฉันว่าเขาน่าจะข้อเท้าพลิกตอนที่โดนฉันผลักและเสียหลักล้มลงไปแน่ๆ เพราะก่อนหน้านี้ฉันยังเห็นเขาเดินออกจากตึกโรงพยาบาลแบบดีๆ อยู่เลย แล้วฉันกลัวว่ามันจะบวมขึ้นมาน่ะสิ เพราะหลังจากที่เขาล้มไป เขายังลุกขึ้นมาสู้กับไอ้สองคนนั้นอีก แถมยังใช้แรงเท้าไปตั้งหลายครั้ง "ฉันไม่โง่ปล่อยให้ตัวเองล้มหรอก" "…" "...จะขึ้นไปให้ได้เลยใช่ไหม" ติณณ์ถามฉันเสียงแข็ง เมื่อเห็นฉันยังยืนนิ่งไม่ยอมกลับไปอย่างที่เขาบอก "..." และพอได้ยินคำถามของเขา ฉันก็รีบพยักหน้าหงึกหงักและเงยหน้าขึ้นมองเขาทันที ซึ่งเขาก็จ้องฉันกลับมาด้วยสายตาดุๆ อย่างที่เขาชอบทำ ก่อนจะหมุนตัวเดินไปที่ห้องของตัวเอง... Fang talk end. เมื่อเข้ามาในห้อง ติณณ์ก็เดินไปเปิดตู้เย็นและเทน้ำใส่แก้วก่อนจะยกขึ้นดื่ม พลางมองสังเกตหญิงสาวที่กำลังมองสำรวจห้องนอนของเขาอยู่ผ่านทางหางตา "ทำไมห้องนายไม่มีอะไรเลยล่ะ" มองสำรวจได้ไม่นาน ฟางก็หันไปถามคนที่กำลังดื่มน้ำอยู่ด้วยความสงสัย เพราะห้องของติณณ์แทบจะไม่มีอะไรจริงๆ มีเพียงเตียง ตู้เสื้อผ้าเล็กๆ โต๊ะกับเก้าอี้อย่างละตัว แล้วก็ตู้เย็นก็แค่นั้น "แล้วมันต้องมีอะไรอีก ?" ติณณ์วางแก้วน้ำลงแล้วถามฟางกลับ "ก็พวก...ของใช้ หรือพวกหนังสืออะไรประมาณนั้น" เธอถามพร้อมกับนึกเปรียบเทียบกับห้องน้องชายตัวเอง ที่มีหนังสือเป็นตู้ๆ อีกทั้งยังมีพวกของใช้ของบำรุงต่างๆ อีกตั้งเยอะแยะ แต่ติณณ์กลับไม่มีอะไรเลย "ไม่มี มีแค่นี้แหละ" ติณณ์เขาจะเป็นผู้ชายประเภทไม่อะไรมาก อยู่ง่ายกินง่าย ห้องนี้ก็มีไว้นอนแค่นั้น อีกอย่างส่วนมากเขาจะใช้เวลาอยู่ที่โรงพยาบาลมากกว่า หนังสือก็อ่านที่โรงพยาบาล ส่วนห้องนี่จะได้กลับเฉพาะวันที่ไม่มีเวรดึก หรือวันไหนที่เขาเบื่อโรงพยาบาลก็แค่นั้น ฟางเลิกถามเซ้าซี้ ก่อนจะเดินออกไปดูที่นอกระเบียงเผื่อมีอะไรน่าดู แต่ไม่นานเธอก็ต้องเดินกลับเข้ามา เพราะมันไม่มีอะไรให้ดูเลย ก่อนที่เธอจะนึกอะไรขึ้นมาได้ เมื่อเธอเห็นติณณ์เดินขากะเผลกไปเปิดตู้เสื้อผ้าของตัวเอง "ถ้าข้อเท้าแพลงต้องประคบเย็นหรือประคบร้อน ?" ฟางรู้ว่าถ้าข้อเท้ามันเกิดอาการบวม มันต้องได้รับการประคบ แต่เธอไม่แน่ใจว่ามันต้องประคบร้อนหรือประคบเย็น เธอจึงเอ่ยถามคนที่เป็นหมอ "ถามทำไม" "ถามก็ตอบสิ จะมาถามกลับทำไม" "เย็น" "ก็แค่เนี้ย" "จะทำอะไร ?" ติณณ์เอ่ยถามเมื่อเห็นฟางเดินเปิดตู้เย็นของเขา "ก็จะประคบให้นายไง ขอผ้าขนหนูหน่อยสิ" "ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันทำเอง" "อยู่เฉยๆ เถอะน่า ส่งผ้าขนหนูมาเร็วๆ ผืนเล็กอะ มีใช่ปะ" ฟางไม่สนที่ติณณ์พูด อีกทั้งยังเร่งให้เขาส่งผ้าขนหนูให้ตัวเองเร็วๆ อีกต่างหาก "…" ทำให้คนตัวสูงไม่มีทางเลือกอื่น เปิดตู้เสื้อผ้าอีกครั้งแล้วหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กยื่นให้เธอ "นายนั่งรอที่เตียงนะ เดี๋ยวฉันไปแกะน้ำแข็งก่อน" พูดจบฟางก็เดินเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับถาดน้ำแข็ง ไม่นานเธอก็ออกมาพร้อมกับผ้าห่อน้ำแข็งที่พร้อมประคบ "เอามา เดี๋ยวฉันประคบเอง" ติณณ์ที่นั่งอยู่บนเตียงพูดพร้อมกับยื่นมือออกมาเพื่อจะเอาน้ำแข็งไปประคบเอง แต่… ฟางกลับไม่ยื่นมันให้เขา เธอเดินเข้าไปใกล้ๆ แล้วนั่งพับเพียบลงข้างเตียงใกล้ๆ กับตำแหน่งที่เขานั่งอยู่ "ไปนั่งข้างล่างทำไม ลุกขึ้นมา" ติณณ์พูดพร้อมกับเอื้อมมือไปฉุดคนตัวเล็กให้ลุกขึ้น แต่เธอกลับไม่ยอม ยื้อตัวเองไว้ ถ้าไม่นั่งข้างล่างแบบนี้เธอจะประคบให้เขาได้ยังไงล่ะ "ไม่เป็นไร นั่งแบบนี้มันประคบสะดวกกว่า" "ฟาง ลุกขึ้น!" ติณณ์สั่งเสียงเข้ม ทำให้คนตัวเล็กชะงักและนิ่งไป เพราะนานมากแล้วที่เธอไม่ได้ยินเขาเรียกชื่อเธอห้วนๆ แบบนี้ พอมาได้ยินอีกครั้ง กลับทำให้ใจเธอเต้นแรงขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ "นะ...นาย..." ฟางพูดเสียงสั่น แล้วค่อยๆ เงยหน้าขึ้นไปมองเขาที่กำลังจ้องเธอด้วยสายตาดุ "ลุกขึ้นมา! เดี๋ยวนี้" "อะ...อื้ม!" ฟางค่อยๆ พยักหน้าลงอย่างว่าง่าย เพราะตอนนี้เธอไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เลย ให้ตายสิ! แค่ชื่อของเธอที่มันออกมาจากปากเขา มันมีอิทธิพลกับตัวเธอขนาดนี้เลยหรือไง! จากนั้นฟางก็ลุกขึ้น แต่ด้วยความที่เธอใส่กระโปรงทรงเอทำให้เธอลุกด้วยความยากลำบาก บวกกับความประหม่า ทำให้เธอเกิดความลนและไม่ทันได้ระวัง สะดุดขาตัวเองและกำลังจะหงายหลังล้มลงไป ทำให้ติณณ์ที่นั่งมองเธออยู่ต้องรีบยื่นแขนยาวๆ เข้าไปโอบคว้าตัวเธอเอาไว้ ก่อนที่เธอจะโถมตัวหลับมาข้างหน้าตามแรงดึงของติณณ์ และล้มทับตัวเขาลงบนเตียงในที่สุด... "อ๊ะ!!" เลยกลายเป็นว่าตอนนี้ฟางกำลังนอนทับบนตัวติณณ์ โดยมีแขนของติณณ์กอดเอวเธอเอาไว้ ฟางรีบฟุ่บหน้าตัวเองลงไปที่หน้าอกของเขาอย่างต้องการจะหลบหน้า เพราะตอนนี้เธออายมาก และยังไม่พร้อมที่จะสู้หน้าเขาตอนนี้ ส่วนติณณ์ก็ไม่ได้ผลักหญิงสาวออก เขาเพียงเลิกเกร็งตัวและปล่อยให้ตัวเองนอนราบไปกับเตียง โดยมีหญิงสาวซุกอกเขาอยู่อย่างนั้นโดยไม่พูดอะไร แต่ในใจก็นึกหงุดหงิดที่หญิงสาวใส่กระโปรงซะสั้นและรัดขนาดนั้น แถมก่อนหน้านี้ยังไปกระโดดถีบไอ้พวกนั้นอีก ไม่รู้ว่าพวกนั้นจะเห็นไปถึงไหนต่อไหนแล้ว! จนผ่านไปสักพัก ฟางก็ค่อยๆ คลายมือที่กำเสื้อเขาเอาไว้ออก ก่อนจะผละใบหน้าออกมาจากอกเขานิดหน่อย แล้วช้อนสายตาขึ้นไปมองหน้าเขา ที่กำลังมองมาที่เธออยู่เหมือนกัน "…" "…" ทั้งสองคนก็สบตากันนิ่งๆ ไม่มีใครพูดอะไรออกมา มีเพียงแววตาที่เป็นตัวสื่อการกันระหว่างสองคน ...จนเวลาผ่านไปหลายนาที ก็เป็นฟางที่ฝืนตัวเองต่อไม่ไหว และเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อน "ขอโทษ" คำขอโทษสั่นๆ ที่ออกมาจากปากหญิงสาว พร้อมกับสายตาที่รู้สึกผิด ทำให้ติณณ์รู้สึกใจกระตุกนิดๆ แต่ก็ยังไม่ยอมพูดอะไรออกไป "…" "ขอโทษ...ขอโทษจริงๆ" ฟางพูดขึ้นอีกครั้ง พร้อมกับน้ำตาที่เริ่มเอ่อขึ้นมาบริเวณขอบตา ทำให้เธอรีบก้มหน้าลงหมายจะซบลงที่หน้าอกเขาอีกครั้ง แต่ก่อนที่เธอจะได้ก้มลง ที่ตัวสูงที่เอาแต่เงียบก็สอดมือเข้าไปที่ท้ายทอยของเธอ ก่อนจะออกแรงโน้มใบหน้าของเธอลงมาหาและดันตัวเองขึ้นไปเล็กน้อย แล้ว...ประกบริมฝีปากตัวเองลงเข้ากับริมฝีปากของเธอ! Priew talk. 07.00 น. "อือ~...โอ๊ะ! โอ๊ยยย" ฉันรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงียและก่อนจะออกแรงบิดขี้เกียจ แต่ก็ต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บและปวดร้าวตามตัว ทำไมมันเจ็บขนาดนี้เนี่ย มันเจ็บปวดไปทุกส่วนของร่างกาย ตึงไปหมด แค่ขยับนิดๆ หน่อยๆ ก็สะเทือนไปทั้งร่าง เหมือนฉันโดนคนเป็นสิบรุมทำร้ายมาอย่างนั้นแหละ ...แล้วเมื่อวานฉันเผลอหลับไปตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย ทำไมฉันมาอยู่ในห้องพักผู้ป่วยได้ จำได้ว่าเมื่อวานฉันนอนอยู่ห้องฉุกเฉินไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมตื่นมาอยู่ที่นี่ล่ะ แถมยังเป็นห้องพักพิเศษด้วยนะ เมื่อฉันนึกได้ว่าห้องนี้เป็นห้องพิเศษ ฉันก็ค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นก่อนจะเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำ เพื่อเตรียมจะกลับทันที ขืนอยู่ต่อมีหวังฉันหมดตัวแน่ๆ ค่าห้องพิเศษไม่ใช่ถูกๆ แล้วยิ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชนแบบนี้แล้วด้วย มีหวังหมดตัวแน่อีเปรี้ยว แค่นี้ก็ไม่รู้ว่าจะโดนไปเท่าไหร่แล้ว "คนไข้จะไปไหนคะ คุณหมอยังไม่อนุญาตให้ออกนะคะ" พี่พยาบาลที่เปิดประตูเข้ามาในจังหวะที่ฉันออกจากห้องน้ำมาพอดี เอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นฉันไม่ได้อยู่ในชุดผู้ป่วยของโรงพยาบาล "แต่ฉันไม่ได้เป็นอะไรแล้วนะคะ ออกตอนนี้คงไม่เป็นไรหรอกค่ะ" "ยังไงก็ไม่ได้นะคะ ต้องรอคุณหมอมาตรวจอีกทีก่อน" "ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันไม่เป็นไรแล้ว เนี่ยหมุนตัวได้สบายๆ เลย" พูดจบฉันก็กัดหมุนตัวโชว์พี่พยาบาลไปหนึ่งรอบ ในใจนี่ฉันอยากตะโกนว่า เชี่ยเอ๊ย! เจ็บฉิบหาย! "เอ่อ...แต่ว่า..." พี่พยาบาลมีสีหน้าลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด ฉันก็อยากเห็นใจเธอนะ แต่ถ้าฉันรอหมอมาตรวจ ฉันก็ต้องเสียเงินเพิ่มอีก เพราะตรวจแต่ละครั้งมันก็ต้องมีค่าอุปกรณ์การตรวจอยู่แล้ว ขอไปตรวจที่คลินิกแถวหอดีกว่า ถูกกว่านี้เยอะ "ฉันไปจ่ายเงินที่การเงินได้เลยใช่ไหมคะ" ฉันรีบยัดของทุกอย่างลงกระเป๋าเป้ใบเก่งของตัวเอง แล้วหันไปถามพี่พยาบาล "อ่า...ค่ะ แจ้งแค่ชื่อกับยื่นบัตรประชาชนก็จ่ายได้เลย" "ขอบคุณนะคะ" เมื่อเคลียร์กับพี่พยาบาลเสร็จ ฉันก็หันไปเช็กดูรอบๆ ห้องว่าลืมอะไรหรือเปล่า มือถือก็เอามาแล้ว กระเป๋าเงินก็อยู่นี่แล้ว คงไม่มีอะไรแล้วล่ะ เอาล่ะ ออกไปได้! ฉันเหวี่ยงกระเป๋าขึ้นมาสะพายข้างหลังและหันไปยิ้มให้พี่พยาบาลเล็กน้อย ก่อนจะก้มหน้าเดินไปที่ประตูห้องทันที ก่อนจะเปิดออกไป แล้วฉันก็ต้องตกใจสุดขีด เพราะคนที่ยืนอยู่หน้าประตูตอนนี้... "มะ...หมอ!!" "จะไปไหน"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม