Ep.6

1820 คำ
Ep.6 Priew talk. วันต่อมา 06.00 น. ได้นอนพักไปไม่กี่ชั่วโมง ฉันก็ต้องสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมาเพราะเสียงนาฬิกาปลุก บ่งบอกว่าถึงเวลาที่ฉันต้องตื่นได้แล้ว วันนี้ฉันมีเรียนตอน 10 โมงครึ่ง แต่ที่ต้องตื่นเช้าก็เพราะว่า พอฉันรู้ว่าฉันมีเรียนสาย ฉันไปรับปากป้าสมใจว่าจะไปช่วยเตรียมของก่อนเปิดร้านพอได้เงิน100-200บาท ฉันก็เลยต้องรีบตื่น ฉันลุกไปอาบน้ำแต่งตัว แล้วเดินไปร้านป้าสมใจทันทีอย่างไม่อิดออดใดๆ อาจจะเป็นเพราะความเคยชินล่ะมั้ง... ไปถึงฉันก็จัดการเตรียมนั่นเตรียมนี่ตามปกติ อย่างที่เคยทำเป็นประจำ พอเสร็จฉันก็เข้าไปเปลี่ยนชุดแล้วออกมารับเงินกับป้า ก่อนจะนั่งรถเมล์ตรงไปมหาลัยเลยทันที และที่ฉันต้องทำงานเยอะขนาดนี้ ก็อย่างที่ทุกคนรู้นั่นแหละค่ะ ฉันเป็นหนี้ ก็เลยต้องหาเงินใช้หนี้เขา ขอเล่าความเป็นมาของฉันตรงนี้เลยละกัน เมื่อก่อนฉันเคยอาศัยอยู่ในสลัมกับยายฉันสองคน แล้วอยู่ๆ บ้านฉันเกิดไฟไหม้ทำให้ยายฉันเสียชีวิตในวันนั้น ส่วนสาเหตุที่ไฟไหม้เกิดจากอะไรก็ไม่รู้ แต่ต้นตอมันมาจากบ้านฉัน ทุกคนที่บ้านอยู่ติดกับบ้านฉันแล้วบ้านโดนไฟไหม้ไปด้วย ต่างก็มาโทษฉันแล้วให้ฉันรับผิดที่ทำให้บ้านพวกเขาเกิดความเสียหาย ฉันเองก็ไม่ได้มีเงินมากมายขนาดที่จะไปรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น คนพวกนั้นก็ด่าฉันจนฉันเสียขวัญไปช่วงหนึ่ง แต่อยู่ๆอก็มีคนใจบุญที่ไม่ประสงค์ออกนามยื่นมือเข้ามาช่วย ต่อเติมบ้านที่เสียหายให้คนพวกนั้น แถมยังให้ทุนฉันเรียนจนถึงปริญญาตรีด้วย ก็เหมือนทุกอย่างจะดีขึ้น มันก็ดีขึ้นจริงๆ แหละ แต่มันก็ไม่ได้ดีขนาดนั้น เพราะแค่ต่อเติมบ้านมันไม่ได้ทำให้คนพวกนั้นพอใจ พวกเขายังเรียกร้องค่าเสียหายจากฉันอยู่ดี ค่าทำขวัญบ้างแหละ ค่าข้าวของต่างๆ บ้างล่ะ ค่าเสียเวลา บลาๆ ฉันก็เลยไม่ได้ทางเลือก เลยทำใจเอาทุนการศึกษาที่เป็นค่าเทอมของตัวเองไปจ่ายให้คนพวกนั้นจนหมด ตอนแรกฉันก็ตัดใจ กะจะไม่เรียนต่อแล้ว แต่เพราะข้อแม้ของทุนที่บอกว่า ถ้าเรียนจบฉันต้องเข้าทำงานในบริษัทที่เจ้าของทุนกำหนด ก็เหมือนทำงานชดใช้ทุนนั่นแหละ ฉันก็เลยต้องมาคิดทบทวนเรื่องเรียนใหม่อีกครั้ง และด้วยคำพูดของยายที่เคยพูดเอาไว้ ว่าอยากให้ฉันเรียนจบสูงๆ มีงานดีๆ ทำ ก็เลยทำให้ฉันตัดสินใจเรียนต่อ... แต่ด้วยความที่ฉันไม่มีค่าเทอมเหลือแล้ว ทำให้ฉันต้องไปกู้เงินมาเรียน แต่ไปกู้ที่ไหนก็ไม่มีใครเขาให้ เพราะฉันไม่มีอะไรไปค้ำประกันเลย ทางเลือกสุดท้ายฉันจริงเป็น...หนี้นอกระบบ ฉันก็อ้อนวอนสุดฤทธิ์เพื่อให้ได้ดอกเบี้ยถูกที่สุด เจ้าหนี้ที่เป็นเสี่ยก็เหมือนจะเล็งฉันเอาไว้ให้ลูกชายตัวเอง ก็เลยให้ฉันกู้เงินมาในอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่าปกติ แต่ก็ถือว่าเยอะอยู่ดี จากนั้นมาฉันก็เริ่มทำงานเยอะขึ้น เพื่อที่จะมีเงินไปผ่อนหนี้ เพราะรู้ดีว่าไอ้หนี้พวกนี้มันทวงโหด ฉันเลยไม่อยากมีปัญหา แล้วถ้าถามว่าในแต่ละเดือนฉันเงินพอใช้ไหม ก็ตอบได้เลยว่าพอ! เพราะฉันได้เงินจากคนที่ให้ทุนฉันเป็นรายเดือนด้วย เดือนละหมื่นห้า! ก็หักจ่ายค่าหอพัก 4 พันบาท ค่าเดินทาง ค่าของใช้ต่างๆ ที่เหลือก็ใช้สบายๆ ส่วนเงินที่ได้จากการทำงานก็ใช้หนี้ล้วนๆ ฉันกู้มาห้าแสน ได้มาก็หักจ่ายค่าเสียหายของคนพวกนั้นที่ยังค้างอยู่ ส่วนที่เหลือก็เอาไว้จ่ายค่าเทอมของฉัน 4 ปีพอดีเลย ตอนนี้ฉันเรียนอยู่ปี 3 แล้วล่ะ เรียนอีกปีเดียวก็จบแล้ว จะได้ทำงานจริงๆ จังๆ และมีเงินไปโป๊ะหนี้ให้หมดสักที เฮ้อ~ "มึงว่าไงนะอีเปรี้ยว ที่เมื่อวานมึงเลิกงานเร็ว ก็เพราะมึงเผลอหลับแล้วคุณเจ้าขุนมาเห็น เขาก็เลยให้กลับไปพัก ?" "อือฮึ" ฉันพยักหน้าตอบมันพร้อมกับหยิบขนมเข้าปากอย่างชิลๆ หลังจากที่ฉันเล่าเรื่องเมื่อวานที่ฉันเผลอหลับให้เหมยมันฟัง มันก็มองหน้าฉันอย่างไม่อยากจะเชื่อที่ฉันพูด เพราะไม่คิดว่ามีเจ้านายที่ไหนใจดีขนาดนี้ ไม่ต่อว่าใดๆ แถมยังใจดีให้กลับก่อนเวลาได้อีก "จริงเหรอวะ มึงไม่ได้อำกูใช่มะ" "เออ กูก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนมึงนั่นแหละ ถ้ากูไม่เจอกับตัวเอง" "กูงงว่าทำไมเขาใจดีขนาดนั้น ?" "กูก็งง" "ถ้าใจดีขนาดนั้น แล้วทำไมผู้จัดการถึงได้กลัวขนาดนั้นวะมึง" "ไม่รู้ว่ะ กูว่าจริงๆ ท่านอาจจะไม่ได้โหด แต่ผู้จัดการเราบ้าคิดไปเองว่าท่านโหดก็ได้นะมึง ก็เลยกลัว" "เออ น่าคิดแฮะ" เหมยทำสีหน้าคิดตามเมื่อฉันพูดจบ "แต่จะอะไรก็ช่างเถอะ ต่อไปกูต้องระวังให้มากกว่านี้ บางทีอาจจะเป็นความผิดครั้งแรกท่านเลยไม่อะไรเฉยๆ" "คราวหน้าก็ระวังๆ ละกัน ปะๆ ขึ้นเรียนได้แล้ว" จากนั้นฉันกับเหมยก็เก็บของแล้วขึ้นไปเรียนกันทันที และวันนี้อาจารย์ก็ปล่อยเร็ว ทำให้ฉันมีเวลาว่างนิดหน่อย เหมยมันเลยชวนฉันไปหาหมอดู ฉันก็เลยตกลงไปกับมัน เพราะไหนๆ ก็ว่างแล้ว อีกอย่างฉันเองก็ค่อนข้างเชื่อเรื่องแบบนี้ด้วย ก็เลยจะถือโอกาสนี้ไปอัปเดตเรื่องดวงของตัวเองสักหน่อย พอมาถึงฉันกับเหมยก็ได้เข้าไปทันที เพราะวันนี้คิวแม่หมอว่างพอดี อีกอย่างวันนี้มันวันธรรมดา คนอื่นๆ เขาต้องทำงานกัน เลยทำให้วันนี้มีคิวน้อย เข้ามาเหมยมันก็บูชาจ่ายค่าครูดูเป็นคนแรกเลย ส่วนมากมันก็จะถามเรื่องเงินๆ ทองๆ กับเรื่องความรักอะไรของมันนั่นแหละ ก็ไม่มีไรมาก หลังเหมยดูเสร็จก็ถึงตาฉันบ้าง ฉันก็เขยิบเข้าไปใกล้ๆ ก่อนจะเริ่มทำทุกอย่างเหมือนที่เหมยมันทำ และฉันก็ต้องตกใจเพราะแม่หมอที่นั่งหลับตาอยู่ อยู่ๆ ก็ลืมตา พรึบ! ขึ้นมาจ้องฉัน "คะ...คะ!?" ฉันถามเสียงสั่น เพราะตกใจกับสายตาท่านที่มองมา ท่านจ้องฉันแรงมาก มีอะไรเหรอ "...เจอแล้วนี่" "คะ...แม่หมอหมายถึงอะไรเหรอ" ฉันถามงงๆ เพราะฉันยังไม่ได้ถามอะไรเลยนะ อยู่ๆ แม่หมอก็พูดขึ้นมาเองเฉยเลย แล้วที่บอกว่าเจอ หมายถึงเจออะไร "คำตอบของคำถามทุกอย่างของเอ็ง" "หือ ?" ไม่ได้กระจ่างขึ้นมาเลย หมายถึงอะไรอะ ในระหว่างที่ฉันกำลังเกาหัวแกร็กๆ งงๆ อยู่นั้น แม่หมอก็ยื่นกระดาษกับปากกามาให้ฉัน "เขียนชื่อ กับวันเดือนปีเกิดของเอ็งมา" ถึงจะงงและตามไม่ทัน แต่ฉันก็รับกระดาษกับปากกานั้นมาเขียนทุกอย่างลงไปตามที่แม่หมอกบอก ก่อนจะส่งมันคืนกลับไปให้ท่าน "นี่ค่ะ" ท่านรับไปอ่าน ก่อนจะหลับตาลงอีกครั้ง ก่อนจะค่อยๆ ลืมขึ้นมาแล้วพูดกับฉัน "เอ็งมันคนวาสนาดี ดีมาตั้งแต่ชาติปางก่อน..." "?" ดีอะไรวะ ทุกวันนี้ทุกข์จะตายอยู่แล้ว เอาอะไรมาดี ฉันได้แต่คิดใจใน ไม่ได้พูดออกไปได้แต่ฟังเงียบๆ "ที่ผ่านมาเอ็งแค่ถูกพวกมันกลั่นแกล้ง" "พวกมัน ? พวกไหนเหรอคะ" ฉันก็ไม่ได้มีศัตรูที่ไหนนี่ ใครจะมากลั่นแกล้ง "เอ็งมองพวกมันไม่เห็นหรอก ตอนนี้มันกำลังหัวเราะสะใจที่เห็นชีวิตเอ็งเป็นแบบนี้" มะ...มองไม่เห็นงั้นเหรอ งั้นก็แปลว่า พวกมันที่แม่หมอหมายถึงก็ต้องเป็น...ผี!! ผีแน่ๆ "ละ...แล้วมีวิธีแก้ไหมคะ" ฉันถามเสียงสั่น พอรู้แล้วนี้แล้วฉันก็เกิดความกลัวขึ้นมาเสียดื้อๆ ใครบ้างที่ไม่กลัวสิ่งที่มองไม่เห็น รู้แบบนี้แล้วระแวงเลยอะ ตอนนี้พวกนั้นจะอยู่ข้างหลังฉันไหม จะอยู่แถวนี้หรือเปล่า "มี แต่เอ็งก็ต้องเสียอะไรบางอย่างในตัวเอ็งไป" "คืออะไรคะ ?" "…พรหมจรรย์" "ฮะ!! แม่หมอล้อฉันเล่นปะเนี่ย แล้วฉันจะไปเสียให้ใคร แฟนก็ไม่มี" เครียดยิ่งกว่าเดิมอีกฉัน ตั้งแต่เกิดมาแฟนสักคนฉันยังไม่มี ดีแต่กรี๊ดกร๊าดไปทั่ว แล้วแบบนี้ฉันจะไปเสียให้ใครได้ล่ะ "แล้วมันไม่ใช่ใครก็ได้ที่เอ็งจะไปเสียให้มั่วๆ" "มันไม่มีทางอื่นแล้วเหรอคะ แล้วทำไมฉันต้องไปเสียตัวด้วย" เครียดกว่าไม่มีเงินใช้หนี้ก็เรื่องนี้แหละ "ไม่มี แล้วที่เอ็งต้องเสีย ก็เพราะว่าผู้ชายคนนั้นมีบางอย่างที่จะทำให้สิ่งที่มองไม่เห็นพวกนั้นทำอะไรเอ็งไม่ได้ และผู้ชายคนนั้นก็สามารถดูแลเอ็งได้ เพราะเขาเป็นคู่ของเอ็ง" "โอ๊ย แม่หมอ แล้วฉันจะรู้ได้ไงว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร" กุมขมับรอเลยฉัน ผู้ชายมันไม่ได้มีคนเดียวในโลกนะ "เอ็งเจอแล้ว" "ใครอะ ถ้าแม่หมอรู้ก็บอกฉันเลยสิ" "บอกไม่ได้ บอกได้แค่ว่า...เอ็งได้เจอกับเขาแล้ว" แม่หมอทิ้งท้ายเอาไว้แค่นั้น ก่อนจะลุกและเดินออกไป ปล่อยให้ฉันนั่งคิดตามคำใบ้ที่แม่หมอเพิ่งบอกมาเมื่อกี้ ใครอะ ผู้ชายที่ฉันเจอแล้ว ? "ใครอะ มึงไปเจอใครมาวะเปรี้ยว" พอแม่หมอลุกออกไป เหมยที่นั่งรออยู่ห่างๆ ก็เริ่มกรู่เข้ามาถามฉันเพราะความอยากรู้ทันที "ไม่แน่ใจว่ะ..." ที่ผ่านมาฉันก็เจอผู้ชายหลายคนอยู่นะ ส่วนมากก็จะเจอแบบผ่านๆ แล้วที่เจอล่าสุด... เอ๊ะ! หรือว่าจะเป็น...พี่ติณณ์ !? พี่จีน!? ที่นึกออกตอนนี้ก็มีแค่สองคนนี้จริงๆ แล้วผู้ชายที่แม่หมอพูดจะเป็นใครล่ะ!?! จะเป็นพี่ติณณ์...หรือว่า...พี่จีน ?
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม