บทที่สิบสาม

2960 คำ
นาวินวางร่างบางซึ่งไม่ได้สติลงบนเตียงนุ่มอย่างแผ่วเบาราวกับกลัวเธอจะกระทบกระเทือน ร่างสูงถอนหายใจมองใบหน้าหวานที่เปียกชื้นด้วยคราบเหงื่อและร่องรอยน้ำตา ดันกระพุ้งแก้มอย่างหงุดหงิดคาดเดาไม่ได้เลยว่าพิมพ์พลอยหมดสติไปนานแค่ไหน และเธอคงหวาดกลัวมากใช่ไหม คิดแล้วก็เกิดโทสะ พรุ่งนี้เช้ากะว่าจะไปตามเอาเรื่องกับตัวการอย่าง ‘เอมมี่’ อีกที ไม่แน่ใจว่าหล่อนทำไปทั้งหมดมันเป็นเพราะอะไร อิจฉาอะไรขนาดนั้นหรือไม่ชอบหน้ากัน ปกติแล้วพิมพ์พลอยมักเป็นมิตรเสมอ รอยยิ้มสว่างสดใสดุจดั่งพระอาทิตย์มีหรือจะเผลอทำให้ใครหมั่นไส้ได้ “พิมพ์…” ทรุดตัวลงไปนั่งลูบกรอบหน้างามด้วยแรงอันแผ่วเบา อย่างซึ่งผู้ชายหยาบกระด้างคนหนึ่งพยายามทะนุถนอมที่สุด “ฮะ…ฮือ” เสียงหวานร้องละเมอขึ้นมาในลำคอ นาวินหายใจแรงขึ้นคล้ายกังวลเมื่อเธอดิ้นไปมาราวกับขาดอากาศหายใจ “อะ…อย่าทิ้งพิมพ์” หรือรู้สึกฝังใจกับอะไรสักอย่างใบหน้าหวานถึงได้เลอะไปด้วยคราบน้ำตา เพราะแม้แต่ในความฝันก็ยังคงร้องไห้เสียใจอยู่ดี ความมั่นใจซึ่งมีมากล้นหายวับไปกับตา ยามรู้สึกว่าไม่คุ้นเคยกันมาแสนนานชายหนุ่มยิ่งปวดใจ จากน้องน้อยในอดีตกลายเป็นอีกคนที่เขาไม่แม้กระทั่งรู้นิสัยอันแท้จริงของอีกฝ่าย แตกต่างจากเมื่อก่อนเคยรู้ใจทุกอย่าง แค่มองตาก็สามารถอ่านใจเธอได้ในทันที …พิมพ์พลอยชอบหรือไม่ชอบใจอะไรพี่ชายคนนี้ใส่ใจเสมอมา “ไม่ต้องกลัวนะ พี่อยู่ตรงนี้แล้ว” เพราะรู้ว่าคนตัวเล็กไม่มีทางตื่นขึ้นมาเพื่อได้ยินในสิ่งที่เขาพร่ำบอกไป จึงจงใจเลือกใช้สรรพนามซึ่งพิมพ์พลอยไม่ได้ยินมาแล้วเนิ่นนาน ถ้าหากเธอลืมตาตื่นขึ้นมาในเวลานี้หญิงสาวคงเห็นพี่วินคนเดิม …คนเดียวกับในอดีตที่ผ่านมา เลือกกระชับอ้อมกอดแน่นเพื่อให้อาการของอีกฝ่ายสงบลง ยอมรับว่าความอดทนเขาเริ่มต่ำเรื่อยๆ เมื่อฝันร้ายมันยังคงตามหลอกหลอนจนคนในอ้อมแขนดีดดิ้นไปมาไม่มีทางจางหายไป รู้ว่าผิดรู้ว่าเลวแต่ใกล้เรือนร่างแสนเย้ายวนแถมยังเป็นผู้หญิงที่เคยรักอยู่เต็มหัวใจใครมันจะไปทนไหว ทรวงอกเต่งตึงขนาดเกินตัวเบียดชิดอกแกร่งจนนาวินรู้สึกอึดอัด ความวาบหวามเคลื่อนเข้าสู่ในช่องท้องน้อยเฉียบพลันราวกับมีหมู่มวลผีเสื้อบินหยอกล้อกันไปมาอยู่ข้างใน อดไม่ได้ที่จะโน้มตัวประทับจุมพิตยังเรือนผมเงางามพลางไล่ริมฝีปากลงมายังข้างแก้มใส …อย่าสติแตกตอนนี้ไอ้วิน! ฝืนเก็บทุกความต้องการเอาไว้ภายในใจ เวลานี้จะมีอะไรที่สำคัญไปกว่าการดูแลเธอ ไว้ตื่นขึ้นมาค่อยขอรางวัลก็ได้ ตั้งสติกลืนน้ำลายลงลำคออันแห้งผาก เมื่อคิดได้ดังนั้นจึงวางร่างบางไว้ยังที่เดิมพลางเบี่ยงตัวเดินไปยังห้องน้ำ ผ้าขนหนูชุบน้ำใส่ในโถแก้วถูกนำมาเพื่อช่วยให้พิมพ์พลอยผ่อนคลาย อยู่ในชุดเดรสจัดเต็มขนาดนี้เห็นทีคงอึดอัดน่าดู มือหนาใช้มันชุบน้ำไล่เช็ดบริเวณแขนเรียวยาวเคลื่อนขึ้นไปยังไหปลาร้าและลำคอระหง “แม่งเอ๊ย!” สบถคำหยาบออกมาจากเรียวปากยังไม่ทันได้ทำอะไร ร่างบางกลับพลิกตัวไปมาราวกับต้องการแกล้งให้ความอดทนเขาหมดลง ท่าทียั่วยวนไม่รู้ว่าร้อนรุ่มอะไรนักหนา เพราะมือลูบคลำยังเนื้อนวลนอกร่มผ้าก่อนสะเปะสะปะขัดขืน เมื่อสัมผัสถึงความเย็นเฉียบของเครื่องปรับอากาศและความเปียกชื้น ยิ่งพิมพ์พลอยขยับกายขัดขืนมากเท่าไร อะไรต่อมิอะไรก็ขยันล้นทะลักออกมาเหมือนกับต้องการทดสอบความแข็งแกร่ง …อย่าหื่นไม่รู้จักเวล่ำเวลาไอ้วิน! “เอาก็เอาวะ” ไม่อาจทนมองเธอหลับใหลทั้งที่เครื่องสำอางยังคงฉาบใบหน้าหวานแบบไม่ปรานี กลั้นใจอย่างน้อยก็ต้องกำจัดเมกอัปออกจากผิวขาวใสให้สะอาดหมดจด เพราะความเนี้ยบเจ้าระเบียบพอควรเห็นแล้วจึงรู้สึกอึดอัด จนต้องแกล้งมโนว่าเธอคงต้องการความช่วยเหลือจากเขาเช่นกัน “เช็ดหน้าก่อนแล้วกันค่อยเปลี่ยนชุด” สูดลมหายใจเข้าปอดเพราะความยุ่งยากตรงหน้า ก่อนเดินไปหยิบอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งเขาก็ไม่ได้โง่ถึงขนาดดูไม่ออกว่าต้องใช้อะไรยังไงบ้าง นาวินจัดว่าเป็นผู้ชายที่ดูแลตัวเองอย่างดี “อะ…อื้อ” เสียงหวานครางในลำคอ ขณะที่มือหนาใช้สำลีชุบเมกอัปรีมูฟเวอร์บรรจงเช็ดยังผิวบาง แก้มชมพูสว่างใสจากเลือดฝาดเล่นเอาหัวใจแกร่งเต้นผิดจังหวะ ริมฝีอวบอิ่มที่เขาเคยได้ลิ้มลองนั่นอีก ความอดทนใกล้หมดลงเต็มที…ทำไมการเป็นคนดีมันยากขนาดนี้วะ! “อะ…อย่า” “นิ่งๆ” นาวินแทบหยุดหายใจเมื่อนิ้วเรียวสัมผัสโดนยังเรียวปากนุ่มนิ่ม ทั้งที่เอ่ยดุขนาดนั้นแต่คนตัวเล็กดูเหมือนจะไม่ได้ใส่ใจในคำเตือน …ใช่สิ! จะรู้ตัวได้ไงเธอหลับอยู่ ส่วนคนที่ทรมานก็นั่งอยู่ตรงนี้ไง “อะ…อื้อ” เสียงร้องราวกับรำคาญใจยังคงเปล่งออกมาอย่างต่อเนื่อง นาวินนับหนึ่งถึงสิบหลายต่อหลายครั้งเพื่อระงับอารมณ์ปรารถนาซึ่งพร้อมระอุปะทุทุกเมื่อ พิมพ์พลอยไม่รู้หรอกว่าท่าทีของเธอในตอนนี้มันปั่นป่วนหัวใจเขาจนแทบบ้า ไม่มีผู้ชายคนไหนทนมองคนที่ตนเองรักมาตลอดโดยไม่รู้สึกอะไรได้ และยิ่งมีโอกาสครอบครองหญิงสาวแล้วเขายิ่งไม่อยากหยุด คิดได้ดังนั้นใบหน้าคมคายจึงเลื่อนไปประทับจูบแผ่วเบายังเรียวปากบาง นาวินขบเม้มยังติ่งเล็กน่ารัก ก่อนแทรกเรียวลิ้นเข้าไปในโพรงปากเพราะต้องการดื่มด่ำน้ำหวาน ชายหนุ่มเกี่ยวพันพลางตวัดหยอกเย้าจนพิมพ์พลอยครางต่ำในลำคอ “อื้อ” แค่เพียงได้สัมผัสแผ่วเบาเท่านี้ ใจแกร่งเหมือนด่ำดิ่งลึกลงไปจนกู่ไม่กลับ รู้ตัวอีกทีก็ไล่ลงมาจูบซับยังตำแหน่งซอกคอขาวพลางกัดเม้มสร้างความเสียวซ่านพร้อมฝากฝังร่องรอยสีแดงจางๆ คนใต้ร่างขยับกายขัดขืนเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสแห่งความเจ็บปวดจากเขี้ยวคมจนนาวินต้องหยุดชะงัก เขาถอนจูบออกฉับพลันเมื่อรู้ว่าคนตัวเล็ก ไม่เต็มใจ …ไม่อยากรังแกเธออีกแล้ว “เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ” นาวินหัวเราะในลำคอก่อนมองยังคนที่นอนไม่ได้สติ หลับสบายจริงนะ…เกือบโดนขย้ำแล้วยังไม่รู้สึกตัวอีก ได้แต่กัดฟันอดทนข่มความต้องการซ่อนไว้ในใจ มือหนาเลื่อนผ้าห่มผืนใหญ่คลุมทับกายภรรยา ตอนนี้เขาไม่มีกะจิตกะใจจะมานั่งเปลี่ยนชุดให้เธออีกต่อไป แค่ระงับความต้องการของตนเองก็ยากเย็น ถ้าถอดชุดสวยปรากฏเรือนร่างงามซึ่งปราศจากเครื่องห่อหุ้ม …คืนนี้พิมพ์พลอยคงไม่ได้นอนอีกทั้งคืน! “ฝันดีนะ” กระซิบบางเบาข้างหูเล็กก่อนจูบซับยังหน้าผากมนอีกครั้ง จึงตัดสินใจเบี่ยงเรียวเท้าเพื่อออกไปสงบสติอารมณ์ข้างนอกระเบียง …อย่างน้อยบุหรี่สักมวนคงช่วยเขาได้ดี ว่าพร้อมถอยกายเลื่อนประตูออกไป เพื่อระบายอารมณ์ส่วนลึกภายในจิตใจ ทว่าอีกด้านหนึ่งกลับคิดไม่ตกเลย เพราะเหตุผลอะไรผู้หญิงของเขาถึงต้องมาเผชิญเหตุการณ์เลวร้ายแบบนี้ มือหนาฝั่งที่ไม่ได้ถือปลายบุหรี่กำราวระเบียงแน่นจนแทบเห็นเส้นเลือด กัดฟันกรอดคล้ายยับยั้งความโกรธเอาไว้ ปล่อยลมหายใจดื่มด่ำกับความขมของกลิ่นบุหรี่จนพอใจ [หาเบอร์ผู้จัดการพีชมาให้ฉันด้วย] แล้วดับมันด้วยปลายเท้า ก่อนเลือกกดส่งข้อความให้เพื่อนสนิทซึ่งมีคอนเนกชันพอสมควร ติ๊ง! ไม่ถึงห้านาทีปลายทางตอบกลับมาด้วยหมายเลขซึ่งเขาต้องการอยู่แล้ว ชายหนุ่มคลี่ยิ้มร้ายก่อนเลือกกดโทรหาหล่อน ไม่รอช้าสักนาทีเดียว หัวใจมันร้อนรุ่มเหมือนถูกไฟเผาทั้งหมดนี้ต้องมีคนชดใช้ ภาพภรรยานอนจมความเจ็บปวดยังติดตาอยู่ เพียงแค่นี้นาวินก็พร้อมจะทำทุกอย่างแม้กระทั่งวิธีเลวๆ เพื่อสั่งสอนไอ้ชั่วที่มันบังอาจกล้ามายุ่งกับผู้หญิงของเขา พิมพ์พลอยเป็นสมบัติของซาตานหนุ่มเพียงผู้เดียว มีแค่นาวินเท่านั้นที่มีสิทธิ์รังแกเธอได้ …คนอื่นอย่าหวัง! ตู๊ด! ตู๊ด! สายนั่นตัดไปอย่างรวดเร็วราวกับตั้งใจ อยากหนีก็จะปล่อยให้หนีเท่าไป ถ้าตามจับกลับมาได้เมื่อไรอย่าหวังว่าจะรอดพ้นเงื้อมมือปีศาจ ปล่อยให้ใช้ชีวิตแบบสงบสุขเสียให้พอก่อนจะได้รู้จักนรกบนดิน! ขยับกายยากเย็นเมื่อรู้สึกถึงแรงกอดรัดจากทางด้านหลัง พิมพ์พลอยพยายามเปิดเปลือกตาเพื่อรับแสงสว่างแต่มันอ่อนล้าเหลือเกิน “อื้อ…” เสียงครางต่ำติดรำคาญฟังก็รู้ทันทีว่าคือใคร คนตัวเล็กพลิกตัวไปปะทะสายตากับแผ่นอกแกร่งตรงหน้าอยู่รำไร กลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่อึดอัดเหลือเกิน จะทำยังไงให้หลุดพ้นจากสถานการณ์ล่อแหลมแบบนี้ พยายามขืนตัวสุดชีวิตแต่เหมือนไร้ประโยชน์ เพราะยิ่งดิ้นรนมากเท่าไรแรงรัดเหมือนยิ่งแน่นหนาขึ้นเท่าทวีคณู “จะไปไหน” ดวงตาสีรัตติกาลลืมขึ้นทันใด เสียงทุ้มถามราวกับไม่ใส่ใจ แม้เคยใกล้ชิดกันขนาดไหนแต่ก็ยังทำใจให้ชินไม่ได้อยู่ดี อยู่ๆ แก้มนุ่มนิ่มก็เริ่มแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย “ปล่อยพิมพ์ก่อน” “ไม่” ปฏิเสธเสียงแข็งไม่อ่อนโยนเลยสักนิด ใบหน้าคมคายเคลื่อนเข้ามาใกล้ริมฝีปากบาง เรียวปากสีชมพูเม้มแน่นราวกับต้องการขัดขืน “ไหนขอรางวัลคนดีหน่อย” รู้ได้ในทันทีว่าชายหนุ่มต้องการอะไร สายตาแสนเจ้าเล่ห์แฝงไปด้วยความหยอกเย้าคลุกเคล้าเสน่หา “แค่จูบ” “ไม่!” “งั้นคุณอยากได้อะไรตอบแทน” ย้อนถามอย่างขัดใจ คนตัวโตหน้าตึงขึ้นเล็กน้อย นี่เธอคิดว่าแค่จุมพิตเดียวมันพอหรือไง ไม่รู้เลยใช่ไหมว่าเมื่อคืนเขาต้องใช้ความอดทนมากมายขนาดไหน “อยากกินเธอ!” “นี่คุณ!” ไม่ทันได้ปฏิเสธนาวินประทับจูบลงมายังริมฝีปากเพียงแค่เสี้ยววินาที ก็ต้องกลืนคำพูดทั้งหมดหายไป ชายหนุ่มแทรกเรียวลิ้นร้อนพร้อมตวัดหยอกเย้าไปมาอย่างอารมณ์ดี ขบเม้มดูดดื่มน้ำหวานยังเรียวปากสีชมพู ทว่ายังคงไม่สาแก่ใจ มือหนาจึงยกคนตัวเล็กข้างกายให้ขึ้นมาคร่อมข้างบน ความเร่าร้อนเริ่มขึ้นในขณะที่เขาพยายามบดเบียดกายแกร่งเข้าไปสัมผัสกับส่วนอ่อนไหว ซ้ำยังดูดซับความหวานผ่านโพรงปากซึ่งมีเขาเท่านั้นที่ได้ครอบครอง ลากนิ้วเรียวผ่านแผ่นหลังขาวเนียนไปปลดเดรสตัวสวยให้ออกจากร่างกายจนลงมากองอยู่ที่เอวคอดกิ่ว พิมพ์พลอยกัดปากแน่นเสียวซ่านเมื่อชายหนุ่มเคลื่อนตัวลงไปจูบซับยังซอกคอขาว มือใหญ่เริ่มปลดในชั้นลูกไม้สีชมพูอ่อนออกจากร่างนุ่มนิ่มด้วยความว่องไว “อะ…อื้อ” โน้มตัวลงไปขบเม้มยังเม็ดทับทิมสีแดง พร้อมจูบซับทั่วทรวงอกอวบอิ่ม มือบางจิกเกร็งยังบ่ากว้างยามรู้สึกอ่อนไหว “อะ…อ๊า” ยิ่งเรียวลิ้นร้อนตวัดหยอกล้อพลางดูดดึงเต้างามมากเท่าไร เสียงหวานยิ่งเปล่งออกมาราวกับใกล้หมดความอดทน นาวินรุกเร้าละเลงปลายถันเธอจนแข็งเป็นไต “อะ…อ๊ะ” ย้ายมือไปบีบเคล้นยังอกอวบอีกข้าง ก่อนใช้นิ้วแกล้งหยอกล้อยังเม็ดทับทิมอย่างใจปรารถนา ไม่รอช้าอีกพลิกคนตัวเล็กให้นอนยังราบลงบนเตียงนอน “ดีมั้ย…” เสียงทุ้มถามขึ้นมาในขณะที่ไล้ลิ้นต่ำลงไปจนกระทั่งถึงขาหนีบ มือหนาบังคับให้พิมพ์พลอยอ้าขาเรียวออกเพื่อเปิดทาง “อ๊ะ” ครางกระเส่าขึ้นมาฉับพลันเมื่อนิ้วร้ายนั้นแทรกเข้าไปยังกลีบกุหลาบงามที่บัดนี้เต็มไปด้วยน้ำหวาน “แฉะ…หมดแล้ว” คลี่ยิ้มถูกใจ ลากเสียงยาวเนิบนาบราวกับต้องการจะทรมานกันไปเรื่อยๆ ในจังหวะที่นิ้วเขาเขยิบเข้าออกอย่างเชื่องช้า “อะ…อื้อไม่ไหว” เหงื่อผุดยังเรียวหน้างามใบหน้าเหยเกเพราะความรัญจวนซึ่งขยันถาโถมทั่วทุกอณูของผิวกาย หญิงสาวทำได้เพียงจิกเล็บยาวยังผ้าปูที่นอน ไม่ทันตั้งตัวนาวินก็ฝากฝังใบหน้าหล่อเหลาลงมายังดอกกุหลาบแสนงาม ลิ้นสากเริ่มไล้เลียตวัดเกี่ยวพันขบเม้มยังกึ่งกลางชุ่มฉ่ำ พิมพ์พลอยบิดเร้าในจังหวะที่เขาซุกไซ้ใบหน้าราวกับต้องการชิมทุกตารางนิ้วของเกสรดอกไม้ ใจกลางความเป็นหญิงบวมเป่งทันใด เมื่อชายหนุ่มเพิ่มแรงขบเม้มไปมาตามอารมณ์ระอุวาบหวาม “อ๊ะ…เจ็บ” “เดี๋ยวก็หายเด็กดี” จ้องมองยังใบหน้าเข้มขรึมที่เงยขึ้นมาเพื่อสบตาเธอชั่วขณะ ราวกับมีมนตร์สะกดอยู่ไม่อาจละสายตาจากเขาไปได้เลย …ผู้ชายที่เคยเป็นผู้ให้และผู้ทำลายในเวลาเดียวกัน ดวงตาสีรัตติกาลเปล่งประกายร้อนแรงในขณะที่ดันกายแกร่งเข้าไปยังถ้ำสวาท เพียงเสี้ยววินาทีต้องครางต่ำในลำคอเพราะแรงบีบรัดทำให้เขาทั้งเสียวซ่านและทรมานในเวลาเดียวกัน “อ่า…ดีเหลือเกิน” ชายหนุ่มกระซิบเสียงแผ่วเบาเมื่อเริ่มขยับกายไปมา เสียงครางหวิวหลุดลอดในขณะที่เขาขบเม้มยังซอกคอขาว เพื่อตีตราจอง กัดฟันข่มทุกความรู้สึกเมื่อเขี้ยวคมนั้นฝากร่องรอยรักไว้อย่างจาบจ้วง ชายหนุ่มไม่รอช้าเริ่มเร่งจังหวะกระแทกกระทั้นอุกอาจตามแบบฉบับคนมีความต้องการสูงลิ่ว จนคนตัวเล็กรู้สึกปวดร้าว “อ๊ะ…เจ็บ” “เจ็บหรือเสียว” คนใจร้ายยังเหมือนเดิมอยู่วันยังค่ำ แม้ว่าเธอจะแสดงออกว่าเจ็บปวดเพียงใดไม่มีวันที่เขาจะหันมาสนใจ …ความทุกข์ของเธอคือสิ่งหอมหวานสำหรับนาวินสิ เนิ่นนานกว่าความเจ็บปวดจะแปรเปลี่ยนเป็นเร่าร้อน ทำให้ร่างกายไม่ฟังคำสั่งของสมอง แอ่นสะโพกเข้าหาราวกับผู้หญิงไร้ค่าที่รอคอยให้เขาเติมเต็ม “อะ…อ๊า” “เสียวสินะ” เสียงกระซิบแหบพร่าในขณะที่อัดกระแทกกายเข้าหาเต็มแรงรัก พิมพ์พลอยจุกเสียดบริเวณท้องน้อยเฉียบพลัน ครางกระเส่าในขณะที่สะโพกสอบขยับกายเข้าออกด้วยความดิบเถื่อน คนตัวเล็กกัดฟันกรอดทั้งสุขสมและทุกข์ระทมในเวลาเดียวกัน “อ๊ะ…คุณ!” เปล่งเสียงขึ้นเมื่อตกใจ นาวินเปลี่ยนท่าให้เธอหันไปทางหัวเตียง ส่วนเขานั้นทาบทับอยู่ข้างหลัง ไม่รอให้พิมพ์พลอยทำใจกายแกร่งสอดแทรกเข้ามาอีกครั้งอย่างหนักหน่วง “อะ…อ่าไม่ไหวแล้ว” เสียงทุ้มครางต่ำในขณะที่ขยับกายเข้าออกสุดแรง มือหนาอีกข้างเอื้อมบีบเคล้นหยอกเย้าไปมายังเม็ดทับทิมสีแดง จนคนข้างหน้าบิดเร้าเอนกายพักพิงไหล่กว้าง “อะ…อ๊า” นาวินจูบซับยังบริเวณซอกคอช้ำซึ่งเต็มไปด้วยรอยรักจากเขาทั้งยังกระแทกกายเข้าหาเธออย่างบ้าคลั่ง จนความอ่อนนุ่มบีบรัดคนตัวสูงแทบบ้า ร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของเขาจึงปกคลุมไปด้วยเหงื่อชุ่มราวกับคนวิ่งเป็นสิบกิโล เหนื่อยแหละแต่ก็ผ่อนคลายมันดีแบบนี้นี่เอง เสียงเนื้อกระทบกันดังกึกก้องทั่วบริเวณห้องกว้าง ชายหนุ่มกระหน่ำกายจนเสียงหวานครางกระเส่าดังสนั่น “อะ…อื้อ” จังหวะสุดท้ายก่อนที่ทั้งคู่จะแตะขอบสวรรค์พิมพ์พลอยเปล่งเสียงครางในลำคออีกครั้ง ส่วนชายหนุ่มเองก็ไม่ลืมฝากฝังทุกหยาดหยดเข้าไปในกายของภรรยา “นี่คุณ!” ตวาดแว้ดเพราะตกใจ “ทำไม…ก็เป็นเมียปล่อยในไม่ได้” ย้อนถามอย่างหน้าไม่อายยามคนตัวเล็กสะบัดกายออกห่าง รังเกียจมากขนาดนั้นเชียวเมื่อกี้ยังกอดก่ายกันอยู่เลย “อย่าทำแบบนี้อีก” พิมพ์พลอยจ้องมองเขาอย่างอวดดี คนใจร้ายรู้ว่าเธอกลัวสิ่งใดมากที่สุด เพราะใบหน้าหวานซีดเผือดไปหมด “สัญญาเราแค่หกเดือน” “นั่นสิหกเดือนฉันก็ต้องใช้งานเมียอย่างเธอให้คุ้มหน่อย” “ทุเรศ” เจ้าหญิงน้ำแข็งไม่อาจข่มอารมณ์ได้อีกต่อไป มือเล็กคว้าหมอนใบโตปาใส่หน้าหล่อเหลาที่ยกยิ้มร้ายเต็มแรง ตัวสั่นระริกไปหมดพลางเอื้อมคว้าผ้าห่มผืนใหญ่มาคลุมกายเตรียมหนีห่างจากผู้ชายเห็นแก่ได้ “ทำบ้าอะไร!” “ฉันยังไม่อิ่ม…ส่วนเธอก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ” ทว่าเหมือนช้ากว่าคนมือไว นาวินโอบรัดเธอจากข้างหลังก่อนอุ้มร่างบางแนบอกเดินตรงไปยังจุดหมาย “ไปต่อที่อ่างน่าจะมีอารมณ์อีกแบบนะ” คนอารมณ์ดีผิวปากอย่างสุขใจ ต่างจากพิมพ์พลอยที่ดิ้นขลุกขลักพยศขัดขืน ทว่าแรงอันน้อยนิดของเธอไม่อาจต้านทานชายหนุ่มได้ เพียงไม่นานเสียงโวยวายจึงเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นครางกระเส่า เมื่อนาวินเริ่มปลุกเร้าสงครามสวาทตามที่ใจปรารถนาครั้งแล้วครั้งเล่า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม