บทที่3-3

1290 คำ
ทันทีที่ได้ยินหลานชายรับปากอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะ อาม่ากันทราถึงกับลอบยิ้ม แต่ยังคงไว้ท่า ก่อนจะค่อยๆ หันหน้ากลับมามองนฤบดินทร์ที่ยังคงนั่งอยู่ข้างเตียง “ที่พูดออกมาน่ะ ลื้อแน่ใจแล้วใช่ไหม อั๊วไม่ได้บังคับลื้อหรอกนะ” “ครับ อาม่า ผมจะแต่งงานกับโซ่ แต่แค่หนึ่งปีเท่านั้นนะครับ” นฤบดินทร์รับคำ แต่ก็แสดงเจตจำนงค์เอาไว้อย่างชัดเจน ซึ่งในเรื่องนี้อาม่ากันทราก็ยินยอม เพราะตามที่ซินแสกำธรกล่าวไว้ชายหนุ่มจะพ้นเคราะห์หลังจากแต่งงานไปแล้วหนึ่งปี และอาม่ากันทราก็ค่อนข้างวางใจว่าช่วงระยะเวลาหนึ่งปีที่นฤบดินทร์กับนิฏฐาใช้ชีวิตคู่ร่วมกันนั้น นิฏฐาจะสามารถเอาชนะใจหลานชายของท่านได้ อย่างนี้เรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว อย่างแรกก็คือหลานชายของท่านจะพ้นเคราะห์หนักไปได้ อย่างที่สองท่านสามารถกำจัดคนรักที่ไม่คู่ควรกับหลานชายของท่านเลยสักนิดให้พ้นทางไปได้ “ในเมื่อลื้อยืนยันแบบนั้น อั๊วก็จะเป็นคนดำเนินการต่างๆ ให้เอง” “โซ่ ลูกแน่ใจแล้วอย่างนั้นเหรอที่ตกปากรับคำบ้านโน้นเขาไปแบบนั้น” นิตาและนิฏฐานั่งคุยกันที่โซฟาภายในห้องรับแขกขนาดเล็กในบ้านของตัวเอง หลังจากที่ครอบครัวมีทรัพย์อนันต์เพิ่งจะยกโขยงกันกลับไปได้ไม่นาน นิตาแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่อยู่คนบ้านนั้นมาคุยเรื่องที่จะขอลูกสาวของเธอให้ไปเป็นหลานสะใภ้และลูกสะใภ้ แถมอาม่ากันทราคนที่เป็นผู้ใหญ่สุดในบ้านเป็นคนมาคุยเองเสียด้วย แต่ที่นิตาอดที่จะกังวลใจไม่ได้ก็คือเงื่อนไขในการแต่งงานนั่นต่างหาก โดยคนที่ออกปากเป็นเจ้าบ่าวอย่างนฤบดินทร์ “น้านิไม่ต้องกังวลนะครับ ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ผมกับโซ่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ผมจะไม่ล่วงเกินโซ่เด็ดขาด งานแต่งงานครั้งนี้เกิดขึ้นนั่นก็เพราะเป็นการสะเดาะเคราะห์เพียงเท่านั้น” มีคนมาสู่ขอลูกสาวของเธอไปแต่งงานด้วย แต่บอกว่าเป็นแค่การสะเดาะเคราะห์เพียงเท่านั้น แล้วแบบนี้เธอควรเห็นดีเห็นงามด้วยอย่างนั้นหรือ ถ้าถามเธอแล้วละก็ เธอไม่เห็นด้วยเลยจริงๆ “แม่ก็รู้นี่จ๊ะ ว่าซินแสกำธรน่ะดูดวงแม่นขนาดไหน แล้วพี่ดินทร์ก็กำลังมีเคราะห์ เรารู้จักคนบ้านนั้นมานาน แล้วอีกอย่างครอบครัวมีทรัพย์อนันต์ก็ช่วยเหลือครอบครัวเราเอาไว้มาก พอเขาต้องการให้เราช่วย เราจะปฏิเสธได้ลงอย่างนั้นหรือจ๊ะ” นิฏฐาพยายามหว่านล้อมมารดาโดยยกความแม่นยำในการตรวจดวงชะตาของซินแสกำธรขึ้นมากล่าวอ้าง ทั้งยังเท้าความถึงความมีน้ำใจของครอบครัวมีทรัพย์อนันต์อีกด้วย “แต่แม่ว่ายังไงซะเราก็ไม่เห็นจำเป็นต้องตอบแทนเขาแบบนั้น การแต่งงานไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะลูก จริงอยู่ที่ครอบครัวมีทรัพย์อนันต์มีน้ำใจต่อครอบครัวของเธอ สองปีก่อนเป็นธุระในเรื่องจัดงานศพของสามีของเธอ เพราะตอนนั้นนิฏฐายังไม่ทันเรียนจบ ครอบครัวจึงอัตคัดพอสมควร ทั้งผู้นำครอบครัวก็มาด่วนจากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ ตอนนั้นนิตามืดแปดด้าน แต่ครอบครัวมีทรัพย์ก็ยื่นมือมาช่วย ทั้งข้าวสารที่เธอหุงต้มอยู่ทุกวันนี้ก็มาจากโรงสีมีทรัพย์อนันต์ที่เต็มใจให้โดยไม่คิดมูลค่า เธอซาบซึ้งในน้ำใจของครอบครัวนั้นดี แต่...การตอบแทนมันมีหลายวิธี ไม่จำเป็นเลยที่ต้องตอบแทนด้วยวิธีนั้น เธอคิดว่ามันมากเกินไป “แม่ก็ได้ยินแล้วนี่จ๊ะที่...พี่ดินทร์พูด เพราะฉะนั้น แม่วางใจได้” นิฏฐาพยายามฉีกยิ้มกว้างตอนที่นึกถึงประโยคที่นฤบดินทร์กล่าวอย่างชัดถ้อยชัดคำ ทั้งที่ในหัวใจของเธอห่อเหี่ยวจนน่าใจหายตอนที่ได้ยินประโยคนั้น “น้านิไม่ต้องกังวลนะครับ ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ผมกับโซ่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ผมจะไม่ล่วงเกินโซ่เด็ดขาด งานแต่งงานครั้งนี้เกิดขึ้นนั่นก็เพราะเป็นการสะเดาะเคราะห์เพียงเท่านั้น” นิตาถอนหายใจก่อนจะเอ่ยกับบุตรสาวที่กำลังยิ้มแป้น “แม่รู้นะที่โซ่ตกปากรับคำเขาไปแบบนั้นเพราะอะไร” “...” “ลูกรักดินทร์ใช่ไหม” “แม่!” นิฏฐาตาเบิกกว้าง ม่านตาของเธอวูบไหว ไม่คิดว่ามารดาจะรู้ถึงความรู้สึกที่เธอพยายามเก็บซ่อนเอาไว้ “มะ ไม่ใช่แบบนั้นนะจ๊ะ” “ลูกไม่จำเป็นต้องปิดบังหรอก แม่เลี้ยงลูกมากับมือ ทำไมแม่จะไม่รู้” นิฏฐาก้มหน้างุดยามที่ถูกมารดาจ้องลึกเข้ามาในดวงตา แม้ปากของเธอจะปฏิเสธไปแล้ว แต่แน่ละ ดวงตาของเธอไม่อาจปฏิเสธความจริงในข้อนั้นได้ สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้ก็คือการหลบสายตาของมารดาเพียงเท่านั้น “และแม่คิดว่าดินทร์เองก็รู้ในข้อนี้ด้วย” นิฏฐาแหงนเงยใบหน้าขึ้นมามองมารดาทันควัน ลมหายใจของเธอสะดุดไปพักใหญ่ ก่อนจะพูดกับมารดาแบบไม่เต็มเสียง “พี่ดินทร์…ไม่รู้หรอกจ้ะแม่” “โซ่ ดินทร์ไม่ใช่คนโง่นะลูก” นิฏฐาได้แต่เม้มริมฝีปากเข้ากันแน่น เพราะสิ่งที่มารดาเอ่ยออกมานั้นเธอไม่อาจโต้แย้งได้ ใช่ นฤบดินทร์ไม่ใช่คนโง่ ซ้ำยังฉลาดเป็นกรดเลยด้วยซ้ำ “โซ่ก็รู้ว่าดินทร์น่ะเขามีคนรักอยู่แล้ว แม่ไม่เห็นควรด้วยเลยจริงๆ ที่ลูกตัดสินใจแบบนั้น จริงอยู่ที่ดินทร์รับปากว่าระหว่างเขากับลูกจะไม่มีอะไรเกินเลยกัน และแม่ก็เชื่อในคำพูดของดินทร์ แต่ผู้หญิงเราน่ะ ในเมื่อจัดงานแต่งไปแล้ว แม้ว่าจะด้วยจุดประสงค์อะไรก็ตาม สุดท้ายเมื่อครบกำหนดเวลาที่ต้องเลิกรากัน ลูกก็จะตกอยู่ในสถานะแม่ม่าย คนภายนอกไม่รู้หรอกว่าความเป็นจริงแล้วลูกใช้ชีวิตการแต่งงานแบบไหน แต่สุดท้ายลูกก็จะกลายเป็นผู้หญิงที่ผ่านการแต่งงานมาแล้ว และลูกก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความจริงในข้อนั้นได้” นิฏฐาไม่ได้โต้ตอบอะไรมารดาเพราะที่ท่านพูดมาเป็นจริงทุกอย่าง แต่ในเมื่อเธอตกปากรับคำอาม่ากันทราไปแล้ว และนี่เป็นโอกาสเดียวที่เธอจะได้ใกล้ชิดกับนฤบดินทร์มากกว่าที่เคย โอกาสเดียวที่จะทำให้เขาหันมามองเธอ และเธอจะใช้ความใกล้ชิดนั้นทำให้เขาเปลี่ยนใจมารักเธอให้ได้ “โซ่รู้จ้ะแม่ แต่โซ่ตัดสินใจไปแล้ว” คำตอบของเธอคล้ายคนที่เห็นแก่ตัว แต่ในความเห็นแก่ตัวนั้นมันมีความจำเป็นแฝงอยู่ด้วย เพราะอาม่ากันทราไม่อยากได้คนรักของนฤบดินทร์มาเป็นหลานสะใภ้ และดูเหมือนท่านจะรับรู้อะไรมา ถึงได้ตัดสินใจให้เธอช่วยแบบนั้น นิตามองบุตรสาวอย่างอ่อนใจ ท่าทางมุ่งมั่นจริงจังเสียขนาดนั้น เธอคงทำอะไรไม่ได้แล้ว คนเป็นแม่อย่างเธอคงทำได้เพียงอยู่เคียงข้างและคอยให้คำปรึกษาเท่านั้น “เอาล่ะ ในเมื่อลูกตัดสินใจแบบนั้น แม่ก็จะไม่ค้าน ในเมื่อลูกโตแล้ว การตัดสินใจในชีวิตควรขึ้นอยู่กับลูก แต่ถ้าลูกมีปัญหา แม่อยากให้ลูกคิดถึงแม่เป็นคนแรก” นิฏฐาโผเข้ากอดมารดา ซุกซบใบหน้าที่ไหล่ของท่าน ริมฝีปากจิ้มลิ้มคลี่ยิ้มบางๆ “ขอบคุณที่เข้าใจโซ่จ้ะแม่”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม