ชมดาวเดินลัดเลาะไปตรงข้างบ้าน จนมาหยุดอยู่ที่ริมสระน้ำ มองร่างสูงของชายชุดดำคุ้นตาจึงรีบเดินเข้าไปหา
เธอบอกแล้วไงว่าทานข้าวเสร็จจะมาคุยด้วย เธอก็ต้องมา
"ทานข้าวหรือยังคะ" ชมดาวเดินไปหยุดอยู่ต่อหน้าผู้เป็นอา แล้วถามออกมายิ้ม ๆ
อากรณ์หล่อมาก! เธอชอบผู้ชายที่มีใบหน้าดุแต่หล่อแบบนี้
ยิ่งพูด 'คะ' 'ขา' ด้วยแล้ว
'ชมดาวขา...อาเสียวค่ะ' งื้อออออออ ยิ่งชอบเลย เธอคิดไปถึงไหนต่อไหนแล้วเนี่ย โอ๊ย!
กรณ์ส่ายหัว ขณะมองใบหน้าหวานของหลานไปด้วย เขาจะได้ทานข้าวก็ต่อเมื่อผู้การสันต์กับคุณนายชมจันทร์ขึ้นนอนแล้วเท่านั้น
ไม่ดึกมากเท่าไหร่ เพราะผู้การสันต์มักขึ้นนอนตั้งแต่ยังไม่ถึงสองทุ่ม หลังจากนั้นถึงจะเป็นเวลาของเขาและพรรคพวก
"ชมมีเรื่องจะคุยด้วยค่ะ คือชม..."
"อาทำงานอยู่ค่ะ"
"คะ" ประโยคของผู้เป็นอาทำให้ชมดาวรีบกลืนประโยคเหล่านั้นลงไป ก่อนจะถามด้วยประโยคใหม่ออกมา เพราะเธอไม่เห็นว่าอากรณ์ทำอะไรสักหน่อยนอกจากยืนเฉย ๆ
"งานอะไรเหรอคะ"
"ดูแลความปลอดภัยให้แด๊ดดี้หนูไงคะ"
"อ๋อ..." ชมดาวพยักหน้าออกมาช้า ๆ เธอก็ลืมไปเสียสนิทว่าบรรดาอา ๆ ทุกคนคือบอดี้การ์ดของผู้การสันต์นี่นา
"แล้ว...ทำงานไปด้วย คุยไปด้วยไม่ได้เหรอคะ" จะดูแลก็ดูแลไปสิ แต่เธออยากคุยด้วยนี่นา
"ไม่ได้ค่ะ อาไม่มีสมาธิ"
ชมดาวค่อย ๆ หุบยิ้มลงทันที ไม่มีสมาธิ? คือยังไง
"มัน...ขนาดนั้นเลยเหรอคะ" แค่เธออยากคุยด้วยสักสองสามคำ แค่อยากถามสารทุกข์สุกดิบก่อนขึ้นบ้าน อยากถามอาบ้างว่าที่ผ่าน ๆ มาเขาสบายดีไหม เพราะอากรณ์เป็นคนเดียวที่เธอไม่ได้ข่าวความเคลื่อนไหวเท่าอาคนอื่น ๆ ไง
อยากถามด้วยว่าสนามแข่งรถของอาเป็นยังไงบ้างแล้ว หากมีโอกาสเธออยากไปเที่ยว ไปลงแข่งขัน
"หากมีใครเข้ามาทำร้ายแด๊ดดี้หนู ความผิดของอาทั้งนั้นค่ะ"
"อ๋อ..." ชมดาวพยักหน้าอย่างเข้าใจ เธอเข้าใจแล้ว เธอก็ไม่ได้ว่าจะดื้อสักหน่อย
"งั้นรออาเลิกงานก่อนก็ได้ค่ะ อาเลิกงานตอนไหนคะ" จะสามทุ่ม หรือสี่ทุ่ม เดี๋ยวเธอขึ้นไปอาบน้ำทาแป้งหอม ๆ รอ แล้วจะลงมาคุยกับอาใหม่อีกที
"ไม่ทราบค่ะ"
"ไม่ทราบ คือยังไงคะ" ชมดาวไม่เข้าใจ อากรณ์ไม่รู้เหรอว่าตัวเองเลิกงานตอนไหน แสดงว่าเลิกงานไม่ตรงเวลาเลยสักวัน เธอก็ไม่เคยสังเกตด้วย
"งั้นชมไปถามแด๊ดดี้ให้นะคะว่าวันนี้อาเลิกงานกี่โมง แล้วจะกลับมานัดใหม่อีกทีค่ะ" ชมดาวทำท่าจะหมุนตัวกลับทว่ากลับได้ยินประโยคอะไรบางอย่างเสียก่อน
"ไม่ต้องหรอกค่ะ หนูขึ้นห้องไปเถอะ"
"ทำไมคะ" ทำไมอากรณ์ทำเหมือนไม่อยากคุยกับเธอเลย มีอะไรหรือเปล่าที่บอกเธอไม่ได้
แต่หากเขาบอกออกมา เธอก็พร้อมจะเข้าใจไง
"ค่ำแล้ว ยุงเยอะ น้ำค้างก็เริ่มลงเดี๋ยวไม่สบายค่ะ"
โธ่ นึกว่าเรื่องอะไร ที่แท้ก็เป็นห่วงเธอนี่เอง อากรณ์ในเมื่อก่อนน่ารักยังไง วันนี้ก็ยังคงน่ารักไม่เปลี่ยนแปลง
"ชมไม่ใช่เด็กสักหน่อยค่ะ นิด ๆ หน่อย ๆ มันไม่ถึงกับป่วยหรอก" อากรณ์พูดเหมือนว่าเราจะคุยกันทั้งคืนอย่างนั้นแหละ
แต่คุยทั้งคืนเธอก็ไม่ติดนะ นั่งคุย หรือนอนคุย เธอยินดี อิ๊อิ๊
"หนูดื้อมากรู้ตัวไหมคะ" คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันพลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้น ความจริงเขาบอก ‘ไม่ได้’ ชมดาวก็น่าจะเข้าใจแล้ว ไม่จำเป็นต้องถามซอกแซกให้วุ่นวาย
"คะ ชมดื้อ?" ดื้อแบบไหน ดื้ออะไรยังไง
"ถ้าไม่ดื้อ เวลาอาบอก หนูก็ควรฟัง และไม่ใช่แค่ฟัง หนูควรปฏิบัติตามด้วยค่ะ"
"อากรณ์..." แค่นี้ถึงกับต้องดุเลย ทีเมื่อก่อนไม่เห็นเป็นแบบนี้ อธิบาย ใจเย็น และที่สำคัญตามใจเธอเก่งมาก! ไม่เคยเสียงแข็งขนาดนี้ด้วย
"แค่การที่ชมยังไม่อยากขึ้นบ้าน เพราะอยากคุยกับอาก่อน มันแปลว่าชมดื้อเหรอคะ" ชมดาวถามด้วยความน้อยใจ ไม่สมกับที่เธอทนคิดถึงเขามาเป็นปี ๆ
"ทางที่ดี อาว่าหนูควรอยู่ห่าง ๆ อาดีกว่าค่ะ ถ้าไม่จำเป็น ไม่ต้องเข้ามาทัก ไม่ต้องเข้ามายุ่งวุ่นวายเลยยิ่งดีค่ะ"
ชมดาวอ้าปากค้าง เพราะไม่รู้ว่าควรตกใจประโยคไหนก่อนดี ถ้าให้ทำแบบนี้ เราไม่ต้องอยู่บ้านเดียวกันเลยดีกว่า และเราก็ไม่ต้องรู้จักกันด้วย ทางใครทางมัน
"อามาที่นี่เพื่อทำงานให้แด๊ดดี้หนูเท่านั้น ไม่ได้มาเพื่อสิ่งอื่น เพราะฉะนั้น หนูเอาเวลาไปสนใจอย่างอื่นดีกว่า อย่ามาสนใจอาเลย"
ชมดาวน้ำตาคลอเบ้าเมื่อได้ยินอย่างนั้น มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมอากรณ์ถึงต้องใช้คำพูดที่มันกระทบกระเทือนจิตใจเธอ
หรือว่าเขามีใคร หรืออามีแฟนแล้ว ก็เลยไม่อยากให้เธอมายุ่งเกี่ยวแบบนี้ใช่ไหม
หากเป็นอย่างนั้น อาควรจะบอกเธอตรง ๆ ให้เข้าใจ ไม่ใช่พูดอ้อมโลกทำเหมือนว่าไม่สะดวกคุยกับเธอ
"อามีอะไรจะบอกชมไหมคะ เพราะตอนนี้ชมไม่รู้ว่ามันมีอะไรเกิดขึ้นกับอาบ้าง อากรณ์ที่เคยน่ารักกับชมในวันนั้นหายไปไหนแล้ว"
"อาก็ยังเป็นอาคนเดิมค่ะ ความจริง อาอาจไม่ได้น่ารักตั้งแต่วันแรกแล้วก็ได้ค่ะ"
ชมดาวกะพริบตาทีเดียวน้ำตากลับไหลพรากลง ไม่สมกับที่เธอคิดถึงจริง ๆ ไม่สมกับที่เธอเก็บหัวใจดวงเดียวเพื่อกลับมาหาเขาเลย
ถ้ารู้ว่ากลับมาแล้ว ต้องมาเจอกับคำพูด และการกระทำแย่ ๆ แบบนี้ สู้ไม่กลับมาเลยดีกว่า
"ชมเข้าใจแล้วค่ะ" ชมดาวบอกน้ำเสียงสั่น ๆ รีบเดินกลับเข้าบ้าน สวนทางกับหรั่งที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ก่อนหน้า
หรั่งเข้าใจเหตุการณ์ดีทุกอย่าง เข้าใจทั้งในมุมของชมดาว และเพื่อนของตัวเอง
ชมดาวไม่ใช่คนเก็บความรู้สึกเก่ง และแสดงออกมาตลอดว่ารู้สึกดีกับไอ้กรณ์มากเป็นพิเศษกว่าคนอื่น ๆ
ส่วนเพื่อนของเขา ในเมื่อผู้การสันต์กำชับว่าไม่ให้ยุ่ง ไอ้กรณ์มันยังรักษาคำพูดและการกระทำได้ดี
เพียงแต่วันนี้ชมดาวโตขึ้นมาก อาจจะควบคุมได้ยากกว่าเมื่อก่อน ทั้งคำพูด และการกระทำของไอ้กรณ์ จึงค่อนข้างเด็ดขาดกว่าปกติ
ไม่ใช่แค่มานั่งอธิบายให้เด็กตัวเล็ก ๆ อย่างในวันนั้นเข้าใจอีกแล้ว ว่าทำอะไรได้บ้าง ไม่ได้บ้าง