ติ๊ง!
โทรศัพท์มือถือที่อยู่ในมือส่งเสียงแจ้งเตือนจากแอพพลิเคชั่นไลน์ สองเท้าที่กำลังก้าวเดินระหว่างทางเดินชะงักไปก่อนจะหยิบมันขึ้นมาเปิดดูไลน์กลุ่ม
LINE กลุ่มวิศวะกร้านโลก
Fank : นาราเป็นอะไรรึเปล่า ทำไมไม่มาเรียน
Rome : กูอยู่แถวคอนโดมัน เดี๋ยวเข้าไปดู
ฉัน : ไม่เป็นไร แค่ปวดท้องเมนนิดหน่อย
Fank :ปวดมากมั้ย เรียนเสร็จจะไปหา
Fank :@Rome แกไม่มาเรียนรึไง
Rome :กูแวะมาเอาของให้แม่ กำลังรีบไป
ฉัน : ฝากลาอาจารย์ด้วยนะทุกคน @Fank ปวดไม่มาก นอนพักคงหายแหละ
Fank: จ้า ไม่ไหวบอกนะ จะไปรับไปหาหมอ
Davin : @Naraพักผ่อนเยอะๆ มึง
ฉัน : ส่งสติ๊กเกอร์หมีพยักหน้า
“ฟู่ว~”
ฉันเดินเข้ามาถึงหน้าห้อง มือเล็กหยิบคีย์การ์ดออกมาหมายจะเปิดห้อง แต่ก็ต้องตกใจไม่น้อย เมื่อเปิดเข้าไปแล้วได้กลิ่นบุหรี่ลอยมาจากภายในห้อง
"ขะ..เขามาอีกแล้ว"ปากเล็กส่งเสียงพึมพึมเบาก่อนจะก้าวถอยหลังออกมาจากห้องทันที พลางกวาดสายตามองซ้ายมองขวาเพื่อหาคนช่วยเหลือ
ติ๊ง!
ไม่นานก็มีรายการแจ้งเตือนข้อความทางไลน์ขึ้นมาอีกครั้ง ฉันพลิกหน้าจอโทรศัพท์ขึ้นมาดู ปรากฏว่าไม่ได้มาจากกลุ่มไลน์ของเพื่อนฉันเมื่อสักครู่
“เอ๊ะ!”นิ้วเรียวกดเข้าไปดูข้อความใหม่ แต่ก็ต้องตกใจจนแทบลืมหายใจ ดวงตากลมโตเบิกโพล่งทันทีเมื่อได้เห็นสิ่งที่ไลน์ปริศนาส่งเข้ามา
LINE
Unknow :ส่งคลิปวิดีโอ
“สารเลว” ฉันยกมือขึ้นปิดปากตัวเองด้วยความหวาดกลัวปนตกใจ แผนหลังเล็กพิงไปที่กำแพงอย่างหมดแรง มันคือวิดีโอคลิปที่เป็นการจงใจถ่ายตอนที่ฉันถูกข่มขืน โดยที่หน้าของผู้ชายถูกเบลอเอาไว้
ร่างบางค่อยๆทรุดนั่งลงกับพื้นอย่างหมดแรงทำไมเขาต้องทำกับฉันถึงขนาดนี้ เขายังมีความเป็นคนอยู่ไหม
Unknow : กลับเข้ามาในห้อง ก่อนที่คลิปนี้จะถูกส่งต่อ
Unknow : ส่งรูป
ฉันเบิกตากว้างกว่าเดิม เมื่อเห็นรูปที่เขาส่งเข้ามาอีกในไลน์อีกหลายสิบรูป ฉันคาฝ่อยๆดันตัวลุกขึ้นยืนด้วยแรงทั้งหมดที่มี กึ่งเดินกึ่งวิ่งกลับไปที่ห้องของตัวเองอย่างขัดไม่ได้
ปัง!
“มันมากเกินไปแล้วนะ ทำไมต้องเอาครอบครัวฉันเข้ามาเกี่ยวด้วย”มือเล็กกำกำปั้นเอาไว้แน่น ยืนหายใจอย่างเหนื่อยหอบต่อหน้าคุณคาเท ที่ตอนนี้นั่งไขว่ห้างสูบบุหรี่อยู่บนโซฟาภายในห้องของฉันอย่างไม่ทุกข์ร้อน
สายตาคมมองการกระทำของฉันด้วยความนิ่งเรียบ สีหน้าไร้ความรู้สึก ควันจากบุหรี่ที่เขาจุดสูบลอยพุ่งเข้าใส่หน้าของฉันจนต้องยกมือขึ้นโบกปัดควันเพราะเริ่มหายใจติดขัด
“ลูกสาวคนเดียวด้วยสินะ”
“นี่คุณ!!”
“หึ!เธอควรจะคลานเข่า เข้ามาขอร้องฉันนะ ไม่ใช่มายืนตะเบ็งเสียงใส่อย่างนี้” สายตาดุๆ ของเขาจ้องมองมาที่ฉันอย่างจาบจ้วงหัวจรดเท้า
“คุณต้องการอะไรจากฉันอีก ถ้าคำตอบคือแก้แค้นให้เดซี่ คุณทำสำเร็จแล้ว ออกไปซะก่อนที่ฉันจะแจ้งตำรวจ อ๊ะ!” ร่างบางถูกกระชากลงมานั่งบนตักแกร่ง มือหนาบีบคางของฉันจนมันรู้สึกปวดไปทั่วคาง
“ได้สิ เอาเลย แต่ฉันไม่รับรองความปลอดภัยของครอบครัวเธอนะ”เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเหี้ยมโหด
“อย่ามาขู่กันแบบนี้นะ” ฉันจ้องหน้าเขากลับด้วยสายตาเคียดแค้น แสดงออกให้เห็นผ่านสายตาว่าเกลียดชังตัวเขาอย่างไม่ปกปิด
“มากกว่าขู่ก็ทำได้นะ เหมือนตอนนี้พ่อเธอกำลังจะพลาดการประมูลโครงการใหญ่ไปเพราะลูกสาวคนเดียวนะ” มือหนาสะบัดออกจากคางฉัน พร้อมกับผลักฉันลงพื้นพรมแรง
ตุ๊บ!
“โอ๊ย!!"
สะโพกมนกระทกเข้ากับพื้นอย่างจัง เพิ่มความเจ็บปวดให้กับร่างกายที่เจ็บระบมอยู่ก่อนแล้ว ให้เจ็บเพิ่มเข้าไปอีก ถึงแม้พื้นจะมีพรมรองรับ แต่นั่นมันกลับไม่ช่วยให้ฉันเจ็บน้อยลงเลย น้ำใสๆเริ่มรื้อขึ้นจากดวงตาเพื่อระบายความเจ็บ
"ถ้ารักครอบครัว ก็อย่ามองว่านั่นเป็นเพียงคำ ขู่"
"คะ…คุณคิดจะทำอะไรบริษัทพ่อฉัน”
“โครงการนี้เป็นหัวใจสำคัญ ถ้าไม่ได้โครงการนี้ล่ะก็ เห็นทีบริษัทพ่อเธอคงถูกฟ้องล้มละลาย”ริมฝีปากหนาแสยะยิ้มร้ายกาจออกมาฉายอยู่บนใบหน้าคมอย่างผู้ชนะ เอนหลังพิงลงที่พนักโซฟาด้วยความสบายใจ
“นี่คุณ คิดจะทำอะไรกันแน่ ทำไมต้องทำกันขนาดนี้ด้วย ครอบครัวฉันไปเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้”
ไม่ใช่ฉันไม่รู้สถานการณ์อันยากลำบากของทางบริษัทพ่อของฉัน แต่ท่านก็พยุงมันให้มันอยู่รอดมาได้จนถึงทุกวันนี้
หากได้โครงการนี้ก็จะเป็นการเรียกความเชื่อมั่นให้บริษัทฉันคืนมาได้ แต่ถ้าพลาดไม่มีโครงการนี้มาพยุง นั่นหมายถึงเราอาจถูกฟ้องล้มละลายก็เป็นได้
"ไม่มากนะถ้าฉันคิดจะทำ ถ้าเทียบกับสิ่งที่น้องสาวฉันได้รับ ปลาใหญ่กินปลาเล็กนั่นมันเรื่องปกติ"
“คุณต้องการอะไรจากฉันกันแน่”ฉันถามออกไปอย่างเหลืออด จ้องสายตาไปที่เขาอย่างเอาเป็นเอาตาย
“เป็นคำถามที่ดีมาก นารา” ริมฝีปากหนาแสยะยิ้มออกมาอย่างพอใจ กับสิ่งที่ฉันกำลังเป็นอยู่ เขาคว้าเอาบุหรี่ในซองขึ้นมาจุดสูบอีกมวน
ถ้าฉันปล่อยไว้แบบนี้ คนบ้าอำนาจอย่างเขาจะต้องคิดแผนสกปรกเอาไว้รังแกบริษัทของคุณพ่อแน่ๆ ดูเหมือนตอนนี้เขาจะมีข้อมูลทุกอย่างอยู่แล้ว ถึงได้รู้สถานการณ์ธุรกิจของครอบครัวฉันเป็นอย่างดี
“ฮึก!ฉันขอโทษที่ทำร้ายเดซี่ แต่มันไม่ยุติธรมเลยสักนิด ถ้าคุณจะทำร้ายครอบครัวฉัน"ปากเล็กเอ่ยออกมาในขณะที่น้ำตาก็ไหลออกมาเต็มสองแก้ม "ฉันยอมรับว่าฉันผิด ฉันผิดแค่คนเดียว คุณได้ยินไหม ฉันผิดแค่คนเดียว"
"อย่างนั้นน่ะเหรอ"
"ฉันขอร้องว่าอย่าทำร้ายครอบครัวของฉันเลย พวกเขาไม่รู้เรื่องด้วย ฉันขอร้อง ถ้าจะทำก็ให้ทำที่ฉันคนเดียวเถอะ” ฉันที่นั่งอยู่บนพื้นพรมขยับเข้าไป ก้มกราบลงแทบเท้าคุณคาเท
ในเมื่อเขาคิดว่าฉันคือต้นเหตุ เรื่องที่ฉันทำร้ายน้องสาวเขา อย่าให้ถึงขั้นที่ฉันกลายเป็นต้นเหตุที่ทำให้ครอบครัวฉันย่อยยับเลย คุณพ่อสร้างมันมากับมือ ฉันรู้ดีว่าท่านรักบริษัทนี้มากแค่ไหน
“ทำกับเธอคนเดียว แน่ใจนะ” ริมฝีปากหนาเอ่ยออกมาช้าๆละคำ ราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง บุหรี่มวนนั้นที่พึ่งจุดสูบถูกทิ้งลงบนพื้น จากนั้นก็ดับมันลงด้วยเท้าของเขา
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาพยักหน้าตอบรับคำที่เขาพูดออกมา “ฮึก! ฉันขอร้อง จะให้ฉันทำอะไรก็ได้ ฮึก!ขอแค่อย่าทำร้ายครอบครัวฉันก็พอ ฉันขอร้องล่ะค่ะคุณคาเท”
“ได้ ในเมื่อเธอกล้าขอ ฉันก็จะเปิดโอกาสให้เธอพิสูจน์กรรมตัวเอง เลิกยุ่งกับไอ้อาเธอร์ซะ นี่คือคำสั่ง ส่วนเรื่องครอบครัวเอาไว้ฉันจะพิจารณาอีกที”
คนตัวสูงดันตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ฉันเงยหน้าขึ้นมองตามเขาผ่านม่านน้ำตาด้วยความเจ็บปวดกับกรรมที่ฉันไม่ได้ก่อ แต่ก็ต้องตกใจไม่น้อยเมื่อเขาเดินเข้าไปในห้องนอนของฉัน ไม่ได้กลับออกไปอย่างที่คิดไว้
“ฉันเลิกยุ่งกับเขาแล้ว แล้วนั่นคุณจะเข้าไปห้องนอนฉันทำไม”ฉันรีบดันตัวลุกขึ้น กึ่งเดินกึ่งวิ่งไปรั้งแขนเขาเอาไว้แน่น
“ฉันจะอาบน้ำ ไปเตรียมน้ำให้ฉันซะ”มือหนาแกะมือเล็กที่จับแขนเขาออกช้าๆ
"มะ...ไม่ได้นะคะ คุณอาบห้องข้างนอกเถอะค่ะ"
"นี่คือคำสั่ง"เขากดเสียงต่ำเน้นๆทุกคำ จากนั้นก็เดินดุ่มๆเข้าไปในห้องนอนของฉัน โดยที่ฉันเองก็รั้งเอาไว้ไม่ทัน
มือเล็กยกหลังมือขึ้นเช็ดน้ำตาด้วยความสะอึกสะอื้น จำใจเดินตามเขาเข้าไปในห้องน้ำอย่างช้าๆ
ต้องเอาชีวิตแลกชีวิตสินะ ในเมื่อฉันเป็นคนทำร้ายเด็กในท้องของน้องสาวเขา ฉันก็คงต้องแลกมันด้วยชีวิตของฉันเองอย่างนั้นน่ะเหรอ โลกนี้ไม่ความยุติธรรมกับฉันเลยสินะ