ฉันยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตาก่อนจะเดินออกมาจากห้องน้ำเพื่อบอกคุณคาเท เมื่อเปิดน้ำอุ่นเต็มอ่างอาบน้ำแล้ว ใจจริงอยากเปิดน้ำร้อนๆใส่อ่างไว้เลย เอาแบบลวกเขาจนเปื่อยตายลงตรงนี้ แต่ฉันกลัวชีวิตน้อยๆของฉันดับสูญลงตรงนี้เช่นกัน
“น้ำที่ให้เตรียมได้แล้วค่ะ”นัยน์ตาสีดำสนิทจ้องมองไปที่คนตัวโตนิ่งๆ
ตอนนี้เขาสวมเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวอย่างหมิ่นเหม่นั่งกดโทรศัพท์อยู่ปลายเตียงฉัน คุณคาเทเงยหน้ามองฉันเพียงน้อยก่อนจะเดินผ่านตัวฉันเข้าห้องน้ำไป
ฉันเดินเลี่ยงออกมาห้องนั่งเล่น ลืมไปว่าซื้อยาคุมฉุกเฉินมายังไม่ทันจะได้กิน พอนึกได้อย่างนั้นฉันก็รีบหยิบยาคุมฉุกเฉินเข้าปากทันที ก่อนจะรีบเดินไปเปิดเอาขวดน้ำในตู้เย็นขึ้นมายกดื่ม
“ไม่สบายอยู่ทำไมถึงกินน้ำเย็นขนาดนั้น” มือเล็กชะงักไป เมื่อสบตาเข้ากับคุณคาเทที่เดินออกมาจากห้องนอน
คนตัวสูงสวมเสื้อคลุมอาบน้ำสีชมพูของฉันอยู่ เอาจริงมันไม่เข้ากับหน้าดุๆ ของเขาเลย
“ฉันลืมน่ะค่ะ คุณอยากเปลี่ยน เอ่อ เสื้อคลุมสีอื่นมั้ยคะ” ฉันถามออกไปอย่างนั้น ทั้งที่จริงจะใส่อะไรมันก็ไม่ได้เกี่ยวกับฉันเลยซักนิด แต่แค่อยากจะพยายามทำตัวดีๆ ไว้ เผื่อเขาจะไม่เอาเรื่องฉันไปบอกทางครอบครัว
“ไม่ต้อง!!” เขาบอกพร้อมกับส่งสายตาดุๆ มาทางฉัน ก่อนจะเดินผ่านออกไปทางประตูห้อง อย่าบอกนะว่าเขาจะกลับออกไปด้วยชุดเสื้อคลุมสีชมพูตัวนั้น
ติ๊งหน่อง ติ๊งหน่อง
แกร้ก~
“ชุดครับนาย คืนนี้นายมีนัดส่งของนะครับ” ประตูถูกเปิดออก ก่อนจะพบกับลูกน้องของเขา ที่ถือถุงอะไรบางอย่างยื่นให้เขาอยู่หน้าประตู
“อืม” ฉันคิดผิดไปสินะ คุณคาเทยื่นมือไปรับถุงอะไรบางอย่างมาจากชายชุดดำคนนั้น จากนั้นก็เดินกลับเข้าไปในห้องนอนของฉันอย่างสบายๆ ทำไมทำเหมือนห้องของตัวเองเลยวะ
"..."ฉันทำได้แค่ถอนหายใจออกไปเบาๆ ค่อยๆ เดินไปนอนลงบนโซฟา เมื่อรู้สึกว่าตัวเริ่มร้อนเป็นไฟอีกแล้วรวมทั้งปวดตามเนื้อตามตัวด้วย
ถ้าเขาอยากอยู่ในห้องนั้นก็ปล่อยเขาไปเถอะ ฉันไม่มีเรี่ยวแรงพอจะต่อกรกับเขาแล้ว
“มานอนสำออยอะไรอยู่ตรงนี้”
“อื้อ~” ฉันปรือตาขึ้นมองคนตัวสูงที่กำลังยืนมองฉันอยู่ด้วยท่าทางที่หงุดหงิด มือหนากำลังจะจับบุหรี่ขึ้นมาสูบ แต่ฉันออกปากขอร้องเขาเอาไว้ก่อน“อย่าสูบตรงนี้ได้ไหม ฉันหายใจไม่ออก แค่กๆ”
“น่าหงุดหงิดชะมัด”
"..."ฉันไม่ได้สนใจคนตรงหน้า แต่หลับตาลงด้วยความอ่อนเพลีย ไม่นานก็ได้ยินเสียงคุณคาเทเดินออกจากห้องไป ฉันกะจะเข้าไปนอนในห้องนอน แต่กลับลุกไม่ขึ้น จึงทำได้แค่เพียงปล่อยให้ตัวเองหลับลงไปทั้งอย่างนั้น
เช้าวันต่อมา
“อื้อ!” ฉันค่อยๆ ปรือตาขึ้นรับแสงในตอนเช้า มือเรียวยกขึ้นนวดคลึงที่ขมับช้าๆ ฉันยังนอนอยู่บนโซฟาตัวเดิมที่นอนตั้งแต่เมื่อวาน นี่หลับไปเกือบสิบสองชั่วโมงเลยเหรอ
นัยน์ตาคู่สวยมองไปรอบๆ ห้อง รู้สึกโล่งอกที่ไม่พบคุณคาเทอยู่ในห้อง ฉันค่อยๆ พยุงร่างที่ดีขึ้นบ้างแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปทำธุระส่วนตัว เตรียมแต่งตัวไปเรียน วันนี้ฉันมีเรียนสิบโมงตอนนี้แปดโมงครึ่งแล้ว รถค่อนข้างติดต้องออกเดินทางเร็วหน่อย
“อ๊ะ! คะ...คุณเข้ามาได้ยังไง”ร่างบางสะดุ้งโหยง เบิกตาโพล่งด้วยความตกใจ เมื่อเดินออกมาจากห้องน้ำก็ปะทะสายตาเข้ากับคุณคาเท ที่นั่งอยู่ตรงปลายเตียง มองไปยังประตูห้องนอนที่ล็อกลูกบิดไว้อย่างดิบดี นี่เขาเปิดมันเข้ามาได้ยังไง
“มานี่ซิ”
“ฉะ...ฉันขอไปแต่งตัวก่อน ว้าย!!” คนขายาวก้าวเขามาประชิดตัวฉัน ร่างบางถูกเขากระชากผ้าเช็ดตัวที่พันรอบอกออก ฉันยืนตัวสั่นอยู่ตรงหน้าคุณคาเท พยายามใช้มือทั้งสองข้างปิดหน้าอกและของสงวนไว้ด้วยมือที่สั่นเทา
“สั่นอะไรขนาดนั้น”
“ยะ...อย่าค่ะ” ฉันเบี่ยงตัวหลบเมื่อเขาสูดดมลงมาที่ตรงหัวไหล่ฉัน น้ำตาเอ่อออกมาอย่างกั้นไม่ได้ เนื้อตัวสั่นเทิ้มไปหมด เพราะกลัวเขาจะทำกับฉันเหมือนวันนั้น
“ไหนบอกว่าทำอะไรกับเธอก็ได้ไง”
“ฉะ...ฉัน...ฉันมีเรียนตอนเช้าค่ะ ขอเถอะนะคะ”
“หืม! เรียนแล้วไง” แขนแกร่งช้อนตัวอุ้มฉันขึ้น ก่อนจะโยนฉันลงที่เตียงนอนอย่างแรง
“อั้ก! อย่าค่ะ...” สองมือถูกยกขึ้นดันแผงอกของเขาเอาไว้ เมื่อเขาเริ่มโน้มตัวลงมาซุกไซ้ที่ซอกคอขาวเนียนของฉัน “นามีเรียนตอนเช้า อ๊ะ! วะ...วิชาสำคัญด้วย”
“ไม่เกี่ยวกับฉัน” คุณคาเทยังไม่หยุดการกระทำของเขา ริมฝีปากหนาเริ่มเปลี่ยนจากซุกไซ้ซอกคอมาเปลี่ยนดูดดึงยอดปทุมถันของฉันแทน
“นาขอร้องนะคะ ตรงนั้นที่คุณทำไว้ยังเจ็บมากๆ อยู่เลย” เขาผละออกจากหน้าอกฉันอย่างหงุดหงิด ใช้สองมือค้ำยันดันตัวขึ้นจ้องมาทางฉันนิ่งๆ
ฉันพยายามดึงผ้าห่มขึ้นคลุมตัวเอาไว้ด้วยความเขินอาย ต่อให้กระดากปากหรือตอแหลยังไงก็ต้องตอแหลเสียงอ่อนเสียงหวานออกไปก่อน ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่รอดจากเงื้อมือเขาแน่
“งั้นส่งคลิปไปครึ่งหนึ่งก่อน”
“ยะ...อย่านะ!!”
“หึ! เสียงเปลี่ยนเลยนะ”
“ยังไงนาก็ไม่กล้าหนีคุณไปไหนหรอก แต่ตอนนี้นาขอความเห็นใจจากคุณหน่อยได้ไหม นาขอร้องจริงๆ” ฉันยกมือไหว้ขอร้องคนตรงหน้าด้วยแววตาเศร้าสร้อย ต่างจากแววตาของเขา ที่เรียบเฉยดูไร้ความปรานี
“อารมณ์เสียว่ะ!! รีบออกไปจากตรงนี้ ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ” ฉันรีบมุดตัวออกจากวงแขนของเขา วิ่งตรงเข้าห้องแต่งตัวไปทันที ดวงตากลมโตหลุบมองร่างกายเปลือยเปล่าของตัวเองอย่างรู้สึกสมเพช แต่ไม่ได้รอช้ารีบหยิบชุดนักศึกษาเข้ามาสวมใส่ด้วยความรวดเร็ว