“เหม่ออะไรวะ กูเรียกตั้งนาน แม่งไม่ตอบ”
“โทษทีๆฉันกำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยน่ะ”
ฉันตอบกลับดวินที่นั่งลงเก้าอี้ข้างๆ ก่อนจะแกล้งทำเป็นเปิดชีทเรียนขึ้นมาเตรียมรออาจารย์กลบเกลื่อนอาการเหม่อลอยที่เพื่อนกำลังจับพิรุจน์ได้
“เออ กูก็นึกว่ายังไม่หายไข้ เห็นเบลอๆ”
“กินยาแก้ไข้เยอะเลยง่วงๆ อ่ะ แล้วฟักแฟงกับโฬมยังไม่มาอีกเหรอ” ฉันถามดวินพลางมองไปรอบๆ หาเพื่อนสนิททั้งสองที่เอ่ยถึง
“กำลังเดินมาโน่นไง มึงไม่ได้อ่านไลน์กลุ่มใช่ไหมนาราถึงไม่รู้เรื่องอะไรกับเขาเลย”
“โทษทีอ่ะ ก็บอกแล้วไงว่าเบลอยา นี่บ่นให้อยู่นั่นแหละ”ฉันเอ่ยออกไปด้วยท่าทางกระเง้ากระงอด สะบัดหน้าหนีดวินไปทางเพื่อนทั้งสองที่กำลังเดินตรงมา
“เกือบสายเลย ดีนะโฬมยังไม่เข้ามอ” ฟักแฟงบ่นกระปอดกระแปดนั่งลงข้างฉัน ที่กำลังกดเข้าไปอ่านในไลน์กลุ่ม ถึงได้รู้ว่ารถของฟักแฟงเสียระหว่างเดินทางมามหาวิทยาลัย
“รถแกเป็นอะไรอ่ะ ทำไมดับกลางทางได้” ฉันถามพร้อมกับยื่นทิชชู่เปียกในกระเป๋าให้ฟักแฟงเช็ดเหงื่อที่เกาะพราวอยู่บนกรอบหน้าเล็ก
“ไม่รู้เหมือนกันแก ขับมาดีๆก็ดับกลางสี่แยกไฟแดง ฉันล่ะโคตรอายเลย”
“อู่ที่บ้านมาลากไปซ่อมให้ละ ดีนะดับตอนไฟแดง ถ้าตอนไฟเขียวมีหวังถูกสอยตูดระนาว” โฬมโชว์รูปรถของฟักแฟงที่อยู่ในไลน์ ตอนนี้รถที่เสียขึ้นไปอยู่บนรถสไลด์เรียบร้อย เตรียมเอาไปซ่อมในอู่
“ขอบใจมากนะโฬม”
“อือ ไม่เป็นไรเรื่องเล็กน้อย”
หลายชั่วโมงต่อมา
“อะไรของอาจารย์วะ สอนลากยาว3ชั่วโมงรวดแถมยังนัดพรีเซ็นต์งานตอนเย็นต่ออีก”ดวินบ่นขึ้นทันทีที่อาจารย์เดินออกจากห้อง มือหนาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเข้าไปเล่นเกมส์คลายเครียด
“แม่งคิวกูโคตรมั่วเลย กูนัดเด็กไว้เนี่ย” โฬมก็ไม่ต่างกัน เพราะสาวที่นัดไว้ เริ่มโวยวายไลน์แทบแตก เมื่อเขาส่งไปบอกว่าเย็นนี้ไม่ว่างแล้ว
“บ่นอะไรนักหนาวะ เดี๋ยวก็เรียนจบกันแล้ว ใช่ไหมนารา”
“อื้ม ทำๆ ไปเถอะ อีกเทอมเดียวก็เรียนจบแล้ว” ฉันพูดเสริมฟักแฟง ที่กำลังเก็บชีทเรียนขึ้นมาถือไว้แนบอก
“แต่ไม่ใช่นัดเย็นวันศุกร์ป่ะวะ” ดวินพูดอย่างหัวเสียก่อนจะกอดคอโฬมลากให้เดินออกจากห้องไป
พวกฉันตัดสินใจนั่งกินมาม่าคัพที่ใต้ตึกเรียนอย่างห้ามไม่ได้ เพราะอีกครึ่งชั่วโมงก็จะถึงเวลาเรียนคาบบ่ายต่อ แต่ยังไม่ทันที่จะคีบมาม่าเข้าปาก สายตาก็ปะทะเข้ากับคนคุ้นเคย เขากำลังเดินมาทางฉันกับกลุ่มเพื่อน
“ไอ้เชี่ยเธอร์ มึงมาทำอะไรตึกคณะฯกูวะ”
“มึงเป็นเจ้าของตึกรึไงกูถึงจะมาไม่ได้”
“ไอ้ชาติหมา ปากดีนักนะมึง”
“อย่า ดวิน!! คนมองเต็มแล้ว” ฉันรั้งแขนดวินให้นั่งลงม้าหินอ่อน เมื่อเขาลุกขึ้นจะวางมวยกับอาเธอร์
“มีอะไร!” ฉันตวาดใส่อาเธอร์ที่กำลังยืนกัดฟันกรอดใส่ดวิน ส่วนดวินก็ถูกฟักแฟงรั้งแขนเอาไว้ไม่ให้ลุกขึ้นมาปะทะกับอาเธอร์
“ฉันขอคุยด้วยหน่อย”อาเธอร์เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
ตุ้บ!
“มีอะไรก็คุยตรงนี้ล่ะ พวกกูจะได้ยินด้วย เผื่อมึงมาตอแหลอะไรใส่เพื่อนกู” เสียงโฬมดังขึ้นด้านหลัง เขาวางขวดน้ำเปล่าลงบนโต๊ะเสียงดัง ยืนกอดอกจ้องหน้าอาเธอร์อย่างเอาเรื่อง
อาเธอร์มองดวินกับโฬม ที่กำลังยืนจ้องหน้าเขานิ่งๆ ก่อนจะหันมาพูดกับฉัน
“ไว้ฉันจะโทรหาเธออีกทีแล้วกัน”เขาบอกเพียงเท่านั้นก็รีบเดินหนีออกไป
“แม่ง หน้าตัวเมีย ถ้ามันมาพูดอะไรมึงก็อย่าไปใจอ่อนให้มันนะนารา เฮ้ย!!” ดวินที่กำลังตะโกนด่าไล่หลังอาเธอร์อยู่ชะงักไปทันที เมื่อเห็นฉันฟุ้บหน้าปล่อยโฮ ร้องไห้ออกมาจนตัวสั่นเทิ้ม
แค่ฉันเห็นหน้าของอาเธอร์ ภาพคืนวันเก่าๆ ก็ถูกฉายซ้ำเข้ามาในสมอง 3ปีที่ผ่านมา เขาดีกับฉันมาตลอด คิดไม่ถึงว่าจะนอกใจฉันได้ลง
‘บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมันกินง่าย แต่มันไม่ดีต่อกระเพาะอาหาร นาอย่ากินบ่อยนักดิ’
‘ก็ถ้าเธอร์ไม่มารับไปกินข้าว นาก็จะกินแบบนี้ล่ะ’
‘ไม่เอาดินา เธอร์เป็นห่วงนานะ’
“ฮึก!”
“ไอ้วิน มึงหยุดด่าแล้วมาปลอบมันดิ๊”
“แม่งเอ้ย! กูอยากกระทืบมันให้ตายคาตีน”
“เงียบปากก่อนได้มั้ยดวิน มาช่วยฉันปลอบนาราก่อน โอ๊ย แก~ ร้องใหญ่แล้ว”
ทั้งๆที่ ฉันพยายามบอกตัวเองมาโดยตลอด ว่าฉันต้องตัดใจจากเขาให้ได้ แต่สุดท้ายก็ห้ามน้ำตาตัวเองไม่ได้อยู่ดี เพียงแค่เห็นหน้าเขาเพียงเท่านั้น คำพูด ความห่วงใยต่างๆ นานา มันยังวนเวียนอยู่ในสมองและทุกอณูของหัวใจ
“เป็นไงบ้างแก ตาบวมหมดเลย” ฟักแฟงถามขึ้นเมื่อฉันเดินออกมาจากห้องน้ำ หลังจากเข้าไปล้างหน้าล้างตาเรัยบร้อยแล้ว
“ขอบใจนะแก ดีขึ้นแล้วล่ะ ไปเรียนกันเถอะ” ฉันบอกฟักแฟงก่อนจะทิ้งกระดาษทิชชู่ที่ใช้ซับหน้าลงในถังขยะหน้าห้องน้ำ
“ตาบวมเลยมึง ให้กูไปลากมันมากระทืบเลยดีมั้ย”
เพี๊ยะ!!
“เงียบไปก่อนได้มั้ยดวิน” ฟักแฟงฟาดฝ่ามือหนักๆ ลงต้นแขนของดวินจนเขาทำหน้าเหยเก มือหนายกขึ้นลูบแขนข้างที่ถูกตีป้อยๆ
“มือหนักอ่ะแฟง เธอกล้าทำกับผัวเธอแบบนี้ได้ไง”
“ดูปากมัน อย่าไปสนใจคำพูดมันเลย ไปเรียนกันเหอะ”ฟักแฟงแยกเขี้ยวใส่ดวินก่อนจะหันมาสนใจฉันต่อ
“กูรู้ว่ามันลืมยาก แต่ถ้ามึงไม่มูฟออน มันก็จะเริ่มต้นใหม่ไม่ได้ซักที พวกกูเป็นห่วงมึงนะเว้ย” โฬมเดินเข้ามาสวมกอดฉันไว้ มือหน้าตบลงที่แผ่นหลังของฉันเบาๆ
“เออกูก็ห่วง แม่งปล่อยให้มันเป็นแค่แฟนเก่ามึงเหอะ กูมีเพื่อนดีๆเยอะเดี๋ยวแนะนำให้”
"ดีแบบคุณดวิน ลูกท่านส.ส.ดินแดนอ่านะ" ฟักแฟงหยอกล้อดวินด้วยท่าทางทะเล้น ในขณะที่เขากำลังโยกหัวฉันเล่นไปมา
"ครับคุณเพื่อน วินเนี่ยคนดีอ่าครับ"
"แหวะ ~ จะอ้วกอ่ะวิน"
"ช่วงนี้เป็นไร แซะเก่งเป็นสิ่วเลยนะแฟง แต่กูพูดจริงๆนะนารา คนแบบไอ้อาเธอร์ไม่คู่ควรกับคนๆสวยอย่างมึงหรอก มึงมีพวกฉันอยู่ข้างๆเสมอเว้ย รีบๆตัดใจให้ได้นะเพื่อน"ดวินเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง ยักคิ้วส่งมาทางฉันแบบกวนๆ
“ขอบใจพวกแกมากนะ ถ้าไม่มีพวกแกอยู่ข้างๆ ฉันคงตุยไปแล้ว”
“ไปเรียนได้ยัง ไม่มัวซึ้งนะคะ วิชานี้ยิ่งโหดๆ อยู่” ทุกคนอดยิ้มออกมากับคำพูดของฟักแฟงไม่ได้ พวกเราสี่คนเดินขึ้นห้องเรียนไป โดยมีโฬมกอดคอฉันเดินไปข้างๆ ท่ามกลางสายตาของนักศึกษาหลายคน ที่จับจ้องมาทากลุ่มเราด้วยความสนใจ