ผมไม่รอให้เธอได้พูดซ้ำ รีบรวบกอดร่างบางที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์เข้ามากอด ก่อนจะเริ่มซุกไซ้ไปตามซอกคอเนียนขาว แล้วเลื่อนริมฝีปากลงมาช้า ๆ เพื่อดูดเลียยอดอกที่ชูชันอยู่ต่อหน้า ปฏิเสธไม่ลงจริง ๆ ว่าขนาดหน้าอกของเธอมันช่างสาแก่ใจ บีบกำได้อย่างเต็มมือ เลยอดไม่ได้ที่จะบีบเคล้นอย่างมันเขี้ยว และฝังรอยรักเอาไว้ตามเต้าสีขาวเนียนจนขึ้นรอยแดงเป็นจ้ำ
“ระ ราเชนทร์ ให้ฉันทำให้ไหม”
“ทำอะไร”
ผมถามเสียงอู้อี้ เพราะกำลังเพลินกับการดูดเลียยอดอกสีหวานจนเปรอะไปด้วยน้ำลาย
“ก็... ใช้ปากให้นาย”
“ไม่ต้องหรอก สกปรก”
ผมรีบปฏิเสธ ไม่ใช่ว่าผมไม่อยาก ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นมาเสนอผมก็คงตอบรับอย่างไม่ลังเล แต่พอเป็นมิลิน ผมกลับรู้สึกว่ามันไม่เหมาะสมอย่างอธิบายไม่ถูก
“กลัวว่าฉันจะทำไม่เป็นหรือไง ฉันทำได้น่า”
เธอไม่รอให้ผมเอ่ยปากห้ามซ้ำเป็นรอบที่สอง รีบก้มหน้าลงกลางหว่างขาแล้วครอบปากลงแท่งเอ็นอย่างรวดเร็ว ผมที่ตั้งรับไม่ทันก็เกร็งไปทั้งตัวอย่างกะทันหัน
“อ้าา คุณหนู อย่าดูดแรง ฮึก!”
ทั้งที่ปากร้องห้ามว่าอย่า แต่ผมกลับเผลอกดหัวเธอใส่แท่งเอ็นของตัวเองถี่ ๆ อย่างลืมตัว ยิ่งได้ยินเสียงปลายลิ้นร้อนบดเบียดกับแก่นเนื้อของตัวเอง มันก็ปลุกอารมณ์ให้ผมอยากตอบสนองต่อความอยากมากกว่านี้
“พอแล้ว ไม่ไหวแล้ว”
ผมไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบถลกเสื้อออกแล้วกดตัวมิลินลงเตียงอีกครั้ง หลังจากที่ปลดกางเกงพ้นตัวแล้วก็รีบสวมถุงยางที่พกติดกระเป๋าตังค์ไว้อย่างรวดเร็ว
“เจ็บหน่อยนะ”
ผมบอกพอเป็นพิธี เพราะหลังจากนี้ ถ้าเธอบอกให้หยุด ผมก็จะไม่ยอมทำตามเด็ดขาด
เรียวขาขาวถูกจับอ้าออกจนสุด เผยให้เห็นจุดสงวนที่ชวนให้มอง ทั้งน้ำลายและน้ำของเธอที่เปรอะอยู่ปากทางเข้า ทำหน้าที่เป็นเจลหล่อลื่นได้อย่างดี
“อ้าา แทงเข้ามาเลย ฉันอยากจะตายอยู่แล้ว”
คนใต้ร่างบิดเร่าร้องขอความเสียวกระสัน ยามถูกท่อนเอ็นลำใหญ่รูดถูใส่ร่องเสียวซ้ำ ๆ
“อ๊ะ! ระ ราเชนทร์ เจ็บ”
ทันทีที่ท่อนเอ็นอุ่น ๆ ถูกยัดเข้าไปในกาย ใบหน้าของมิลินก็เปลี่ยนไปกะทันหัน
“อ้าา อดทนหน่อย หัวเข้าได้แล้ว”
ผมขบฟันกรามแน่น อยากจะกระแทกตัวเข้าไปแรง ๆ เพื่อสนองความอยากให้สาแก่ใจ แต่หากทำแบบนั้น คนที่ถูกกระทำต้องเจ็บมากแน่ ผมไม่อยากให้เธอต้องเจ็บระบมไปมากกว่านี้
“ฮึก ฉะ ฉันเจ็บ อื้ออ”
เธอส่ายหน้าเป็นพัลวัน สองมือจิกกำที่ต้นแขนผมแน่นพร้อมกับฝังรอยเล็บลงไปบนต้นแขน แต่ผมกลับไม่รู้สึกสะทกสะท้านหรือเจ็บปวดไปกับปลายเล็บที่ฝังเข้าเนื้อเลย อาจเป็นเพราะว่าตอนนี้กำลังมีสิ่งที่ผมสนใจมากกว่านั้นอยู่
“อ้าา”
ผมครางเสียงต่ำพร้อมกับแนบหน้าลงจูบคนตัวเล็กที่ทำหน้าเหยเก ในจังหวะที่สอดแท่งเอ็นเข้าไปในกายเธอจนมิดด้าม ความคับแน่นที่บีบรัดท่อนเอ็นของผมอยู่ตอนนี้ ทำให้ผมสงสัยจนอดที่จะตั้งคำถามกับเธอไม่ได้
“ครั้งแรกหรือเปล่า”
มิลินไม่ตอบ เอาแต่เม้มปากแน่น แววตาที่สั่นไหวปนไปด้วยความเจ็บและเสียวซ่านในคราเดียวกัน
“เจ็บหน่อยนะ”
ผมบอกเพื่อให้เธอเตรียมใจ ก่อนจะเริ่มขยับสะโพกอย่างช้าเนิบ บอกตามตรงว่าชีวิตของผมเคยผ่านผู้หญิงมานับไม่ถ้วน แต่มิลินเป็นผู้หญิงคนแรก ที่ทำให้ผมอยากจดจำภาพตอนนี้เอาไว้ในหัวให้ได้มากที่สุด เธอมีเสน่ห์มากจริง ๆ เสียงครางและใบหน้าที่แสดงออกถึงความเสียวซ่าน ลบภาพจำสาวน้อยขี้เหวี่ยงขี้วีนก่อนหน้านี้ออกไปจนไม่เหลือคราบ
“ราเชนทร์ ฮึก เบา ๆ”
ผมไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเผลอเพิ่มระดับและอัดกระแทกเธอแรง ๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่พอรู้ตัวก็ใช่จะยอมหยุด ผมไม่สามารถถนอมเธอได้มากกว่านี้แล้ว เพราะปีศาจร้ายที่ซ่อนอยู่ในกาย มันได้ถูกปลุกขึ้นมาแล้ว
“อ๊ะ อ๊ะ ระ อื้ออ ราเชนทร์”
“อ้าา ขยันเรียกชื่อจังนะ”
ผมกระตุกยิ้มพลันยกเรียวขาสวยขึ้นพาดบ่า ก่อนจะรัวกระแทกใส่อย่างเก็บกดทำเอาคนใต้ร่างตัวโยนครางเสียงหลง
“อ๊ะ อื้ออ บะ บอกว่าเบาไง”
“ถ้าเบาแล้วมันจะไปถึงใจได้ไงล่ะคุณหนู อ้าา เสียวฉิบ!”
ผมก้มมองรอยเชื่อมที่สวนเข้าออกหากันอย่างเร็วรัว ก่อนจะจับร่างบางให้พลิกนอนตะแคง ทั้งที่ขาอีกข้างยังคงพาดไหล่ของผมอยู่
“ฉะ ฉันจะไม่ไหวแล้ว แฮก ๆ”
เสียงที่แทบเหลือเพียงลมเอ่ยบอก ในขณะที่ตาเริ่มลอยเคว้งบ่งบอกถึงความต้องการที่กำลังแล่นขึ้นไปจนเกือบจะถึงขีดสุด
“ไม่ไหวก็เสร็จได้เลย”
ผมโน้มลงจูบที่ริมฝีปากที่กำลังอ้าเผลอคราง ก่อนจะอัดกระแทกเข้าอย่างบ้าคลั่งทำเอามิลินกระตุกตัวสั่น โอบกอดผมไว้แน่น เพียงไม่นานเธอก็ตัวอ่อนระทวยลงอย่างหมดแรง
“ใกล้เสร็จแล้ว อดทนหน่อยนะ”
ผมไม่ให้โอกาสเธอได้หายใจหายคอ ทันทีที่ส่งเธอถึงฝั่ง ผมก็รีบจับเธอให้นอนคว่ำหน้าไปกับเตียงสีขาว ทั้งที่ท่อนเอ็นร้อน ๆ ยังไม่ถอดออกไปจากรอยเชื่อม หลังจากนั้นก็รัวกระแทกใส่ร่างบางจนตัวเธอถลาไปด้านหน้า
“อ๊ะ อ๊ะ ระ ราเชนทร์ ฉันเจ็บ!”
“จะแตกแล้ว ฮึก!”
พั่บ พั่บ พั่บ!!
แก่นเนื้อขนาดใหญ่สวนเข้าออกในรูคับแคบอย่างบ้าคลั่ง จนกระทั่งลาวาสีขาวขุ่นพุ่งกระฉุดเต็มถุงยางสีใสผมถึงได้หยุดกระแทกเข้ากลีบเนื้อที่บวมเป่ง จากนั้นก็ทรุดตัวลงนอนทับร่างบางที่กำลังหายใจกระเพื่อมไหวอย่างเหนื่อยหอบ
“อีกสักยกไหม”
คนใต้ร่างไม่ตอบอะไร เพียงแค่ส่ายหน้าช้า ๆ ขณะที่หลับตาพริ้มอย่างเหนื่อยล้า ผมคาดเดาว่าความอยากกระสันคงหลงเหลืออยู่บ้าง แต่เธอคงไม่มีแรงมาตอบสนองมันอีกแล้ว
“ถ้างั้นคุณหนูนอนพักเถอะครับ ตอนเช้าผมจะพากลับเข้าบ้าน แล้วจะบอกคุณท่านเองว่าคุณหนูเมาหนักเลยนอนพักบ้านเพื่อน”
อีกฝ่ายไม่ตอบอะไรทั้งสิ้น เอาแต่นอนไปทั้งอย่างนั้น ผมเลยต้องลุกขึ้นมาจัดท่านอนให้เธอใหม่ ก่อนจะสังเกตเห็นคราบเลือดที่เปรอะเปื้อนที่นอนสีขาวสะอาด นี่ทำให้ผมมั่นใจ ว่ามิลินเธอไม่เคยผ่านมือใครมาก่อน รู้แบบนี้ผมก็ยิ่งรู้สึกผิดที่ไม่หักห้ามใจตัวเอง ไม่น่าเลยไอ้เชนทร์ ทำอะไรไม่คิดจริง ๆ