“ศรี ศรี สิทธิพระพร บวรประเสริฐฝ้ายแก้วเกิดมุงคุล ปุนลงมาตกแต่ง กวัดอิ้วแกว่งกงหลา พัดออกมาเป็นหลอดถอดออกมาเป็นปุย ถุยออกมาเป็นเส้น เส้นละยี่พันคำ เส้นหนึ่งดำใสส่อง เป็นดั่งมุกแก้วส่องใสแสง ฝ้ายของแพงอันล้ำเลิศ ฝ้ายแก้วเกิดเมืองสวรรค์ ปั้นลงมาสามฮอบ ครอบแล้วจึงได้ผูกแขนหลาน ว่ามาเยอขวัญเอ้ยย” “มาเยอขวัญเอ้ยย” เสียงผู้เฒ่าผู้แก่ที่มาร่วมผูกแขนต่างร้องขานตอบรับตาพวงกันเซ็งแซ่ บรรยากาศโดยรอบอบอุ่นกว่าที่คิด ชาวบ้านที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ต่างทยอยเข้ามาผูกแขน แต่ที่ทำให้ฉันแปลกใจ คงจะเป็นแก๊งสาวสวยประจำหมู่บ้านที่มาร่วมผูกแขนด้วย “ไปผูกแขนหมู่แหมะนาว” พ่อผู้ใหญ่หันมาบอกหลานสาวที่ยืนนิ่งไม่ยอมสู้หน้า แต่เธอยังทำเป็นหูทวนลมราวกับว่าไม่ได้ยินเสียงเอ่ยบอก จนเพื่อนที่อยู่ด้านข้างต้องกระซิบให้เธอรู้อีกครั้ง “ไปแม้อีนาว มึงคือว่าเซาซังมันแล้ว” (ไปสิอีนาว ไหนบอกว่าเลิกเกลียดมันแล้ว) “เดี๋ยวไปส่องแ