“คะ…คุณเทอร์รี่ตื่นแล้วหรือคะ”
“ยังละมั้ง”
เสียงทุ้มต่ำตอบอย่างไร้อารมณ์ สีหน้าของเขาก็ดูเรียบเฉยจนคนตัวเล็กไปต่อไม่ถูก เธอถามไม่ตรงคำตอบหรือเขาตอบไม่ตรงคำถามกันแน่
น่าจะเป็นเธอนั่นละที่ถามไม่ตรงคำตอบ เพราะอารามที่ตกใจยามที่หันหน้ามาเจอเขา ทั้งๆ ที่ก็เห็นว่าเขายืนทนโท่อยู่ตรงนี้ เขาจะยังไม่ตื่นได้อย่างไรล่ะ
ทำอย่างไรได้ ก็คนมันตกใจนี่นา
“ขอโทษค่ะที่ถามแบบนั้น” คนตัวเล็กบอกไปอย่างนั้นและน้ำเสียงก็ไม่มีแววประชดประชันแต่อย่างใด ถ้าจะผิดก็ผิดที่เธอที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ อยู่ต่อหน้าคนตัวโตทีไร ถ้าไม่พูดก็เผลอทำท่าทางแปลกๆ ให้อีกฝ่ายได้หงุดหงิดใจไปเสียทุกที
“เอ่อ…ฉันเตรียมน้ำใส่อ่างไว้ให้แล้ว ถ้างั้น…ฉันขอตัวก่อนนะคะ”
เมื่อเห็นสีหน้าไร้อารมณ์ของคนตัวโต วันวิสาจึงคิดว่าควรพาตัวเองออกห่างไปก่อนน่าจะดีกว่า แค่เธอถามคำถามงี่เง่าแบบนั้นเพราะตกใจ ทำไมต้องมองเธอด้วยสายตาดุๆ ราวกับเธอไปฆ่าใครตายด้วยก็ไม่รู้
ร่างสูงไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ วันวิสาจึงคิดเองว่าเขาอนุญาต แต่พอเท้าเล็กขยับจะก้าวเดินออกจากห้องน้ำ เสียงทุ้มก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
“คิดว่าแค่เตรียมน้ำให้อาบ แล้วหน้าที่ผู้รับใช้ของคุณมันจะจบแค่นั้นหรือไง”
วันวิสาได้แต่ทำหน้าเหวอ ก็เมื่อคืนนี้เขาเป็นคนบอกเธอเองว่าหน้าที่ของเธอคือเตรียมน้ำให้เขาอาบ แล้วก็เตรียมเสื้อผ้าให้เขาไม่ใช่หรอกหรือ
“ถ้าอย่างนั้นคุณจะให้ฉันทำอะไรคะ”
เป็นอีกครั้งที่คนตัวโตไม่ตอบคำถามเธอ แต่สีหน้าเรียบเฉยก่อนหน้านี้กลับมีรอยยิ้มนิดๆ ผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา ซึ่งถึงแม้ว่าเธอจะไม่ฉลาดอะไรมาก แต่เธอก็พอจะรู้ว่ารอยยิ้มแบบนี้ไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด
จู่ๆ เทอร์รี่ก็ดึงเสื้อยืดที่สวมใส่ออกจากเรือนกายกำยำ โดยไม่ได้เกรงอกเกรงใจคนตัวเล็กยืนตัวแข็งทื่อ ตาเบิกกว้าง อ้าปากค้างกับภาพที่เห็นตรงหน้า
ร่างสูงยกยิ้มที่มุมปากอีกครั้งเมื่อเห็นท่าทางของคนตัวเล็ก ก่อนจะเอ่ยเสียงทุ้มต่ำอย่างออกคำสั่ง
“ถูหลังให้ผมด้วย”
คำสั่งที่ดูเหมือนจะแสนธรรมดาของคนที่ออกปาก แต่ตรงกันข้ามกับคนฟังที่ใจเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาอยู่นอกอก ใบหน้าเกลี้ยงเกลาสะบัดไปมาจนคนมองเริ่มจะเวียนศีรษะไปกับเธอด้วย
“ไม่…”
“ถ้าคุณไม่อยากพาตัวเองเข้าไปขุดหาของเก่าในซังเตแล้วละก็…ทำตามที่ผมสั่ง ห้ามปฏิเสธ”
เธอยังไม่ทันได้พูดจบประโยคด้วยซ้ำ แล้วเขาก็ขู่มาขนาดนั้น เธอจะปฏิเสธอย่างไรได้ ริมฝีปากบางเม้มเอาไว้แน่นอย่างพยายามข่มกลั้นอารมณ์ ซึ่งร่างสูงที่มองเธอก็ไม่ได้สะทกสะท้านแต่อย่างใด ออกจะชอบอกชอบใจด้วยซ้ำที่เห็นอีกฝ่ายกำลังอัดอั้นตันใจ
มือหนาทั้งสองข้างจับขอบกางเกงของตนเองเอาไว้ เตรียมจะจัดการให้มันพ้นจากเรือนกาย แต่เขายังไม่ทันได้ทำอย่างที่ใจคิด เสียงหวานของคนตัวเล็กก็ร้องออกมาอย่างตื่นตระหนก จนมือหนาต้องชะงักลงอย่างทันควัน
“จะ...จะทำอะไรคะ”
“ผมจะอาบน้ำ เวลาที่คนเราอาบน้ำก็ต้องแก้ผ้าไม่ใช่หรือไง หรือเวลาที่คุณอาบน้ำ คุณใส่เสื้อผ้าด้วย” คิ้วหนาเลิกขึ้นสูงขณะถามกลับ นัยน์ตาสีเทามองใบหน้าเนียนใสราวกับจะถามว่า...
‘มีปัญหาอะไรไหม’
“ตะ...แต่คุณก็น่าจะบอกฉันก่อน”
“ทำไม หน้าตาบ้านๆ อย่างคุณคงไม่มีโอกาสเห็นผู้ชายแก้ผ้าละสินะ”
โอ้โห แรง...
วันวิสาได้แต่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน พูดออกมาได้ว่าไม่เธอเคยเห็นผู้ชายแก้ผ้า จู่ๆ ความอยากเอาชนะก็ปะทุขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ มือเล็กขยับแว่นสายตาให้เข้าที่เข้าทาง ก่อนจะปากเล็กจะตอบออกมาอย่างก๋ากั่น
“น้อยไปสิ ฉันเคยเห็นมานักต่อนักแล้ว”
“ฮึๆ งั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นคุณคงจะไม่มีปัญหาอะไร ถ้าผมจะแก้ผ้าต่อหน้าคุณ”
‘เคยเห็นมานักต่อนักงั้นเหรอ’
เขาไม่เชื่อเธอหรอก เมื่อคืนแค่เห็นเขาสวมเสื้อยืดพอดีตัว ยังน้ำลายหกเสียขนาดนั้น แถมเมื่อครู่ที่เขาถอดเสื้อ ใบหน้าเนียนก็แดงระเรื่อ และตอนนี้ก็ยังคงแดงอยู่ ไม่รู้ตัวเลยละสินะ
มือหนาถอดกางเกงออกต่อหน้าต่อตาของคนที่บอกว่าเห็นผู้ชายแก้ผ้ามานักต่อนัก และเขาก็ไม่ผิดหวัง เมื่อเสียงเล็กกรีดร้องออกมาราวกับว่ากำลังโดนขืนใจ
“กรี๊ดดดดด!”
วันวิสาปิดตาตั้งแต่ที่มือหนาจับเพียงขอบกางเกง ร่างเล็กหันหลังให้เขาอย่างทันควัน ก่อนจะส่งเสียงกรีดร้องดังลั่น โดยไม่รู้ว่ากางเกงขายาวที่หลุดออกจากเรือนกายกำยำ ยังคงมีบ็อกเซอร์อยู่อีกชั้น
เทอร์รี่ส่ายศีรษะไปมาเบาๆ รอยยิ้มผุดขึ้นมุมปาก ก่อนจะเปลือยกายออกทั้งหมด แล้วพาเรือนกายกำยำลงแช่อ่างจากุซซี่แสนหรูหราอย่างอารมณ์ดี
“หันหน้ามาได้แล้ว ตอนนี้ผมอยู่ในอ่างแล้วนะ” น้ำเสียงที่บอกเจือไปด้วยความขบขัน ผู้หญิงส่วนใหญ่ปรารถนาจะเห็นเขาเปลือยกายทั้งนั้นแต่คนตัวเล็กทำอย่างกับว่าเรือนกายของเขาน่าเกลียดน่ากลัวเสียอย่างนั้น
“แน่นะ” วันวิสาร้องถามโดยยังไม่ยอมหันหน้าไปตามที่อีกฝ่ายบอก มือบอบบางทั้งสองข้างก็ยังคงปิดหน้าปิดตาตนเองเอาไว้แน่น ราวกับว่าถ้าเธอเอามือออกจะเห็นภาพที่อาจจะทำให้เธอต้องฝันร้ายไปอีกหลายคืนเลยทีเดียว
“อื้ม”
วันวิสายังคงไม่เชื่อว่าคนตัวโตลงไปแช่ในอ่างแล้ว บางทีเขาอาจจะหลอกเธอก็ได้ แขนเรียวทั้งสองข้างตวัดไปทางด้านหลังสะเปะสะปะตรงตำแหน่งที่เขายืนอยู่ก่อนหน้านี้แต่เมื่อสัมผัสได้เพียงความว่าง คนตัวเล็กจึงค่อยๆ หมุนตัวกลับมา
ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้เธอแทบจะลืมหายใจอีกครั้ง เมื่อคนตัวโตแช่ตัวในอ่างแล้วก็จริง แต่เรือนกายที่โผล่พ้นระดับน้ำในอ่างออกมาก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ใจดวงน้อยสั่นไหวระรัว ดีที่เรือนกายส่วนล่างของเขาถูกบดบังด้วยฟองครีมอาบน้ำที่เธอผสมเอาไว้แต่ทีแรก ไม่อย่างนั้นละก็เลือดกำเดาของเธอคงจะพุ่งกระฉูดแน่
“ทำไม อยากกินผมเหรอ”
เมื่อเห็นคนตัวเล็กยืนนิ่งอยู่กับที่ราวกับถูกสาบ ริมฝีปากหยักได้รูปก็อดที่จะเย้าแหย่เธอไม่ได้ ไหนบอกว่าเห็นมานักต่อนักแล้วไง แล้วทำไมถึงได้หน้าแดงก่ำเสียขนาดนั้น
“ใครอยากจะกินคุณ ไม่มี้…”
“ไม่อยากกินก็มาทำหน้าที่ตัวเองได้แล้ว”
คนตัวเล็กจำต้องขยับตัวเข้าหาคนตัวโตยามที่เขาออกคำสั่งอย่างไม่มีทางปฏิเสธได้ ค่อยๆ พาตัวเองมาหยุดอยู่ด้านหลังของอีกฝ่ายอย่างระแวดระวัง เพราะเกรงว่าคนในอ่างจะเกิดใจกว้างลุกขึ้นมายืนอวดเรือนกายกำยำ เธอไม่ได้หื่นอะไรแบบนั้นนะ เอาเป็นว่าถ้าเขาทำแบบนั้นขึ้นมาจริงๆ
เธอจะไม่ทน
เอ้ย! ไม่ใช่ เธอคงทนไม่ได้แน่!
คนตัวเล็กพยายามสะบัดศีรษะไปมาเพื่อไล่ความคิดฟุ้งซ่าน ตั้งแต่ได้มาอยู่ใกล้ชิดคนตัวโต เธอก็รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเอาเสียเลย ในหัวสมองของเธอคิดแต่เรื่องของเขาเต็มไปหมด โดยเฉพาะเรื่องบ้าบอแบบนั้น ไม่รู้คิดไปอย่างไร
ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยมีความคิดแบบนี้เลยด้วยซ้ำ
คนตัวเล็กค่อยๆ ย่อตัวลงนั่งในท่าคุกเข่าลงนั่งบนส้นเท้า มือเล็กเอื้อมไปหยิบฟองน้ำที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า จุ่มมันลงในอ่างจากุซซี่ที่คนตัวโตกำลังแช่อยู่อย่างสบายใจ ก่อนจะบีบเค้นฟองน้ำเบาๆ อยู่สองสามครั้งเพื่อให้เกิดฟอง
มือเล็กค่อยๆ บรรจงวางฟองน้ำลงบนไหล่กว้างด้วยมือที่สั่นเทา แต่พอฟองน้ำสัมผัสกับไหล่กว้างคนตัวเล็กถึงกับสะดุ้งจนตัวโยน
“ผมไม่ชอบใช้ฟองน้ำ”
“ละ…แล้วคุณจะให้ฉันใช้อะไรคะ” อะไรของเขากัน จะให้ขัดตัวก็ต้องใช้ฟองน้ำไม่ใช่หรอกหรือ แล้วถ้าไม่ใช้ฟองน้ำ เขาจะให้เธอใช้อะไรในการขัดตัวกันล่ะ
“มือหยาบๆ ของคุณนั่นละ”
คำตอบของคนตัวโต ทำให้วันวิสาใจเต้นระรัวอย่างบ้าคลั่ง ไม่ได้โกรธที่เขาต่อว่าว่ามือของเธอหยาบกระด้าง แต่เพราะคิดว่ามือเล็กๆ ของเธอต้องสัมผัสไปที่แผ่นหลังกว้างต่างหาก
“เร็วๆ สิ จะให้ผมแช่น้ำจนตัวเปื่อยเลยหรือไง”
เสียงห้วนจัดที่ดังขึ้นอย่างขัดจังหวะจินตนาการอันล้ำเลิศของวันวิสา ทำให้เธอต้องรีบทำตามที่เขาสั่ง เพราะไม่อยากโดนต่อว่าหรือถูกมองด้วยสายตาดุๆ อีก