บทที่ 07 ข่มขู่

1488 คำ
"นายคะ..." ป้านิดเดินทำหน้าเครียดมาแต่ไกล ทำเอาไคโรขมวดคิ้วยุ่งทำไมเวลาเที่ยงคืนแล้วแม่บ้านที่ควรจะกลับไปพักผ่อนในที่ของตัวเองกลับยังอยู่ในบ้านหลังใหญ่ แถมยังทำหน้าไม่สู้ดีสะท้อนมาถึงเขาด้วย "มีอะไรครับ" ชายหนุ่มขยับคลายเนกไทที่ผูกแน่นมาทั้งวัน ใบหน้าเริ่มอ่อนล้าจากการทำงานติดต่อหลายวันและยังไม่ได้รับการพักผ่อน "คือนายน้อย..." "พูดออกมาเลยครับ" ใบหน้าลำบากใจทำให้เขาเริ่มจะอึดอัดตาม "นายน้อยไม่ยอมนอนบอกว่ามีเรื่องจะคุยกับนายท่าเดียวเลยค่ะ ป้าบอกให้ค่อยคุยพรุ่งนี้ก็ไม่ยอม" ลูกชายตัวดีเขาสร้างเรื่องอีกแล้ว ก็คงจะต้องการอะไรสักอย่างและสิ่งนั้นคงต้องสำคัญมากเพราะถึงขนาดอดใจรอวันรุ่งขึ้นไม่ไหว "ป้านิดกลับไปพักผ่อนเลยครับ ผมจัดการต่อเอง" "ค่ะนาย" เท่านั้นไคโรก็ตรงไปเปิดประตูห้องที่ติดกับห้องของเขา โดยจะเป็นห้องใครไม่ได้ถ้าไม่ใช่ห้องลูกชายวัยสี่ขวบที่สร้างเรื่องไม่เว้นวัน "เที่ยงคืนแล้วทำไมยังไม่นอนไคเรน..." เสียงทุ้มที่จำได้ดีว่าเป็นพ่อบังเกิดเกล้าทำให้คนที่นั่งกอดอกอยู่โซนหนังสือรีบเงยหน้าขึ้นพร้อมกับเดินไปหา "ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับแด๊ดครับ" เด็กชายว่าเสียงเอาจริงเอาจัง ส่วนสูงเท่าเอวคนเป็นพ่อไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา "ค่อยคุยกันวันหลัง ลูกลืมไปแล้วเหรอว่าพรุ่งนี้โรงเรียนลูกเปิดเทอมวันแรก" ไคโรเองเองก็ทำเสียงจริงจังไม่แพ้กัน มีแต่รังสีของความเย็นชาเกิดจากทั้งสองฝ่ายเหมือนเรื่องที่คุยนั้นเป็นเรื่องใหญ่พอสมควร "ไม่ ผมจะคุยวันนี้ ตอนนี้ครับ" ไคโรผ่อนลมหายใจเหนื่อยหน่าย ไม่เคยจะมีครั้งไหนเลยที่ลูกชายจะยอมทำตามคำสั่งในครั้งเดียวโดยไม่ผ่านการต่อปากต่อคำ ทีกับเด็กฝึกงานคนนั้นทำตามอย่างว่าง่าย "งั้นก็ว่ามา ลูกต้องการอะไร ของเล่นใหม่? หนังสือใหม่?" "ผมอยากได้พี่เลี้ยงคนใหม่" "พี่เลี้ยงคนใหม่?" ไคโรเลิกคิ้วยุ่ง ไม่คาดคิดว่าวันหนึ่งลูกชายจะพูดถึงเรื่องนี้ด้วยตัวเอง "ใช่ครับ ผมอยากได้พี่เลี้ยง" "พูดเรื่องนี้ก็ดี แด๊ดจะบอกลูกว่าลูกโตพอจนไม่ต้องมีพี่เลี้ยงแล้ว ลูกมีทั้งแด๊ด ป้านิด ธันวา ไหนจะคุณปู่อีก ทุกคนช่วยลูกได้ไม่จำเป็นต้องพึ่งพี่เลี้ยง รีบไปนอนแด๊ดจะกลับห้องพักผ่อน" ว่าแล้วไคโรก็รีบหมุนตัวหมายจะเดินกลับห้องของตัวเอง ทว่าเสียงเล็กที่ดังขึ้นมาต่อทำให้เขาต้องชะงักเท้าแล้วหมุนตัวกลับมาอีกครั้ง "ถ้าแด๊ดไม่ยอมผมจะไม่ไปโรงเรียน ไม่ยอมนอน ไม่ยอมทำการบ้าน ไม่ยอมกินข้าวด้วย" ไคโรจดจ้องคนอวดดีคิ้วขมวด เขาใช้ข้อต่อรองด้วยความเจ้าเล่ห์ของตัวเองอีกแล้ว "เดี๋ยวนี้ลูกชักจะเอาใหญ่แล้วนะไคเรน" "แด๊ดก็ต้องยอมให้ผมมีพี่เลี้ยง" เด็กน้อยยังคงไม่ลดละความพยายาม เขายืนยันเสียงหนักแน่น อย่างไรเสียวันนี้ก็ต้องให้คนเป็นพ่อรับปากเรื่องพี่เลี้ยงให้ได้ "ที่ผ่านมาแด๊ดคงให้ทุกอย่างได้ดั่งใจลูก แต่หลังจากนี้แด๊ดจะไม่ตามใจลูกให้เสียคนอีก" ถึงเวลาที่เขาต้องปรับนิสัยลูกชายอย่างจริงจัง ไม่อย่างนั้นเขาคงจะเป็นเด็กนิสัยเสียก้าวร้าวที่เอาใจยากมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว คราวนี้ร่างเล็กไม่ยอมพูดอะไร เขาทอดสายตามองคนเป็นพ่อนิ่ง ๆ ก่อนที่จะตัดสินใจวิ่งกลับไปที่เตียง ทำเอาไคโรพอใจที่ในที่สุดครั้งนี้เขาก็เป็นฝ่ายชนะบ้างแล้ว "ไคเรนอย่า!!!" แต่มันไม่ใช่อย่างที่เขาคิด! ไคโรร้องห้ามเสียงหลง เมื่อคิดว่าคนยอมในตอนแรกกลับไม่ได้ถอดใจ ทว่าเขาหยิบบางอย่างใต้ผ้าห่มพยายามจะทุ่มมันลงพื้น แต่หยุดค้างไว้แค่นั้น เขากลับยกมันค้างไว้แล้วมองคนเป็นพ่อเพื่อใช้เป็นการข่มขู่ "แล็ปท็อปแด๊ดมีงานด่วนต้องใช้พรุ่งนี้ ลูกจะทำแบบนั้นไม่ได้!" ไคโรถึงกับใจหล่นหายวูบ ถ้าเขาห้ามไม่ทันแล็ปท็อปตัวแพงที่บรรจุโปรเจ็กต์เงินสิบล้านในนั้นคงแตกกระจายต่อหน้าต่อตาด้วยเงื้อมมือของลูกชายตัวดีอย่างแน่นอน "แด๊ดต้องรับปากว่าจะยอมให้ผมมีพี่เลี้ยง" คนตัวเล็กขู่ฟ่อขึ้นมาอีกครั้ง แน่นอนว่าวิธีแบบนี้คงจะคิดเองไม่ได้ หากไม่ได้รับคำแนะนำจากปู่ของตนที่สอนมาอย่างดี "ได้...แด๊ดรับปากแต่ลูกต้องวางแล็ปท็อปแด๊ดลงเบา ๆ เดี๋ยวนี้" ไคโรเปลี่ยนใจแทบไม่ทัน หากไม่ติดว่ามีงานสำคัญที่ต้องใช้ด่วนในวันรุ่งขึ้น เขาก็คงจะยอมให้ลูกชายทุบทิ้งเล่นแล้วค่อยกู้ข้อมูลทีหลัง แต่คราวนี้เหมือนว่าเขาจะปล่อยให้เป็นแบบนั้นไม่ได้ จึงต้องยอมจำใจทำตามคำขู่ทั้งที่อยากจะดัดนิสัยเขามากก็ตามที "แด๊ดต้องยอมให้นาน่าเป็นพี่เลี้ยงผม" เด็กชายยังไม่ยอมวางสิ่งของประกันที่อยู่ในมือ เขายังทำข้อตกลงไม่สำเร็จ สิ่งที่ทำให้พ่อต้องยอมจึงยังไม่ปลอดภัย "ทำไมต้องเป็นเธอด้วย" คราวนี้ไคโรทำเสียงไม่พอใจอีกครั้ง กับเด็กที่สอนให้ลูกเขาออกนอกลู่นอกทาง ไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะยอมให้คนแบบนั้นมาเป็นพี่เลี้ยงให้ลูกชาย "อย่า!!!" ยังคิดได้ไม่ถึงไหนคนที่ขู่เข็ญก็ตั้งท่าจะทุ่มของของเขาอีกครั้ง "โอเค...แด๊ดตกลง พอใจลูกหรือยัง" ประโยคกลับคำเริ่มทำให้อีกคนผุดยิ้มเล็ก ๆ ก่อนที่จะค่อย ๆ ลดแขนที่ยกสูงโดยมีแล็ปท็อปในมือลงตามไปด้วย "แด๊ดพูดจริง ๆ นะครับ" "อืม...ส่งแล็ปท็อปมาให้แด๊ด" มือหนายื่นไปตรงหน้าเพื่อขอของกลับคืน แค่นั้นไคเรนก็ยอมส่งคืนของใช้กลับให้ง่ายดาย แล้วยกยิ้มกว้างอย่างพอใจ "แด๊ดต้องให้นาน่ามาเป็นพี่เลี้ยงให้ได้นะครับ" "แด๊ดมีทางเลือกอื่นอีกเหรอ?" เขาถอนหายใจด้วยความหนักใจ ถ้าไม่ทำตามเด็กตัวแสบก็คงหาเหตุผลอื่นหรือหาอะไรมาข่มขู่เขาตามเคย "รีบไปนอนได้แล้ว" "ครับแด๊ด" เท่านั้นไคเรนก็ทิ้งตัวบนที่นอนอย่างอารมณ์ดี ผิดกับไคโรที่หนักใจกับคนแข็งข้อเข้าทุกวัน แถมยังต้องอนุญาตให้เด็กฝึกงานที่ไม่ค่อยถูกใจต้องมาเป็นพี่เลี้ยงให้ลูกชายอีกด้วย เช้าวันต่อมา "นานะใช่ไหม?" ฉันเงยหน้ามองเสียงหวานที่เอ่ยถาม ก่อนที่จะรีบหยัดยืนขึ้นแล้วพยักหน้าตอบอย่างงุนงง "ใช่ค่ะ เอ่อ...มีอะไรให้หนูทำไหมคะ?" พี่พนักงานตรงหน้าไม่คุ้นหน้าเอาเสียเลย และคงจะไม่ใช่คนในแผนกที่ฉันฝึกงานด้วย "พี่ชื่อกิ่งนะ เป็นเลขาท่านประธาน" อะไรที่ทำให้เลขาท่านประธานมาหาฉันถึงที่ หรือเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานท่านประธานจะกลับใจ เขาคงไม่ได้ส่งเลขามาบอกไล่ฉันออกหรอกใช่ไหม "พะ พี่กิ่งมีอะไรหรือเปล่าคะ?" "เรามากับพี่หน่อยได้ไหม" คงไม่เป็นอย่างที่ฉันคิดหรอกใช่ไหม ให้ตายเถอะ...วันซวยอะไรของฉันอีกแล้ว "ดะ ได้ค่ะ" ฉันพยักหน้าให้พี่กิ่งแล้วปรายมองยัยมะปรางเพื่อฝากงานที่นี่เอาไว้ก่อน แล้วรีบเดินตามพี่กิ่งที่กำลังตรงไปที่ลิฟต์จะพาฉันไปที่ไหนสักที แต่ก็ไม่ได้คิดจะถาม เด็กฝึกงานแบบฉันทำได้แค่เดินตามไปเงียบ ๆ และใจที่เต้นตลอดทาง จนกระทั่งเงยหน้าขึ้นมาอีกทีตรงหน้าฉันก็เห็นเป็นประตูที่เขียนว่าห้องผู้บริหารแล้ว "ท่านประธานรอเราอยู่ในห้องน่ะ" ฉันเบิกตากว้างขึ้นมา ยังไม่ทันได้ตั้งตัวพี่กิ่งก็เคาะประตูห้องแล้วเปิดประตูกว้างให้ฉันเข้าไป ที่บอกว่ามากับพี่หน่อยคือมาหาท่านประธานอย่างนั้นเหรอ ให้ตายเถอะ...ฉันไม่ได้เตรียมตัวที่จะเจอกับเขาเลยสักนิด แค่เมื่อวานที่มีปัญหาก็กลัวถูกไล่ออกจนฉี่แทบราด แล้ววันนี้จะเป็นอะไรอีก คงไม่เรียกฉันมาต่อว่าอีกหรอกนะ... ทำไมถึงซวยแบบนี้นะยัยนานะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม