บทที่8 อย่าเล่นกับไฟ 2

1666 คำ
ถึงปากจะร้ายชอบกวนประสาทเธออยู่บ่อย ๆ แต่ในเวลาแบบนี้เขาก็เป็นคนที่ใจดีกับเธอที่สุด “ขอน้ำกินหน่อย” เป็นเสียงอู้อี้ที่เล็ดลอดไรฟันออกมา แต่ก็พอจะจับใจความได้ “รอแป๊บ” ชายหนุ่มวางผ้าขนหนูพาดไว้กับพนักโซฟาก่อนจะเดินไปหยิบขวดน้ำเปล่าออกมาจากมินิบาร์ เทน้ำเย็นใส่แก้วจนเต็ม แล้วถือมาวางไว้บนโต๊ะข้างเตียง “น้ำมาแล้ว ลุกขึ้นมากินสิ” ทว่าฤทธิ์เตกีล่าก็ยังไม่หมดไป พิชชาพยายามจะพยุงตัวเองขึ้นมานั่งอีกครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ เห็นสภาพของคนอวดเก่งในตอนนี้ ธนาถึงกับถอนหายใจแรง “อยู่เฉย ๆ เลย อ้าปากก็พอ” เจ้าของเสียงเข้มบอกอย่างรำคาญ แต่ก็ยังช่วยประคองหญิงสาวขึ้นมานั่งจนได้ระดับ มืออีกข้างเอื้อมไปหยิบแก้วน้ำที่เขาวางเอาไว้เมื่อครู่มาจ่อที่ริมฝีปากอิ่ม พิชชาอ้าปากขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นชายหนุ่มจ่อแก้วน้ำที่ริมฝีปากของตัวเอง กลืนน้ำเย็น ๆ ลงไปในลำคอจนหมด หายคอแห้งแล้วถึงทิ้งตัวลงไปนอนตามเดิม “ทีนี้ก็นอนได้แล้วใช่ไหม” ตอนที่พิชชาแผลงฤทธิ์ในรถของเขา ชุดที่เธอสวมใส่อยู่สะอาดหมดจด เพราะไม่โดนอ้วกแม้แต่นิดเดียว เธอเลยนอนในสภาพนี้ได้โดยที่ไม่ต้องเดือดร้อนให้เขาต้องหาเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยน ไม่มีสัญญาณใดตอบกลับ ชายหนุ่มจึงเดินตรงไปที่โซฟาตรงริมหน้าต่าง หมายจะใช้พื้นที่แคบ ๆ นั่นนอนไปก่อนในคืนนี้ แต่ล้มลงนอนได้ไม่เท่าไรก็ชะโงกหน้าจากโซฟาตัวยาวขึ้นไปมองคนที่เขาเพิ่งจะเสียสละเตียงนุ่ม ๆ ให้ “หลับยัง?” เจ้าของเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นในความเงียบ ภายในห้องมีเพียงแสงสีนวลจากโคมไฟที่หัวเตียงให้ความสว่าง จากตรงที่ชายหนุ่มนอนอยู่จึงไม่เห็นว่าอีกฝ่ายหลับไปหรือยัง “…….” “นี่…หลับรึยัง?” เสียงของเขาดังกว่าในตอนแรกเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่มีสัญญาณตอบกลับมา จึงคิดว่าพิชชาหลับไปแล้ว คราวนี้เขาเลยตั้งใจจะนอนจริง ๆ เสียที ทว่าไม่ทันที่เปลือกตาจะปิดสนิท เขาก็ได้ยินหญิงสาวพึมพำอยู่ในลำคอ “พี่ธนา…” “อะไร” น้ำเสียงที่ตอบรับติดรำคาญนิด ๆ ถ้าครั้งนี้พิชชาอยากเข้าห้องน้ำ แน่นอนว่าสุภาพบุรุษอย่างเขาก็จะบอกให้เธอคลานไปเอง “พี่ธนา…” เสียงที่ผ่านลำคอออกมาแผ่วเบาดังขึ้นอีกหน จนชายหนุ่มเกิดความรำคาญขึ้นมาจริง ๆ แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยอมลุกขึ้น สาวเท้ายาว ๆ มาหยุดอยู่ที่ข้างเตียง “มีอะไร” คนถามใส่อารมณ์เล็กน้อย เตกีล่าพวกนั้นไม่ระคายคอนักดื่มอย่างเขาก็จริง แต่บังเอิญว่าวันนี้เขาออกมาจากห้องผ่าตัดตอนหกโมงเช้านี่เอง ก่อนหน้านั้นก็มีผ่าตัดใหญ่ลากยาวมาตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ ยังไม่ทันได้นอนเอาแรง เขาก็ต้องทำตัวเป็นสารถีขับรถไปส่งพิชยะที่บ้าน จากนั้นก็ขับรถมาที่นี่ต่ออีกสามชั่วโมง กระทั่งตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้นอนร่างกายเลยต้องการพักผ่อน “นั่งลง” เธอตบฝ่ามือปุปุลงที่ฟูกนุ่มข้างลำตัว ตาพร่ามัวเล็กน้อย อีกฝ่ายชักสีหน้ารำคาญแต่ก็ยอมทำตาม ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงกระด้างเหมือนที่ชอบแสดงออกกับเธอ “ง่วงจะตายอยู่แล้ว มีอะไร” เขาทิ้งตัวลงนั่งห่างจากหญิงสาวเพียงหนึ่งคืบ อากัปกิริยาในท่านั่งสบาย ๆ ของชายหนุ่ม ทำให้เห็นแผงอกที่สมบูรณ์ไปด้วยกล้ามเนื้อผ่านสาบเสื้อคลุมที่แยกแย้มออก หลังจากที่พยายามมอง พิชชาถึงเห็นว่าอีกฝ่ายสวมเสื้อคลุมอยู่ ทว่าเรื่องที่ติดค้างในใจตลอดหลายวัน ทำให้เธอไม่ใส่ใจว่าทำไมเขาถึงอยู่ในสภาพล่อแหลมแบบนี้ รวมถึงสถานที่ไม่คุ้นตานี้ด้วย ปล่อยให้ความเงียบปกคลุมภายในห้องไม่กี่อึดใจ คนที่นอนอยู่ก็เอ่ยขึ้น ดวงตาเจือไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ “ฟินน์ไม่มีเสน่ห์เหรอ?” ชายหนุ่มขมวดคิ้วหลังจากที่ได้ยินคำถาม เวลาที่แอลกอฮอล์ปริมาณมากเข้าไปอยู่ในร่างกาย มักจะส่งผลให้คนเราสูญเสียสติสัมปชัญญะส่วนหนึ่งไป แต่เขาก็ไม่คิดว่าพิชชาจะเมาถึงขั้นถามเรื่องไร้สาระออกมา “ถามอะไรของเธอ เมาก็นอนซะ” คนพูดเตรียมจะลุกขึ้น แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะฤทธิ์เครื่องดื่มร้อนแรง หรือเป็นเพราะจิตใต้สำนึก ถึงทำให้วินาทีนั้น พิชชาตัดสินใจคว้าไปที่สาบเสื้อคลุมบนตัวของเขา ออกแรงกระชากอีกฝ่ายลงมา เพราะไม่ทันตั้งตัว ธนาจึงถลาลงไปที่ตัวของหญิงสาว ดีที่เขาใช้มือยันกับที่นอนไว้ทัน ไม่อย่างนั้นร่างกำยำของเขาคงจะทาบทับร่างบอบบางจนปรากฏภาพไม่เหมาะไม่ควร ริมฝีปากของทั้งคู่เกือบจะชนกัน ลมหายใจอุ่นร้อนรินรดใบหน้าของอีกฝ่าย “ตอบมา ฟินน์เป็นผู้หญิงที่ไม่มีเสน่ห์เหรอ” ดวงตาคู่งามจับนิ่งที่ใบหน้าหล่อเหลาของหนุ่มลูกครึ่งจีน เมื่อคนที่สูญเสียความมั่นใจในตัวเองจากประสบการณ์ความรักที่ผ่านมาต้องการคำตอบที่จริงใจ เมื่อร่างกายมีแอลกอฮอล์ไหลเวียนอยู่จำนวนมาก สิ่งที่เคยเก็บมาคิดคนเดียวและความน้อยเนื้อต่ำใจในตัวเองก็พรั่งพรูอยู่ในหัว ส่วนใหญ่ผู้ชายที่เข้าหาเธอ ไม่หวังในเรือนร่างก็เป็นพวกแมงดาทั้งนั้น เกิดในตระกูลรวย ชีวิตเพียบพร้อมทุกอย่าง ไม่เห็นจะดีตรงไหน เพราะสิ่งที่หลายคนต่างพากันอิจฉาเธอไม่ใช่เหรอ ถึงทำให้เธอเจอแต่คนเฮงซวยมาตลอด เวลาที่ผู้ชายอยู่ใกล้เธอ ร้อยทั้งร้อยเป็นต้องฉวยโอกาสแตะเนื้อต้องตัว หลายครั้งที่เธอต้องเอาตัวรอดจากพวกผู้ชายหื่นกามเวลาที่ออกไปสังสรรค์ แต่เพราะอะไรกันนะ? ‘เพื่อนของพี่ชาย’ คนนี้ ถึงไม่เคยฉวยโอกาสกับเธอแม้แต่ครั้งเดียว เขาเป็นคนดีเหรอ? หรือเพราะเธอเป็นน้องสาวของพิชยะเหรอ? ไม่หรอก… น้องสาวเพื่อนแล้วไงล่ะ ก็พี่ชายของเพื่อนในมหาวิทยาลัยนี่แหละตัวดี มาหน้าหม้อกับเธอไม่รู้กี่คนแล้ว ธนาขึ้นชื่อเรื่อง ‘เจ้าชู้’ เขาก็น่าจะมีปฏิกิริยาอะไรเวลาที่อยู่กันตามลำพังกับสาวสวยอย่างเธอบ้างสิ นี่อะไรกัน นอกจากจะชอบทำตัวเป็นสุภาพบุรุษ ‘จอมปลอม’ เวลาที่อยู่กับเธอ ยังทำเหมือนเธอไม่ใช่ผู้หญิงอีกต่างหาก ขนาดอยู่ในสถานการณ์อันตรายแบบนี้ ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย จริง ๆ แล้วเธอไร้เสน่ห์กับเพศตรงข้ามสินะ ความรักที่ผ่านมาถึงเป็นได้แค่เครื่องมือการแก้แค้น “ตอบมาก่อน ผู้หญิงแบบฟินน์มีเสน่ห์ไหม” เมื่ออีกฝ่ายเอาแต่นิ่งเงียบ พิชชาก็รวบรวมความกล้าถามออกมาอีกครั้ง กลิ่นร้อนแรงของเตกีล่าเจืออยู่ในลมหายใจอุ่นร้อน ผสมกับกลิ่นกายหอมกรุ่นเฉพาะตัวของหญิงสาวกระทบข้างแก้มของคนข้างบน จู่โจมประสาทสัมผัสของชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว ธนากลั้นหายใจในเสี้ยวนาทีต่อมา เบือนหน้าหนีจากปลายคางเรียวมนที่ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ แต่สีหน้ายังเรียบนิ่งไม่บ่งบอกอารมณ์ “ก็…ไม่เชิงหรอก” เขาพูดไปอย่างนั้น ไม่ได้ใส่ใจกับคำตอบของตนเอง แต่เพราะได้รับคำตอบคลุมเครือแบบนี้ พิชชาถึงยังดื้ออยู่ สองตาเลื่อนขึ้นไปจับจ้องริมฝีปากของอีกฝ่าย ก่อนจะออกแรงเท่าที่มีอยู่ ดึงร่างกำยำเข้ามาแนบชิดมากขึ้น ร่างสูงเพรียวคร่อมร่างพิชชาอยู่ มือทั้งสองข้างยังไว้ตรึงกับฟูกที่นอน ในช่วงเวลาที่ใกล้กันนั้น ธนากลืนน้ำลายเหนียวลงคออึกหนึ่ง เมื่อริมฝีปากอิ่มเคลือบสีแดงของคนใต้ร่างเผยอออกอย่างยั่วยวน “จะทำอะไร” น้ำเสียงราบเรียบ สีหน้ายังคงนิ่งขรึม หากแต่ข้างในกายกลับรุ่มร้อน “ก็ทำให้พี่ธนายอมตอบฟินน์ดี ๆ ไง” คำตอบของพิชชาทำให้เขารู้สึกใจคอไม่ดีขึ้นมา ยายตัวแสบของเขาทำตัวต่างออกไปจากทุกครั้ง “ก็คงมีเสน่ห์แหละมั้ง” กับผู้หญิงคนอื่นเขาปากหวานกว่านี้หลายเท่า แต่พอเป็นพิชชา กลับเหมือนมีเส้นบาง ๆ กั้นอยู่ “มั้ง...” แม้ตอนนี้สติรับรู้จะไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ แต่ก็ไม่มีทางที่เธอจะจำผิด เห็นชัดว่าเจ้าของใบหน้าหล่อตี๋พิมพ์นิยมตรงหน้าเป็นพวกเจ้าชู้ตัวพ่อ ต้องตอบเรื่องแค่นี้ได้สบายอยู่แล้ว แต่ที่ตอบแบบมักง่าย หมายความว่าไง พอเห็นพิชชามีสีหน้าไม่ค่อยพอใจ เขาเลยให้คำตอบอีกครั้ง “เออ มีเสน่ห์ เธอเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ พอใจยัง?” แทนที่เธอจะพอใจในคำตอบที่เขาอุตส่าห์พูดมันออกมาแล้วปล่อยให้เขากลับไปนอน แต่ดันมาทำให้หัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะ “จริงเหรอ” ดวงหน้าของพิชชายามนี้เชิญชวนให้ตัวเองถูกรังแกมาก แต่โชคดีที่คนคร่อมบนตัวเป็นเขา เลยยับยั้งชั่งใจไว้ได้ “อืมม” ชายหนุ่มพยักหน้ายืนยันคำตอบ ขับไล่ความคิดด้านมืดออกอย่างรวดเร็ว แต่ในวินาทีต่อมาเขากลับรู้สึกได้ถึงลมหายใจผ่าวร้อนที่ซอกคอและเรือนผมหมาดชื้นของตนเอง “งั้นจูบฟินน์หน่อยสิ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม