ถึงปากจะร้ายชอบกวนประสาทเธออยู่บ่อย ๆ แต่ในเวลาแบบนี้เขาก็เป็นคนที่ใจดีกับเธอที่สุด
“ขอน้ำกินหน่อย” เป็นเสียงอู้อี้ที่เล็ดลอดไรฟันออกมา แต่ก็พอจะจับใจความได้
“รอแป๊บ” ชายหนุ่มวางผ้าขนหนูพาดไว้กับพนักโซฟาก่อนจะเดินไปหยิบขวดน้ำเปล่าออกมาจากมินิบาร์ เทน้ำเย็นใส่แก้วจนเต็ม แล้วถือมาวางไว้บนโต๊ะข้างเตียง
“น้ำมาแล้ว ลุกขึ้นมากินสิ” ทว่าฤทธิ์เตกีล่าก็ยังไม่หมดไป พิชชาพยายามจะพยุงตัวเองขึ้นมานั่งอีกครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ เห็นสภาพของคนอวดเก่งในตอนนี้ ธนาถึงกับถอนหายใจแรง
“อยู่เฉย ๆ เลย อ้าปากก็พอ” เจ้าของเสียงเข้มบอกอย่างรำคาญ แต่ก็ยังช่วยประคองหญิงสาวขึ้นมานั่งจนได้ระดับ มืออีกข้างเอื้อมไปหยิบแก้วน้ำที่เขาวางเอาไว้เมื่อครู่มาจ่อที่ริมฝีปากอิ่ม
พิชชาอ้าปากขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นชายหนุ่มจ่อแก้วน้ำที่ริมฝีปากของตัวเอง กลืนน้ำเย็น ๆ ลงไปในลำคอจนหมด หายคอแห้งแล้วถึงทิ้งตัวลงไปนอนตามเดิม
“ทีนี้ก็นอนได้แล้วใช่ไหม” ตอนที่พิชชาแผลงฤทธิ์ในรถของเขา ชุดที่เธอสวมใส่อยู่สะอาดหมดจด เพราะไม่โดนอ้วกแม้แต่นิดเดียว เธอเลยนอนในสภาพนี้ได้โดยที่ไม่ต้องเดือดร้อนให้เขาต้องหาเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยน
ไม่มีสัญญาณใดตอบกลับ ชายหนุ่มจึงเดินตรงไปที่โซฟาตรงริมหน้าต่าง หมายจะใช้พื้นที่แคบ ๆ นั่นนอนไปก่อนในคืนนี้
แต่ล้มลงนอนได้ไม่เท่าไรก็ชะโงกหน้าจากโซฟาตัวยาวขึ้นไปมองคนที่เขาเพิ่งจะเสียสละเตียงนุ่ม ๆ ให้
“หลับยัง?” เจ้าของเสียงทุ้มเอ่ยขึ้นในความเงียบ ภายในห้องมีเพียงแสงสีนวลจากโคมไฟที่หัวเตียงให้ความสว่าง จากตรงที่ชายหนุ่มนอนอยู่จึงไม่เห็นว่าอีกฝ่ายหลับไปหรือยัง
“…….”
“นี่…หลับรึยัง?” เสียงของเขาดังกว่าในตอนแรกเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่มีสัญญาณตอบกลับมา จึงคิดว่าพิชชาหลับไปแล้ว คราวนี้เขาเลยตั้งใจจะนอนจริง ๆ เสียที
ทว่าไม่ทันที่เปลือกตาจะปิดสนิท เขาก็ได้ยินหญิงสาวพึมพำอยู่ในลำคอ
“พี่ธนา…”
“อะไร” น้ำเสียงที่ตอบรับติดรำคาญนิด ๆ ถ้าครั้งนี้พิชชาอยากเข้าห้องน้ำ แน่นอนว่าสุภาพบุรุษอย่างเขาก็จะบอกให้เธอคลานไปเอง
“พี่ธนา…” เสียงที่ผ่านลำคอออกมาแผ่วเบาดังขึ้นอีกหน จนชายหนุ่มเกิดความรำคาญขึ้นมาจริง ๆ
แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยอมลุกขึ้น สาวเท้ายาว ๆ มาหยุดอยู่ที่ข้างเตียง
“มีอะไร” คนถามใส่อารมณ์เล็กน้อย เตกีล่าพวกนั้นไม่ระคายคอนักดื่มอย่างเขาก็จริง แต่บังเอิญว่าวันนี้เขาออกมาจากห้องผ่าตัดตอนหกโมงเช้านี่เอง ก่อนหน้านั้นก็มีผ่าตัดใหญ่ลากยาวมาตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ
ยังไม่ทันได้นอนเอาแรง เขาก็ต้องทำตัวเป็นสารถีขับรถไปส่งพิชยะที่บ้าน จากนั้นก็ขับรถมาที่นี่ต่ออีกสามชั่วโมง กระทั่งตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้นอนร่างกายเลยต้องการพักผ่อน
“นั่งลง” เธอตบฝ่ามือปุปุลงที่ฟูกนุ่มข้างลำตัว ตาพร่ามัวเล็กน้อย อีกฝ่ายชักสีหน้ารำคาญแต่ก็ยอมทำตาม ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงกระด้างเหมือนที่ชอบแสดงออกกับเธอ
“ง่วงจะตายอยู่แล้ว มีอะไร” เขาทิ้งตัวลงนั่งห่างจากหญิงสาวเพียงหนึ่งคืบ
อากัปกิริยาในท่านั่งสบาย ๆ ของชายหนุ่ม ทำให้เห็นแผงอกที่สมบูรณ์ไปด้วยกล้ามเนื้อผ่านสาบเสื้อคลุมที่แยกแย้มออก
หลังจากที่พยายามมอง พิชชาถึงเห็นว่าอีกฝ่ายสวมเสื้อคลุมอยู่
ทว่าเรื่องที่ติดค้างในใจตลอดหลายวัน ทำให้เธอไม่ใส่ใจว่าทำไมเขาถึงอยู่ในสภาพล่อแหลมแบบนี้ รวมถึงสถานที่ไม่คุ้นตานี้ด้วย
ปล่อยให้ความเงียบปกคลุมภายในห้องไม่กี่อึดใจ คนที่นอนอยู่ก็เอ่ยขึ้น ดวงตาเจือไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ
“ฟินน์ไม่มีเสน่ห์เหรอ?” ชายหนุ่มขมวดคิ้วหลังจากที่ได้ยินคำถาม เวลาที่แอลกอฮอล์ปริมาณมากเข้าไปอยู่ในร่างกาย มักจะส่งผลให้คนเราสูญเสียสติสัมปชัญญะส่วนหนึ่งไป
แต่เขาก็ไม่คิดว่าพิชชาจะเมาถึงขั้นถามเรื่องไร้สาระออกมา
“ถามอะไรของเธอ เมาก็นอนซะ” คนพูดเตรียมจะลุกขึ้น
แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะฤทธิ์เครื่องดื่มร้อนแรง หรือเป็นเพราะจิตใต้สำนึก ถึงทำให้วินาทีนั้น พิชชาตัดสินใจคว้าไปที่สาบเสื้อคลุมบนตัวของเขา ออกแรงกระชากอีกฝ่ายลงมา
เพราะไม่ทันตั้งตัว ธนาจึงถลาลงไปที่ตัวของหญิงสาว ดีที่เขาใช้มือยันกับที่นอนไว้ทัน ไม่อย่างนั้นร่างกำยำของเขาคงจะทาบทับร่างบอบบางจนปรากฏภาพไม่เหมาะไม่ควร
ริมฝีปากของทั้งคู่เกือบจะชนกัน ลมหายใจอุ่นร้อนรินรดใบหน้าของอีกฝ่าย
“ตอบมา ฟินน์เป็นผู้หญิงที่ไม่มีเสน่ห์เหรอ” ดวงตาคู่งามจับนิ่งที่ใบหน้าหล่อเหลาของหนุ่มลูกครึ่งจีน เมื่อคนที่สูญเสียความมั่นใจในตัวเองจากประสบการณ์ความรักที่ผ่านมาต้องการคำตอบที่จริงใจ
เมื่อร่างกายมีแอลกอฮอล์ไหลเวียนอยู่จำนวนมาก สิ่งที่เคยเก็บมาคิดคนเดียวและความน้อยเนื้อต่ำใจในตัวเองก็พรั่งพรูอยู่ในหัว
ส่วนใหญ่ผู้ชายที่เข้าหาเธอ ไม่หวังในเรือนร่างก็เป็นพวกแมงดาทั้งนั้น
เกิดในตระกูลรวย ชีวิตเพียบพร้อมทุกอย่าง ไม่เห็นจะดีตรงไหน
เพราะสิ่งที่หลายคนต่างพากันอิจฉาเธอไม่ใช่เหรอ ถึงทำให้เธอเจอแต่คนเฮงซวยมาตลอด
เวลาที่ผู้ชายอยู่ใกล้เธอ ร้อยทั้งร้อยเป็นต้องฉวยโอกาสแตะเนื้อต้องตัว หลายครั้งที่เธอต้องเอาตัวรอดจากพวกผู้ชายหื่นกามเวลาที่ออกไปสังสรรค์
แต่เพราะอะไรกันนะ? ‘เพื่อนของพี่ชาย’ คนนี้ ถึงไม่เคยฉวยโอกาสกับเธอแม้แต่ครั้งเดียว
เขาเป็นคนดีเหรอ?
หรือเพราะเธอเป็นน้องสาวของพิชยะเหรอ?
ไม่หรอก…
น้องสาวเพื่อนแล้วไงล่ะ ก็พี่ชายของเพื่อนในมหาวิทยาลัยนี่แหละตัวดี มาหน้าหม้อกับเธอไม่รู้กี่คนแล้ว
ธนาขึ้นชื่อเรื่อง ‘เจ้าชู้’ เขาก็น่าจะมีปฏิกิริยาอะไรเวลาที่อยู่กันตามลำพังกับสาวสวยอย่างเธอบ้างสิ
นี่อะไรกัน นอกจากจะชอบทำตัวเป็นสุภาพบุรุษ ‘จอมปลอม’ เวลาที่อยู่กับเธอ ยังทำเหมือนเธอไม่ใช่ผู้หญิงอีกต่างหาก
ขนาดอยู่ในสถานการณ์อันตรายแบบนี้ ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย
จริง ๆ แล้วเธอไร้เสน่ห์กับเพศตรงข้ามสินะ ความรักที่ผ่านมาถึงเป็นได้แค่เครื่องมือการแก้แค้น
“ตอบมาก่อน ผู้หญิงแบบฟินน์มีเสน่ห์ไหม” เมื่ออีกฝ่ายเอาแต่นิ่งเงียบ พิชชาก็รวบรวมความกล้าถามออกมาอีกครั้ง
กลิ่นร้อนแรงของเตกีล่าเจืออยู่ในลมหายใจอุ่นร้อน ผสมกับกลิ่นกายหอมกรุ่นเฉพาะตัวของหญิงสาวกระทบข้างแก้มของคนข้างบน จู่โจมประสาทสัมผัสของชายหนุ่มอย่างรวดเร็ว
ธนากลั้นหายใจในเสี้ยวนาทีต่อมา เบือนหน้าหนีจากปลายคางเรียวมนที่ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ แต่สีหน้ายังเรียบนิ่งไม่บ่งบอกอารมณ์
“ก็…ไม่เชิงหรอก” เขาพูดไปอย่างนั้น ไม่ได้ใส่ใจกับคำตอบของตนเอง แต่เพราะได้รับคำตอบคลุมเครือแบบนี้ พิชชาถึงยังดื้ออยู่
สองตาเลื่อนขึ้นไปจับจ้องริมฝีปากของอีกฝ่าย ก่อนจะออกแรงเท่าที่มีอยู่ ดึงร่างกำยำเข้ามาแนบชิดมากขึ้น
ร่างสูงเพรียวคร่อมร่างพิชชาอยู่ มือทั้งสองข้างยังไว้ตรึงกับฟูกที่นอน
ในช่วงเวลาที่ใกล้กันนั้น ธนากลืนน้ำลายเหนียวลงคออึกหนึ่ง เมื่อริมฝีปากอิ่มเคลือบสีแดงของคนใต้ร่างเผยอออกอย่างยั่วยวน
“จะทำอะไร” น้ำเสียงราบเรียบ สีหน้ายังคงนิ่งขรึม หากแต่ข้างในกายกลับรุ่มร้อน
“ก็ทำให้พี่ธนายอมตอบฟินน์ดี ๆ ไง” คำตอบของพิชชาทำให้เขารู้สึกใจคอไม่ดีขึ้นมา ยายตัวแสบของเขาทำตัวต่างออกไปจากทุกครั้ง
“ก็คงมีเสน่ห์แหละมั้ง” กับผู้หญิงคนอื่นเขาปากหวานกว่านี้หลายเท่า
แต่พอเป็นพิชชา กลับเหมือนมีเส้นบาง ๆ กั้นอยู่
“มั้ง...” แม้ตอนนี้สติรับรู้จะไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ แต่ก็ไม่มีทางที่เธอจะจำผิด
เห็นชัดว่าเจ้าของใบหน้าหล่อตี๋พิมพ์นิยมตรงหน้าเป็นพวกเจ้าชู้ตัวพ่อ ต้องตอบเรื่องแค่นี้ได้สบายอยู่แล้ว แต่ที่ตอบแบบมักง่าย หมายความว่าไง
พอเห็นพิชชามีสีหน้าไม่ค่อยพอใจ เขาเลยให้คำตอบอีกครั้ง
“เออ มีเสน่ห์ เธอเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์ พอใจยัง?” แทนที่เธอจะพอใจในคำตอบที่เขาอุตส่าห์พูดมันออกมาแล้วปล่อยให้เขากลับไปนอน แต่ดันมาทำให้หัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะ
“จริงเหรอ” ดวงหน้าของพิชชายามนี้เชิญชวนให้ตัวเองถูกรังแกมาก แต่โชคดีที่คนคร่อมบนตัวเป็นเขา เลยยับยั้งชั่งใจไว้ได้
“อืมม” ชายหนุ่มพยักหน้ายืนยันคำตอบ ขับไล่ความคิดด้านมืดออกอย่างรวดเร็ว
แต่ในวินาทีต่อมาเขากลับรู้สึกได้ถึงลมหายใจผ่าวร้อนที่ซอกคอและเรือนผมหมาดชื้นของตนเอง
“งั้นจูบฟินน์หน่อยสิ”