“คุยกันหน่อยสิ” “คุยอะไรฟินน์ต้องไปทำงานแล้ว” ตามความเป็นจริงระหว่างเธอกับเขาไม่มีเรื่องบาดหมางหรือเรื่องอะไรที่ทำให้ขุ่นเคืองใจแต่น้ำเสียงและสายตาที่พิชชาแสดงออกกลับดูคล้ายคนที่ไม่พอใจอยู่ลึก ๆ “มีสิ เรื่องที่เธอรับปากไว้เมื่อคืนไง” ดวงตาสีรัตติกาลคู่นั้นเหมือนจะส่องประกายเจิดจ้ามากกว่าเมื่อคืนนี้ หญิงสาวยังรู้สึกได้ถึงความหวิวหวามตอนที่ทั้งสองเจอกันที่แผนกแคนทีนก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะเมื่อสบตากันใกล้ ๆ แบบนี้ “รับปากอะไร?” หญิงสาวช้อนสายตามึนงงขึ้นไปมองชายหนุ่ม ไม่ทันจะได้คิดไตร่ตรองว่าค่ำคืนที่ผ่านมาเธอเผลอรับปากอะไรอีกฝ่ายเอาไว้ธนาก็ชิงพูดขึ้นมา “เมื่อคืนเธอรับปากว่าจะเล่นละครเป็นแฟนพี่ไง อันนี้ก็ลืมด้วยเหรอ?” นัยน์ตาลุ่มลึกของเขาเข้มขึ้น ราวกับต้องการเน้นย้ำท้ายประโยคของตัวเองและต้องการบอกอะไรเธอเป็นนัย ๆ “อ่อ เรื่องนี้เองเหรอ” เมื่อถูกทวงถามถึงสิ่งที่เธอตกปากรับคำพิชชาก็นึกขึ้นมาได