ตอนที่ 5 บ่อย ๆ เดี๋ยวก็ดี NC
เขาขมวดคิ้วเข้มเข้าหากันอย่างเครียดขึง ส่วนกลางกายปวดหนึบเมื่อรับรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายที่เขาจะเข้าไปในตัวของเธอ เขาไม่เคยเจอ ผู้หญิงที่เสนอตัวให้เขาไม่ได้เป็นแบบนี้ แต่ยายโง่นี่กลับมีของดีจนทำเอาร่างแกร่งรู้สึกว่าหัวใจเขากำลังเต้นโครมครามเพราะความตื่นเต้นจับใจ
“ผ่อนคลายหน่อย” เขาบอกเสียงเรียบ ไม่ได้อ่อนโยนอย่างพระเอกในละคร
ไม่มีการเล้าโลมเอาใจตั้งแต่แรก ไม่จูบ ไม่กอด เหมือนอย่างที่เธอเคยเห็นในละคร
“จูบได้ไหมคะ” เธอลองถามเขา เผื่อว่านั่นอาจเป็นวิธีที่จะทำให้เธอผ่อนคลายอย่างที่เขาต้องการ
ใต้หล้าเลื่อนสายตามาสบตาเธอ ก่อนจะยิ้มมุมปาก
“ฉันไม่จูบกับคนที่ไม่ชอบ”
มิรินแทบจะสำลักน้ำลายตัวเองเมื่อได้ยินคำนั้น เธอไม่แปลกใจที่คนอย่างเขาจะมีกฎของตัวเอง เพราะเขาก็ไม่ได้ไว้ใจใครง่าย ๆ ตั้งแต่แรก เธอจึงไม่ขอร้องเขาเรื่องนี้อีก
“ค่ะ” เธอตอบรับเบา ๆ แล้วปล่อยให้เขาทำตามที่ต้องการ
ใต้หล้าขยับฝ่ามือสำรวจจุดอ่อนไหวอีกครั้ง แม้ผู้หญิงคนนี้จะไวต่อการถูกสัมผัสแต่เขาก็เอาตัวเองเข้าไปไม่ได้ มาถึงขนาดนี้ถ้าจะล้มเลิกก็ไม่ใช่เขาแน่ ๆ
มือหนึ่งปลุกเร้าหน้าอก ส่วนอีกข้างคลึงขยี้กลีบกุหลาบอย่างไม่ปรานี หากว่ามันกลับสร้างความรู้สึกซ่านสยิวให้เธอไม่น้อย ร่างบอบบางสั่นระริกตอบสนองด้วยหยาดน้ำไหลซึมออกมาจนเปียกแฉะ เกิดเป็นเสียงลามกน่าอับอายความรู้สึกแปลบปลาบแล่นริ้วจากส่วนกลางกายลามมาถึงกลางอก
“อ๊า~”
ส่วนคับแน่นถูกคลี่ขยายด้วยนิ้วเรียวยาว เขาแทรกซึมเข้ามาในตัวเธอช้า ๆ จนกระทั่งลึกสุดปลายนิ้ว แผ่นหลังลอยขึ้นจากโซฟาโดยไม่รู้ตัว การกระทำที่ควบคุมไม่อยู่ของเธอสร้างรอยยิ้มมุมปากให้คนร่างสูง เธอก็ร่านเหมือนผู้หญิงคนอื่นที่เสนอตัวให้เขา ก็แค่โชคดีที่ยังเก็บมันเอาไว้อย่างดี พอเจอเข้าหน่อยก็ควบคุมอารมณ์ไม่ได้
ความเปียกลื่นกระจายทั่วทั้งช่องทางและเปรอะเปื้อนไปทั้งฝ่ามือเมื่อเขาขยับเข้าออกเป็นจังหวะที่เริ่มหนักหน่วง เกิดเป็นเสียงครางเบา ๆ จากคนที่นอนราบอยู่ตรงนั้น เธอสั่นไปทั้งตัวเหมือนคนสั่นกลัว แต่เขาเห็นว่าเธอกำลังสั่นสู่มือเขามากกว่า
จากหนึ่งนิ้วก็ถูกแทรกเข้าไปอีกนิ้ว คล้ายต้องการจะขยายปากทางเข้าให้กว้างขึ้น
นิ้วที่สอดเข้ามายังส่วนที่หดเกร็ง ขยี้ตรงจุดที่ไวต่อการถูกสัมผัสซ้ำ ๆ เล่นเอาร่างแบบบางสั่นเทิ้ม ปิดปากกลั้นเสียงครางที่น่าอายของตัวเอง ความรู้สึกที่ไม่เคยพบพานแผ่ซ่านไม่ทั่วร่าง เสียงดังเฉอะแฉะดังขึ้นพร้อม ๆ กับฝ่ามือที่เคลื่อนไหวอยู่กลางกายและเร่งจังหวะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
มิรินหักห้ามอารมณ์ส่วนนั้นไม่ได้ เธอเตลิดไปกับความเสียวซ่านที่เขามอบให้ ส่วนลึกในกายสั่นไหวจนเผลอขยับสะโพกตามจังหวะสอดรับกับการเคลื่อนไหวของนิ้วเรียวที่ถูกแทรกเพิ่ม ก่อนร่างแบบบางจะกระตุกเกร็ง
ร่างกายของเธอสะท้านวาบราวกับมีกระแสไฟแล่นไปทั่วร่าง เปล่งเสียงครางหวานอย่างไม่รู้ตัว พานให้ร่างกายของเขาตื่นตัวมากขึ้น ส่วนกลางกายแข็งขึงและปวดจนทรมาน
“อ้าขา” เขาเอ่ยปากสั่งเมื่อปล่อยให้เธอเสร็จสมไปพอแล้ว ฝ่ามือหน้าดันเรียวขาเล็กออกกว้าง ดวงตาคมกริบมองสำรวจกลางกายสีระเรื่อที่ถูกเปิดทางด้วยนิ้วของเขาและมีน้ำหวานเปียกไปทั่วอย่างพอใจ
นิ้วโป้งและนิ้วชี้คลี่คลึงส่วนนั้น ความโอฬารที่ตื่นตัวเต็มที่กดเข้าไปในช่องทางที่คับแคบช้า ๆ โดยมีน้ำหล่อลื่นของเธอนำทาง
“อ๊ะ” ใบหน้าสวยเหยเกกับความเจ็บปวดที่แล่นริ้วจากกลางกายลามมาถึงท้องน้อย
ส่วนปลายบานหยักเข้าไปในช่องทางคับแคบได้เพียงนิดก็ถูกบีบรัดจนเจ็บ เขากัดริมฝีปากกับความปวดหนึบที่เธอมอบให้ ร่างแกร่งโน้มตัวลงไปหาคนที่นอนตัวสั่นเทา เขาจูบลงที่ขมับก่อนจะเลื่อนลงมาที่ซอกคอหอมกรุ่น ลากลิ้นเลียเบา ๆ ก่อนจะดูดเบา ๆ ทว่ากลับเกิดเป็นรอยรักชัดเจนเพราะความขาวผุดผ่องของคนใต้ร่าง
“ทนหน่อยแล้วกัน” เขากระซิบบอกเธอแล้วสอดแขนเข้าใต้ร่าง กอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขนแข็งแรง
มิรินเกือบจะเคลิ้มตามการกระทำที่แสนอ่อนโยนของเขา ทว่าในวินาทีต่อมาเธอกลับถูกเขากระแทกความอลังการนั้นเข้ามาอย่างรุนแรงจนเหมือนมีมีดเล่มหนึ่งกรีดที่กลางกาย เกิดเป็นเสียงกรีดร้องของความเจ็บปวดที่เธอไม่เคยพบพานมาก่อนในชีวิตนี้
“ฮึก เจ็บ!” เธอเผลอขึ้นเสียงเพราะความรู้สึกที่เกิดขึ้น กำปั้นเล็ก ๆ ทุบลงไปที่ไหล่กว้างเบา ๆ อย่างไม่รู้ตัว อาจเพราะความเมามายด้วยที่ทำให้เธอกล้ากับเขา
ใต้หล้าไม่ได้สนใจว่าเธอจะรู้สึกแบบไหน ตอนนี้เขาก็เจ็บเหมือนกัน ราวกับจะบีบรัดเขาให้ตาย แต่ภายใต้ความเจ็บนั้นเขากลับชอบเหลือเกินเพราะไม่เคยมีใครทำให้เขารู้สึกได้แบบนี้ รู้สึกดีจนเหมือนจะแตกกระจายให้ได้
แม้ไม่มีคำพูดได้เอื้อนเอ่ยออกมาเพื่อนปลอบประโลมกัน แต่แขนแข็งแรงที่โอบกอดเธอไว้ไม่ยอมปล่อยก็เหมือนจะสร้างความอบอุ่นให้เธอได้ หรือเพราะเวลานี้เธอไม่เหลือใครเลยถึงได้รู้สึกดีกับการกระทำที่ไม่ตั้งใจของเขา
“เธอชื่ออะไรนะ” เขาเลื่อนใบหน้าหล่อเหลามองเธอ ทั้งคู่สบตากันนิ่ง ขณะที่อีกคนกำลังน้ำตาคลอเพราะความเจ็บเขาก้ไม่ได้รู้สึกอะไรไปมากกว่าอยากเอา อยากกระแทกแรง ๆ
“มิรินค่ะ” เธอบอกเขาเสียงสั่นขณะที่ร่างกายส่วนล่างของเขาเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง
“อืม เรียกฉันว่าใต้หล้า” เขาแนะนำตัวเองก่อนจะขยับใบหน้ามาแนบที่แก้มเธอ
ความตื่นตัวร้อนผ่าวค่อย ๆ ขยับออกก่อนจะแทรกเข้ามาช้า ๆ ทำอย่างนั้นอยู่หลายทีก่อนที่จังหวะนั้นมันจะเริ่มเร็วขึ้นอย่างรู้สึกได้
“โคตรแน่น ทำไมเธอไม่เคยวะ” เหมือนเขากำลังบ่นกับตัวเอง ขณะที่คนตัวเล็กกำลังถูกเขาตอกกระแทกหนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆ
“เบา ๆ ได้ไหม หนูเจ็บ” เธอน้ำตาคลอ แม้มันจะมีความรู้สึกชื่อหนึ่งแทรกซึมเข้ามา แต่ความเจ็บมันก็ยังชัดเจน
“เดี๋ยวก็ดี” เขาบอกเธออย่างไม่สนใจเพราะตอนนี้เขาอยากปลดปล่อยความทรมานนี้ออกไปเสียที “ทำบ่อย ๆ เดี๋ยวมันก็ไม่เจ็บ”
ทำบ่อย ๆ หรือ...
มิรินร้อนวาบไปทั่วหน้า ถึงแม้มันจะเป็นสิ่งที่เธอเสนอให้เขาเองเพื่อเอาตัวรอดแต่ถ้าเธอต้องเจอแบบนี้บ่อย ๆ มันไม่แย่หรืออย่างไร มันเจ็บจนไม่รู้ว่าทำไมผู้คนถึงชอบเรื่องแบบนี้กัน
ร่างกายเสียวและเจ็บแปลบไปทั้งตัวมากกว่าจะรู้สึกดี ขาทั้งคู่ถูกเขาดันแยกออกจากกันจนเปิดเปลือยความน่าอายที่กำลังถูกเติมเต็ม ถูกเขาเข้ามาสำรวจจนลึกสุดปลายจนไม่เหลืออะไรให้อายแล้ว
ร่างสูงหยัดตัวขึ้น มองดูแก่นกายที่ถูกเธอกลืนกินเข้าไปทั้งลำ ความสดสวยที่ตรงนั้นมันทำให้เขาอยากมอง ขณะที่มองหัวใจแกร่งก็รู้สึกเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ เขาไม่เคยคิดว่าจะอยากมองตัวตนของตัวเองที่กำลังถูกดอกไม้งามกลืนกินได้มากขนาดนี้
ร่างแกร่งขยับกายเข้าออกเร็วขึ้น ยิ่งมอง ยิ่งได้ยินเสียงครวญครางไร้เดียงสาเขาก็ยิ่งอยากกระแทกแรง ๆ ปฏิกิริยาที่เหมือนจะปฏิเสธตัวตนของเขาในคราแรกเริ่มอ่อนลง กลายเป็นตอบสนองมากขึ้นนั้นทำให้เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาถึงกับยิ้มมุมปาก ราวกับนักล่าที่ได้เห็นเหยื่อยอมสิโรราบอยู่ต่อหน้า
“แม่ง น่า...ฉิบหาย” เขาสบถถ้อยคำหยาบโลน ขณะที่กายแกร่งโถมกระหน่ำเข้าใส่ตัวตัวเธอด้วยอารมณ์กระสัน สัญชาตญาณความดิบเถื่อนของเขาค่อย ๆ ถูกเปิดเผยออกมา
สะโพกของเธอถูกยกสูงขึ้น ก่อนจะถูกเติมเต็มด้วยตัวตยของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความเจ็บที่เธอเคยบอกว่ามันทรมาน ถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกเสียวซ่าน ความแข็งขึงจมลึกไปสุดความยาว จนรู้สึกได้ถึงแรงบีบรัดอย่างหนักหน่วง
อกอวบอิ่มสั่นสะท้านไปตามแรงโยกที่ถาโถมเข้าใส่ มันยั่วยวนตาจนเขาอดไม่ได้ที่จะเอื้อมมือข้างหนึ่งไปขยำอย่างมันเขี้ยว ขณะที่สะโพกสอบยังคงทำหน้าที่สุดกำลัง