ตอนที่ 22 เปลี่ยนไปเยอะ
+++แทน+++
จากวันแรกที่คุณย่าพาผมมาปล่อยทิ้งไว้ที่นี่ สามอาทิตย์ผ่านมาแล้ว ที่ผมเหมือนได้เปิดโลกกว้างออกมาจากโลกใบเดิม ที่โคตรสมบูรณ์แบบใบเดิมของผม
โลกที่เต็มไปด้วยความสุขสบาย กลับกลายมาเป็นโลกใบใหม่ที่ผมไม่เคยนึก ไม่เคยฝันมาก่อนว่าจะได้พบ ได้เจอ ได้รู้จัก ทุกอย่างที่นี่คือความแปลกใหม่ พิกล พิการ พิสดาร พิลึก พิลั่น ไร้ซึ่งความสมบูรณ์แบบ
สามอาทิตย์ก่อนผมยังไปไหนมาไหนด้วยรถซุปเปอร์คาร์ราคาสี่สิบกว่าล้าน แต่ดูตอนนี้สิครับ รถมอเตอร์ไซค์กลางเก่า กลางใหม่ ที่จอดทิ้งไว้สักเดือนก็คงไม่มีใครกล้าขโมย คือยานพาหนะที่ไอ้พวกลิงทะโมนทั้งเจ็ดสลับกันขี่มารับผมไปเที่ยวเล่นในฟาร์ม ห้างสรรพสินค้าแบรนด์ดังที่ผมเคยเดินเลาะเล่นถลุงเงินของคุณพ่อ คุณแม่วันละหลาย ๆ หมื่นหรือบางครั้งก็เป็นหลักแสน กลายมาเป็นผมรู้สึกสนุกที่จะได้ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ไอ้ปืน ไอ้เต้ย หรือไอ้โอ๊ตออกไปอยู่ตามคอกม้าคอกวัวแทน จากที่เคยกินอาหารมื้อละเป็นหมื่น เวลากินอะไรแต่ละทีก็ต้องถ่ายรูปอัพลงไอจีให้คนอื่นอิจฉาเล่น ๆ แต่ดูตอนนี้สิอาหารที่ผมกินเริ่มพิลึกพิลั่นเข้าไปทุกที ตั้งแต่สัตว์ประหลาดทอด ตีนไก่ ไส้หมู หนูผัดเผ็ด และอีกสารพัดของแปลกที่ไอ้พวกนี้พาผมเปิบพิสดาร จนผมคิดว่าไม่มีอะไรในโลกนี้อีกแล้วที่ผมจะไม่กล้ากิน
“คุณแทน ลงมาเร็ว ๆครับ” ไอ้พวกเจ็ดลูกกรอกกวักมือเรียกผมยิก ๆ
วันนี้มันบอกว่ามีเรื่องสนุกจะให้เล่น ไอ้ปืนขี่มอเตอร์ไซค์ไปรับผมที่บ้านตอนบ่ายสามกว่า ๆ ไอ้ห่าเอ๊ยแดดกำลังแรงเลย มึงจะจับกูมาย่างไฟหรือไงไอ้ชิบหาย มันพาผมมาสระน้ำเก่า ๆ ซึ่งอยู่ลึกสุดของฟาร์ม
สภาพพวกมันตอนนี้คือเปรตดี ๆ นี่เอง แต่ละคนใส่เพียงกางเกงบอลขาสั้นพันจนถึงโคนไข่ ยกขานิดนึงนี่ไข่ปลิ้นออกมานอกกางเกงแล้วครับ มึงแก้ผ้าเดินกันเลยก็ได้นะไอ้ชิบหาย เห็นแล้วทุเรศลูกกะตา เสื้อผ้าท่อนบนอย่าไปสน เพราะมันถอดเสื้อเดินอาบแดดยามบ่ายกันตัวเกรียมมันเลื่อมทุกตัว ดีหน่อยที่แม่งซิกแพคแน่น ๆ กันทุกคน เรียกได้ว่าเฟิร์มสุด ไม่ต้องพึ่งฟิตเนสเลยครับ
ถามไปถามมาถึงรู้ว่าลูกพี่มันให้มารื้อสระน้ำเก่าตรงนี้เพราะจะขยายฟาร์มลึกเข้ามาอีก ไอ้ที่มึงมีนี่ยังกว้างไม่พออีกหรือไงวะไอ้พี่โฬม
ผมอยู่มาตั้งนานก็ยังไปเที่ยวไม่ทั่วฟาร์มเลย ไอ้ขุนบอกผมว่า มันจะลงจับปลากันเลยไปตามผมมาด้วย เพราะจับปลาเป็นอะไรที่สนุกมาก ผมเบ้หน้าใส่มันเพราะยังมองหาความสนุกไม่เจอ ดูจากสภาพพวกมันแล้วบอกตรง ๆ กูนึกไม่ออกว่ามันจะสนุกตรงไหน
แต่ไหน ๆ ก็หลวมตัวมากับพวกมันแล้วนี่ครับ เล่นกับมันสักหน่อย ผมถอดเสื้อเชิ้ตราคาหลายพันของผมออก แล้วโยน ๆ ไปสุม ๆ อยู่กับเสื้อผ้าของพวกมันนั่นแหละ แล้วก็ไม่ลืมถอดกางเกงออกด้วย ใส่ไว้แค่บอกเซอร์ตัวเดียวพอ สามสิบนาทีหลังจากนั้นผมก็รู้แล้วครับว่ามันสนุกตรงไหน
“ไอ้เหี้ยปืน”
ผมร้องด่าไอ้ปืน เมื่อมันพยายามสอนให้ผมจับปลาช่อนตัวเท่าแขนที่ดิ้นปั้ดๆ อยู่ตรงหน้า ผมกระโจนพุ่งเข้าไป แล้วรีบใช้มือทั้งสองตะครุบมันไว้ แต่ไอ้ปลาห่านี่ก็ดิ้นเก่งชิบหาย มันดิ้นจนหลุดมือผมไปได้หลายครั้ง ผมต้องวิ่งตามไปจับมันอยู่สองสามทีกว่าจะจับได้ เรียกว่าล้มลุกคลุกคลาน บนหัวกบาลมีแต่โคลนเปรอะเต็มไปหมด
“สุดยอดครับคุณแทน ตัวนี้ย่างเกลือเลยเย็นนี้อร่อยแน่”
ไอ้พวกเหี้ยนี่ปรบมือกันเกรียวกราว ได้ใจสิครับพอมีคนชมแบบนี้ บอกเลยตัวลอยหวิว ๆ หน้าบาน ผมยิ้มยิงเห็นแค่ฟันขาว ๆ เพราะตอนนี้ไม่เหลือคราบคุณหนูแทนแล้วครับ ผมเดินส่อง ๆ ไปตามพื้นโคลน เออมันดูยากจริงๆ แยกไม่ค่อยออกว่าอันไหนโคลน อันไหนปลาผมเพิ่งรู้ก็วันนี้ว่าปลาแม่งพรางตัวเก่งชิบหาย
วันนี้ผมได้เรียนรู้ว่าจริงๆแล้วปลาในประเทศนี้มีมากกว่าปลาแซลมอน ปลาทับทิม ปลากะพง เพราะไอ้ปลาที่พวกมันพาผมหกคะเมนตีลังกาจับมาได้นี่ เป็นปลาที่ผมไม่รู้จักเลยสักชนิด ตั้งแต่ปลาหมอ ปลากระดี่ ปลาซิว ปลาเข็ม กุ้งฝอย สารพัดเยอะแยะเต็มไปหมด
นอกจากนั้นมันยังสอนให้ผมจับปูนาด้วย จะว่าปูนาก็คงไม่ถูกนัก เพราะตรงนี้มันเป็นสระน้ำไม่ใช่นาข้าว ปูนาไทยตัวใหญ่ ๆ เป้ง ๆ จับแรก ๆ บอกได้เลยโดนมันหนีบนิ้วจนร้องเสียงหลง ไอ้พวกห่านี่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยนอกจากยืนหัวเราะ อ๊ะ....อะไรแวบๆ ตรงนั้น ผมวิ่งเข้าไปหาตัวอะไรสักอย่างที่มันไหว ๆ อยู่ใต้โคลน
“อ๊ากกกก...”
ผมร้องเสียงหลง จนไอ้พวกเจ็ดลูกกรอกสะดุ้ง พุ่งปราดมาหาผมอย่างไม่ได้นัดหมาย ผมกระโดดใส่ไอ้เหี้ยเต้ยจนมันล้มคะมำคว่ำไปตามๆ กัน
“งู” ผมร้องเสียงหลงชี้มือไปทางไอ้ตัวที่มันผลุบๆ โผล่ๆ อยู่
“ปลาไหลครับคุณแทน” ไอ้ขุนตะโกนบอก
“ไหลพ่อมึงสิ มึงเอามันไปไกล ๆ กูเลยนะ” ผมตะเกียกตะกายใส่ไอ้เต้ยทั้ง ๆ ที่ยังนั่งจมกองขี้โคลนกันอยู่
ผมนั่งเอาขาเกี่ยวเอวไอ้เต้ยไว้แน่น แต่มือไปกอดขาไอ้โอ๊ตไว้ สภาพช่างน่าอเนจอนาถเหลือจะเอ่ย ไอ้ขุนจัดการจับไอ้ปลาไหลเปรตนั้นโยนใส่ลงไปในถังใบหนึ่งที่พวกผมใส่ปลาตัวอื่นๆ ลงไปก่อนหน้านี้ ตัวแม่งใหญ่เกือบเท่าแขนผม ยาวเกือบเมตร ผมนี่ขนหัวลุกซู่เลยครับ
“ไอ้ตัวนี้ถ้าได้เอาไปทำปลาไหลต้มเปรตนะคุณแทน เด็ดเลยนะครับ” ไอ้ขุนบอกผม
“เปรตอะไรของมึงวะ” ผมเบ้หน้า เบะปากขนหัวลุกชัน
“ก็เหมือนต้มยำนี่แหละครับ เดี๋ยวเอาไว้ผมจะทำมาให้คุณแทนชิม หรือไม่ก็เป็นผัดเผ็ดปลาไหลโหย...พูดแล้วน้ำลายไหล” ไอ้ขุนยิ้มเจ้าเล่ห์
“ไอ้ตัวนี้กูขอผ่าน ไม่เอาอะมึง มึงเอาไปแดกเองเถอะกูทำใจไม่ได้ว่ะ” ผมปฏิเสธมันแบบจริงจัง ไม่รู้ว่ามันเข้าใจความหมายของผมหรือเปล่า เพราะหน้าตามันแมร่งโคตรเจ้าเล่ห์เลย
ผมเล่นสนุกคลุกโคลนจนลืมเวลาไปเลย แดดที่แรงอย่างกับเตาย่างหมูกระทะเมื่อบ่ายอ่อนลงมากแล้ว ผมเหลียวไปเห็นไอ้พี่โฬมควบม้ามาแต่ไกล หมดเวลาสนุกแล้วสิ ไอ้พี่โฬมแม่งต้องมาหาเรื่องผมอีกแน่ ๆ เอาไงดีวะกู ผมพยายามคิดหาทางรอด
“........” ไอ้พี่โฬมควบม้ามาหยุดยืนดูนิ่ง ๆ อยู่ตรงข้างๆ สระน้ำแล้วก็มองมาที่ผมพร้อมกับส่ายหัว มันไม่ได้พูดอะไร แต่ผมรู้ว่าในหัวมันอะคิดอะไร มึงคงจะด่ากูในใจอยู่ละสิ
+++โฬม+++
ผมวางแผนจะขยายพื้นที่ทำแปลงปลูกผักและเกษตรแบบผสมผสานเพิ่มเติมนิดหน่อย ลองสำรวจดูพื้นที่ว่างๆ อยู่ภายในฟาร์มถึงได้เห็นว่ามีพื้นที่ยังพอปรับปรุงให้สามารถนำมาใช้งานได้
ผมบอกให้ไอ้พวกเจ็ดลูกกรอก ไปช่วยสูบน้ำออกจากสระน้ำขนาดใหญ่แถว ๆ ท้ายฟาร์ม เพราะคิดว่าเดี๋ยวจะขุดสระเพิ่มอีกสักสระนึง แล้วปลูกอะไรเพิ่มอีกนิด ๆ หน่อย ๆเพื่อเก็บไว้เลี้ยงคนงานในฟาร์ม และหากผลผลิตดีก็แบ่งส่วนหนึ่งเอามาขายที่หน้าฟาร์มได้
จนบ่ายแก่ ๆ แล้วเห็นพวกมันเงียบหายไป เลยคิดว่าจะขี่ม้าไปดูความเรียบร้อยสักหน่อย แต่ให้ตายเถอะไม่คิดจริง ๆ ว่าสิ่งที่ผมกำลังเห็นอยู่มันจะทำให้ผมเหนื่อยใจขนาดนี้
น้องแทนกับสภาพที่เรียกว่าคลุกขี้โคลน ยิ่งกว่าควายที่ผมเลี้ยงเอาไว้ในฟาร์ม เมื่อเวลามันลงเล่นโคลนคลายร้อนเสียอีก สภาพเปื้อนตั้งแต่เส้นผมจนถึงเล็บเท้า เสื้อผ้าก็ไม่ใส่จากตัวขาวๆ ใส ๆ ตอนนี้บอกได้เลยว่ามองไม่ออกสักนิด ว่าพ่อคุณพ่อทูนหัวของผมเป็นคุณหนูทายาทหมื่นล้าน
เจ้าเด็กดื้อของผมนั่งลงไปกับบ่อโคลน เอาขาเกี่ยวเอวไอ้เต้ยไว้แต่แขนทั้งสองข้างหันไปเกาะขาไอ้โอ๊ตแน่น นี่ถ้าไม่รู้จักคุ้นเคยกันมาก่อน คงแยกไม่ออกจริงๆ ว่าเป็นใครมาจากไหน
ไอ้พวกบรรดาลูกเจ็ดกรอกของผมยังพอดูหน้าดูตารู้เรื่องอยู่ มีเปื้อนเปรอะบ้างก็ตามเนื้อตัวและแขนขา แต่พ่อคุณคนน่ารักของผมนี่สิ ไปทำอีท่าไหนถึงได้กลายเป็นคนชุบโคลนได้ขนาดนั้น ผมถอนหายใจออกมาหนัก ๆ
“พอได้แล้วกลับบ้าน”
ผมร้องตะโกนออกไป สายตายังจับอยู่ที่เจ้าเด็กจอมซนของผม ไอ้น้องแทนเบ้ปากใส่ผมทำปากขมุบขมิบเหมือนนินทาอะไรผมอยู่ ก่อนจะค่อย ๆ โหนเอวไอ้โอ๊ตลุกขึ้นยืน
“ว้า...หมดเวลาสนุกแล้วสิ” เสียงคนตัวเล็กบ่นอุบอิบให้ผมได้ยิน
“ขึ้นมา”
ผมยื่นมือให้คนตัวเล็กซึ่งตอนนี้เดินขึ้นมาจากบ่อโคลนแล้ว สภาพดูไม่ได้เลยจริง ๆ เจ้าเด็กดื้อเดินกางแขนกางขาเพราะมันเลอะทั้งตัวจริง ๆ ไอ้เจ้าพวกลิงทโมนก็หัวเราะชอบใจกันใหญ่
“ขึ้นไปทำไม” น้องแทนแหงนคอตั้งบ่าคุยกับผมซึ่งยังนั่งอยู่บนหลังม้า
“ก็กลับบ้านไง ไม่กลับหรือไง” ผมถามพร้อมกับกวักมือเรียกให้น้องแทนส่งมือให้ผม
“ไม่เอา จะกลับกับไอ้เหี้ยปืน”
คนตัวเล็กสะบัดหน้าใส่ผมอย่างเอาแต่ใจ ผมหันไปหาไอ้ปืนที่มันยืนทำหน้าเหวออยู่ใกล้ ๆ ก่อนจะตาขวางใส่มัน
“คุณแทนขึ้นม้ากลับกับลูกพี่ดีกว่าครับ เดี๋ยวผมขี่มอไซค์ไปกับไอ้เสก” ไอ้ปืนรู้หน้าที่มันรีบเดินไปหิ้วถังใส่ปลาแล้วยกตีนถีบไอ้เสกเบา ๆ เป็นการสะกิดที่พวกมันทำกันบ่อย ๆ
“แต่กูจะกลับกับมึง ส่วนไอ้เสกมึงไปรถกระบะกับพวกไอ้เหี้ยขุนนู่นไป หลบ ๆ กูอยากอาบน้ำแย่แล้วเนี่ย ไอ้ขี้โคลนห่านี่ก็แข็งติดหัวติดหูกูจนจะขยับตัวไม่ได้แล้ว”
น้องแทนเดินไปผลักไอ้เสกให้พ้นทาง แล้วขึ้นคร่อมรถมอเตอร์ไซค์ไอ้ปืนทันที ไอ้เหี้ยปืนหันมายิ้มแห้ง ๆ ให้ผม เหมือนจะขอโทษ ผมจึงพยักหน้าให้มันพาคนซ้อนท้ายกลับบ้านไปอย่างที่ต้องการ
“ไอ้ปืน มึงก็ไปสักทีสิวะเร็ว ๆ กูอยากอาบน้ำ”
ไอ้น้องแทนจับบ่าทั้งสองของไอ้ปืนเขย่าแรง ๆ เป็นการเร่งเร้า สรุปว่าอุตส่าห์จะชวนให้ขี่ม้าไปด้วยกัน ก็เป็นอันพับกระดาน เพราะเจ้าเด็กดื้อที่ดื้อเอาจริงเอาจังเหลือเกิน เดาทางยาก เอาใจไม่ค่อยถูกเลย
ผมควบม้าตามหลังไอ้ปืนไปติด ๆ เมื่อพวกลิงทโมนมาถึงก็พากันวิ่งไปกระโดดลงสระน้ำ ชนิดที่ไม่มีใครรอใคร รวมไปถึงเจ้าคนตัวเล็กของผมด้วย
น้องแทนดำผุดดำว่ายสนุกสนานอยู่กับไอ้พวกเจ็ดลูกกรอก ดูสนิทสนมกันมากจริง ๆ ต่างกับวันแรก ๆ ที่ตั้งท่าแต่จะเหวี่ยงใส่ไม่หยุด แต่ไอ้พวกเจ็ดลูกกรอกของผมพวกมันเป็นคนดีทีเดียว เห็นอยู่หลายครั้งหลายคราที่ถึงแม้น้องแทนจะทำตัวเจ้าอารมณ์ เอาแต่ใจทำลายข้าวของและพูดจาหยาบคายใส่พวกมัน แต่ดูพวกมันก็รักและเอ็นดูน้องแทนกันทุกคน
หลังจากลงไปล้างหัวล้างตัวกันแล้ว ใบหน้าขาวใสของคนน่ารักของผมก็กลับมาสดใสเหมือนเดิม รอยยิ้มหวานและสดใสกับเสียงหัวเราะที่พวกผมไม่ค่อยได้ยินบ่อยนัก ดังขึ้นกลางสระมันทำให้บรรยากาศเย็นนี้ช่างดีเหลือเกิน
“คุณแทนว่ายน้ำแข่งกันมั้ยครับ” ไอ้ขุน ไอ้ปืนร้องท้าทายเสียงดังลั่น
“นี่พวกมึงท้ากูเหรอ” น้องแทนตะโกนตอบกลับไป
“พนันกันก็ได้นะคุณแทน ถ้าคุณแทนแพ้คุณแทนต้องกินปลาไหลต้มเปรตกับผม” ไอ้ขุนบอก
“อี๋ พวกมึงนี่นะเป็นยักษ์เป็นมารมาเกิดกันหรือไงวะ แดกห่ากันแต่ละอย่าง เออ ๆ ก็ได้แข่งก็ได้แล้วถ้ามึงแพ้ล่ะ” น้องแทนเอ่ยขึ้นบ้าง ผมเดินมาหยุดยืนดูได้บรรดาลิงทะโมนท้าแข่งว่ายน้ำกันตรงศาลาไม้พร้อมกับเพื่อนผมอีกสองคน
“อืม...ถ้าคุณแทนชนะ ผมยอมให้คุณแทนสั่งให้ผมทำอะไรก็ได้หนึ่งอย่าง ตกลงมั้ยครับ”
“ก็ได้ ดีลตามนี้แล้วใครจะแข่งบ้าง” เจ้าเด็กดื้อหันไปมองรอบตัว
“แค่คุณแทน กับผม งั้นว่ายจากริมสระฝั่งโน้นมาสุดที่ศาลาที่ลูกพี่ยืนอยู่เป็นไงครับ” ไอ้ขุนหันไปชี้ไม้ชี้มือ
“โห สระฝั่งนู้นกูจะโดนเหี้ยลากไปแดกมั้ยเนี่ยไอ้เหี้ยขุน”
น้องแทนตะโกนด่าไอ้ขุนจนพวกผมหัวเราะ นึกไปถึงเมื่อวันแรก ๆ ที่น้องแทนถูกผมทำโทษจับโยนลงไปในสระน้ำ แล้วมีตัวเหี้ยว่ายน้ำเข้ามาตะกายจนเป็นแผล
“ครั้งนี้ไม่มีหรอกครับเชื่อผม”
แล้วน้องแทนกับไอ้ขุนก็พากันว่ายน้ำไปจนสุดริมสระอีกฟากหนึ่ง ระยะทางจากริมสระน้ำอีกฟากหนึ่งมาจนถึงศาลาไม้ริมน้ำที่ผมยืนอยู่ระยะทางก็ราว ๆ ยี่สิบเมตร เมื่อกรรมการจำเป็นทั้งหลายส่งสัญญาณ
นักแข่งว่ายน้ำทั้งสองก็ออกตัวอย่างรวดเร็วทั้งสองคน ปกติไอ้ขุนเป็นคนที่ว่ายน้ำเก่งมาก ในบรรดาพวกมันทั้งหมดเจ็ดคน แต่วันนี้มันโดนน้องแทนทิ้งช่วงห่างเกือบสามเมตร ผมเพิ่งรู้ว่าคนตัวเล็กนี่ว่ายน้ำเร็วอย่างกับปลา
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า มึงแพ้” น้องแทนหัวเราะร่าอย่างอารมณ์ดี
“โห คุณแทนทำไมว่ายเร็วจังครับ” ไอ้ขุนที่เข้าเส้นชัยทีหลังหน้าหงิก
“กูลืมบอกไปว่ากูเป็นนักกีฬาว่ายน้ำน่ะ” น้องแทนยักคิ้วใส่ไอ้ขุนสองที
“อ่ะๆ ยอมก็ได้ แล้วคุณแทนจะให้ผมทำอะไรครับ” ไอ้ขุนเอ่ยขึ้นเสียงอ่อย
“อืม ทำอะไรดีวะ” น้องแทนยกนิ้วขึ้นมาเคาะลงที่ข้างขมับขวาเหมือนพยายามใช้ความคิด
“กูยังคิดไม่ออก เอาไว้กูคิดออกกูค่อยบอกมึงล่ะกันนะ”
สักพักหนึ่งพวกลิงทโมนทั้งหลายก็ค่อยๆ ทยอยเดินขึ้นมาจากสระน้ำ เพื่อกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้ามาเตรียมตัวกินข้าวเย็น
ไอ้ปืนกับไอ้ขุนขึ้นมาแบบตัวเปียก ๆ เดินอ้อมไปในครัวยกเตาถ่านย่างบาร์บีคิวมาแล้ว เป็นไอ้ขุนที่หายไปในครัวพักใหญ่ ก่อนจะกลับมาพร้อมกับปลาช่อนตัวใหญ่ที่มีเกลือพอกมาจนขาว
เจ้าเด็กดื้อของผมเดินขึ้นมาจากสระจนผมหัวใจแทบวาย เพราะพ่อคุณเดินอวดความขาวสว่างมาแต่ไกล ซึ่งทั้งเนื้อทั้งตัวยังมีแค่บอกเซอร์สีส้มชาไทยเนื้อบางๆ ที่ตอนนี้เปียกน้ำลู่แนบไปกับผิวกาย ท่อนขาเรียวบางอย่างกับขาผู้หญิง อย่าถามหาขนหน้าแข้งหงิก ๆ งอเหมือนไอ้พวกลิงทั้งหลายนั่น เพราะไม่มีให้เห็นเลยสักเส้น ขาผู้ชายอะไรวะจะเนียนขนาดนั้น ท่อนบนเปลือยเปล่าอวดแผงอกบอบบางแต่สมส่วนผิว อ่อนบางสองข้างสีชมพูสดมันแข็งขึ้นมาเป็นไตคงเพราะเจ้าของร่างนั้นหนาวสั่น ผมเห็นเจ้าน้องแทนขนลุกชัน จนต้องยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมากอดตัวเองไว้ คงเพราะอากาศตอนเย็นที่นี่จะเย็นลงนิดหน่อยเพราะติดภูเขาแล้วมีลมพัดมาเป็นระยะ ๆ
ผมทันเห็นไอ้ปืนมันรีบหันหน้าเบือนสายตาหนีไอ้น้องแทนทันที ส่วนไอ้ขุนยืนตาค้างกระพริบตาปริบ ๆ ส่วนคนอื่น ๆ ต่างก็เหมือนพยายามหลบเลี่ยง ไม่จ้องมองเจ้าเด็กน้อยของผมตรง ๆ ซึ่งผมก็พอจะเข้าใจพวกมันแหละ ว่าในสมองตอนนี้พวกมันตอนนี้กำลังคิดอะไรกันอยู่ ไอ้ใบชาอมยิ้มเหมือนจะล้อเลียนผม ส่วนไอ้ธีร์ก็ยกมือขึ้นมาลูบคางเล่น ๆ เหมือนพวกมันกำลังจะแซวผมนั่นเอง ไอ้ชิบหายเอ๊ยพวกมึงแต่ละคนนี่นะ น้องแทนนี่ก็ช่างไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยจริง ๆ สินะ ผมถอนหายใจออกมาหนักๆ
“ขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน”
ผมเดินไปคว้าข้อศอกคนตัวเล็ก ที่กำลังจะเข้าไปร่วมวงกับไอ้พวกนั้นทันที ไม่ใช่ว่ามันดูไม่ดีหรอก แต่มันวาบหวิวเกินไป เจ้าเด็กน้อยนี่จะรู้มั้ยนะว่าตัวเองนั้นน่ารักขนาดไหน
แค่ผมคนเดียวพอแล้ว ที่ได้เห็นเนื้อในใต้ร่มผ้านั่น ผมหวงไม่อยากให้ใครหน้าไหนมันมามองคนของผม ถึงจะเป็นเพื่อนสนิทของผม หรือแม้แต่ไอ้พวกเจ็ดลูกกรอกของผมก็เถอะ
“ปล่อยได้แล้ว” ไอ้น้องแทนสะบัดข้อศอกออกจากมือผมเมื่อเดินมาถึงหน้าประตูห้อง
“ยังไม่ถึงห้องเลย” ผมร้องยักคิ้วใส่คนตัวเล็ก
“ก็ถึงแล้วนี่ไงลงไปข้างล่างได้แล้ว แทนจะอาบน้ำ” เจ้าคนน่ารักหันหลังเปิดประตูเข้าห้องไป แต่ผมคงไม่ปล่อยไปง่ายๆ หรอกนะ
ผมผลักประตูเดินตามเข้าไป ก่อนจะปิดมันลงแล้วคว้าเอาคนตัวเล็กมาไว้แนบอกแล้วฉกเอาริมฝีปากนุ่ม ๆ นั้นมาครอบครองอย่างรวดเร็ว
น้องแทนร้องอู้อี้ประท้วงผม พร้อมกับใช้กำปั้นเล็ก ๆ ทุบอกผมไปด้วย แต่ก็ไม่ได้นานนักหรอก เพราะเจ้าคนตัวเล็กที่ถูกผมขโมยจูบสักพักก็เคลิบเคลิ้มจนลืมตัวเหมือนกัน ริมฝีปากบางเผยอรับผมพร้อมกับอนุญาตให้ผมควานหาตักตวงความหวานจากริมฝีปากบางนั้นจนพอใจ
“พอแล้วแทนจะอาบน้ำ” คนตัวเล็กประท้วงผม
“ให้พี่ช่วยอาบมั้ย” ผมเชยคางเล็ก ๆ นั้นให้มองหน้าผมตรง ๆ เพราะน้องแทนไม่ยอมสบตาผมเลย
“ไปได้แล้ว”
เจ้าคนน่ารักก้มหน้านิ่งผลักอกผมออกแรง ๆ แล้ววิ่งหายเข้าห้องน้ำไป ผมยิ้มอย่างพอใจ และไม่ลืมเดินไปหยิบเอาผ้าเช็ดตัวในตู้เสื้อผ้ามาแขวนไว้ให้หน้าประตูเหมือนเดิม
ไม่นานนักเจ้าเด็กดื้อคนน่ารักของผมก็เดินลงมาจากบ้านอย่างอารมณ์ดี ใบหน้าหวานเปื้อนรอยยิ้มวิ่งถลาเข้าไปหาไอ้โดมที่ยืนหมุนกลับด้านปลาช่อนย่างเกลืออยู่ คนตัวเล็กก้มๆ เงยๆ มองทุกอย่างด้วยความสนใจ เหมือนอยากจะช่วยแต่เจ้าตัวคงไม่รู้จะช่วยยังไงเพราะดูเก้ ๆ กัง ๆ เหลือเกิน
“คุณแทนทำอย่างนี้ครับเอามือจับตรงนี้ อย่าไปจับตรงนั้น”
ไอ้โดมช่วยอธิบาย น้องแทนพยักหน้าหงึกๆ แล้วก็ยืนเฝ้าปลาช่อนย่างเกลือสามตัวเขื่อง ๆ นัยน์ตาสุกสดใส จนไอ้ขุนเดินออกมาจากในครัว พร้อมกับยกหม้อต้มขนาดใหญ่ออกมาตั้ง พอดีเวลากับที่ไอ้ปืนขับรถเอาอาหารมื้อเย็นมาส่งพอดี
“โอ้โห ทำไมวันนี้กับข้าวเยอะจัง” คนตัวเล็กวิ่งกระโดดมาชะเง้อหน้าดูรายการอาหาร
“ก็วันนี้ได้ปลาที่เราไปจับกันมาเพิ่มไงครับเลยเยอะหน่อย ไอ้ขุนมันเข้าไปทำต้มยำปลาช่อนที่คุณแทนจับได้มาให้ด้วยนะครับในหม้อนั่น ปลาช่อนย่างเกลือบนเตานั่นอีก อ้อมีปูนาด้วยครับ จับได้มาเกือบสิบตัว ผมเอาย่างไฟไว้ให้คุณแทนเรียบร้อยแล้วละครับ” ไอ้เต้ยสาธยาย ไอ้น้องแทนตั้งใจฟังตาเป็นประกาย