ตอนที่ 14 ภาพจำ
+++แทน+++
ผมกลับขึ้นมาบนห้องโดยตั้งใจว่าจะขึ้นมานอนต่อ แต่พอขึ้นมานอนจริง ๆ มันก็ข่มตาไม่หลับ ผมเดินเข้าไปในห้องน้ำพร้อมกับปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออก เพื่อสำรวจร่องรอยแปลกประหลาดบนตัว รอยนี้ผมเห็นมันตั้งแต่เมื่อเช้าตอนอาบน้ำแล้ว ยังคิดในใจ งง ๆ อยู่ว่ารอยอะไร
ผมเคยมีอาการแพ้ยา แต่มันไม่ได้เป็นรอยจ้ำ ๆ แบบนี้ หรือว่าแพ้เหล้า เมื่อคืนมันจะมาแพ้อะไรตอนนี้ แดกจนเมาพับไปขนาดนั้นไม่น่าจะแพ้หรอกมั้ง แพ้หมูกระทะเหรอวะ คนบ้าอะไรวะจะแพ้หมูกระทะ มันก็มีแค่หมู หมึก กุ้ง นี่หว่า แล้วมันรอยอะไรวะ หรือว่ายุงกัด ยุงห่าอะไรจะกัดขนาดนี้ บอกว่าแตนต่อยยังน่าเชื่อกว่า โอ้ยช่างแม่งเหอะ มันก็ไม่ได้คัน ไม่ได้ปวด ไม่ได้บวมอะไร แค่เป็นรอยเฉย ๆ สลัดความคิดฟุ้งซ่านออกไปติดกระดุมเสื้อไว้ตามเดิม
ผมเดินกลับเข้ามาในห้อง เปิดประตูตู้เสื้อผ้าออก เสื้อผ้าบางส่วนไหลลงมาตรงฝ่าตีนเป็นกอง เพราะที่ผ่านมามีอะไรผมก็จับ ๆ ยัดๆ เข้าไปหมด ทุกวันนี้กว่าจะหาเสื้อใส่ได้แต่ละตัว ปวดหัวชิบหาย แม่บ้านก็ไม่มีโอ๊ย...นี่กูต้องทนอยู่ที่นี่ไปอีกนานแค่ไหนวะ แต่จะว่าไปอยู่นี่ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรมากหรอกนะ ถ้าไอ้พี่โฬมมันไม่มากวนประสาทผม เหมือนช่วงสองสามวันแรก
ผมจัดการรื้อเสื้อผ้าในตู้ออกมาทั้งหมด จับเสื้อโยนไปกองรวมกัน กางเกงกองนึง ชุดนอนกองนึง บอคเซอร์กองนึง ผมเลือกหันไปทางกองเสื้อก่อน หยิบมันขึ้นมาใส่ไม้แขวนทีละตัวแล้วยกขึ้นแขวนอย่างโคตรใจเย็น
แขวนเสื้อเสร็จมันก็น่าหงุดหงิดนะ เสื้อกูลายเป็นสายรุ้งเลย เอาวะไหน ๆ ก็ทำแล้ว ผมต้องเสียเวลาอีกหลายนาที กับการมานั่งเรียงสีเสื้อให้มันดูหาง่าย ๆ หน่อย
พอเรียงเสร็จผมถอยหลังออกมายืนดูผลงานตัวเองอย่างมีความสุข กูนี่แม่งโคตรเก่งเลย อยากมีโทรศัพท์ชิบหาย กูจะถ่ายรูปอัพลงไอจีไอ้สัดเอ้ย ในชีวิตไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลยให้ตายเถอะ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ผมไม่ได้สนใจ เพราะปกติไม่เคยล็อคประตูห้องอยู่แล้ว ไม่นานประตูห้องก็เปิดออก พร้อมกับร่างสูงใหญ่ของไอ้พี่โฬมที่เดินเข้ามาพร้อมกับกวาดสายตาไปรอบห้อง นี่มันคงกำลังคิดว่าผมอาละวาดฟาดงวงฟาดงารื้อข้าวของอีกละสิ
“ไม่ได้ทำลายข้าวของนะ แค่จะจัดตู้เสื้อผ้าใหม่เฉย ๆ”ผมรีบชิงบอกก่อนทันที
“ให้ช่วยมั้ย” เสียงนั้นเอ่ยขึ้น มันใกล้จนผมหายใจสะดุด แถมยังยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ๆ จนห่างแค่กันคืบ
“ไม่เอา จะทำเอง”
ผมตอบพร้อมกับยื่นมือออกไปผลักอกคนตัวโตกว่า ให้ถอยห่างออกไป แล้วนั่งลงกับพื้นห้อง หันไปหากองกางเกงซึ่งเป็นเป้าหมายต่อไป ไอ้พี่โฬมนั่งลงบนเตียงของผม มันคงจะรอดูผมแล้วก็แอบหัวเราะเยาะผมแน่ๆ
“พับก่อนแล้วค่อยเอาขึ้นไปแขวนมันจะได้ไม่ยับ”เสียงทุ้มๆ ดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงที่หย่อนตัวลงมานั่งตรงข้ามผม
ไอ้พี่โฬมหยิบกางเกงของผมขึ้นมาตัวหนึ่ง จับขึ้นมาคลี่ออกแล้วพับให้ดูเป็นตัวอย่าง ผมเอื้อมมือไปหยิบกางเกงขายาวอีกตัวขึ้นมาแล้วทำตาม เหมือนเด็กว่านอนสอนง่ายคนหนึ่ง ตอนนี้ขี้เกียจทะเลาะด้วยเจ็บตัวเปล่า แถมประสาทแดกอีก ทะเลาะกับไอ้พี่โฬมทีไรผมนี่ตัวลายพร้อยไปหมดช้ำไปทั้งตัว
“ไม่เอา อย่ายุ่ง” ผมเอื้อมมือไปตีมือของไอ้พี่โฬม เมื่ออีกคนหยิบกางเกงอีกตัวของผมขึ้นมาพับ
“...” ไอ้พี่โฬมขมวดคิ้วใส่ผม
“จะทำเอง” ผมตอบเสียงอ่อน
พอได้เริ่มลองทำอะไรสักอย่างเองได้ ผมเองก็รู้สึกว่ามันไม่ได้ยากขนาดนั้น แล้วผมชอบมากกว่าเวลาที่ผมทำอะไรสำเร็จด้วยตัวเองสักอย่าง ถึงจะแค่เป็นการซักผ้าสักตัว หรือจัดตู้เสื้อผ้าบ้าบอนี่ ผมก็อยากลองทำเองดูบ้าง ไอ้พี่โฬมดูหน้าตื่น ๆ แต่ก็ยอมให้ผมนั่งทำไปเงียบ ๆ
“แล้วเข้ามา...มีอะไรหรือเปล่า” ผมเอ่ยถามมือยังคงจัดเรียงสีกางเกง ซึ่งถูกแขวนไว้อย่างเป็นระเบียบดีแล้ว
“เมื่อเช้าไม่ได้โทรศัพท์” ไอ้พี่โฬมยื่นโทรศัพท์ส่งให้ผม
“เออ...จริงด้วย” ผมรีบคว้าโทรศัพท์ในมืออีกฝ่ายมากดเบอร์โทรออกไปอย่างรวดเร็ว
คุณย่า : โฬม
แทน : คุณย่าครับ
คุณย่า : น้องแทนลูกเป็นยังไงบ้างลูกเมื่อวานนี้คุณแม่มาหาย่า บอกว่าน้องแทนโทรหาคุณแม่ ย่าขอโทษนะลูก
แทน : อืม...ไม่เป็นไรครับคุณย่า คุณย่าสบายดีหรือเปล่าครับ
คุณย่า : เอ่อ...น้องแทนว่าอะไรนะลูก
แทน : แทนถามว่าคุณย่าสบายดีหรือเปล่าครับ สัญญาณไม่ดีเหรอครับคุณย่า
คุณย่า : เปล่าจ้ะ ชัดเจนดีจ้ะ
แทน : คุณย่าทานข้าว ทานยาหรือยังครับ
คุณย่า : ย่าทานแล้วลูก แล้วน้องแทนละลูกทานอะไรหรือยัง
แทน : ทานแล้วครับ จริงสิ คุณย่าครับบ้านเรามีเครื่องซักผ้ากี่เครื่องเหรอครับ
คุณย่า : เครื่องซักผ้าที่บ้านเราเหรอลูก มีสองเครื่องครับ ทำไมเหรอลูก
แทน : อ่อ ไม่มีอะไรครับ แทนแค่สงสัยพอดีเมื่อวานแทนซักผ้าเอง ก็เลยสงสัยว่าบ้านเรามีคนอยู่ตั้งเยอะจะมีเครื่องซักผ้ากี่เครื่อง
คุณย่า : ซักผ้า น้องแทนซักผ้าเหรอครับลูก
แทน : ครับ แทนเก่งมั้ยครับคุณย่า
คุณย่า : เก่งสิลูก น้องแทนของย่าเก่งที่สุดอยู่แล้ว
แทน : ขอบคุณครับ
คุณย่า : น้องแทนซักผ้าเองเหนื่อยหรือเปล่าลูก
แทน : ไม่ครับ แค่รอนานไปหน่อยเท่านั้นเอง
คุณย่า : พี่โฬมใจดีกับน้องแทนหรือเปล่าลูก
แทน : พี่โฬมของคุณย่าดุอย่างกับเสือ จับแทนโยนลงสระไปให้ตัวเหี้ยกินด้วย คุณย่ารู้หรือเปล่าครับ
คุณย่า : ห้ะ ว่ายังไงนะลูก แล้วนี่พี่โฬมให้น้องแทนโทรหาย่าได้เหรอลูก
แทน : อืม...แค่นี้ก่อนนะครับคุณย่า ครบสามนาทีแล้วเดี๋ยวแทนพับผ้าต่อก่อนนะครับ
คุณย่า : ครบสามนาที พับผ้า เอ่อ ครับ
แทน : แทนคิดถึงคุณย่านะครับ สวัสดีครับ
คุณย่า : ย่าก็คิดถึงน้องแทนนะครับ
ผมยื่นโทรศัพท์คืนให้คนตรงหน้า แล้วหันไปสนใจกองผ้าตรงหน้าต่อ ไอ้พี่โฬมยังนั่งจ้องอยู่อย่างนั้นไม่ไปไหน ไม่มีงานมีการทำหรือยังไงวะ สาธุกูขอให้ฟาร์มมึงเจ๊ง มีเจ้าของขี้เกียจสันหลังยาวแบบมึงนี่นะ วันๆ ไม่ทำห่าอะไร นั่งคอยแต่จะจับผิดกู
“ไม่ไปไหนเหรอ” ผมเงยหน้าขึ้นถามตรง ๆ
“วันนี้ไม่ไป” เสียงทุ้มนุ่ม ๆ นั้นตอบกลับมานัยน์ตาเป็นประกายประหลาด
“เมื่อคืนผมเมามากเหรอ” ผมไม่รู้จะคุยอะไร
“จำไม่ได้เลยเหรอ” น้ำเสียงนั้นฟังดูเหมือนงอน ๆ
“........” ผมส่ายหน้าแล้วอยู่ ๆภาพเบลอๆ มัวๆ ถึงอารมณ์วาบหวิวเมื่อคืนก็แล่นปราดเข้ามาในความทรงจำ
“.......” เสียงถอนหายใจหนักๆ ของเจ้าของร่างสูงซึ่งนั่งอยู่เบื้องหน้าผมดังขึ้น
“เมื่อคืนไม่รู้ไปโดนอะไรมา ที่คอมีรอยเต็มเลย พี่โฬมมียามั้ยเอามาทาหน่อย”
ผมถามอย่างเป็นงานเป็นการ แต่ทำไมรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ ยังไงบอกไม่ถูก ชวนมันคุยเรื่องที่เป็นสาระหน่อยแล้วกันเผื่อบรรยากาศจะดีขึ้น
“มี...” ร่างหนานั้นขยับเข้ามาใกล้ จนผมไม่ทันตั้งตัว ท่อนแขนนั้นก็รวบรั้งเอาผมขึ้นไปนั่งบนตักมันเฉย
“ไอ้พี่โฬม” ผมอุทานด้วยความตกใจ
“ครับ”
นัยน์ตาเป็นประกายที่เต้นระยับอยู่ตรงหน้า ทำให้ผมประหม่าอย่างที่สุด หัวใจของผมเต้นจนแทบทะลุออกมานอกอก ผมนั่งหันหน้าเข้าหาคนตัวโตกว่า ฝ่ามือทั้งสองยันแผงอกนั้นเอาไว้
“อื้อ..”
อยู่ ๆ ไอ้พี่โฬมก็โน้มใบหน้าลงมาประกบปากผมจนสนิท ริมฝีปากนุ่มหยุ่น ๆ บดเคล้าคลึงไปกับปากผม นี่มันอะไรกันวะเนี่ย สมองผมเบลอไปหมด ลิ้นสากๆ เปียกๆ แฉะๆ ดูดซับไปทั่ว ไอ้พี่โฬมใช้ลิ้นอย่างชำนาญมันควานเข้ามาหาผมทุกซอกทุกมุม ทั้งดูด ทั้งดุนจนเหมือนวิญญาณผมจะหลุดลอยออกไปด้วย
“อ้า...”
เสียงครางต่ำ ๆ ของไอ้พี่โฬมทำสติผมหลุด มันถอนริมฝีปากออกซุกใบหน้าลงกับซอกคอผม ไม่รู้อะไรตรึงผมไว้กับที่ ทำให้ผมไม่ดิ้นรน ไม่ขัดขืน ผมเงยหน้าขึ้นสูดอากาศเข้าปอด อารมณ์เสียวซ่านแล่นไปทั่วร่าง ผมทึ้งเรือนผมสีน้ำตาลเข้มนั้นไว้แน่น ไอ้พี่โฬมซุกใบหน้าจูบผมไปทั่วตัว
เผลอแป๊ปเดียว ไม่รู้มันปลดกระดุมเสื้อผมออกไปตอนไหน รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มันถอดเสื้อผมออกแล้วเม้มปากเข้ามาหาตุ่มไตสีชมพูสดของผมที่หน้าอก เสียวสัดๆ มันวนลิ้นเล่นเหมือนจะแกล้งผมให้เป็นบ้า บอกเลยว่าสำเร็จเพราะผมแทบบ้าจริงๆ
“ไอ้พี่โฬม เสียว”ผมยกมือขึ้นทุบหลังมันสองที ผมหลับตาแน่นแอ่นตัวไปข้างหลังอย่างสุดจะทน ผมยังนั่งอยู่บนตักไอ้พี่โฬม มือทั้งสองของผมกุมขยำปกเสื้อเชิ้ตของคนโตกว่าแน่น
เสี้ยวนาทีไอ้พี่โฬมลุกขึ้น แล้วยกตัวผมลงไปวางบนเตียง ก่อนจะโถมกายลงมาคร่อมร่างผมไว้ ผมเงยหน้าขึ้นมองดูคนตรงหน้าอย่างสับสน ผมยังไม่ทันจะหายเบลอไอ้พี่โฬมก็ประกบปากใส่ผมอีกครั้ง คราวนี้มันเป็นจูบที่ดูดดื่มแบบหื่นกระหาย มันดูดลิ้นผมจนชา ริมฝีปากรู้สึกปวดตุ้บๆ โอ้ยไอ้ชิบหายมึงเล่นอะไรเนี่ยไอ้พี่โฬม
“โอ้ย”ผมร้องเพราะรู้สึกเจ็บเมื่อไอ้พี่โฬมกัดริมฝีปากผม เหมือนมันไม่ฟังอะไรเลยเพราะไอ้พี่โฬมยังเดินหน้าต่อไปซุกไซร้ซอกคอผมไปเรื่อย
เสียงลมหายใจฟืดฟาด และเสียงคำรามต่ำๆ ในลำคอของคนร่างใหญ่ทำเอาผมเริ่มกลัว แต่อีกใจหนึ่งก็เสียวจนสะท้านไปหมดแล้ว น้องชายผมตื่นจนเต็มที่แล้วตอนนี้ ไอ้พี่โฬมควานมือไปจัดการกับเข็มขัดและกางเกงของผม แป๊ปเดียวกางเกงของผมก็หลุดลอยออกจากตัวผมไปแล้วครับ ภาพเบลอๆ เมื่อคืนไหลย้อนกลับเข้ามาอีกครั้งและชัดเจนขึ้น หรือว่าเมื่อคืนนี้...
ผมยังไม่ได้นึกทบทวนอะไร ก็เสียววาบที่ท้องน้อยจนแทบขาดใจเมื่อไอ้พี่โฬมมันซุกมือเข้าไปหาเป้ากางเกงผม ซึ่งตอนนี้มันมีเหลือแค่บอคเซอร์สีน้ำเงินแค่ชิ้นเดียวจริง ๆ ที่ผมเหลืออยู่ ไอ้พี่โฬมอ้าปากแล้วเม้มเบา ๆ ลงตรงเป้าตำแหน่งลูกบอลกลม ๆ น้อย ๆ ของผม แม้จะมีเนื้อผ้ากั้นอยู่แต่ไอ้ชิบหายเอ๊ย เสียวอะไรแบบนี้
“อ้า”
ผมหลุดเสียงร้องออกมาตัวสั่นไปหมด แท่งเนื้อขนาดกำลังพอดีมือชูชันจนแทบจะทะลุออกมาข้างนอกกางเกง ผมหลับตาปี๋ มือสองข้างทึ้งหัวไอ้พี่โฬมแน่น หอบหายใจถี่ ๆ เพราะแทบจะทนไม่ไหวอีกแล้ว ไอ้พี่โฬมดึงบอคเซอร์ของผมลงไปที่หัวเข่า ผมไม่กล้ามองดูว่าไอ้พี่โฬมทำอะไรกับผม
สามวินาทีหลังจากนั้น ผมสัมผัสความเปียก ชื้น แฉะและความหน่วง ๆ ที่ส่วนหัวน้องชายผม ไอ้พี่โฬมดูดแท่งผมเหมือนเด็กดูดไอ้ติม มือของไอ้พี่โฬมจัดการถอดเสื้อผ้าตัวเองออก ไม่รู้มันถอดตอนไหน แต่ตอนนี้ไม่เหลืออะไรแล้วครับทั้งมัน และผม ผมบิดตัวเร่าๆ เพราะความเสียวซ่านไปทั่วตัว ไอ้พี่โฬม ไอ้บ้า จะทรมานกันไปถึงไหนวะ
“อ้า...” ผมร้องครางโอบแขนเข้าไปกอดรัดร่างหนานั้นเอาไว้ แอ่นตัวขึ้นเบียดกายเข้าหาอีกฝ่ายอย่างเหลืออด
“น้องแทน” เสียงกระซิบสั่นพร่า ทำเอาผมขนลุกทั้งตัว
“ซี้ด อ่า” ไอ้พี่โฬมใช้มือเกาะกุมแท่งเนื้อของผมรูดขึ้นรูดลงเป็นจังหวะหนัก ๆ ไอ้ชิบหายกูเสียวจะตายแล้ว
“อ๊า”
ผมร้องครางไม่หยุดเพราะมันเสียวจริง ๆ ไอ้พี่โฬมมันใช้มือเก่งจริง ๆ ผมแอ่นสะโพกขึ้นจิกปลายเท้าทั้งสองไปกับเตียงนอน ซุกใบหน้าลงกับไหล่กว้าง
“...”
ผมก้มหน้าลงไปมองตรงกลางลำตัว เมื่อเกิดความรู้สึกประหลาด ผมตะลึงจนตาค้าง เพราะไอ้พี่โฬมมันควักเอาแท่งเนื้อของมันออกมาประกบคู่กับของผม ขนาดของผมก็มาตรฐานชายไทยนะ แต่ของไอ้พี่โฬมนี่สิ หัวใจผมแทบหยุดเต้นแน่ะ เหมือนของพ่อกับของลูกเลยเวลาเอามาเทียบกันแบบนี้ ไอ้พี่โฬมรูดมือโดยกอบกุมแท่งเนื้อร้อน ๆ นั้นไว้ในมือพร้อมกันทั้งสองแท่ง บอกเลยว่าไม่เคยรู้สึกอะไรแบบนี้มาก่อนในชีวิต
“อ่า ซี้ด”
เสียงครางของไอ้พี่โฬมดังออกมาเป็นระยะ มันจับผมประกบปากจูบอย่างเมามันส์ จังหวะมือก็เร่งขึ้นจนผมหัวใจแทบวาย มันเสียวจนตอนหลังผมต้องสะบัดหน้าหนีจากมัน ผมเบียดกระแทกเอวและสะโพกเข้าใส่มัน มือทั้งสองจิกลงกับไหล่ไอ้พี่ โฬมแน่น อารมณ์มันถึงขีดสุดจริงๆผมตะเกียกตะกายไขว่คว้าหาคนตรงหน้า
ไอ้พี่โฬมยิ้มมองดูสภาพผมเหมือนมันพอใจมาก น้ำแห่งอารมณ์หวามสีขาวขุ่นข้น ๆ พุ่งออกมาเลอะเทอะทั้งผมและไอ้พี่โฬมไปหมด ไอ้พี่โฬมมันยังไม่หยุดครับมันสาวต่ออยู่อีกสักพักมันถึงปล่อยออกมาบ้าง แต่ผมนี่นอนหมดแรงกอดมันแน่น เหงื่อซึมไปทั้งตัว
หลังจากสติได้กลับมาผมก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน นี่ผีห่าซานตานตัวไหนมันเข้าสิงผมให้ทำเรื่องแบบนี้ได้วะ ผมค่อย ๆเงยหน้าขึ้นมองดูไอ้คนที่กอดผมอยู่
ทุกอย่างนิ่งสงบ ผมรับรู้ได้ว่าไอ้พี่โฬมก้มลงมาจูบที่หัวผมหนัก ๆ เมื่อสติสัมปชัญญะผมกลับมาจนครบ ความละอายก็กลับมาด้วย น้ำแตกแล้วแยกทาง...ผมผุดลุกขึ้นแล้ววิ่งหนีเข้าห้องน้ำไปอย่างเร็วปิดล็อคแล้วได้แต่นั่งก่นด่าตัวเองอยู่ในใจ
ไอ้เหี้ยแทน ไอ้สัดเอ้ย มึงทำอะไรลงไปเนี่ย ไอ้ชิบหายเอ๊ย แล้วทีนี้กูจะมองหน้าไอ้เหี้ยพี่โฬมยังไงวะ มันต้องคิดว่ากูใจง่าย มันต้องเยาะเย้ยกูแน่ ๆ แม่งเอ๊ยเพราะความเ****นของกูแท้ๆ โอ๊ยเอาไงดีวะ แต่กูไม่ออกไปเจอหน้ามันตอนนี้เลย ไม่เอา กูสู้หน้ามันไม่ได้
"เดี๋ยวนะ...ยากูล่ะ ไหนยากู ไอ้สัด"