เริ่มแผนการอย่างจริงจัง 2

1561 คำ
เริ่มแผนการอย่างจริงจัง ห้างสรรพสินค้าในวันนี้คนบางตามากกว่าวันนั้นมากนัก อาจเป็นเพราะตอนนี้ไม่ได้อยู่ในเวลาเลิกงานและไม่มีศิลปินคนไหนมาจัดงานแฟนมีตหรือคอนเสิร์ตในห้าง จึงทำให้ไม่มีผู้คนพลุกพล่าน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีเพราะเตชินไม่ชอบพาตัวเองไปเบียดเสียดกับผู้คนจำนวนมากสักเท่าไร ชายหนุ่มมีเงินมากพอที่จะซื้อความสะดวกสบายให้ตัวเอง อยากได้อะไรก็แค่ยกโทรศัพท์ขึ้นมา เพียงแค่นี้เขาก็ได้ทุกสิ่งที่เขาต้องการ ไม่จำเป็นต้องออกมาเดินเลือกซื้อเอง ทว่าครั้งนี้มันคือความจำเป็นที่เขาไม่สามารถใช้คนอื่นทำแทนได้ “สรุปเป็นผ้าพันคอนะคะ” หญิงสาวที่ยืนเลือกผ้าพันคออยู่ข้างกายเอ่ยขึ้นพร้อมชูผ้าหลากสีสันสดใสให้เขาดู ร่างสูงในชุดไปรเวทสีทึบทำทียื่นมือออกไปจับเนื้อผ้า แล้วเอ่ยถาม “น้องดิวชอบเหรอครับ” “ค่ะ ดิวชอบแบรนด์นี้ แล้วก็คิดว่าน่าจะเหมาะกับคุณแม่ของพี่ชิน พี่ชินว่าไงคะ” เตชินพยักหน้าแล้วกวาดตามองผ้าพันคอผืนอื่น ๆ ก่อนจะหันกลับมาตอบคำถามของหญิงสาวด้วยเสียงหวาน “ถ้าน้องดิวคิดว่าเหมาะ พี่ก็ว่าเหมาะครับ” “โอเค ดิวว่าผ้าพันคอเหมาะสุด แล้วลายนี้ ผืนนี้ก็เหมาะกับคุณแม่ของพี่ชินที่สุด” ว่าจบหญิงสาวก็ฉีกยิ้มกว้างอวดฟันขาวที่เรียงตัวกันอย่างสวยงาม ส่งให้ใบหน้าหล่อเหลาร้อนผ่าวเมื่อเห็นรอยยิ้มนั้น ชายหนุ่มแสร้งทำทีมองสิ่งอื่น ๆ รอบตัว ยกมือปิดปากแล้วกระแอมไอออกมาเบา ๆ คล้ายเรียกสติของตัวเองให้กลับมา “สรุปเอาผืนนี้เลยนะคะ” เธอถามย้ำอีกครั้ง “อ่า...ตกลงเอาผืนนี้เลยครับ” ชายหนุ่มพยักหน้าแล้วล้วงกระเป๋าสตางค์ หยิบบัตรเครดิตออกมาหนึ่งใบยื่นให้พนักงาน พร้อมดาวิกาที่ส่งผ้าพันคอในมือให้พนักงานด้วยเช่นกัน “ปีที่แล้วพี่ชินซื้อของขวัญอะไรให้คุณแม่คะ” ร่างบางในชุดเสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนสีซีดท่าทางทะมัดทะแมงถามอย่างชวนคุย มือหยิบจับผ้าพันคอผืนอื่น ๆ ดูไปพลาง ๆ ระหว่างรอพนักงาน คนตัวสูงที่เดินตามหลังมามีท่าทีอึกอัก ด้วยทุกปีที่ผ่านมาเขาแทบไม่เคยเห็นของขวัญที่ตนเป็นคนยื่นให้มารดา เตชินมักจะไหว้วานให้สุชาดาเลขาหรือผู้ช่วยอีกคนของเขาเป็นธุระจัดการเรื่องนี้ให้ อันที่จริงชายหนุ่มแทบจะจำไม่ได้ว่ามารดาเกิดวันไหน เพียงแต่ก่อนจะถึงวัน กล่องของขวัญจะถูกส่งตรงมาถึงมือโดยไม่รู้ว่าอะไรอยู่ข้างใน เสมือนว่าเขามีหน้าที่เพียงนำไปแค่ยืนให้มารดาก็เท่านั้น “ซื้อกระเป๋า...มั้งครับ” เตชินตอบเสียงเบาเพราะไม่แน่ใจเท่าไรนัก อีกทั้งยังจำไม่ได้แล้วว่ากล่องที่เขาถือในวันนั้นมันมีขนาดใหญ่หรือเล็ก ทว่าคนฟังก็ไม่ได้เอะใจอะไรในน้ำเสียงนั้น ดาวิกาพยักหน้ารับรู้แล้วเดินดูสินค้าอื่น ๆ ที่มีอยู่ภายในร้านแทน เมื่อได้รับผ้าพันคอที่พนักงานห่อใส่กล่องให้เรียบร้อยแล้ว เตชินก็พาหญิงสาวไปรับประทานอาหารโดยให้เธอเป็นคนเลือกว่าอยากกินอะไร ดาวิกาเลือกเข้าร้านอาหารเกาหลีที่เธอตั้งใจจะมากินวันนั้นแล้วไม่ได้กิน โชคดีที่วันนี้คนไม่เยอะจึงทำให้มีโต๊ะว่าง ทันทีที่พนักงานเข้ามารับออร์เดอร์ ดาวิกาก็จัดการสั่งเมนูที่อยากกินมาจนเต็มโต๊ะ เตชินมองภาพตรงหน้าอึ้ง ๆ ไม่เคยไปกินข้าวกับผู้หญิงคนไหนแล้วสั่งอาหารมาเยอะขนาดนี้ ด้วยผู้หญิงส่วนมากที่เขาเคยเจอจะรักษาภาพลักษณ์ของตัวเองให้ดูดีอยู่ตลอดเวลา หนักที่สุดคือกินไปเพียงแค่สองสามคำแล้วเงยหน้าขึ้นมาบอกว่าอิ่ม เขาก็เคยเจอมาแล้วทั้งนั้น ทว่าผู้หญิงตรงหน้ากลับแตกต่าง หลังจากที่เขาได้สังเกตมาสักพัก เธอไม่เหมือนผู้หญิงที่เขาเคยเจอ เธออ้อนนิด ๆ แต่ไม่ถึงเนื้อถึงตัว ไม่ส่งสายตา และไม่เนียนเข้ามาอ่อย ทั้งที่ตอนเดินข้างกันเขาทำเนียนยื่นมือไปแตะมือของเธอหลายครั้ง แต่เธอกลับขยับหนีราวกับกลัวจะเดินเบียดเขาเกินไป ผู้หญิงคนนี้นี่...เป็นคนยังไงกันแน่นะ “พี่ชินสั่งอะไรเพิ่มอีกไหมคะ” คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมาถามหลังจากอาหารที่สั่งไปทยอยมาเสิร์ฟจนครบทุกรายการแล้ว และคำถามของเธอก็ยิ่งทำให้เตชินอึ้งหนัก เธอสั่งมาเยอะขนาดนี้ ยังกล้าถามเขาแบบนี้อีกเหรอ ? “พี่ว่าพอก่อนดีกว่าครับ ที่มีอยู่ก็ไม่รู้จะทานหมดหรือเปล่า” ชายหนุ่มตอบแล้วเริ่มคีบหมูขึ้นเตาย่าง “หมดแน่นอนค่ะ วันนั้นดิวอกหัก วันนี้ดิวเลยจะจัดให้เต็มที่เลย” ดาวิกาชูตะเกียบขึ้นมาพร้อมบอกอย่างหมายมั่นตั้งใจ แล้วเริ่มคีบของสดต่าง ๆ ขึ้นเตาช่วยชายหนุ่ม คีบได้เพียงสองชิ้นเธอก็รีบวางที่คีบลงเมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าลืมอะไรไป “หยุดก่อนค่ะพี่ชิน” “ครับ ?” เตชินคีบเห็ดออริจิค้างไว้ แล้วเลิกคิ้วขึ้นนิด ๆ อย่างไม่เข้าใจว่าเธอบอกให้เขาหยุดทำไม ดาวิกาไม่ตอบ ทว่าหยิบสมาร์ตโฟนขึ้นมา กดเข้าแอปพลิเคชันคู่ใจ แล้วเงยหน้าขึ้นไปยิ้มให้กับร่างสูงที่นั่งตรงข้าว “ขอถ่ายวิดีโออวดเอฟซีก่อนนะคะ” “อ๋อ...ตามสบายเลยครับ” ได้ยินแบบนั้นเตชินก็วางที่คีบลง แล้วผายมือเชิญให้เธอถ่ายได้เลย เพราะเขารู้ว่าเธอหมายถึงอะไร และเอฟซีหรือแฟนคลับที่ว่าก็คงไม่พ้นสก๊อยเด็กในแอปพลิเคชันไร้สาระของเธอนั่นแหละ ผ่านไปราว ๆ สามสิบวินาที คนตรงหน้าก็ค่อย ๆ แพลนกล้องขึ้นมาที่เขา ชายหนุ่มรีบยกมือขึ้นมาบังใบหน้า ก่อนจะเผลอตัวถามออกไปเสียงแข็ง “ทำอะไร” ดาวิกาตกใจในน้ำเสียงนั้นเล็กน้อย เธอลดมือที่ถือสมาร์ตโฟนลงแล้วเอ่ยขอโทษอย่างรู้สึกผิด “ดิวขอโทษนะคะ” “เอ่อ คือว่า...” คนที่เผลอชักสีหน้าไม่พอใจใส่หญิงสาวมีท่าทีอึกอักเล็กน้อย สมองพยายามหาข้อแก้ตัวที่พอจะทำให้สถานการณ์ตอนนี้มันดีขึ้น “คือเมื่อกี้พี่ไม่ได้ว่าอะไรนะครับ พี่แค่ตกใจนิดหน่อยเอง น้องดิวจะถ่ายใหม่ก็ได้นะครับ” หญิงสาวหลุบตามองจานเปล่าตรงหน้า ส่ายหน้าช้า ๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้เขา “ไม่เป็นไรค่ะ เมื่อกี้ดิวผิดเองที่ไม่ได้ขออนุญาตพี่ชินก่อน ลืมไปว่าบางทีพี่ชินอาจจะไม่ชอบออกกล้อง” “อ่า...ครับ พอดีพี่ไม่ค่อยถูกกับกล้องเท่าไหร่” ชายหนุ่มลูบท้ายทอยตัวเองท่าทีเขิน ๆ ที่เขาพูดออกไปนั้นไม่ได้เกินจริงเท่าไร เพราะถ้าไม่จำเป็นเขาจะไม่ออกกล้องที่ไหนเลย นอกจากสถานการณ์มันจะบังคับจริง ๆ เขาถึงจะยอมออก “แบบนี้นี่เอง ดิวขอโทษอีกครั้งนะคะ ดิวเคยตัวน่ะค่ะ ตอนอยู่กับพี่ชายดิวก็ถ่ายตลอด” “น้องดิวมีพี่ชายด้วยเหรอครับ” เตชชินแกล้งถามทั้งที่รู้ดีอยู่แก่ใจ “ใช่ค่ะ ดิวมีพี่ชายหนึ่งคน แต่หล่อไม่สู้พี่ชินเลย” “ปากหวานเหมือนกันนะเรา” เขาแซวยิ้ม ๆ ดาวิกายิ้มขำแล้วรีบยืนยันอีกครั้ง “ดิวพูดจริง ๆ นะคะ พี่ชินหล่อกว่าพี่ชายดิวเยอะเลย แถมนิสัยก็ยังดีกว่าอีก” “เราก็พูดเกินไป พี่ไม่ได้นิสัยดีขนาดนั้นหรอกครับ” ถ้าเธอรู้ว่าเขาเข้าหาเธอเพราะอะไร เธอยังจะบอกว่าเขานิสัยดีอยู่อีกไหมนะ เตชินคิดในใจ ก่อนจะบอกให้เธอเริ่มรับประทานอาหารตรงหน้า จากนั้นก็คีบอาหารชนิดต่าง ๆ ขึ้นไปย่างให้เธออีกครั้ง “พี่ชินไม่ชอบทานปิ้งย่างเหรอคะ เห็นไม่ค่อยทานเลย” หญิงสาวถามด้วยความสงสัย เพราะตั้งแต่นั่งรับประทานด้วยกันมาประมาณยี่สิบนาทีนิด ๆ เธอเห็นเขากินไปแค่สองสามชิ้น ส่วนมากจะย่างมาวางในจานของเธอซะส่วนใหญ่ “ทานได้ครับ แต่พอดีพี่ยังอิ่ม ๆ อยู่เลย เมื่อเช้าทานข้าวเยอะไปหน่อย” แล้วเขาก็คีบเนื้อวัวเกรดพรีเมียมที่ย่างสุกแล้วไปให้เธออีก ดาวิกาค้อมศีรษะแล้วกล่าวขอบคุณเบา ๆ จากนั้นก็เริ่มกินต่อโดยไม่สนว่าคนตรงหน้าจะกินอีกหรือไม่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม