ตอนที่ 2

1414 คำ
สาวไทยผิวสีน้ำผึ้ง รูปร่างสมส่วน ผมยาวเป็นลอนสีน้ำตาลเข้มที่รับกับใบหน้าเรียวสวย ดวงตากลมโตราวกับลูกกวาง ริมฝีปากเรียวบางสีชมพูระเรื่อ ปลายจมูกที่เชิดขึ้นนิดๆ บ่งบอกว่าเจ้าของคงมีความดื้อรั้นในตัวอยู่ไม่น้อย และสิ่งที่รวมกันเป็นเธอทำให้อารอนไม่อาจละสายตาไปจากเธอได้ เขาเห็นหญิงสาวที่ยังไม่ทราบชื่อคุยกับแพทริกด้วยภาษาไทยสองสามประโยค ก่อนที่เธอจะเดินตรงไปยังห้องที่วีรณาคู่หมั้นของแพทริกนอนอยู่ แพทริกมีคุณย่าเป็นคนไทย เพราะฉะนั้นจึงพูดภาษาไทยได้อย่างไม่มีติดขัด สายตาคมเข้มมองตามหลังเธอไป เขาเห็นเธอหยุดที่หน้าประตูห้อง ก่อนหน้าเรียวสวยจะหันกลับมาแล้วจงใจเบะปากให้เขาทั้งๆ ที่เขาส่งยิ้มกว้างไปให้เธอ เล่นเอาเขางงไปพักใหญ่ “นี่! แพทริก ฉันว่าจะถามนายตั้งแต่เมื่อตะกี้แล้ว ผู้หญิงคนนั้นน่ะเป็นใคร” อารอนถามแพทริกอย่างใคร่รู้ ว่าผู้หญิงที่กล้าจงใจเบะปากใส่ผู้ชายหล่อๆ อย่างเขาแทนที่จะกรี๊ดในความหล่อเหลาของเขาเป็นใครกัน “อ่อ...ข้าวหอมน่ะ เป็นเพื่อนกับวี” “ชื่ออะไรนะ” อารอนได้ยินที่แพทริกบอก แต่เขาออกเสียงชื่อเธอไม่ถูกแน่ จึงถามซ้ำ “ชื่อข้าวหอม” แพทริกตอบเพื่อนอย่างติดรำคาญ เพราะข้าวหอมเป็นชื่อที่ภาษาไทยแท้ อย่างอารอนคงออกเสียงลำบาก “คาวฮอม ใช่เปล่า” อารอนถามแพทริกอย่างขอความเห็น แต่กลับกลายเป็นว่าเรียกเสียงหัวเราะให้แพทริกเสีย อย่างนั้น “เธอชื่อข้าวหอมต่างหากล่ะ” “ก็คาวฮอมไง ไม่ใช่หรอกเหรอ” อารอนยังคงมั่นอกมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองพูด แพทริกได้แต่อมยิ้มพร้อมส่ายหน้าไปมาเบาๆ “เออ...แล้วแต่นายจะเรียกเถอะ แต่ระวังเจ้าตัวจะประเคนฝ่ามือใส่ใบหน้าหล่อๆ ของนายเอา” “ไม่มีทาง หล่อๆ อย่างฉัน มีแต่สาวๆ จะประเคนจูบให้เสียมากกว่า” “แล้วฉันจะคอยดู” แพทริกพูดอย่างปรามาส เมื่อปรียาภัทรเดินกลับออกมา แพทริกจึงถือโอกาสแนะนำให้ทั้งคู่ได้รู้จักกันอย่างเป็นทางการ “คุณข้าวหอมครับ นี่ อารอน เรมี่ เพื่อนผมเอง เป็นนักฟุตบอลทีมเดียวกันกับผม” ปรียาภัทรมาถึงบางอ้อก็ตอนที่แพทริกบอกว่าเขาเป็นนักฟุตบอล เธอเคยเห็นเขาผ่านๆ ตอนที่ไปดูเกมการแข่งขันถ่ายทอดสดกับวีรณา “ส่วนนี่ คุณข้าวหอม เป็นเพื่อนสนิทของวี” แพทริกหันไปบอกอารอน “สวัสดีค่ะ” เธอเอ่ยทักทายเขาก่อนเพื่อให้ไม่เป็นการเสียมารยาท ทั้งที่จริงแล้วไม่ได้อยากจะทักทายหรือรู้จักเลยสักนิด บอกไม่ถูก เธอรู้สึกแปลกๆ กับสายตาคู่คมที่จ้องมองมา “สวัสดีครับ คุณคาวฮอม” อารอนตอบกลับพร้อมส่งยิ้มกว้างไปให้อย่างต้องการจะสร้างสัมพันธไมตรี และที่สำคัญเขาพยายามโปรยเสน่ห์ไปในตัวด้วย ผิวสีน้ำผึ้งของเธอเรียกความสนใจจากเขาได้อยู่ไม่น้อย “ฉันชื่อข้าวหอม ไม่ใช่คาวหอม กรุณาเรียกให้ถูกต้องด้วย” ปรียาภัทรตอบเสียงสะบัด คนบ้า! เรียกชื่อเธอเพี้ยนไปหมด “ก็ชื่อคุณเรียกยากนี่ครับ ผมออกเสียงไม่ถูก งั้นผมจะเรียกคุณว่า ‘ฮันนี่’ ก็แล้วกัน” “นี่คุณ!” หลังจากวันนั้นอารอนมีโอกาสได้เจอกับปรียาภัทรอยู่บ่อยๆ เพราะเธอได้มีโอกาสตามมาส่งเพื่อนรักอย่างวีรณาที่ลอนดอน หญิงสาวจึงตัดสินใจใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ตามแรงโน้มน้าวของเพื่อนรัก แต่ดูหญิงสาวจะไม่ค่อยชอบหน้าเขาเท่าไรนัก ซึ่งเขาก็ไม่รู้สาเหตุที่ทำให้เธอเกลียดขี้หน้าเขา จนกระทั่งวันแต่งงานของแพทริกกับวีรณา “แต่งตัวมาซะสวย ตั้งใจจะมาหาเจ้าบ่าวในงานเลยล่ะสินะ” อารอนเดินมาหาปรียาภัทรที่กำลังยืนดื่มน้ำพั้นซ์ พร้อมกับพูดจาเย้าแหย่เธออย่างที่ชอบทำเป็นประจำ “เรื่องของฉัน เกย์อย่างคุณจะมายุ่งอะไรด้วย” เธอเบะปากหันมาตอบเขา “คุณว่าอะไรนะ” อารอนได้ยินชัดเต็มสองหู ไม่คิดว่าเธอจะกล้าพูดออกมาแบบนั้น เขาไม่รู้เลยว่าตนเองไปมีรสนิยมแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไร “เกย์อย่างคุณจะมายุ่งอะไรด้วยและเกย์อย่างคุณจะทำอะไรฉันได้” “ได้ไม่ได้ คุณก็คอยดูก็แล้วกัน” เขาบอกเสียงเรียบก่อนจะหมุนตัวเดินจากไป เขาไม่ปฏิเสธข้อกล่าวหา คนอย่างเขาฆ่าได้แต่หยามไม่ได้ เมื่อกล้ากล่าวหากันขนาดนั้นละก็ เขาคงต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อเป็นการลบคำสบประสาทนั่นซะและคงไม่มีวิธีไหนจะดีไปกว่า…. จับเจ้าหล่อนมาเป็น… จะได้เลิกกล่าวหาว่าเขาเป็นเกย์แบบนั้น ปรียาภัทร ปันประภา หรือข้าวหอม มีเพื่อนสนิทชื่อวีรณา รุ่งสิริทรัพย์ หรือวี ทั้งคู่โตมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเมื่อโตพอที่จะพึ่งพาตนเองได้ สองสาวจึงใช้เวลาที่ว่างทั้งหมดที่มีทำงานเพื่อส่งเสียตัวเองเรียนและตอนนี้ทั้งคู่ก็เพิ่งจะจบปริญญาตรีคณะมนุษยศาสตร์ สาขาการสื่อสารมวลชนมาหมาดๆ หลังจากเรียนจบทีแรกทั้งคู่ตั้งใจจะหางานทำด้วยกัน แต่วีรณาจับผลัดจับผลูได้เป็นแฟนกับเดวิด แพทริก มอร์แกน นักฟุตบอลชื่อดังระดับโลกและแพทริกก็กำลังจะขอวีรณาแต่งงาน และให้หญิงสาวย้ายไปอยู่ด้วยกันที่กรุงลอนดอน วีรณามีท่าทีลังเลเพราะเป็นห่วงเพื่อนรักอย่างปรียาภัทร แต่ปรียาภัทรบอกว่าไม่ต้องห่วงเธอดูแลตนเองได้ วีรณาจึงตอบตกลง ปรียาภัทรได้ร่วมเดินทางมาที่กรุงลอนดอนด้วย เพราะแพทริกตอบแทนที่หญิงสาวเคยช่วยให้วีรณาคืนดีกับเขาตอนที่ทั้งคู่เข้าใจผิดกัน โดยแพทริกเป็นคนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด รวมทั้งยังเสนอให้ปรียาภัทรอยู่ที่ลอนดอนเป็นการถาวรถ้าหญิงสาวต้องการ เพราะก่อนหน้านี้แพทริกได้พาสองสาวไปทำเอกสารในการเดินทางและรวมถึงการใช้ชีวิตในลอนดอนได้อย่างสะดวกไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และปรียาภัทรก็ไม่ปฏิเสธโอกาสที่ได้รับ สุดท้ายปรียาภัทรก็ตัดสินใจใช้ชีวิตอยู่ที่กรุงลอนดอน เพราะได้งานทำที่บริษัทนิตยสารยักษ์ใหญ่ในกรุงลอนดอนอย่างเออาร์ สปอร์ต แมกกาซีน และที่สำคัญได้อยู่ใกล้ๆ กับเพื่อนรักอย่างวีรณา เธอจึงไม่ลังเลที่จะตัดสินใจใช้ชีวิตอยู่ในเมืองใหญ่แห่งนี้ แต่หลังจากคืนวันแต่งงานของเพื่อนรักของเธอกับแพทริก มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นกับเธอ จนทำให้ตัดสินใจเลิกติดตามข่าวคราวของใครบางคนเป็นเวลานาน จนกระทั่งเธอถูกหัวหน้างานเรียกเข้าไปพบและมอบหมายงานบางอย่างมาให้ซึ่งทำให้เธอต้องเอาตัวเข้าไปเกี่ยวข้องกับคนๆ นั้นอย่างไม่เต็มใจ หลังจากที่ปรียาภัทรถูกหัวหน้าเรียกเข้าไปคุย เธอก็แทบจะยื่นซองขาวลาออกให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเสียเลย ถ้าไม่ติดว่าบ้านก็ต้องเช่า ข้าวก็ต้องซื้อละก็ เธอไม่ยอมทำงานนี้แน่ หญิงสาวเดินออกจากห้องของหัวหน้าที่เธอเรียกเขาว่า ‘บอส’ อย่างไม่สบอารมณ์ ชื่อเต็มของคนที่เธอเรียกเขาว่าบอสก็คือ ปีเตอร์ อาร์เตต้า หนุ่มชาวสเปนที่มาทำงานอยู่ในลอนดอน เขาเป็นผู้ชายที่รูปร่างดีมาก ใบหน้าหล่อเหลา การแต่งตัวก็แสนเนี้ยบเสียจนไม่มีที่ติ แต่ไม่สำคัญเท่ากับว่าจริงๆ แล้วบอสของเธอนั้นเป็นประเภทผู้ชายที่ชอบผู้ชายด้วยกันหรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า ‘เกย์’ เธอไม่เคยรังเกียจเรื่องใครจะรักใคร เพศไหนจะรักเพศไหน ไม่ว่าจะชายรักหญิง หญิงรักชาย ชายรักชายและบลาๆๆ เพราะแต่ละคนมีรสนิยมแตกต่างกัน แต่พอได้เห็นหรือได้ยินอะไรเกี่ยวกับ‘เกย์’ เธอก็อดที่จะสะเทือนใจไม่ได้อยู่ดี ยิ่งนึกถึงเรื่องที่ปีเตอร์เรียกเธอเข้าไปคุยก่อนหน้านี้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม