“หมอ!” เวทิกาอึ้งกับคำป่าวประกาศของชายหนุ่มไม่มีมูลความจริงแม้แต่น้อย ที่สำคัญ เธอกับเขาเพิ่งรู้จักกันได้ไม่ถึงวัน และรู้จักกันเพียงฐานะหมอกับคนไข้เท่านั้น
“เมีย? ฮ่าๆ ตลกสิ้นดี ถึงยังไง เมียมึงก็ขายตัวให้เสี่ยกูเรียบร้อยแล้ว” พวกมันมองหน้าอัคคีอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง แล้วระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอีกรอบ
“อย่าให้กูต้องพูดซ้ำว่าโรงแรมที่นี่มีพนักงานรักษาความปลอดภัยเยอะแค่ไหน และตอนนี้พวกมึงกำลังทำให้คนในโรงแรมตกใจ ถ้าไม่อยากมีเรื่องให้ต้องสาวถึงเสี่ยของพวกมึงก็กลับไปซะ เพราะกูมั่นใจว่าถ้าเรื่องถึงเมื่อไหร่ เสี่ยของมึงไม่รอดแน่” ชักหมดความอดทนที่จะพูดดีๆ กับคนพวกนี้ เขาทนให้พวกมันมาสร้างความวุ่นวายที่โรงแรมของเขามานานเกินไปแล้ว
“นี่มึง!” พวกมันหันมองหน้ากัน พร้อมกับมองไปรอบๆ โรงแรม แล้วพบว่ามีหลายสายตาจับจ้องมา ย่อมไม่เป็นผลดีแน่หากเรื่องนี้ล่วงรู้ถึงตำรวจ
“หมอพูดบ้าอะไรออกไป ยังไงฉันก็ต้องไปกับพวกมัน” เวทิกาเอ่ยขึ้นให้ได้ยินกันแค่สองคนกับหมอหนุ่ม
“อยู่เฉยๆ คุณอยากขายตัวมากหรือยังไง” อัคคีจ้องหน้าพลางดุหญิงสาวข้างกาย หรือต่อให้เธออยากขายตัวตอนนี้ เขาก็ไม่มีทางยอม!
“ฝากไว้ก่อนเถอะมึง ส่วนเธอ เสี่ยไม่เอาเธอไว้แน่...”
พวกมันขู่หญิงสาวเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะยอมเดินออกจากโรงแรม นาทีนั้น เวทิการีบสะบัดมือออกจากการเกาะกุมของหมอหนุ่มด้วยความไม่พอใจ
“นี่หมอทำบ้าอะไร รู้ไหมคะว่าคุณกำลังทำให้ฉันกับครอบครัวต้องเดือดร้อน” ไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปสู้แม่ได้อย่างไร ในเมื่อตอนนี้ เธอทำให้ทุกอย่างพังไปจนหมดสิ้น ที่สำคัญคือไม่มีเงินไปใช้หนี้ไอ้เสี่ยบ้ากามคนนั้นด้วย
“ไปกับผม”
ร่างสูงจูงมือหญิงสาวให้เดินตามตนเองไปอย่างเอาแต่ใจ คิดว่าเรื่องที่จะพูดกับหญิงสาวต่อไปนี้หากคุยกันในที่สาธารณะย่อมไม่ใช่ผลดีต่อเขาและตัวเธออย่างแน่นอน
“ปล่อยฉันนะ จะพาฉันไปไหน”
เวทิการ้องโวยวายอีกครั้ง นี่มันเรื่องบ้าอะไรที่หมอคนนี้จะมาพาเธอไปไหนก็ได้ เขากำลังทำให้เธอเจอกับปัญหาใหญ่อีกครั้ง
“หรือคุณอยากให้คนอื่นรู้กันหมดว่าคุณกำลังจะขายตัว ไม่สิ ต้องบอกว่าค้าประเวณีกันในโรงแรมของผม”
คนตัวสูงหยุดจ้องหญิงสาว แล้วเอ่ยด้วยสายตาจริงจัง เมื่อเห็นว่าเวทิกาสงบลงได้จึงเดินจูงมือเธอต่อไป และเป้าหมายก็คือชั้นสามสิบของโรงแรม ซึ่งก็คือคอนโดฯ ที่เขาพักอาศัย
อัคคีพาเวทิกาเข้ามาในเพนท์เฮาส์ของตนเองได้สำเร็จ แม้ว่าหญิงสาวจะมีท่าทีไม่เต็มใจเท่าไรนัก แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้สนใจ เพราะตอนนี้อยากจะคุยกันให้รู้เรื่อง การที่อ้างสิทธิ์ว่าเธอเป็นเมียเขาย่อมทำให้สาวเจ้าเดือดร้อนแน่นอน และเขาเองก็อยากจะช่วยเธอไม่ให้ต้องมีปัญหาตามมาทีหลัง
“หมอมีอะไรจะพูดก็รีบพูดมา เพราะฉันมีธุระต้องไปทำ”
เวทิกาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงห้วนสั้น ไม่เข้าใจว่าทำไมอัคคีต้องมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตตนนัก จริงอยู่ว่าเขาเป็นผู้ชายหน้าตาดีมากคนหนึ่ง แถมยังมีรูปร่างที่ดูดีแบบที่ผู้หญิงคนไหนอยู่ใกล้ต้องรู้สึกหลงเสน่ห์ แต่ถึงอย่างนั้น หญิงสาวก็ไม่มีเวลามาคิดเขินอายอะไร เพราะไม่มีสิทธิ์ที่จะมองผู้ชายคนไหนอีกแล้ว
“ธุระที่ว่าคือกลับไปถวายตัวให้กับไอ้เสี่ยนั่นหรือยังไง” อัคคีถามอย่างไม่พอใจ นี่เขาอุตส่าห์ช่วยให้เธอรอดพ้นมาได้ แต่สาวเจ้ากลับยังจะพาตัวเองไปเข้าถ้ำเสืออีกอย่างนั้นหรือ
“แล้วฉันมีทางเลือกอื่นหรือไงคะ ทั้งหมด มันเป็นเพราะหมอไม่ใช่เหรอที่พูดบ้าๆ ว่าฉันเป็นเมีย ทั้งที่เราไม่ได้เป็นอะไรกัน” หญิงสาวโวยวายออกมาด้วยความโมโหเกินทน ใช่ว่าอยากจะขายตัวให้เสี่ยวาโย แต่เพราะไม่มีทางเลือกอื่น และเธอก็ไม่มีปัญญาหาเงินมาใช้หนี้พวกมันด้วย วิธีเดียวที่จะทำได้ก็คือเอาตัวเข้าแลกตามที่แม่ต้องการ
“นี่อยากขายตัวขนาดนั้นเลยหรือไง” เอ่ยถามด้วยความไม่พอใจมากขึ้น จริงอยู่ว่าไม่ได้ปิดกั้นหรือดูถูกอาชีพนี้ เพราะตนเองก็เคยซื้อบริการผู้หญิง แต่อย่างที่บอกว่าหากเขาจะต้องซื้อบริการผู้หญิงสักคน มันต้องเกิดจากความเต็มใจของเธอคนนั้น ไม่ใช่เป็นการบังคับกัน
“ฉันไม่มีทางเลือก คนรวยแบบหมอไม่มีวันเข้าใจ” เวทิกาพูดอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ คนจนอย่างเธอจะมีสิทธิ์ทำอะไรได้ ในเมื่อหนทางมันตันก็ต้องแก้ปัญหาเพื่อไม่ให้ครอบครัวของตนเองต้องเป็นอันตราย
“งั้นก็เล่ามาสิ ผมจะได้เข้าใจว่าคุณทำแบบนี้ทำไม ท่าทางคุณก็ดูไม่ใช่คนไม่มีความรู้ ทำไมไม่ทำมาหากินปกติ” ชายหนุ่มเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจ
“ฉันก็อยากจะทำแบบนั้น แต่มันไม่มีทางเลือกค่ะ ฉันรู้ว่าหมอหวังดี แต่เรื่องนี้ไม่มีใครช่วยฉันได้จริงๆ ถ้าหมอหวังดีกับฉันอย่างที่เข้าใจ ช่วยปล่อยฉันไปได้ไหมคะ” อ้อนวอนหมอหนุ่มเพราะไม่อยากมีเรื่องอื่นใดให้ต้องคิดมากไปกว่านี้ และสุดท้ายแล้ว เธอก็ต้องตกเป็นของเสี่ยวาโยอยู่ดี
“หึ ถ้าให้ผมเดาก็คงเป็นเพราะแม่คุณสินะที่ทำให้คุณต้องมาขายตัวแบบนี้” กล่าวสรุปด้วยตัวเอง ด้วยความที่ถูกผู้เป็นแม่ทอดทิ้งไปตั้งแต่ยังเด็ก อัคคีจึงปลูกฝังความคิดตนเองมาตลอดว่า ไม่ใช่พ่อแม่ทุกคนจะเป็นคนดี และไม่ใช่พ่อแม่ทุกคนที่จะรักและหวังดีกับลูก
“ฉันไม่รู้ว่าแม่บอกอะไรหมอไปบ้าง แต่ขอยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวของฉัน และฉันไม่อยากพูดเรื่องนี้กับคนนอก” เวทิกาพูดด้วยน้ำเสียงนิ่ง เธอไม่ได้อยากพูดจาต่อว่าหมอหนุ่มอย่างรุนแรงเช่นนี้ แต่ตนเองก็บอบช้ำเสียจนไม่อยากจะสนใจความรู้สึกของคนอื่นเช่นกัน
“จะไม่เกี่ยวกับผมได้ยังไง ในเมื่อคุณให้ข้อมูลเท็จกับแพทย์ และที่ร้ายแรงกว่านั้นคือคุณกำลังมาค้าประเวณีในโรงแรมที่เป็นของผม แล้วแบบนี้จะให้ผมปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆ หรือยังไง” หนุ่มหล่อพูดอย่างใจคิด เป็นห่วงก็เรื่องหนึ่ง แต่การที่โรงแรมของเขากำลังเป็นสถานที่ค้าประเวณี หรือสถานที่ที่เสี่ยใหญ่โตมาซื้อขายเด็กในสังกัดแบบนี้ย่อมไม่ใช่เรื่องดีเท่าไรนัก
“ฉันขอโทษค่ะ ทั้งเรื่องที่โกหกหมอ แล้วก็เรื่องที่มาทำอะไรน่าอายในโรงแรมนี้ แต่หมอจะให้ฉันทำยังไงคะ หมอถึงจะปล่อยฉันไป” พูดจบก็ร้องไห้ออกมาอย่างไร้ทางออก ไม่ว่าจะทำอะไร เธอก็ผิดเสียทุกทาง
“ผมแค่ต้องการรู้ความจริงเรื่องคุณ และห้ามโกหกผมเด็ดขาด ถ้าไม่อยากให้ผมเอาเรื่องนี้ไปแจ้งความ คงไม่ต้องบอกใช่ไหมว่า ถ้าเรื่องนี้ถึงหูตำรวจขึ้นมาจะเกิดอะไรขึ้น”
“อย่านะคะ ถ้าคุณทำแบบนี้ แม่ฉันเดือดร้อนแน่”
หญิงสาวร้องออกมาด้วยความตกใจ จริงอยู่ที่ว่าอยากให้เสี่ยวาโยเข้าคุกไปให้รู้แล้วรู้รอด แต่เรื่องอาจจะบานปลายและลามมาถึงแม่ของเธอได้