เพราะรู้สึกถูกใจ
กานต์พิชชากลับบ้านในเช้าวันต่อมา แล้วก็ต้องถอนหายใจและกลอกตาไปมาด้วยความเบื่อหน่ายขั้นสุด เพราะตอนนี้คุณหญิงกรกฎกำลังยืนยกมือค้ำเอวรอเธออยู่ตรงทางขึ้นบันได ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอจะต้องเจอกับอะไรต่อจากนี้
"กว่าจะโผล่หัวมาได้นะยายลูกไม่รักดี! ทำไมแกทำตัวแบบนี้ ฮะ!"
"แม่คะ กานต์เหนื่อย"
เธอบอกผู้เป็นมารดาอย่างอ่อนแรง เธอไม่ได้เหนื่อยกายแต่เธอเหนื่อยใจที่จะต่อล้อต่อเถียงกับมารดาในเวลาเช้า ๆ แบบนี้
"แกคิดว่าแกเหนื่อยเป็นคนเดียวหรือไง ฉันก็เหนื่อยเหมือนกัน ฉันหาสิ่งดี ๆ มาให้นี่แกไม่ชอบเลยใช่ไหม"
"อะไรคะ อะไรคือสิ่งดี ๆ ที่แม่พูดถึง ?"
เธอย้อนถามกลับผู้เป็นมารดา ในเมื่อไหน ๆ ก็เลี่ยงการปะทะไม่ได้แล้ว เธอก็ต้องเผชิญหน้าเพื่อปกป้องตัวเอง
"ก็ตานัทไง คนดี ๆ แบบนั้นทำไมแกไม่เลือก ชอบนักใช่ไหมกับพวกผู้ชายเถื่อน ๆ สถุน ๆ อ้อ! แล้วเมื่อคืนที่แกออกไปกับผู้ชายคนอื่น แกอย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ"
เป็นอย่างที่เธอคิดไว้จริง ๆ แม่คงเธอคงรู้เรื่องนี้มาจากขจรศักดิ์ เพราะเขาคือคนเดียวที่เห็นว่าเธอขึ้นรถไปกับคุณปรัชญ์ นี่คงจะไปเล่าใส่สีตีไข่เรียกคะแนนความสงสารจากแม่เธอสินะ เช้านี้ท่านถึงได้พร้อมที่จะระเบิดใส่เธอเต็มที่แบบนี้
"แม่คะ กานต์กับพี่นัทเราเลิกกันไปแล้ว และไม่มีทางจะกลับไปคืนดีแน่นอน แม่เลิกหวังเถอะค่ะ"
เธอบอกอย่างชัดถ้อยชัดคำ เพื่อหวังว่ามารดาจะยอมเข้าใจ แต่ก็เหมือนว่าเธอจะหวังมากไป...
"แกสิเลิกอยู่คนเดียว จะงอนอะไรกันนักหนา แกอย่าทำตัวเป็นเด็ก ๆ ไปหน่อยเลยยายกานต์ อีกหน่อยถ้าตานัทไม่เอาแกจริง ๆ แล้วแกจะรู้สึก"
รู้สึกดีน่ะสิไม่ว่า เธออยากให้ถึงวันนั้นไว ๆ จะแย่
"กานต์ไม่ได้งอนอะไรค่ะ แต่กานต์กับพี่นัทเราเลิกกันแล้วจริง ๆ และกานต์จะไม่มีวันกลับไปคบกับเขาเด็ดขาด"
"ไม่ได้!! แกจะเลิกกับเขาไม่ได้เด็ดขาด"
กานต์พิชชารู้สึกเอะใจกับท่าทีเดือดเนื้อร้อนใจมากเป็นพิเศษของมารดา เธอรู้ว่าคุณหญิงกรกฎชอบและอยากได้ขจรศักดิ์มาเป็นลูกเขย แต่ท่าทางร้อนรนที่มารดาของเธอเป็นอยู่ตอนนี้ ทำให้เธอสงสัย...มีอะไรที่เธอยังไม่รู้หรือเปล่า
ทว่ายังไม่ทันที่เธอจะได้ถามออกไป มารดาของเธอก็พูดขึ้นมาเสียก่อน
"เมื่อคืนนี้...คุณหญิงเขมนิจสู่ขอแกกับฉัน และฉันก็ตอบตกลงไปแล้ว ทางนั้นคงจะหาฤกษ์แต่งมาเร็ว ๆ นี้"
"แม่!!!" กานต์พิชชาตวาดขึ้นเสียงดังด้วยความโกรธจัด "ไม่แต่งค่ะ ยังไงกานต์ก็ไม่ได้แต่งเด็ดขาด!"
เธอบอกเสียงเด็ดขาด จ้องหน้ามารดากลับอย่างไม่ยอมแพ้ คุณหญิงกรกฎเองก็จ้องกลับอย่างไม่ยอมเช่นกัน
"ไม่แต่งไม่ได้ เพราะฉันตอบตกลงไปแล้ว แกไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ"
"แต่พี่นัทเขามีคนอื่น เขานอกใจกานต์นะคะ"
เธอตัดสินใจบอกเรื่องนี้กับมารดาออกไปในที่สุด เธอไม่สนแล้วว่ามันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่หรือไม่ เพราะในนาทีนี้มันคงไม่มีเรื่องอะไรใหญ่ไปกว่าการที่เธอต้องแต่งงานกับผู้ชายอย่างขจรศักดิ์แล้วล่ะ
"กะ...แกว่าอะไรนะ"
คุณหญิงกรกฎชะงักไปนิดนึงเมื่อได้ยินสิ่งที่ลูกสาวพูด กานต์พิชชาใจชื้นขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นท่าทีอ่อนลงของมารดา ด้วยคิดว่ามารดาต้องยอมรับฟังในสิ่งที่เธอพูดอย่างแน่นอน เธอจึงตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมดให้ผู้เป็นมารดาฟัง และย้ำในสิ่งที่ขจรศักดิ์ทำไว้อีกครั้งอย่างชัดเจน
"กานต์จับได้คาหนังคาเขาว่าพี่นัทมีคนอื่น เขานอกใจกานต์ค่ะ"
"แกแน่ใจแล้วเหรอ มันอาจจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดก็ได้"
คุณหญิงกรกฎยังคงลังเล ในใจลึก ๆ หล่อนก็เชื่อเรื่องที่ลูกสาวเล่ามา ทว่าก็มีเหตุผลที่ทำให้หล่อนถอยไม่ได้แล้ว ผู้ชายรวย ๆ และเพียบพร้อมอย่างขจรศักดิ์หาไม่ได้ง่าย ๆ
"ไม่ใช่เรื่องเข้าใจผิดแน่นอนค่ะ กานต์เห็นเต็มสองตาว่าพี่นัทกำลังมีอะไรกับคนอื่น"
กานต์พิชชายังคงยืนยันเสียงหนักแน่น ด้วยหวังว่ามารดาจะยอมล้มเลิกที่จะให้เธอแต่งงาน แต่ก็เหมือนว่าสิ่งที่เธอพูดและยืนยันจะไม่ช่วยอะไร เพราะหลังจากที่คุณหญิงกรกฎนิ่งคิดไปสักพัก นางก็พูดออกมาว่า...
"เรื่องนั้นสำหรับผู้ชายมันก็ต้องมีบ้าง ตานัทเขาก็แค่สนุก ๆ ไม่ได้จริงจังอะไรกับผู้หญิงพวกนั้นหรอก แกก็ปล่อย ๆ ไปเถอะอย่าไปถือสาอะไรพี่เขานักเลย เขาก็สนุกไปตามประสาผู้ชาย"
"แม่!!!"
หญิงสาวแทบลมออกหู เธอโกรธจนตัวเนื้อตัวสั่นไปหมด โกรธผู้ชายคนนั้นก็โกรธ แต่ที่โกรธหนักสุดก็คือมารดาของตัวเอง ทำไมท่านถึงได้มีความคิดบิดเบี้ยวเช่นนี้กันนะ
"แกอย่ามาตวาดใส่ฉันนะ นี่ฉันเป็นแม่ของแกนะ" คุณหญิงกรกฎขึ้นเสียงและชี้หน้าคนเป็นลูกอย่างเดือดดาล
กานต์พิชชากำมือทั้งสองข้างไว้แน่น มองหน้าผู้เป็นแม่ด้วยความโกรธและพยายามกลั้นน้ำตาแห่งความน้อยเนื้อต่ำใจเอาไว้ ไม่ให้มันรินไหลออกมา หญิงสาวหมดความศรัทธาในตัวของมารดา หลังจากได้ยินท่านพูดออกมาว่าสิ่งที่ขจรศักดิ์ทำมันคือเรื่องปกติ เป็นเรื่องทั่วไปที่ผู้ชายเขาทำกัน
เธอไม่เถียงว่ามันคือเรื่องปกติ ที่จะไปมีอะไรกับใครหรือไปสนุกกับใครก็ได้ แต่ก็ต้องเป็นกรณีที่ผู้หญิงกับผู้ชายคนนั้นมีสถานะโสดกันทั้งคู่! ไม่ใช่ว่าคบกับเธออยู่ แล้วแอบไปมีอะไรกับคนอื่นแบบนี้ เธอรับไม่ได้!
และเมื่อเห็นว่ากานต์พิชชาเอาแต่ยืนจ้องหน้าไม่ยอมพูดอะไร คนเป็นแม่จึงพูดขึ้นมาอีกครั้งอย่างเด็ดขาด
"ฉันบอกแกเอาไว้ตรงนี้เลยนะ จะไม่มีการยกเลิกการแต่งงานเด็ดขาด เพราะยังไงแกก็ต้องแต่ง แกไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธอะไร..."
แล้วคุณหญิงกรกฎก็ต้องหยุดชะงักสิ่งที่กำลังพูดไว้เพียงแค่นั้น เพราะจู่ ๆ กานต์พิชชาก็พูดแทรกขึ้นมา
"กานต์ท้อง"
"แก...ว่ายังไงนะ" คุณหญิงกรกฎถามกลับเสียงเบา คล้ายว่าไม่เชื่อในสิ่งที่ลูกสาวพูด แต่แล้วคำตอบต่อมาของหญิงสาวก็ทำให้นางแทบจะเป็นลมล้มพับลงไป
"กานต์ท้องค่ะ และไม่ได้ท้องกับพี่นัท แต่ท้องกับคนอื่น"
เพียะ!!