“โอเคไม่เป็นไร งั้นลองวางมือของคุณลงบนมือของหมอได้มั้ย” มาร์ตินมองหน้าลินลดาอย่างค่อนข้างตื่นกลัว จะให้เขาเอามือไปวางลงบนมือที่เพิ่งขย้ำซองขนมจากถังขยะได้ยังไงกัน!
“ลองดู คุณจะไม่เป็นอะไร เชื่อหมอ…” ลินลดาพยายามโน้มน้าวจิตใจของเด็กหนุ่มตรงหน้าอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ค่อนข้างใช้วิธีรวบรัดในการบำบัด เธอจะไม่รักษาแบบเรื่อยๆ ใจเย็นๆ อย่างหมวย เพราะเธอมองว่าการที่เราใจดีปล่อยเรื่องที่คนไข้ไม่ต้องการทำออกไปเรื่อยๆ รั้งแต่จะทำให้คนไข้ไม่มีพัฒนาการที่ดีขึ้น
มาร์ตินที่ได้ยินเสียงเรียบๆนิ่มๆของลินลดาเริ่มรู้สึกผ่อนคลายความกลัวของตัวเองลงอย่างน่าประหลาด เด็กหนุ่มค่อยๆเอื้อมมือเข้าไปวางทับบนฝ่ามือของหญิงสาวอย่างช้าๆ ทันทีที่มือทั้งสองวางประกบกัน มาร์ตินรู้สึกถึงความแปลกประหลาดขึ้นมาในทันที ถึงจะรู้สึกรังเกียจในความสกปรกอยู่บ้างแต่ก็ไม่มากจนรับไม่ได้ เด็กหนุ่มถือวิสาสะสอดนิ้วผสานกับนิ้วมือของลินลดา โดยที่เธอคอยมองการกระทำของเขาอย่างตั้งใจและไม่เอ่ยห้ามอะไรทั้งสิ้น
ถึงเธอกับเขาจะเคยนอนด้วยกันแต่ตอนนั้นมันเพราะฤทธิ์ของยา ทำให้หญิงสาวแทบจะไม่ได้ตั้งใจมองหน้าเด็กหนุ่มเลยแม้แต่น้อย แล้วยิ่งตอนนี้ที่เขาใส่หน้ากากปิดปากอยู่ทำให้เห็นได้แต่นัยต์ตาสีน้ำตาลสวยรับกับแพรขนตาที่ยาวและงอน ร่างลดาของเธอเร็วกว่าความคิดยกมือข้างที่ยังเหลืออยู่ไปที่หูของชายหนุ่ม ก่อนจะปลดหน้ากากปิดปากที่ปกปิดใบหน้าของเขาเอาไว้ออก
มาร์ตินที่กำลังจดจ่ออยู่กับมือทั้งสองที่ผสานกันเอาไว้ ถึงกับเงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจที่อยู่ๆลินลดาก็ดึงผ้าปิดปากของเขาออก อากาศภายในโรงพยาบาลมันมีแต่เชื้อโรค เขารู้สึกไม่ค่อยโอเคที่จะได้สูดเชื้อโรคพวกนั้นเข้าไปเต็มๆ แต่แล้วความคิดของเด็กหนุ่มก็ต้องหยุดลงเพียงเพราะนัยต์ตาสีน้ำตาลเข้มคู่สวยที่จ้องมองมาที่เขา
ลินลดากำลังตกตะลึงกับใบหน้าละมุนของเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า เขาดูราวกับเทพบุตรที่ลงมาจุติในโลกมนุษย์ จมูกโด่งเป็นสันรับกับริมฝีปากบางสีส้มอ่อน ดวงหน้าละเอียดละออจนเธอไม่อยากจะเชื่อว่าเขาอายุ 19 ปี สายตาของทั้งสองผสานกันโดยไม่มีผู้ใดคิดจะหลบใครก่อน ไม่รู้ด้วยเพราะแรงโน้มถ่วงหรือแรงดึงดูดที่ขับเคลื่อนสองคนให้เข้าหากันอย่างเชื่องช้า ริมฝีปากของทั้งคู่บรรจงมอบจูบให้แก่กันอย่างดูดดื่มและโหยหา มาร์ตินสอดลิ้นร้อนระอุของตนเข้าไปในปากของลินลดาอย่างต้องการ เขาใช้มือที่ว่างอยู่อ้อมไปจับที่ต้นคอระหงส์ของหญิงสาว และดันให้เธอเข้ามาใกล้เข้ามากยิ่งขึ้น
ทั้งสองแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่มโดยที่มือของมาร์ตินเริ่มจะอยู่ไม่สุด เขาผละมือที่ผสานกันกับมือของหญิงสาวออกและล่วงเข้าไปใต้เสื้อกาวน์และเสื้อยืดสีขาวของเธอ เขาลืมความรู้สึกสกปรกจากการที่ต้องแตะต้องตัวของคนอื่นไปหมดสิ้น ชายหนุ่มค่อยๆเค้นคลึงหน้าอกอวบอิ่มของหญิงสาวภายใต้บราเซียตามแรงปรารถนา เด็กหนุ่มขยับขาของตัวเองให้เข้าไปอยู่ระหว่างกลางขาทั้งสองของลินลดา เพื่อให้เขาและเธอได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นกว่าเดิม
ลินลดายกมือทั้งสองข้างโอบรอบคอเด็กหนุ่มอย่างลืมตัว แต่แล้วไม่รู้เป็นเสียงสวรรค์หรือเสียงนรกจากโทรศัพท์ที่ดังขึ้นเรียกสติของลินลดาให้ตื่น! เธอผละริมฝีปากออกจากมาร์ตินอย่างรวดเร็ว โดยที่มาร์ตินที่กำลังหลงระเริงอยู่กับรสจูบแสนหวานยังคงโน้มตามริมฝีปากอวบอิ่มไป
“พอแล้ว....มาร์ติน....” ลินลดาเอ่ยห้ามมาร์ตินเสียงแหบแห้ง เธอกักเก็บอารมณ์ของตัวเองสุดฤทธิ์ โดยมีมาร์ตินคอยบีบเค้นหน้าอกอวบอิ่มของเธอเพื่อกระตุ้นอารมณ์อยู่ไม่ยอมห่างไปไหน
“หมอบอกให้พอแล้ว!” ลินลดาเอ่ยขึ้นเสียงดุและใช้มือผลักหน้าอกของเด็กหนุ่มให้ออกห่าง มาร์ตินที่เริ่มได้สติรีบชักมือที่กอบกุมหน้าอกนุ่มนิ่มของหญิงสาวออก เด็กหนุ่มพอได้สติหน้าก็เริ่มขึ้นสีถึงกกหูด้วยความละอายที่เขาปล่อยอารมณ์ให้ทำตามใจตัวเอง
“ฮัลโหล ว่าไงแก” ลินลดาเอื้อมมือไปรับโทรศัพท์จากซาร่าที่โทรเข้ามา โดยพยายามระงับอาการสั่นของเสียง
“แกฉันทะเลาะกับพี่นพ แกมารับฉันหน่อยคืนนี้ฉันจะไปนอนที่คอนโดแกด้วย” เสียงผู้หญิงที่ดังลอดโทรศัพท์ออกมาทำให้มาร์ตินที่นั่งเงียบๆ รับรู้ว่าคู่สายของลินลดาเป็นผู้หญิง ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเด็กหนุ่มถึงรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก
“ได้ๆ แกจะให้ฉันไปรับกี่โมง” ลินลดาใช้มืออีกข้างจัดการกับเสื้อผ้าตัวเองให้เรียบร้อย พลางมองไปที่มาร์ตินที่ตอนนี้กลับไปสวมผ้าปิดปากดังเดิม แถมกำลังใช้แอลกอฮอล์ฉีดลงบนฝ่ามือของเขาสะบัดให้มันแห้ง ก่อนจะหยิบถุงมือยางคู่ใหม่ขึ้นมาสวมเหมือนเดิม
“ตอนนี้เลยจะดีมากแก ฉันเก็บของรอไว้แล้ว แกเลิกงานหรือยัง?” ซาร่าที่เริ่มเก็บอารมณ์ตัวเองไม่อยู่เริ่มปล่อยโฮ
“ใกล้ละ กำลังดูคนไข้คนสุดท้ายอยู่ เดี๋ยวเสร็จแล้วฉันจะรีบไปรับ แค่นี้ก่อนนะแก…บาย” ลินลดาไม่รอให้ซาร่าได้พูดอะไร เธอวางสายไปในทันทีที่พูดจบ
“เอ่อ....” หญิงสาวละสายตาออกจากโทรศัพท์และเงยหน้าขึ้นมองมาร์ตินที่กำลังมองเธออยู่
“คุณกำลังจะบอกให้ผมลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นอีกแล้วใช่มั้ย” ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะพูดอะไรออกมา มาร์ตินก็พูดแทรกขึ้นมาก่อนด้วยน้ำเสียงราบเรียบ