บทที่ 1 พลาดรักนายวายร้าย

1933 คำ
บทที่1 ปัจจุบัน... 25 December 20xx 15.30 P.M. @ห้องทำงานเดเนียล ปั่ก! ปั่ก! ปั่ก! “อ๊ะ! อ๊ะ! อ๊ะ!” “เดเนียล อ๊ะๆ มันแรงไป รันจุกค่ะ” “หุบปากแล้วครางไปอย่างเดียวมิรัน” “อ๊ะๆ” “ระรันขอโทษค่ะ อ๊ะๆ” ปั่กๆๆๆ ปั่กๆๆๆๆ ปั่ก!! “อ่าสสสส์” “ออกไป” หลังจากกระตุกน้ำสีขาวข้นใส่ถุงป้องกันแล้ว เดเนียลก็เอ่ยปากไล่หญิงสาวทันที ในขณะที่กำลังถอดเครื่องป้องกันออกจากแก่นกายพร้อมกับจัดการตัวเองให้เรียบร้อยอย่างไม่แยแส จนสาวหน้าสวยอย่างมิรันที่ยังนั่งอยู่บนโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ของเดเนียลอดที่จะแสดงสีหน้าน้อยเนื้อต่ำใจออกไปไม่ได้ “เดเนียล แต่ฉันมาที่นี่เพื่อมาหา...” “รำคาญ!!! บอกให้ออกไปไงว่ะ!” ไม่ทันที่มิรันจะได้เอ่ยจนจบประโยคก็โดนปีศาจร้ายตรงหน้าตะคอกกลับจนตัวสะดุ้งโหยงซะก่อน... “...” “อย่าให้ฉันต้องพูดซ้ำมิรัน” ใบหน้าขึงเครียดว่าออกไปด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำพร้อมกับมองหญิงสาวตรงหน้ากลับไปด้วยสายตาดุดัน หลังจากที่เห็นเธอยังนั่งเงียบอยู่บนโต๊ะทำงานตรงหน้าเขา “นายมันใจร้ายมากเดเนียล!” มิรันว่าอย่างตัดพ้อก่อนจะหยิบกระเป๋าที่อยู่ข้างกาย แล้วเดินออกไปทันที ตามด้วยเสียงปิดประตูอย่างดัง... ปัง!!! “ทำตัวน่ารำคาญฉิบหาย” เดเนียลเอ่ยพึมพำเบาๆ อย่างนึกรำคาญหลังจากที่มิรันเดินออกไปแล้ว ก่อนจะหันหลังเดินล้วงกระเป๋ายืนชมวิวข้างนอกตึกที่มีแต่ตึกสูงตระหง่านอย่างไม่แยแสต่อไป แอ๊ดด~ ปัง! “มึงทำให้เลขาหน้าห้องทำงานมึงตกใจเพราะเสียงคำรามมึงไอ้เด” เสียงบุคคลมาใหม่อย่างดั๊กเชนเอ่ยตำหนิคนในห้องอย่างไม่จริงจังนัก หลังจากที่เมื่อกี้เขากำลังคุยอยู่กับเลขาหน้าห้องของเพื่อนสนิทแต่กลับต้องสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงตะคอกเสียงดังของเขา ก่อนจะมีหญิงสาวคนหนึ่งเดินออกมาด้วยสีหน้าไม่พอใจอย่างมาก “ช่างแม่งดิ กูไม่จำเป็นต้องสน” เสียงนิ่งเย็นชาของเดนียลเอ่ยอออกไปในขณะที่สายตายังมองวิวข้างนอกอยู่เหมือนเดิมด้วยท่าทางไม่ยี่หระ “ไอ้สัส นั่นแม่ของลูกมึงน่ะ ให้เกียรติค่าน้ำนมลูกมึงหน่อย” เป็นอย่างที่ดั๊กเชนเอ่ยออกมา บุคคลข้างนอกก็คือมิล่าแม่ของลูกของลูกสาวเขา เธอคือหญิงสาวที่ช่วงมหาวิทยาลัยเดเนียลเคยมีความสัมพันธ์ด้วยจนเธอตั้งท้องขึ้นมา แต่เรื่องมันยุ่งกว่านั้นจึงทำให้ทั้งคู่ต้องลงเอยที่สถานะไม่เหมือนเดิม เหลือไว้แค่สถานะพ่อแม่ของลูกต่อกันเท่านั้น ซึ่งแน่นอนเป็นสิ่งที่เดเนียลไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่นัก... “พูดมาก มีอะไรก็รีบๆ พูด เดี๋ยวกูต้องไปรับเอลล่าต่อ” เดเนียลหันมาพร้อมกับเอ่ยด้วยน้ำเสียงเสียงติดจะหงุดหงิดที่โดนเพื่อนสนิทอย่างดั๊กเชนจี้จุดเข้าให้พร้อมกับเดินไปนั่งที่โซฟาขนาดใหญ่ที่มีดั๊กเชนกำลังนั่งไขว่ห้างเอาแขนพาดโซฟาอย่างสบายใจอยู่ก่อนแล้ว... “หึ ดูเหมือนจะเป็นพ่อที่ดีมากน่ะมึง ทั้ง ๆ ที่เมื่อกี้มึงก็เพิ่งเอากับสาวอื่นเสร็จในขณะที่แม่ของลูกนั่งอยู่ข้างนอกแท้ๆ” ดั๊กเชนว่าอย่างนึกสมเพชเพื่อนตัวเองที่กล้าทำถึงขนาดนั้น ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้เมื่อหลายปีก่อนเดเนียลยังง้อเลขาสาวที่นั่งอยู่ข้างนอกแทบตาย แต่เพราะเธอใจแข็งดั่งหินผาไม่ยอมกลับมาคืนดีด้วย ไอ้งั่งที่ได้เป็นผู้บริหารอย่างเพื่อนเขาถึงได้ชีวิตประชดประชันอย่างตอนนี้ไม่หยุดเสียที เขารู้ว่าเดเนียลมันรักหญิงสาวข้างนอกมากแต่เพราะความเลวในอดีตของมัน จึงทำให้สาวข้างนอกใจแข็งไม่ยอมกลับมาคืนดีกับมันสักที หึ แต่ก็สมน้ำหน้ามันเพราะตอนนั้นมันก็เลวจริงๆ “ก็แค่แม่ของลูกมั๊ยว่ะ มึงจะอะไรนักหนา” “ปากดีไปเถอะไอ้สัส ถ้าวันไหนมิล่ามันมีคนอื่นมาดูแลจริงกูจะหัวเราะจนมึงประสาทเสียเลยไอ้เด” “หึ เป็นแม่หม้ายลูกติดใครมันจะเอาว่ะ” “เชี้ยเด! มึงนี่แม่ง” เสียงตะโกนหงุดหงิดของดั๊กเชนทำให้เดเนียลรู้สึกฉุนขึ้นมาทันทีที่เพื่อนสนิทมาขึ้นเสียงใส่อารมณ์กับตัวเองเพราะกำลังปกป้องคนข้างนอกอยู่ “มึงเป็นเหี้ยไรไอ้ดั๊ก มาหงุดหงิดใส่กูทำเชี้ยไร รึมึงคิดจะเคลมเมียเก่ากู” “เออ ถ้าเมียมึงยอมให้กูเคลมจริงกูไม่ปล่อยแน่ กูจะเอาทั้งแม่ทั้งลูกเลยไอ้สัส” ได้ทีดั๊กเชนก็แหย่เล่นทีจริงออกไปเพราะรู้สึกหมั่นไส้กับเพื่อนจอมปากดีอย่างเดเนียลที่ชอบปล่อยหมาในปากออกมา แต่นึกไม่ถึงว่าสิ่งที่เขาพูดออกไปจะทำให้เดเนียลลุกพรวดเท้าเอวต่อหน้าเขาด้วยความโมโหทันที พรึ่บ!! “ไอ้เหี้ยดั๊ก!! ถึงมึงจะเป็นเพื่อนกู กูก็ฆ่ามึงได้น่ะไอ้สัส” ซึ่งนั้นก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวจนหัวหดเลยสักนิด กลับกันเขากลับรู้สึกชอบใจที่ได้เห็นท่าทางตรงหน้าของเพื่อนซะนี่ “หวงเหรอวะ?” “เอ้อ...กูหมายถึงเอลล่าน่ะ ส่วนแม่มันถ้ามึงคิดว่าเอาใจแม่งได้ก็เอาไปดิ” เดเนียลตอบกลับดั๊กเชนก่อนจะใช้สายตามองไปยังประตูห้องจนมันทะลุถึงคนข้างนอกที่เป็นตัวต้นเรื่องทำให้เขาหงุดหงิดวันละหลายๆรอบ ใช่ มิล่าเธอคือผู้หญิงที่ภายนอกสวยนิ่งแต่ภายในหนักยิ่งกว่าเพราะเธอนิ่งสงบและใจแข็งจนทำให้เขาจะเป็นไอ้บ้าวันละหลายๆรอบ “หึ...” ดั๊กแสยะปากทันทีที่ได้แหย่เพื่อนจนมันโมโหออกมา ถึงแม้จะยังปากแข็งก็ตาม “หัวเราะเหี้ยไรของมึง” “ป้าว~” “แล้วมึงจะยืนค้ำหัวกูอีกนานมั๊ยไอ้เด นั่งลงดิว่ะจะได้คุยธุระสักที” พรึบ! สิ้นเสียงของดั๊กเชนเดเนียลก็ใช้มือปัดชายเสื้อสูทด้านนอกออกก่อนจะกระแทกก้นนั่งลงบนโซฟาอย่างแรง “คืนนี้ไอ้พวกเตโชมันนัดดื่มที่ดราก้อนผับ” “ทำไมต้องเป็นดราก้อนผับด้วยวะ ผับอื่นมีตั้งเยอะตั้งแยะ” ใบหน้าหล่อเหลาหันไปตอบโต้ทันทีที่ได้ยินชื่อผับที่เคยเป็นปรปักษ์กับเขา ซึ่งเขาไม่ค่อยอยากจะย่างกรายเข้าไปนักถ้าไม่จำเป็น “เป็นเชี้ยอะไรของมึงอีก ก็พวกนั้นมันอยากดื่มที่นั่น” “งั้นกูไม่ไป” “ทำไม กลัวเจอรักแรกมึง รึกลัวเจอผัวรักแรกของมึง” “ไม่อยากเจอทั้งผัวทั้งเมียนั่นแหละ” เดเนียลว่าด้วยสีหน้าเบื่อหน่ายเมื่อนึกถึงสองสามีภรรยาที่เคยทำให้เขากับมิล่ามีจุดจบแบบนี้ เขารู้ดีว่าเมื่อก่อนเขาทำไม่ถูกแต่เรื่องนั้นมันก็ควรมีแค่เขากับมิล่าสองคนเท่านั้น มันไม่ควรที่จะมีคนอื่นมาแสด้วย “หึ ทำกับเพื่อนเขาไว้เยอะก็สมควรโดนอะมึง ดีน่ะที่วันนั้นเฮียเขายังไว้ชีวิตมึงไม่ส่งลงนรกไปก่อน ไม่งั้นไม่ได้มานั่งรับส่งลูกไปเรียนแบบนี้หรอกมึงอะ” เดเนียลนั่งเงียบไม่ตอบโต้อะไรกลับไปเพราะภาพเมื่อหลายปีก่อนที่เขาโดนไซเรนซัดจนอ้วมแล้วต้องหามส่งไปนอนโรงพยาบาลอยู่หลายวันจนทำให้เขาพลาดเจอกับมิล่าแล้วมารู้ที่หลังว่าเธอหนีเขาไปอยู่ต่างประเทศฉายชัดขึ้นมาทุกช็อตจนน่าโมโห “หึ นั่งนิ่งแบบนี้คงกำลังรำลึกถึงเหตุการณ์วันที่เมียทิ้งไปอยู่อะดิ งั้นกูไปละ คืนนี้มึงก็อย่าลืมไปละกัน รายละเอียดอื่นๆ ค่อยไปคุยกันที่ผับ กูแวะมาบอกแค่นี้แหละเห็นว่าเป็นทางผ่านพอดี” ดั๊กเชนเอ่ยออกไปพร้อมกับยืนล้วงกระเป๋าด้วยสีหน้าล้อเลียนในท้ายประโยคให้แก่เดเนียล ก่อนจะเดินออกไปด้วยท่าทางมีความสุข ส่วนคนที่โดนหาว่าเป็นแค่ทางผ่านก็นั่งนิ่งทำเพียงแค่จ้องตามหลังเพื่อนสนิทไปอย่างเฉยชาราวกับว่าไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านอะไรกับพูดของเพื่อนจนสุดสายตา ก่อนจะลุกพรวดจากโซฟาเดินไปยังหน้าห้องทำงานที่มีใครบางคนที่เกือบทำเขากับเพื่อนได้ต่อยกันเพราะตัวเองนั่งเก็บของอยู่... พลัก! เสียงผลักประตู “พรุ่งนี้บอกคนให้เอาโต๊ะทำงานใหม่มาที่ห้องฉันด้วย” “...” “ฉันสั่งไม่ได้ยินเหรอว่ะมิล่า” มิล่าทำเป็นหูทวนลมเก็บพวกเอกสารต่างๆ ให้เรียบร้อยโดยไม่สนใจฟังเสียงของเดเนียลที่สั่งเธอเมื่อกี้ เพราะนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาสั่งเธอแบบนี้ ทุกครั้งที่มีผู้หญิงเข้าไปในห้องของเขา และออกมาในอีกครึ่งชั่วโมงต่อมา เขาก็จะออกมาสั่งให้เธอบอกให้คนเอาโต๊ะตัวใหม่เข้าไปทันที เธอเบื่อ และเธอก็รังเกียจเขาที่ชอบทำเรื่องน่ารังเกียจพวกนั้นในที่ทำงานด้วย เพราะฉะนั้นเธอไม่อยากจะแม้แต่สบตากับผู้ชายที่เป็นเจ้านายและพ่อของลูกเธอตอนนี้เลย หมับ! “ฉันสั่งไม่ได้ยินรึไงว่ะ” ทันทีที่เห็นแม่ของลูกเก็บเอกสารเสร็จหยิบกระเป๋าเตรียมจะเดินออกไปเดเนียลก็รีบคว้าข้อมือเล็กไว้ทันที ซึ่งคนที่ถูกระงับการเดินอย่างมิล่าก็กลอกตาด้วยความเหนื่อยหน่ายออกไปก่อนจะหันไปตอบในเวลาต่อมา “ได้ยิน เดี๋ยวพรุ่งนี้จะแจ้งให้เขาเอามาเปลี่ยนให้” “พูดกับผัวให้มันมีหางเสียงหน่อยมิล่า” “ขอโทษนะคะท่านประทานพอดีฉันยังไม่มีสามีค่ะ” “หึ ไม่มีสามี แล้วไอ้ที่ท้องโตเมื่อสี่ปีที่แล้วใครมันทำถ้าไม่ใช่ฉันมิล่า แถมยังมีหลักฐานชัดเจนขนาดนั้นอีก” “เหรอ...แต่สำหรับฉันนายมันก็แค่ผัวเก่าที่ห่วยแตกและน่ารังเกียจมากที่สุดที่ฉันลืมไปแล้วเดเนียล เพราะฉะนั้นฉันถึงบอกไงว่าฉันไม่มีผัว นายมันก็แค่พ่อของลูกแต่ไม่ใช่ผัวฉัน จำไว้” พรึบ! ตึก ตึก ตึก สะบัดมือหนาออกมิล่าก็เดินออกไปทันที แต่เดินได้ไม่กี่ก้าวสมองก็ฉุดคิดเรื่องของลูกสาวขึ้นมาได้ เธอจึงหันไปพูดอีกครั้ง กึก! “อ๋อ ไปรับลูกแล้วอย่าลืมมาส่งที่คอนโดฉันภายในหนึ่งชั่วโมงด้วยละ ห้ามเอาลูกกลับไปที่แดนนรกนายเด็ดขาด” สั่งเสร็จร่างแบบบางก็เดินออกไปทันทีทิ้งไว้แค่เดเนียลที่ยังยืนอยู่ที่เดิมด้วยอารมณ์คุกรุ่น พานให้นึกถึงคำพูดของเพื่อนสนิทที่พูดก่อนหน้านี้ว่าเขานั้นดูร้ายและเลวแค่ไหน แต่หารู้ไม่ว่าคนที่เพื่อนดูจะปกป้องมากขนาดนั้นก็ร้ายไม่เบาเหมือนกันแถมฝีปากก็ยังดุเดือดไม่สมกับหน้าตาที่ดูนิ่งเงียบเลยสักนิด “หึ สงสัยฉันคงต้องเตือนเธออีกครั้งแล้วล่ะมิล่าว่าฉันไม่ใช่แค่พ่อของลูกเธอ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม