บทที่ 6
เช้าวันต่อมา...
หลังจากที่เมื่อคืนเกิดเรื่องบางอย่างขึ้นในห้องของเอลล่า เช้านี้ก็ดูเหมือนเดเนียลค่อนข้างที่จะอารมณ์เสียอยู่ไม่น้อยเพราะข้างนอกห้องตอนนี้ฉันได้ยินเสียงเขาตวาดใส่ลูกน้องไม่หยุดเลย และในน้ำเสียงนั้นก็แน่นอนว่ามันเต็มไปด้วยความหงุดหงิดและโมโหแค่ไหน จนฉันอดคิดไม่ได้ว่าเขากำลังโมโหลูกน้องจนอยากจะฆ่าเดี๋ยวนั้นเลยหรือเปล่า...
ครืด...และใช่ ฉันทนได้ยินเสียงดังด้วยความโมโหเดือดนั่นของเขาไม่ไหวแล้ว ฉันเลยเดินมาเลื่อนบานประตูให้เปิดออกเพื่อจะเดินออกไปหาไอ้คนโมโหร้ายนั่น แต่ยังไม่ทันได้ก้าวออกจากห้องของเอลล่าเลย เท้าของฉันก็ต้องหยุดชะงักซะก่อน เมื่อเห็นเหล่าลูกน้องของเขากำลังยืนก้มหน้าเรียงแถวหน้ากระดานต่อหน้าเยอะขนาดนั้น
นี่ขนกันมาทั้งบ้านเลยหรือเปล่าเนี่ย?
“ครั้งหน้าพวกมึงอย่าให้พลาดแบบนี้อีก”
“ครับ/ครับ/ครับ/ครับนาย” เสียงเหล่าบอดี้การ์ดทั้งหลายที่กำลังก้มหน้ารับคำสั่งจากเดเนียลอย่างพร้อมเพรียงกันด้วยความหนักแน่น ก่อนที่พวกเขาทั้งหลายจะทยอยเดินออกไปจากห้องทีละคน จนถึงคนสุดท้าย ฉันจึงเดินไปหาเดเนียลที่กำลังยืนเท้าเอวหันหลังให้ฉันอยู่...
“เดเนียล”
ขวับ!
“มีอะไร” ทันทีที่ได้ยินฉันเรียกใบหน้าหล่อเหลาก็หันมาถามฉันด้วยสีหน้านิ่งเรียบทันที ทำเอาฉันที่กำลังอ้าปากจะพูดแอบรู้สึกหวั่นกับสายตาคมดุนั่นของเขาจนมือไม้อยู่ไม่สุขเลยทีเดียว เพราะไม่บ่อยเท่าไหร่นักที่คนร่างสูงตรงหน้าฉัน เขาจะอยู่ในโหมดน่ากลัวแบบนี้
ปกติที่ฉันเห็นนับตั้งแต่ได้กลับมาเจอเขาและทำงานกับเขา เขาออกจะนิ่งและควบคุมตัวเองได้มากกว่านี้ แต่นี่อาจจะเป็นเพราะว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนดันมาเกิดที่นี่มั้งเขาถึงได้โมโหขนาดนั้น...
“เอ๋อ...”
“ไปเก็บของมิล่า เราจะออกจากโรงพยาบาลวันนี้ และจะกลับไปอยู่ที่บ้านฉัน”
“หะ?” ฉันตกใจทันทีที่ได้ยินประโยคคำสั่งของเขา จนลืมเรื่องที่จะพูดก่อนหน้านี้ทันที
“กลับไปอยู่ที่บ้านนาย? ได้ไงเดเนียล เราเคยคุยเรื่องนี้กันแล้วไง ว่าระหว่างเราจะไม่มีการอยู่ร่วมกัน เราตกลงกันว่าจะเป็นแค่พ่อแม่ของเอลล่าเท่านั้น” ฉันรีบพูดถึงข้อตกลงที่ฉันเคยตกลงกับเขาก่อนหน้าที่จะให้เขาเซ็นเป็นพ่อของเอลล่าเมื่อหลายปีก่อน...
ใช่ เราตกลงกันแล้วว่าต่างคนจะต่างอยู่ หน้าที่ของเราและสิ่งที่ทำให้เราได้กลับมาพบกันอีกครั้งมันเป็นเพราะลูกเท่านั้น ส่วนเรื่องของเรามันจบไปตั้งนานแล้ว
“มิล่า แต่ตอนนี้มันไม่ปลอดภัยเมื่อคะ- “
“เมื่อคืนอะไรเดเนียล บอกฉันมาสิ”
“...” จู่ ๆ เดเนียลที่กำลังจะพูดกับฉันเขาก็หยุดพูดแล้วเงียบไปอย่างดื้อๆ เหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าไม่ควรพูดมันออกมา แถมยังหันหลังหนีฉันอีกด้วย...
ซึ่งท่าทางของเขามันทำให้ฉันสงสัยและยิ่งอยากรู้เข้าไปอีกว่าตกลงเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แล้วทำไมเมื่อกี้ต้องเรียกลูกน้องเข้ามาเยอะแยะขนาดนั้นด้วย....
“นายเป็นใครกันแน่อะเดเนียล” ใช่ ฉันทนเก็บความสงสัยของตัวเองไม่ไหวแล้ว ก็เลยโพล่งออกไปให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปเลย
คือฉันเข้าใจว่าเขาเป็นประธานบริษัทที่ต้องมีลูกน้องคอยดูแลและทำงานให้เขา แต่เมื่อกี้มันเกินไป เขาทำเหมือนตัวเองเป็นลูกหลานมาเฟียที่ต้องมีลูกน้องเยอะแยะคอยอารักขาตัวเองจากศัตรูที่มีรอบด้านยังไงยังงั้น...
“ฉันก็คือเดเนียลคนเดิมที่เธอรู้จักดีมิล่า” เขาพูดมันออกมาทั้ง ๆ ที่ตัวเองกำลังหันหลังให้ฉันอยู่ด้วยน้ำเสียงที่นิ่งกว่าตอนแรก
“ไม่ใช่ เมื่อก่อนนายไม่ใช่แบบนี้ อีกอย่างตอนนี้นายมีเรื่องที่กำลังปิดบังฉัน และมันก็เกี่ยวกับเอลล่าด้วยใช่มั๊ยเดเนียล”
“...”
“ถ้านายเงียบแบบนี้ แสดงว่าใช่” หลังจากที่ฉันพูดออกไป เขาและฉันก็ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา ต่างคนต่างเงียบเหมือนกำลังอยู่ในห้วงความคิดของตัวเอง จนในที่สุดฉันก็ตัดสินใจพูดบางอย่างกับเดเนียลไป เพื่อเป็นข้อแลกเปลี่ยนกับความจริงที่ฉันควรได้รู้...
“ถ้านายยอมบอกความจริงกับฉัน ฉันจะยอมไปอยู่บ้านนาย แต่มีข้อแม้อย่างหนึ่ง นายห้ามพาผู้หญิงคนไหนเข้ามาในบ้านเด็ดขาด”
ขวับ! ทันทีที่ฉันพูดจบเดเนียลก็หันมาทางฉันทันที ก่อนที่เขาจะแสยะยิ้มมุมปากอย่างที่ชอบทำเป็นประจำ
“หึ ฉันไม่มีความจริงจะบอกเธอหรอกนะมิล่า แต่ข้อแม้ของเธอมันน่าสนใจดีนะ เหมือนเธอกำลังเบ่งอำนาจกับฉันอย่างที่เธอชอบทำเหมือนเมื่อก่อนตอนที่อยู่กับฉันเลย เธอว่ามั๊ย?” เดเนียลขยับเข้ามาหาฉันช้าๆ ด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์พร้อมกับรอยยิ้มที่ฉันไม่ชอบเอาซะเลย ก่อนที่เขาจะยื่นมือของตัวเองมาสัมผัสตามกรอบหน้าของฉันอย่างช้าๆ
พรึบ!
“อย่ามาทำตัวรุ่มร่ามกับฉันเดเนียล” ฉันปัดมือเขาออกจากใบหน้าตัวเอง แล้วมองแรงใส่เขาอย่างเคืองๆ ที่ชอบฉวยโอกาสกับฉัน...
“โอเค้~ ไม่ทำก็ได้” เดเนียลพูดออกมาพร้อมกับพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ เมื่อเห็นฉันจ้องมองเขาไม่วางตา
“ตกลงว่าไง จะบอกความจริงฉันได้รึยังว่าเมื่อคืนนี้เกิดอะไรขึ้น”
“เธอนี่มันดื้อด้านเอาแต่ใจไม่เปลี่ยนนะมิล่า”
“เรื่องของฉัน รีบๆ บอกฉันมาสักทีเถอะ” ฉันเร่งรบเร้าให้เดเนียลรีบๆ บอกฉันมา จนเดเนียลที่กำลังมองหน้าฉันอยู่ถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ที่ฉันไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
แต่เขาก็จ้องมองฉันกลับมาอีกครั้ง ด้วยสีหน้าเรียบนิ่งเหมือนกำลังใช้ความคิดอยู่ ซึ่งมีบางอย่างที่ฉันสังเกตได้คือ แววตาของเขา เดเนียลมักจะชอบทำสีหน้านิ่งเวลาที่เขากำลังคิดตัดสินใจกับอะไรสักอย่าง แต่สิ่งที่เขาปิดไม่ได้ก็คือสายตาคมดุคู่นั้นของเขาที่มักจะหวั่นไหวทุกครั้งที่เขากำลังคิดหนักถึงเรื่องบางอย่างอยู่...
“เมื่อคืนมีคนร้ายเข้ามาในห้องตามที่เธอเห็น และมันกำลังจะฉีดยาเข้าขวดน้ำเกลือของลูก” ฉันเบิกตากว้างทันทีอย่างตกใจหลังจากที่เดเนียลเอ่ยออกมา...
“ฉีดยา! ยาอะไร แล้วเอลล่าไปเกี่ยวอะไรด้วย” ฉันรัวคำถามใส่เดเนียลอย่างคนสติหลุดทันทีเมื่อได้รู้ความจริงเรื่องเมื่อคืนนี้ คือมันทั้งตกใจ โกรธ โมโห และกลัวไปพร้อมๆ กันที่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับเอลล่าลูกสาววัยสี่ขวบของฉัน และฉันก็อยากรู้มากด้วยว่าทำไมต้องเข้าทำร้ายลูกฉัน ทั้ง ๆ ที่เธอก็ยังเด็ก...
“มิล่า!! มีสติหน่อย ที่ฉันไม่อยากบอกให้เธอรู้ก็เพราะแบบนี้ไง ถ้าเธอรู้ เธอจะไม่สามารถรับมือกับมันได้แบบนี้ไง” เดเนียลตะโกนเรียกฉันพร้อมกับตบเบาๆ ที่แก้มของฉันเพื่อเรียกสติฉันกลับมา...
“ทีนี้เข้าใจแล้วใช่มั๊ยว่าทำไมฉันอยากให้เธอไปอยู่บ้านฉัน เพราะลูกกำลังอยู่ในอันตราย...รวมถึงเธอด้วย”
“ใครเป็นคนทำ” ฉันไม่สนใจว่าเดเนียลกำลังพูดถึงอะไรแต่ฉันเลือกที่จะถามเขากลับไปอย่างเหม่อลอย เพราะในหัวฉันตอนนี้มันรู้สึกตื้อไปหมด ฉันกำลังกังวลและกลัวกับสิ่งที่ได้รับรู้เมื่อกี้
“ฉันกำลังให้ไอ้แซคสืบอยู่”
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! แอ๊ด~
ฉันรีบเช็ดน้ำตาที่มันคลออยู่ออกก่อน ก่อนจะหันไปทางประตูที่มีคนเปิดเข้ามา...
“หวัดดีมิล่า” เป็นดั๊กเชนเพื่อนสนิทของเดเนียลนั่นเองที่เข้ามาเป็นคนแรกและเอ่ยทักทายฉัน ฉันจึงพยักหน้าให้เขากลับไป ก่อนจะเห็นเตโช แบล็ก และ คนสุดท้ายที่ฉันจ้องไม่วางตาก็คือมิรันที่เดินตามหลังมา ใช่ มิรันเธอมาด้วย และแน่นอนเธอคือความเกลียดชังและเป็นความน่ารำคาญสำหรับฉันที่สุด...
“เอ๋อ...พวกกูมาเยี่ยมลูกมึงอะไอ้เด น้องแอลอยู่ไหนวะ” เตโชที่รู้สึกได้ว่าบรรยากาศมันเริ่มจะไม่ดีจึงเอ่ยออกมาเพื่อให้ทุกอย่างผ่อนคลาย ฉันเลยเลิกจ้องหน้ามิรันแล้วหันไปทางเดเนียลแทนซึ่งเขาก็กำลังมองฉันอยู่ก่อนแล้ว ฉันจึงทำหน้าบึ้งใส่เขากลับไปแล้วหันไปคุยกับเตโชแทน
“น้องแอลดูการ์ตูนอยู่ในห้องอะ พวกนายเข้าไปได้เลย” ฉันพูดพร้อมกับยิ้มบางๆ ให้เตโชกลับไป...
“ยืนยิ้มห่าอะไรของมึงไอ้เต จะเข้าก็รีบเข้าไปดิว่ะ” เสียงเดเนียลเอ่ยออกมาอย่างหงุดหงิด จนเตโชหันไปตบไหล่ดั๊กเชนที่อยู่ข้างหน้าตัวเอง
“เออๆ ไปไอ้ดั๊กยืนบื้ออยู่ได้ไอ้ห่า” เตโชผลักให้ดั๊กเชนเดินนำไปก่อน ก่อนที่ตัวเองจะเดินตามเข้าไปในห้องของเอลล่า ฉันเลยปลีกตัวไปอยู่ในห้องครัวแทน เพราะไม่อยากไปสูดดมอากาศร่วมกับยัยนั่น...
ด้านมิรัน...
“รู้ว่ามาแล้วเขาจะไม่ชอบ ก็ยังโง่ที่จะมา” เสียงของแบล็กที่นั่งอยู่ข้างๆ มิรันเอ่ยออกมาอย่างเย็นชา เขาคือผู้ชายที่คอยซ้ำเติมมิรันอยู่ตลอดเวลานับตั้งแต่ที่ทั้งคู่ได้รู้จักกัน...
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนาย ฉันมาเยี่ยมน้องแอลไม่จำเป็นต้องแคร์คนอื่น”
“หึ อย่าเอาลูกมันมาเป็นข้ออ้างเพื่อมาหามันหน่อยเลย มันทุเรศว่ะ”
“แบล็ก!!” มิรันถึงกับขึ้นเสียงใส่แบล็กทันทีที่โดนว่าอย่างนั้น แต่คนที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอกลับไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านอะไรกับน้ำเสียงแบบนั้นของเธอเลยด้วยซ้ำนอกจากแสยะยิ้มมุมปากเหมือนปีศาจร้ายกลับไป
ส่วนมิรันเธอเองก็รู้สึกเจ็บทุกครั้งที่โดนผู้ชายใจร้ายคนนี้ต่อว่าตัวเองเสียๆ หายๆ อยู่ตลอด พอๆ กับผู้ชายอีกคนที่อยู่ข้างนอกนั่น ที่ชอบทำร้ายจิตใจเธอเหมือนเธอเป็นคนไม่มีความรู้สึกและไร้หัวใจ แถมตอนนี้เขาก็ยังทำร้ายจิตใจเธอด้วยการออกไปอยู่กับผู้หญิงที่เธอแสนจะเกลียดขี้หน้าอย่างมิล่าอีกด้วย...
“อะไรของพวกมึงสองคนว่ะ กัดกันตลอดเลยไอ้สัส เมื่อคืนยังกัดกันไม่พอว่างั้น” ดั๊กเชนที่ยืนอยู่ข้างเตียงน้องแอลหันมาต่อว่ามิรันกับแบล็กที่เสียงดังอยู่ตรงโซฟา แต่ในน้ำเสียงนั้นแอบแฝงด้วยการแซะเบาๆ ถึงสถานะของทั้งคู่
“พูดบ้าอะไร ระวังปากด้วยดั๊กเชน” มิรันหันไปแหว่ใส่ดั๊กเชนทันทีที่เขาชอบพูดเรื่องของตนกับแบล็กในที่สาธารณะแบบนี้...
“หึ ระวังเพื่ออะไรวะมิรัน เธอกลัวไอ้เดมันจะรู้ว่าเมื่อคืนเธออยู่กับไอ้แบล็กนะเหรอ?”
“ดั๊กเชน!!! นายเป็นบ้าอะไรฮะ!” มิรันลุกพรวดขึ้นมาแล้วตะคอกเสียงดังใส่ดั๊กเชนจนเลือดขึ้นหน้าที่เพื่อนไม่ยอมหยุดพูดเรื่องของตน จนลืมไปว่าในห้องนั้นมีน้องแอลลูกสาวของเดเนียลอยู่ด้วย
“ฮึก อาดั๊ก น้องแอลกลัว~ ฮึกฮรื่อ น้องแอลจะเอาปะป๋า~”
เอลล่าร้องไห้ออกมาลั่นห้องอย่างนึกกลัวกับท่าทางและน้ำเสียงของมิรันเมื่อกี้นี้ จนมิรันที่เพิ่งรู้ตัวลนลานทำอะไรไม่ถูก เมื่อลูกสาวของคนที่เธอกลัวที่สุดร้องไห้ออกมาลั่นห้อง สุดท้ายเธอจึงตั้งสติตัวเองแล้วรีบเดินเข้าไปปลอบน้องแอลอย่างร้อนรนเพราะกลัวว่าคนที่ไม่อยากให้เข้ามาตอนนี้ ผ่านมาเห็นพอดี...
“น้องแอล อารันขอโทษนะคะ ไม่ร้องน้า”
“ฮึกฮรื่ออออ ปะป๋า!!” เมื่อมิรันเดินเข้ามาปลอบเอลล่าเอลล่าก็ยิ่งแสดงอาการหวาดกลัวและร้องไห้หนักกว่าเดิม จนบุคคลที่มิรันกลัวนักหนาอย่างเดเนียลเปิดประตูเข้ามา...
ครืด...
“แอล!”
พลั่ก!! ตุบ! “อ๊ะ!” มิรันล้มไปกองอยู่ที่พื้นทันทีหลังจากที่โดนเดเนียลผลักให้ออกห่างจากเอลล่าอย่างไม่ไยดี ก่อนที่เขาจะหันไปถามเธอด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว...
“เธอทำอะไรน้องแอลมิรัน!”
“ฉะฉัน...” มิรันพยายามที่จะตอบกลับเดเนียลแต่พอได้สบตาเขามันกลับทำให้เธออึกอักจนพูดอะไรไม่ออก
“เธอมันตัวน่ารำคาญมิรัน ออกไป!!!”
เฮือก!! มิรันสะดุ้งตกใจอย่างหวาดกลัวที่โดนเดเนียลตะคอกใส่ จนทั้งห้องเงียบสนิท จะมีก็แต่น้ำตาของเธอที่กำลังไหล่อาบแก้มทั้งสองข้าง มิรันหันไปมองรอบๆ ห้อง ทุกคนได้แต่นิ่งไม่มีใครคิดจะช่วยแก้ต่างให้กับเธอสักคน แม้กระทั่งเตโชที่ดูจะโอเคกับเธอที่สุดเขาก็ได้แต่ยืนเงียบไม่พูดอะไรออกมา จนมิรันหันไปทางเดเนียลอีกครั้ง และมองผ่านทะลุไปข้างหลังของเขาที่มีผู้หญิงที่เธอเกลียดที่สุดอย่างมิล่ากำลังยืนมองเธออยู่...
“ไอ้แบล็ก มึงช่วยพาเมียมึงออกไปให้พ้นหน้ากูสักที” เดเนียลมองผ่านมิรันไปพูดกับแบล็กที่นั่งอยู่ตรงโซฟาข้างหลังของเธอ...
“กูเคยบอกมึงว่ากูมีเมียด้วยเหรอวะไอ้เด เมียใครคนนั้นก็ดูแลเอาเองดิว่ะ”
ครืด ปัง!! (เสียงเปิดและปิดประตูโดยมิล่า)
“มามี้~”
“มิล่า!!” เดเนียลหันไปเรียกมิล่าที่วิ่งออกไป ก่อนจะหันมาสาดคำหยาบใส่เพื่อนตัวเองอย่างโมโหที่พูดอะไรไม่คิด...
“ไอ้เหี้ยแบล็ก!”
“ไอ้ดั๊กฝากดูแลลูกกูแป๊บหนึ่ง” ก่อนจะหันไปฝากลูกสาวไว้กับดั๊กเชนที่ยังยืนอยู่ที่เดิม
“น้องแอลเดี๋ยวปะป๋าไปตามมามี้ก่อนนะคะ”
“ค้า~” เมื่อลูกสาวตอบกลับมาแล้วเดเนียลจึงรีบเดินตามมิล่าออกไป...
ด้านมิล่า...
ตึก ตึก ตึก
หมับ!!
“เธอจะไปไหน” ในขณะที่ฉันกำลังเดินอยู่ จู่ ๆ ก็มีมือหนามาจับที่ต้นแขนของฉันพร้อมกับเสียงทุ้มๆ ของเขาที่เอ่ยถามฉัน
“ฉันขอยกเลิกที่จะไปอยู่บ้านนาย ฉันจะอยู่คอนโดตามเดิม และใช้ชีวิตตามปกติเหมือนทุกวัน” ฉันตอบกลับเขาไปโดยไม่สนใจคำถามของเขาว่าคืออะไร...
“เป็นอะไรอีก เมื่อกี้เราตกลงกันแล้วน่ะมิล่า อีกอย่างตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่เธอกับลูกจะอยู่ห่างฉัน” เดเนียลพูดออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย
“แต่ฉันไม่อยากเข้าไปยุ่งในวงจรอุบาทว์ๆ ของพวกนาย” ใช่ ไอ้วงจรที่เพื่อนแอบกินกันเองตั้งแต่สมัยตอนเรียนซึ่งเป็นผู้หญิงคนเดียวในกลุ่ม และฉันก็โคตรเกลียดยัยนั่นมากด้วย เพราะหลายๆ เรื่องตอนนั้นที่ฉันกับเดเนียลทะเลาะกันก็มาจากผู้หญิงชั้นต่ำคนนั้น...
“ถ้าเธอหมายถึงเรื่องมิรัน มันไม่ได้มีอะไรเลย แล้วถ้าเธอกลัวว่ามิรันจะเข้าไปยุ่งวุ่นวายที่บ้านฉัน เธอเลิกคิดไปได้เลย เพราะมิรันไม่มีทางที่จะเข้าบ้านฉันได้”
“ถ้าเธอไม่เชื่อฉัน ฉันจะยอมให้เธอจัดการทุกอย่างในบ้านรวมถึงเรื่องส่วนตัวของฉันในระหว่างที่เราต้องอยู่ด้วยกัน ขอแค่เธอยอมไปอยู่กับฉัน ตอนนี้ฉันเป็นห่วงเธอกับลูกมากมิล่า”
“…”