ตอนที่ 5 สามคนผัวเมีย

1707 คำ
แม้ว่าเขาจะด่าว่าเธอไร้ยางอายแต่ดูเหมือนผู้หญิงของเขาและเขามากกว่าที่กำลังทำตัวไร้ยางอาย “อย่าด่าตัวเองอย่างนั้นสิคะ เดี๋ยวก็เสียใจแย่” อัยยารู้สึกว่าชักไปกันใหญ่ ไม่นึกว่าอดีตเมียของภูธรจะกร้านโลกขนาดพูดเรื่องน่าอายในที่สาธารณะไม่รู้จักอายบ้าง เธอเป็นผู้หญิงยังอายแทน “ไปกันเถอะค่ะภู คนเยอะแยะ” ภูธรยอมล่าถอยไม่ต่อปากต่อคำกับธารมิกาต่อ เขาเลือกจะพาคนที่เขารักไปร้านที่ไม่มีคนแล้วเลือกชุดใส่ไปงานคืนนี้คู่กับเธอด้วยเช่นกัน หากเขาออกงานคู่กับอัยยาเดี๋ยวนักข่าวก็ตีแผ่เอง ถึงเวลานั้นไม่ต้องแถลงข่าวก็มีคนมาขอสัมภาษณ์เอง และเขาก็ให้ข่าวตามความจริงก็จบ แต่ขณะรอชำระเงินอยู่นั้นผู้ช่วยของเขาก็โทรมาด้วยเรื่องเร่งด่วน “คุณภูครับ ตอนนี้กรรมการผู้จัดการยังไม่อนุมัติให้คุณภูลาออกจากการเป็นประธานบริษัท เนื่องจากไม่ไว้ใจผู้บริหารคนอื่นคุณภูจึงต้องรักษาการแทนไปก่อนระหว่างนี้ครับ แต่ที่น่าทึ่งก็คือหุ้นของธงพานิชย์ขึ้นทำเนียบหุ้นที่ร้อนแรงและน่าเชื่อถือที่สุด ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ต้องหยุดการซื้อขายชั่วคราวเพื่อตรวจสอบที่มาของเม็ดเงินลงทุนครับ” “เป็นไปได้ยังไง” ภูธรคิดว่าหุ้นของธงพานิชย์ขึ้นสู่จุดสูงสุดแล้ว ที่เหลือก็แล้วแต่คนบริหารงานต่อ และเขาคิดว่าจะขายหุ้นในมือออกให้หมดเพื่อไปสร้างบริษัทของตนเองที่เพิ่งเป็นแค่สตาร์ทอัพ และจะเป็นเขาที่เป็นผู้บริหารทำให้มันขึ้นมายิ่งใหญ่เอง “ไม่แน่ใจครับ แต่นักลงทุนต่างชาติกำลังซื้อเพื่อเกร็งกำไรและอัตราการซื้อขายมากกว่าปกติจึงทำให้ราคาหุ้นดีดตัวอย่างรวดเร็ว” ภูธรคิดว่ามันแปลกประหลาดเกินไป ในวงการธุรกิจนี่เรียกว่าการปั่นหุ้นเสียด้วยซ้ำ แต่ที่แปลกใจคือในธงพานิชย์ไม่มีคนที่คิดจะปั่นหุ้นแน่นอน เพราะหากตรวจสอบได้ย่อมต้องชดใช้ความเสียหายที่เกิดขึ้นและมันไม่คุ้มค่าที่จะเสี่ยงเลยสักนิด “ดูสถานการณ์ไปก่อน คืนนี้ฉันต้องไปงานเลี้ยง” เขาวางสายและคิดถึงคำพูดของภรรยาที่กำลังจะกลายเป็นอดีตก็แปลกใจ เดิมคิดว่าเธอน่าจะพูดเกินจริงให้คนดูน่าสนใจ แต่กลับเป็นตามปากที่เธอพูดจริง ๆ เสียได้จนทำให้เขาต้องระมัดระวังตัวแล้วสิ ใครเล่นลูกไม้อะไรอีกนะ! เมื่อคิดไม่ตกเขาจึงโทรหาแม่เพื่อสอบถามว่ามีคนมายุ่มย่ามที่บ้านหรือไม่ แต่เมื่อไม่มีก็สบายใจเพราะหมู่บ้านที่เขาเลือกเป็นหมู่บ้านที่ระบบรักษาความปลอดภัยค่อนข้างดี มีรปภ.เดินตรวจตราทุกชั่วโมง ดังนั้นสบายใจได้เรื่องคนบุกรุกหากไม่ได้นัดเข้ามา ภูธรและอัยยาแยกกันเพราะอัยยาบอกว่ามีธุระนิดหน่อยให้เขามาเจอกันที่หน้างานคืนนี้ เพราะอัยยาเห็นข่าวหุ้นของธงพานิชย์ เธอคิดว่ามันแปลกประหลาดต้องให้คนของเธอสืบก่อนที่จะก้าวเข้าไปเล่นสงครามประสาทกับเมียของภูธร ธารมิกาเลือกชุดสีแดงสดที่ประดับเพชรระยิบระยับด้านหลังเว้าถึงเอว มีสายที่เป็นเพชรห้อยโชว์แผ่นหลังเนียนสวยของเธอออกมา ช่างแต่งหน้าทำผมที่ดีที่สุดถูกเรียกให้เข้ามาจัดการหน้าผมของเธอกับมนชิดาให้สวยเลิศที่สุดในงานเลี้ยงค่ำคืนนี้ที่จัดในห้องบอลลูมของโรงแรมห้าดาวกลางกรุง เวลาหนึ่งทุ่มเป็นเวลาที่เหล่าแขกรับเชิญในงานทยอยเข้ามาพร้อมกับร่วมถ่ายรูปและสัมภาษณ์ถึงโพรเจคและโครงการต่าง ๆ ที่กำลังดำเนินอยู่เพื่อเป็นการแสดงถึงความมั่นคงและมั่งคั่งของธุรกิจตัวเอง รวมทั้งเป็นการโพรโมตชื่อบริษัทของตัวเองไปในตัว และคนที่เป็นดาวเด่นในงานวันนี้คงไม่พ้นภูธร ที่เดินเคียงคู่มากับนักธุรกิจหญิงมากความสามารถอย่างอัยยาทำให้นักข่าวเข้าไปรุมสัมภาษณ์ทั้งคู่ทันที “คุณภูธรคะ ไม่ทราบว่าที่มากับคุณอัยยาวันนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจหรือว่าความสัมพันธ์ส่วนตัวคะ” ภูธรยกยิ้มไม่ได้รู้สึกเขินอายสักนิดกับคำถามนี้ “ผมกับอัยยาเราสนิทกันมาก่อนหน้านี้ครับ ครั้งนี้โชคดีที่ได้พบกันอีกครั้ง และนักธุรกิจสาวสวยขนาดนี้ผมย่อมต้องขอให้เขาแนะนำความรู้ใหม่ ๆ แน่นอนครับ” ภูธรให้สัมภาษณ์พร้อมกับมองไปยังอัยยาที่สวมชุดสีขาวด้วยรอยยิ้ม “แล้วไม่ทราบว่าทางธงพานิชย์จะมีโอกาสที่จะดึงคุณอัยยาเข้ามาร่วมทีมบริหารหรือเปล่าคะ เพราะว่าทั้งสวยและเก่งขนาดนี้คนรุ่นใหม่ไฟแรงที่กำลังพาธงพานิชย์เข้าสู่เศรษฐีหมื่นล้านไม่น่าพลาด” นักข่าวขยี้พร้อมกับแซะเรื่องที่ผู้หญิงสวยมักคู่กับเศรษฐีหนุ่มมากรัก “เรื่องนี้คงต้องแล้วแต่เจ้าตัวครับว่าจะยอมมาเป็นพาร์ทเนอร์กับผมหรือเปล่า” ตอบพร้อมส่งสายตาสื่อความหมายออกไป นักข่าวถึงกับฮือฮากับคำว่าพาร์ทเนอร์ที่ไม่ได้หมายถึงเพื่อนร่วมงานแต่ยังหมายถึงคู่ชีวิต แต่ยังไม่ได้มีข่าวการเลิกราที่ชัดเจนเพียงแต่มีข่าวซุบซิบเรื่องที่ทะเลาะกันกลางห้างเรื่องผู้หญิง แต่ไม่แน่ชัดว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใครหรือที่แท้ก็คือคุณอัยยา นักข่าวจึงลงความเห็นไปในทางเดียวกันว่า นักธุรกิจย่อมลงทุนกับสิ่งที่คุ้มค่าเท่านั้น เพราะการแต่งงานเดิมของภูธรกับธารมิกาก็มีข่าวซุบซิบว่าเป็นเพราะเหตุผลทางธุรกิจ แต่จะใจร้ายกับผู้หญิงเกินไปไหมนะ ขณะที่กำลังคิดกันอยู่นั้น ธารมิกาก็เดินสวยสง่ามาพร้อมกับเพื่อนที่เป็นทายาทนักธุรกิจผู้มีอิทธิพลอย่างมนชิดา ดนัยรัตน์ ทำให้เหล่านักข่าวรีบเข้าไปสัมภาษณ์ทันที “คุณธารมิกา ไม่ทราบว่าวันนี้เหตุใดถึงแยกกับสามีเข้างานคะ มีเหตุผลอื่นหรือเปล่า” ธารมิกายิ้มสดใสพร้อมตอบเสียงดังฟังชัดเจน “ธรรมวัฒน์ไม่ได้ออกมางานสังคมธุรกิจนานแล้วค่ะ ถึงเวลาที่ดิฉันเป็นตัวแทนคุณพ่อมาร่วมงาน แต่ไม่นึกว่าสามีดิฉันจะมาด้วยนะคะเขาไม่ได้บอกเอาไว้” “มีเรื่องร้าวฉานกันในครอบครัวหรือเปล่าคะ” นักข่าวยื่นไมค์ถามทันที “จะพูดยังไงดีคะ คือเรื่องแบบนี้มันค่อนข้างอธิบายยากเล็กน้อย” ธารมิกาพูดให้นักข่าวอยากรู้และแน่นอนเธอตั้งใจให้เป็นอย่างนั้นจะได้คิดได้หลายแง่ แต่แน่นอนว่าคนย่อมคิดลบ “แสดงว่ามีปัญหากันใช่ไหมคะ” “ก็อย่างที่เห็นก็น่าจะเข้าใจได้ใช่ไหมล่ะคะ” ธารมิกาจงใจเบี่ยงสายตาไปยังทั้งคู่ที่ยืนข้างกัน จากนั้นหันมาส่งยิ้มแล้วเข้าไปในงานทำให้นักข่าวออนไลน์รีบทำข่าวกันเร่งด่วนเพื่อเอายอดเอนเกจเมนต์ทันที ภูธรที่ยืนถือแก้วไวน์กำลังคุยกับอัยยาอย่างสนุกสนาน เพราะไม่ได้พบกันนานจึงมีเรื่องให้พูดมากมาย แต่เมื่อหันมาอีกทีพบว่าภรรยาของตนเองกำลังยืนอยู่ทั้งส่งยิ้มหวานมาให้ “ธาร!” เขาอุทานขึ้นทำให้ผู้หญิงที่ยืนด้านข้างหันมองไปทางเดียวกัน อัยยาที่กำลังเปิดปากแต่ก็ไม่ทันการเสียแล้วเมื่อพิธีการให้เธอไปพูดสปีชในงานเป็นการให้ข้อคิดและประสบการณ์ของตนเองแก่นักธุรกิจรุ่นใหม่ที่กำลังเจออุปสรรค โดยที่เธอมองไปยังภูธรและภรรยาไปด้วยขณะพูด “พี่ภู...ไม่ฟังเมียน้อยพูดหน่อยเหรอคะ เดี๋ยวจะเสียใจเอานะว่าไม่สนใจ เดี๋ยวก็ร่ำร้องให้ต้องไปปลอบอกปลอบใจกันบนเตียงอีก” ภูธรสูดลมหายใจลึกพลางคิดว่าธารมิกาไปถูกอะไรเข้าสิงมากันแน่ เขาไม่คิดว่าสายธารที่เคยทำตัวน่ารักจะกวนประสาทเขาได้ขนาดนี้ ในเมื่อจะเลิกกันแล้วไม่อยากจบดี ๆ ใช่ไหม “อัยยาไม่เคยเป็นเมียน้อย เพราะเป็นคนเดียวที่พี่อยากมอบสถานะเมียที่ถูกต้องตามกฎหมายให้” ธารมิกาเจ็บใจก็จริง แต่ว่าเธอต้องข่มอารมณ์เจ็บปวดเอาไว้ แล้วยิ้มด้วยใบหน้าเบิกบานพร้อมกับพูดด้วยถ้อยคำที่แสนใจกว้าง “ถ้าอย่างนั้นเราก็อยู่กันสามคนผัวเมียเหรอคะ ดีจริง ๆ เลยตอนที่พี่ภูไปทำงานธารจะได้มีเพื่อนคุยปรึกษาเรื่องท่าร่วมรัก ว่าท่าไหนจะมัดใจพี่ได้” มนชิดาขบขัน ไม่นึกว่าเพื่อนสาวของเธอจะจัดจ้าน นึกว่าจะเป็นสาวหน่อมแน้มไม่รู้จักสู้คนเสียอีก คิดผิดแท้ ๆ “น่าเกลียด พี่ไม่ได้โรคจิตเหมือนธารหรอกนะ ที่จะมีผู้หญิงพร้อมกับสองคน” “อุ้ย...ลืมไปหรือเปล่าคะ ว่าตลอดสามปีที่ผ่านมาใครกันแน่ที่มีโลกอีกใบ ธารหรือพี่ภูนะคะ” ใบหน้าที่ลอยไปลอยมาเมื่อก่อนอาจจะเคยน่าเอ็นดู แต่ยามนี้มันทำให้เขากำหมัดหากไม่ติดว่าเธอเป็นผู้หญิงเขาอาจจะข่มอารมณ์เอาไว้ไม่ได้ จนต้องสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดกับเธอดี ๆ “จากกันดี ๆ เถอะธารต่างคนต่างไป” ธารมิกาหุบยิ้มแล้วพร้อมกับส่งสายตาเคียดแค้นใส่เขาแล้วเปล่งคำพูดจากก้นบึ้งของหัวใจออกมา “มันง่ายไปค่ะ ที่จะมาหลอกใช้แล้วจากไปง่าย ๆ” “อยากพังหรือไงฮะ” “ใครกันแน่คะที่พัง! ถ้าธารเอาเรื่องตั้งแต่เริ่มต้นมาแฉ อยากรู้จริง ๆ ว่าคนจะมาร่วมทำธุรกิจกับพวกสิบแปดมงกฎหรือเปล่านะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม