มนชิดาหาข้อมูลผู้หญิงในรูป สุดท้ายก็ได้รับรู้ว่าเป็นอดีตคนรักเก่าตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพ ก่อนที่ภูธรจะไปเรียนต่อปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษ และข้อมูลที่เธอสร้างคอนเนกชันด้วยการไปตีสนิทกับคนที่มีโพรไฟล์ดี ๆ และมีฐานะขั้นมหาเศรษฐีทั้งนั้นผู้หญิงอย่างเธอก็ดูออกถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงทันที
“ผู้หญิงคนนี้ไม่ธรรมดานะแก” มนชิดาบอก
“อื้อ...ไม่ธรรมดาสิดี ฉันคิดเหมือนแกที่อัยยาชอบมหาเศรษฐี เพราะพี่ภูเพิ่งพาบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์มูลค่าหุ้นก็พุ่งขึ้นราวกับติดปีก แค่ผลกำไรไตรมาสเดียวก็เท่ากับผลประกอบการหลายปีที่ผ่านมา และตระกูลนี้จะเข้าทำเนียบบิลเลี่ยนแนร์ในอีกไม่ช้า”
“แล้วแกจะทำยังไง”
“ในเมื่อผู้หญิงของเขาชอบคนรวย แต่ว่าพี่ภูกำลังจะออกจากตระกูล หากอัยยารู้ข่าวนี้เข้าเธอคิดว่าผู้หญิงคนนี้จะยังชอบพี่ภูอยู่ไหมล่ะ”
มนชิดาพยักหน้าพลางคิดตาม ในเมื่อผู้หญิงคนนี้เป็นผู้หญิงที่เขาชอบ และจะกลับมาสานสัมพันธ์มันก็ต้องมีเรื่องผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้นหากผู้หญิงคนนี้คิดว่าภูธรไร้ประโยชน์ล่ะจะเป็นยังไง
“แล้วแกจะบอกโต้ง ๆ อย่างนี้น่ะเหรอ” มนชิดาถาม
“ไม่หรอก ต้องหลอกล่อให้เหยื่อมาติดกับเสียก่อนสิ แล้วค่อยเดินเกมต่อ”
มนชิดาไม่คิดว่าผู้หญิงที่เคยสวยหวานน่ารักสดใสอย่างธารมิกายามโกรธก็ร้ายไม่เบา
“แกร้ายมาก ฉันจะไม่ทำให้แกโกรธเด็ดขาด” มนชิดาทำท่าเหมือนกับจะกลัวเพื่อนสาว
“ในเมื่อพวกเขาใช้ฉันเป็นหมากเดินเกมมาหลายปี ก็ถึงเวลาที่ฉันต้องคุมเกมบ้างแล้ว” ธารมิกาตอบเพื่อน
“แล้วแกจะไม่ไปฝากท้องเหรอ”
“ไปสิ”
“น่าสงสารที่หลานฉันจะต้องไม่มีพ่อ” มนชิดาลูบท้องเพื่อนเบา ๆ อย่างปลุกปลอบ
“ในเมื่อพ่อมันชั่ว ก็อย่ามีมันเลย เอาไว้ฉันจะหาพ่อทูนหัวให้ลูกเอง”
ภูธรดีใจมากที่อัยยาติดต่อมา ที่ดีใจกว่าคือจะได้พบกับอัยยาแล้วและตอนนี้เขารอรับเธออยู่ที่สนามบินเพราะเธอมาประชุมที่สิงคโปร์ จึงแวะมาทักทายเขาที่ประเทศไทย
“ภู...คิดถึงอัยยาไหมคะ” อัยยาเดินเข้ามาพร้อมอ้าแขนออกรอรับอ้อมกอดจากอดีตคนรัก ที่เพิ่งรับรู้ว่ากำลังเคลียร์เรื่องเลิกกันและเธอคิดจะสานสัมพันธ์ต่อเพื่ออนาคตของตัวเอง เพราะเธออายุสามสิบสองแล้ว แต่ยังไม่มีมหาเศรษฐีคนใดอยากได้เธอเป็นภรรยาสักคน
เพราะเธอจะไม่คบคนจนเด็ดขาด
“คิดถึงที่สุดเลยครับ”
แน่นอนว่ามนชิดาและธารมิกาให้คนติดตามภูธรไปทุกที่ และปะปนกับคนที่มารอรับผู้โดยสาร มีทั้งกล้องที่จับเสียงได้ชัดเจน
“เขาคันปากบ้างไหมเวลาพูดกับยายนั่น” มนชิดาไม่อยากจะเชื่อหรอกว่าเขาจะคิดถึงอัยยา เขาก็ผู้ชายสารเลวคนหนึ่งที่หลอกใช้ผู้หญิงอย่างเพื่อนของเธอ
“เธอคิดว่าผู้หญิงแบบนี้ หากโดนมองว่าเป็นชู้กับสามีคนอื่นในงานเลี้ยงใหญ่ ๆ จะหน้าหนาหรือหน้าบางกันนะ”ธารมิกากำลังคิด ค่อย ๆ เอาคืนสามีเป็นคนแรก ส่วนเรื่องของธงพานิชย์เธอให้พี่ชายเตรียมหาวิธีเอาเงินและชื่อเสียงของตระกูลของเธอกลับคืนมาเรียบร้อยแล้ว และจะทำให้พวกเขาสิ้นเนื้อประดาตัวในอีกไม่นาน
“ชื่อเสียงอัยยาคือนักธุรกิจสาวที่รับจ้างเป็นซีอีโอบริหารงานให้บริษัทชั้นนำทั่วโลก หากมีเรื่องอื้อฉาวฉันว่าไม่ค่อยเหมาะนะ มีผลต่อภาพลักษณ์ นอกเสียจากผลตอบแทนสูงลิบลิ่ว”
ธารมิกาผลิยิ้มทันที พร้อมคิดแผนการที่ยังให้พวกเขาเสวยสุขกันบนกองเงินกองทองก่อนจะถีบตกสวรรค์
“แล้วถ้า...ทำให้ธงพานิชย์ร่ำรวยได้ในพริบตาล่ะ”
“ปั่นหุ้นเหรอ”
“อื้อ...เรียกนักลงทุนเข้ามาลงทุน เพียงพริบตามูลค่าหุ้นก็ทะยานพุ่ง จากนั้นก็ให้คนหน้าด้านทั้งตระกูลแสดงละครกันไปมาก่อนจะรู้ว่าตัวเองสิ้นเนื้อประดาตัวก็เมื่อสายไปแล้ว”
“จับตัวแกหน่อยสิยังอุ่นอยู่หรือเปล่า”
ธารมิกาขมวดคิ้วกับท่าทางของเพื่อนโดยทำให้ธารมิกาครุ่นคิดว่าหมายถึงอะไร
“ทำไมล่ะ ฉันปกติดีนะ”
“เลือดเย็นมาก ไม่ปกติแล้วฉันว่า” แค่คิดว่าวันนี้เป็นเศรษฐีหมื่นล้านแล้วตื่นมาเป็นคนล้มละลายก็ช็อคตาตั้ง
“ไปกันเถอะ เห็นเขารักกันหวานชื่นฉันก็ดีใจ” ธารมิกาพูดเหมือนคนที่ไม่เจ็บไม่ปวด แต่ใครจะรู้ว่ากว่าจะทำใจให้มาพูดอย่างนี้ได้เธอต้องเข้มแข็งมากแค่ไหน
“แกนี่มันสุดยอด ฉันนึกว่าจะเห็นแกน้ำตาแตก แล้วหลานฉันจะเป็นอันตรายเสียแล้ว เอาเถอะไปฝากท้องกัน” มนชิดาขับรถพาเพื่อนไปยังโรงพยาบาลที่ฝากครรภ์ซึ่งเลือกแล้วว่าเป็นโรงพยาบาลที่ดีที่สุด เมื่อตรวจสุขภาพและกรอกรายละเอียดต่าง ๆ ก็ใส่ชื่อเธอเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวคนเดียวเท่านั้น ในเมื่อเขาไม่อยากได้เธอและลูก เขาก็จะไม่มีสิทธิ์ใด ๆ ในตัวของลูกอีกเลย
ส่วนมนชิดาที่มาเป็นเพื่อนกำลังนั่งเสพข่าวและรู้ว่าเพื่อนเริ่มดำเนินการแล้วพลันหวั่นวิตกทันที
“แก...จะเอาเลยเหรอ”
“เอาสิ”
มนชิดาเห็นงานเลี้ยงรวมนักธุรกิจดังที่มีนักข่าวมาทำข่าวมากมาย และงานนี้เชิญอัยยาเป็นแขกพิเศษและพูดในงานนี้ด้วย
“สามีแกจะไปไหม”
“เขาต้องไป ไม่ว่าจะในฐานะธงพานิชย์ หรือฐานะคนรักของนักธุรกิจสาวไฟแรงก็ตาม” เธอเชื่อว่าคนที่กำลังโหยหากันย่อมทำตัวติดกันราวกับปาท่องโก๋เป็นแน่ ส่วนเธอก็มีหน้าที่แค่ไปเปิดตัวในงานเลี้ยงในฐานะตัวแทนของธรรมวัฒน์เท่านั้น
“ไปเถอะ วันนี้ฉันจะไปซื้อชุดสีแดงที่ทั้งงานมองเห็นได้แต่ไกล”
“แกนั่นมันชุดนางร้ายนะ...สีแรงมาก”
“แล้วใครว่าธารมิกาคือนางเอกล่ะ” ในเมื่อนางเอกต้องแพ้ เธอไม่เป็นมันแล้ว นางร้ายสิถึงจะสาสมกับพวกร้ายกาจอย่างพวกเขา
แต่ธารมิกาไม่รับรู้เลยว่าร้านที่เธอไปเลือกเป็นร้านเดียวกับที่ผู้ชายเลว ๆ ที่เธอเคยรักกับผู้หญิงหน้าไม่อายที่รู้ว่าผู้ชายแต่งงานแล้วก็ยังมาเกาะติด ไม่ต่างจากเห็บหมาตัวหนึ่งเลือกมาใช้บริการ
“ธาร...แกจะเข้าไปเหรอ” มนชิดาเห็นแล้วว่าสามีของเพื่อนอยู่กับใคร จึงเอ่ยถาม
“ในเมื่อเราไม่ได้ทำอะไรผิดแล้วเราจะกลัวทำไม ไปสิไปดูกันว่าฉันหรือผู้หญิงคนนั้นที่โดดเด่นกว่ากัน”
ธารมิกาเดินเข้าไปในร้านที่สามีของเธอนั่งรอคนที่เข้าไปในห้องแต่งตัวลองชุด โดยที่เธอเข้าไปเลือกชุดโดยไม่สนใจเขาที่มองเธอไม่วางตาและค่อนข้างตกใจกับการที่มีเธออยู่ในร้านนี้
“ธารตามมาทำไม” เสียงแข็งถามขึ้นเมื่อเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าของเธอ ดวงตาที่เธอเคยหลงใหลยามนี้กำลังมองเธอด้วยความโกรธ
“อ้าว...นึกว่าหนุ่มหล่อที่ไหนควงเมียน้อยมาซื้อของที่แท้ก็สามีนี่เอง” ธารมิกาพูดเสียงดังจนคนในร้านแอบซุบซิบ เพราะธารมิกาเป็นคนดังและภูธรก็ยังเป็นนักธุรกิจไฟแรง คนที่แสงส่องถึงทั้งสองคนจะไม่ทำให้สะเทือนได้อย่างไร
“ธาร...อย่าพูดเสียมารยาทแบบนี้นะ ใครเมียน้อย”
“แล้วสามีธารมากับใครล่ะคะ ถึงปล่อยให้ภรรยามาเดิน ช็อปปิ้งกับเพื่อน หรือว่าผู้หญิงคนนั้นเหรอคะเป็นต้นเหตุที่คุณอยากเลิกกับธาร”
เสียงงึมงำดังขึ้นทำให้ภูธรหัวเสีย แล้วเขาจะไม่ทนอีกต่อไปเอื้อมมือไปกระชากเธอให้ออกจากร้าน
“มานี่”
“อ๊ะ...ปล่อยสิ ธารยังเลือกชุดไปงานเลี้ยงไม่เสร็จเลยนะ หรือว่ากลัวเมียน้อยของคุณรู้คะ ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะหากจะซื้อร้านเดียวกัน ขนาดผู้ชายยังใช้คนเดียวกันเลย” ยิ่งเขาทำเธอเจ็บเธอยิ่งตะโกน แล้วก็ทำให้คนที่เดินผ่านไปมามุงดูจนภูธรกระซิบกับเธอเสียงเครียด
“เธอไม่ใช่เมียพี่อีกแล้ว”
“อ่าว...แต่งงานกันมีพยานรับรู้ นอนด้วยกันทุกคืนไม่เรียกเมียเขาเรียกอะไรเหรอคะ”
ภูธรไม่คิดว่าเธอจะมาเล่นไม้นี้ เขาอยากให้เธอจบกับเขาแบบเงียบ ๆ จะได้ไม่ต้องมีเรื่องอื้อฉาว แต่ดูเหมือนว่าเธอต้องการให้เป็นข่าว
“เธอก็แค่ชู้เท่านั้นล่ะ เพราะที่จริงพี่ก็ไม่เคยรักเธอเลย”
“ว้าย...เมียที่จัดงานแต่งเรียกว่าชู้แบบนี้เรียกว่าหลอกให้แต่งงานหรือเปล่าคะ จะได้เรียกทนายมาคุยฟ้องร้องเรื่องหลอกลวงทำให้เสียทรัพย์รวมทั้งทำให้เสียหายทางร่างกายและจิตใจ” เพราะเรื่องทั้งหมดหากมีเรื่องกันจริง ๆ เขาก็มีส่วนร่วมในขบวนการหลอกลวงเธอและทรัพย์สินของคุณพ่อของเธอเหมือนกัน
เอาสิ สังคมจะได้รับรู้ว่าพวกธงพานิชย์มันก็แค่ปล้นเขารวย
อัยยาที่เดินออกมาเพื่อจะให้ภูธรดูว่าชุดสวยหรือเปล่า แต่กลับเห็นคนยกมือถือขึ้นถ่ายขณะที่ภูธรกับเมียเก่าของเขาทะเลาะกัน อัยยาจึงหลบก่อนเพราะไม่อยากมีเรื่องเสื่อมเสีย แต่ทว่ากลับช้ากว่าเมียเก่าของเขาที่เรียกขึ้นมาก่อน
“อ่าว...คุณอัยยา เปลี่ยนชุดเสร็จแล้วเหรอคะ ที่จริงไม่ต้องลงทุนซื้อชุดแพง ๆ ก็ได้นะคะ สามีดิฉันเขาชอบผู้หญิงที่ไม่ใส่เสื้อผ้า แค่นอนอ้าขาก็พอ”
ซี๊ด!!!!
เหล่าไทยมุงซูดปากให้กับความแซ่บของเมียหลวงอย่างธาร มิกาและเชียร์เต็มที่ เพราะอย่างไรเมียแต่งก็ยืนหนึ่ง ส่วนคนมาทีหลังก็ขึ้นชื่อว่าแย่งสามีชาวบ้านอยู่ดี จะให้เชิดชูว่าเป็นเมียน้อยสังคมไทยก็ไม่ยอมรับนักหรอก และดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นนักธุรกิจไฟแรงที่เพิ่งออกข่าวไปได้ไม่นาน ไม่คิดว่าจะใฝ่ต่ำแย่งสามีคนอื่น
“นี่แกถ่ายไว้...แซ่บมาก ข่าวเด็ดแน่ ๆ”
“อุ้ยคุณน้องแอร์ดรอปมาให้พี่ด้วยนะคะ พี่อยากได้หลักฐานพอดี”
ธารมิกาชูมือให้คนที่ช่วยเธอถ่ายเอาไว้ส่งคลิปมาให้ และเธอคิดว่าคนหน้าบางอย่างภูธรคงทนไม่ได้อีกต่อไป
“อัยยาไปครับ ผมว่าไปร้านอื่นดีกว่า”
“อุ้ย...ร้านนี้ดีแล้วนะคะ เหมาะกับนักธุรกิจพันล้านที่กำลังจะเข้าสู่หมื่นล้านในอีกไม่กี่วันเปย์สาวนะคะ เพราะว่าแพงที่สุดแล้ว”
ธารมิกาได้ยินเสียงกัดฟันกรอด และเธอก็สะใจที่ทำให้เขาโกรธได้ ปกติมีแต่เขาที่ทำให้เธอโกรธ
“ธารมิกา!”
“เรียกเมียจ๋าก็ได้นะตอนอยู่บนเตียงก็เรียกไม่หยุดนี่คะ หรือว่ากลัวสับสนว่าคนไหนเมียคนไหนชู้กันแน่”
“ไร้ยางอาย”