บทที่ 4-1

1332 คำ
“กลับเข้าไปในห้องได้แล้ว อย่าให้ฉันต้องพูดเป็นซ้ำสอง” น้ำเสียงดุดัน ท่าทางเอาจริงของติอาโก้ ทำให้วริษาที่กำลังจะอ้าปากแย้งหุบปากฉับ กลีบปากนุ่มเม้มเข้าหากันแน่น หากแต่ดวงตากลมโตฉายชัดว่ากำลังขุ่นเคืองคนตรงหน้าอยู่ไม่น้อย ติอาโก้ทราบดีว่าวริษากำลังไม่พอใจเขา แต่ก็ช่วยไม่ได้ ดึกดื่นขนาดนี้สมควรแล้วหรือที่จะออกไปนอกคฤหาสน์แบบนั้น สิ่งที่เขาทำน่ะถูกต้องที่สุดแล้ว แต่ก่อนจะจากไป ไม่ลืมกำชับเป็นการทิ้งท้าย “อย่าให้ฉันรู้อีกนะว่าเธอแอบออกไปนอกคฤหาสน์ดึกๆ ดื่นๆ อีก ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน” พูดจบก็เดินจากไปทันที ไม่รอให้อีกฝ่ายตอบรับหรือปฏิเสธ วริษามองตามแผ่นหลังกว้างไปอย่างขุ่นเคือง จนแผ่นหลังกว้างลับสายตาไปแล้ว ริมฝีปากเล็กจึงได้ขมุบขมิบต่อว่าอีกฝ่าย “วันพระไม่ได้มีหนเดียวหรอกนะคะ คุณมือขวา” บทที่ 4 Rrr… เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือที่ดังอยู่ไม่ไกลนัก ปลุกให้ปาริมาที่กำลังหลับสนิทค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นอย่างเกียจคร้าน หญิงสาวเหลือบมองนาฬิกาทรงกลมแขวนผนังที่บอกเวลาอีกสิบห้านาทีจึงจะหกโมงเช้า คิ้วสวยขยับเข้าหากัน เพราะไม่ทราบว่าใครกันกันที่โทรหาเธอแต่เช้าตรู่แบบนี้ แม้จะคิดแบบนั้น ร่างเล็กก็ขยับตัวลุกขึ้นอยู่ในท่ากึ่งนั่้งกึ่งนอน เอี้ยวตัวไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ที่โต๊ะเล็กข้างหัวเตียงขึ้นมา สีหน้าที่กำลังงัวเงียเปลี่ยนเป็นสีหน้าตื่นตะลึงเมื่อพบว่าปลายสายเป็นเบอร์โทรศัพท์ของฟาบิโอ ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่เขาโทรมา โทรศัพท์เครื่องนี้เป็นโทรศัพท์ของคฤหาสน์ลิลลี่ คนงานทุกคนในคฤหาสน์จะได้รับไว้คนละเครื่อง และในเครื่องก็จะมีหมายเลขโทรศัพท์ของทุกคนที่อาศัยอยู่ภายในคฤหาสน์ รวมถึงหมายเลขโทรศัพท์ของคนที่มีอำนาจมากที่สุดในคฤหาสน์หลังใหญ่อย่างฟาบิโอด้วย กว่าปาริมาจะตั้งสติได้ สายก็ถูกตัดไปเสียแล้ว หญิงสาวไม่แน่ใจว่าควรจะโทรกลับไปดีหรือไม่ ยังไม่ทันได้คำตอบ เสียงเรียกเข้าก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง ปาริมากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ กลีบปากนุ่มเม้มเข้าหากันแน่น แล้วกดรับสายด้วยสีหน้าคล้ายกำลังกลืนยาขม “สะ สวัสดีค่ะ” “ตื่นหรือยัง” แม้เสียงทุ้มจะไม่ได้นุ่มหู แต่ทว่าก็ไม่ได้แข็งกระด้าง แต่นั่นก็เพียงพอแล้วที่ทำให้ปาริมาตัวแข็งทื่อราวกับว่าได้อยู่ต่อหน้าเขา กว่าจะหาเสียงของตัวเองเจอแล้วโต้ตอบกลับไปได้ก็ตอนที่อีกฝ่ายพูดออกมาอีกประโยค “ได้ยินที่ฉันพูดไหม” “ดะ ได้ยินแล้วค่ะ ผิง...ตื่นแล้วค่ะ” “งั้นก็ดี ขึ้นมาเตรียมเสื้อผ้าให้ฉันด้วย วันนี้ฉันต้องเข้าโรงแรม” “ทราบแล้วค่ะ ผิงจะรีบไป” ปาริมาถือสายรอว่าฟาบิโอจะสั่งอะไรอีกหรือไม่ แต่เพียงไม่นานหลังจากที่เธอพูดจบปลายสายก็กดตัดไป หญิงสาวจึงรีบวางโทรศัพท์ในมือลง รีบไปจัดการอาบน้ำแปรงฟันอย่างว่องไว ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที ร่างแบบบางก็อยู่ในชุดพร้อมปฏิบัติงาน เท้าเล็กขยับอย่างรวดเร็วมุ่งหน้าไปยังชั้นสองของคฤหาสน์หลังงาม ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก… “เข้ามา” เมื่อคนข้างในเอ่ยปากอนุญาต ปาริมาจึงผลักบานประตูไม้สีเข้มแล้วพาตัวเองเข้าไปด้านในโดยไม่ลืมดึงประตูปิดแล้วพาตัวเองเข้าไปด้านในโดยไม่ลืมดึงประตูปิด มือบางทั้งสองข้างประสานกันเอาไว้ด้านหน้า ร่างแบบบางขยับเท้ามาเรื่อยๆ จนกระทั่งหยุดเท้าตรงหน้าเจ้าของห้องอย่างฟาบิโอ ร่างสูงอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำสีขาวสะอาดตา มือหนาใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กซับเส้นผมสีน้ำตาลเข้มประกายทองที่ดูเปียกหมาด บวกกับกลิ่นกายหอมฟุ้งที่ลอยเข้าปะทะจมูก ปาริมาจึงทราบว่าชายหนุ่มผ่านการอาบน้ำมาเรียบร้อยแล้ว ใบหน้าคมคายหันมาหาเธอก่อนจะเปิดบทสนทนาทั้งที่ยังคงขยับมือเช็ดเส้นผมไปด้วย “ไปเตรียมชุดให้ฉันสิ” “ค่ะ” ปาริมาสบตากับฟาบิโอก่อนที่จะรับคำ แม้จะไม่ทราบว่าเขาจะลงโทษแบบไหน หากแต่หญิงสาวจำในสิ่งที่เขาออกปากสั่งได้ขึ้นใจ เมื่อรับคำแล้วเท้าเล็กจึงขยับไปที่ตู้บิลด์อินขนาดใหญ่แบบติดผนัง มือบางเลื่อนบางประตูให้เปิดกว้าง เสื้อผ้าที่มีมากมายทำให้หญิงสาวรู้สึกตาลายเล็กน้อย ปาริมากระพริบตาถี่ๆ เพื่อปรับการมองเห็นให้ชัดขึ้น ภายในตู้มีเสื้อเชิ้ตแขนยาวแทบจะทุกเฉดสีแขวนอยู่ ถัดมาเป็นเสื้อสูทสากลที่เรียงไล่เฉดสีกันไป ถัดจากเสื้อสูทก็เป็นกางเกงสแล็คและเนกไทที่เรียงไล่สีกันตามลำดับ ปาริมาชั่งใจอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะเลือกหยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงสแล็คพร้อมเนกไทและเสื้อสูทสีดำที่ตัดเย็บอย่างประณีตออกมา แล้วนำมาวางไว้ที่ปลายเตียง ฟาบิโอมองปาริมาที่ขยับถอยออกไปหลังจากที่นำเสื้อผ้ามาวางไว้บนเตียง ร่างเล็กยืนห่างออกไปพอสมควร “เมื่อคืนรู้ไหมว่าตัวเองกลับห้องได้ยังไง” จู่ๆ ฟาบิโอก็ถามออกมาโดยที่ปาริมาไม่ทันได้ตั้งตัว หญิงสาวแสดงสีหน้าตื่นตระหนกออกมา เพราะมัวแต่ตกใจตอนที่เขาโทรไป จึงทำให้ลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท สิ่งที่เธอจำได้นั่นก็คือเธอนั่งอยู่ที่โซฟาตัวยาวในห้องทำงานของฟาบิโอ เธอหนาวเพราะการทำงานของเครื่องปรับอากาศและเขาก็มีน้ำใจมอบเสื้อคลุมให้เธอได้คลายความหนาวเย็นลง ก่อนที่เปลือกตาของเธอจะเริ่มหนักอึ้งจนฝืนเอาไว้ไม่ไหว หลังจากนั้นเธอก็จำอะไรไม่ได้อีก นั่นน่ะสิ เธอกลับห้องได้อย่างไรกัน ดวงตากลมโตฉายชัดว่ากำลังตื่นตระหนกเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว ดวงตาสีดำขลับเหลือบมองใบหน้าคมคายที่แสดงสีหน้าเรียบเฉย หากแต่ดวงตาสีเทาอ่อนที่สะท้อนกลับมาบ่งบอกว่าเขาต้องการคำตอบจากเธอ ปาริมาเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น หญิงสาวสบตาเขาแล้วให้คำตอบ “ไม่ทราบค่ะ” หญิงสาวตอบแล้วหลุบสายตาลงต่ำ ทำแบบนี้หญิงสาวถือว่าไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด เพราะฟาบิโอสั่งว่าให้เธอสบตาเขายามที่พูดคุยกัน เมื่อเธอให้คำตอบแล้ว เธอก็มีสิทธิ์จะเลี่ยงสายตาคู่คมที่ทำให้มีแต่จะทำให้เธอเกิดอาการประหม่าอยู่ร่ำไป ยังไม่รวมเรื่องที่เธอพยายามปกปิดเอาไว้นั่นอีก เธอกลัวเหลือเกินกลัวว่าแววตาของเธอจะสะท้อนสิ่งนั้นให้เขาได้รับรู้ เธอจะปล่อยให้เป็นแบบนั้นไม่ได้เป็นอันขาด เมื่อปาริมาให้คำตอบแบบนั้น ฟาบิโอก็ไม่ได้คาดคั้นอะไรเธออีก เขายื่นผ้าขนหนูผืนเล็กมาตรงหน้าเธอ ทีแรกหญิงสาวแสดงสีหน้างุนงง แต่ครู่ต่อมาจึงเข้าใจว่าเขาคงใช้มันเสร็จแล้ว มือบางจึงรับเอาไว้ ก่อนจะนำไปทิ้งลงตระกร้าที่ตั้งอยู่มุมห้อง ปาริมาหยุดอยู่ตรงนั้นอีกพักหนึ่ง เพราะคิดว่าฟาบิโอคงกำลังแต่งตัว จนเขาเรียก เธอถึงได้หมุนตัวกลับแล้วขยับเท้าเข้าไปหาเขา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม