ดวงตาคู่คมเบิกกว้างตื่นตระหนก เมื่อหวนนึกถึงบทรักร้อนแรงสดๆ ร้อนๆ ภายในห้องอาหาร และหยดเลือดที่ติดอยู่กับส่วนปลายแก่นกายของเขา
หรือว่าเป็นเพราะตอนนั้น...
“เธอแท้งจากการมีเพศสัมพันธ์รึเปล่า” เขาหลับตาลงอย่างทอดอาลัย
“ไม่น่าจะใช่ ฉันเห็นรอยช้ำห้อเลือดบนหน้าท้องเธอชัดเจนทีเดียว ดูลักษณะแล้วน่าจะชนกับแง่งโต๊ะหรือฟาดกับอะไรแข็งๆ สักอย่างเข้าจังๆ จนทำให้แท้ง แต่ที่ไม่แสดงอาการตกเลือด ก็น่าจะเป็นเพราะว่ามีเลือดคั่งอยู่ข้างใน ถ้าเป็นอย่างที่ฉันสันนิษฐาน ฉันว่าตอนนี้เธอน่าจะมีอาการปวดท้องให้เห็นบ้างแล้วละ”
ฟังสิ่งที่ภคินพูดแล้วปรินธรก็คลับคล้ายคลับคลาว่าจะเห็นเวนิกายืนหน้าซีดตัวงอ เอามือกุมท้องไว้แน่นอยู่เหมือนกัน ทีแรกไม่ได้สนใจเพราะคิดว่าหล่อนแกล้งเรียกร้องความสนใจจากเขา หรืออาจจะเป็นเพราะโมโหจนโรคกระเพาะกำเริบ
แต่ที่จริงไม่ใช่...เวนิกากำลังเจ็บปวดจากภาวะแท้งลูกของเขาต่างหาก!
ชายหนุ่มขบกรามจนแทบบิ่นด้วยความเดือดดาล ในหัวมีแต่คำถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ทำไมจู่ๆ ถึงได้รับบาดเจ็บจนแท้ง...
ใครเป็นคนทำ!?
ปรินธรอยากจะจับมันมาถลกหนัง โรยเกลือ แล้วสับมันเป็นชิ้นๆ ให้สมกับความชั่วช้าที่มันกล้ากำแหงทำให้ผู้หญิงของเขาเจ็บ!!!
“รักษาเธอด่วนที่สุด ทำยังไงก็ได้ให้เธอปลอดภัย” เขาเอ่ยเสียงเครียด เวลานี้ไม่มีกะจิตกะใจนึกถึงเรื่องอะไรทั้งสิ้น นอกจากความปลอดภัยของเวนิกา
“แล้วเรื่องไขกระดูกล่ะ”
ปรินธรขมวดคิ้วมุ่นครุ่นคิดหนัก ในสมองตื้อตันกับสองทางเลือกที่เขาไม่อยากเลือกสักทาง ผู้หญิงสองคนนี้มีผลกับความรู้สึกของเขาไม่มากก็น้อย คนหนึ่งรักใคร่ผูกพันกันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย ส่วนอีกคนก็หลงใหลรู้ใจกันมานาน
เขาไม่อยากทำร้ายใครคนใดคนหนึ่ง...
แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ เพราะมีชีวิตของวรรณวรินที่เขาจะเสี่ยงไม่ได้ และมีเพียงเวนิกาเท่านั้นที่จะช่วยได้!
ชายหนุ่มถอนหายใจ แล้วหักใจถาม
“การบริจาคไขกระดูกหลังจากอาการแท้ง จะส่งผลกระทบกับร่างกายยังไงบ้าง” ถ้ามีผลเสียเขาก็ไม่ควรให้เวนิกาเสี่ยง
“โชคดีที่อายุครรภ์คุณเวย์ตอนนี้น้อยมาก ถึงจะมีเลือดคั่ง แต่หลังจากทำการขูดมดลูกและรักษาแล้วน่าจะฟื้นฟูร่างกายได้ 70-80% ต่อให้ร่างกายของเธอจะไม่แข็งแรงสมบูรณ์เท่าเดิม เพราะอาจได้รับผลข้างเคียงอยู่บ้าง แต่ก็ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิตแน่นอน”
ปรินธรพยักหน้ารับรู้ ขอแค่เวนิกาไม่มีอันตรายร้ายแรงและยังสามารถช่วยชีวิตของวรรณวรินได้ ก็ไม่น่าจะมีปัญหา
“ตกลง ทำตามวิธีของนายได้เลย”
ภคินค่อนข้างพอใจที่ได้รับคำตอบอย่างชัดเจน แต่ก็อดเป็นกังวลแทนเพื่อนไม่ได้
“แล้วนายจะบอกคุณเวย์เรื่องลูกยังไง”
คนถูกถามพ่นลมหายใจหนักหน่วงยาวเหยียด ไม่รู้เหมือนกันว่าควรจะบอกเธออย่างไร แต่เขาจะไม่ยอมให้เวนิการู้สึกผิดคิดว่าที่แท้งเป็นเพราะความประหม่าเลินเล่อของเธอเป็นอันขาด มันไม่ใช่ความผิดของเธอ เป็นเพียงอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดแล้วก็ต้องยอมรับ ถ้าจะมีใครต้องแบกรับความเจ็บปวดนี้ไว้ก็ขอเป็นเขาแค่คนเดียวก็พอ
“ฉันจัดการเอง นายเตรียมการผ่าตัดก็พอ”
ปรินธรเดินออกจากห้องทำงานเพื่อนสนิท สีหน้าทั้งมืดมนและหม่นหมอง ทอดถอนใจครั้งแล้วครั้งเล่าข่มความเสียใจเพื่อรับมือกับความปวดร้าวครั้งนี้ให้ได้ เขาสั่งตัวเองให้เข้มแข็งพอที่จะเล่นละครฉากนี้ไปจนจบ เมื่อตัดสินใจเป็นผู้ร้ายในสายตาของเวนิกาแล้ว เขาจะต้องไม่อ่อนไหวและทำให้เธอเชื่ออย่างสนิทใจ
เกลียดเขาเถอะ...
เวนิกาจะโกรธแค้นเขามากแค่ไหนก็ได้ เขาจะรับเอาไว้เอง ขอแค่ให้เธออย่าเป็นทุกข์ จงเอาความโกรธเกลียดที่มีมาลงกับเขาให้หมด
ชายหนุ่มเปิดประตูห้องพักรับรองเข้าไปหยุดยืนด้วยสีหน้าเรียบสนิทไร้อารมณ์ ล้วงมือลงกระเป๋ามองไปที่นางเอกสาวอย่างเมินเฉย เอ่ยถามน้ำเสียงเย็นชาห่างเหินว่า
“ตกลงคุณตัดสินใจยังไง จะยอมรับข้อเสนอของผมโดยดีมั้ย”
เวนิกาผุดลุกพรวด กัดปากขมวดคิ้วมองหน้าเขา เหมือนเป็นการถาม แต่ที่จริงทุกคำนั้นเต็มไปด้วยการข่มขู่คุกคามกันชัดๆ เขารู้ทั้งรู้ว่าเธอท้อง แต่ก็ยังจ้องจะเอาไขกระดูกของเธอไปช่วยคู่หมั้นให้ได้ ไม่คำนึงถึงเลือดเนื้อเชื้อไขเลยสักนิด โชคดีเหลือเกินที่เธอไม่ได้ท้องจริงๆ ไม่อย่างนั้นลูกเธอคงไม่แคล้วต้องตายด้วยน้ำมือพ่อใจมารเช่นเขาเป็นแน่
“ทั้งที่รู้ว่าฉันท้อง คุณก็ยังจะให้ฉันบริจาคไขกระดูกอีกเหรอ” เธอถามเขาเสียงขื่น
“ผมจะชดเชยให้” เขาเบือนหน้าหนีไม่อาจสู้หน้าได้ ไม่อยากเห็นสายตาตัดพ้อที่ทำให้เขาใจอ่อนจนล้มเลิกความตั้งใจ