บทที่ 4 ในแววตาทุกข์ระทม 3

925 คำ
ชายหนุ่มมองคนที่นับวันจะได้ใจริพยศเขาอย่างเย็นชา จัดการลงโทษด้วยรสจูบที่บดขยี้ริมฝีปากสีระเรื่อน่าหลงใหลอย่างเร่าร้อน คลุกเคล้าสอดลิ้นรุกล้ำอย่างอุกอาจ บดเบียดทั้งปากทั้งลิ้นดูดดุนความหวานละมุนเติมเต็มความต้องการของเขาอย่างเผ็ดร้อน รุกเร้าจูบเคล้าหนักหน่วงจนกายสาวสะท้านวูบวาบหวั่นไหว ครางเสียงหวานอย่างควบคุมอามรณ์ไม่ได้ “ผ่อนคลายหน่อย” เขากระซิบชิดริมฝีปากอิ่มยิ้มๆ ยังคงบดเบียดแนบชิดปากเธอแนบสนิท ตวัดลิ้นดุนดันดูดลิ้นบดจูบเธออย่างดุเดือด “อื้ม...อื้อ...อ...” เวนิกาครางประท้วง ผลักอกเขาออกเมื่อใกล้จะขาดอากาศหายใจ ค้อนควักตาแทบกลับที่เขาชอบแกล้งกันอย่างนี้เรื่อยเลย ‘จูบสูบวิญญาณ’ เหมือนจะให้เธอขาดใจตายเสียให้ได้ “คนนิสัยไม่ดี” เธอทุบอกหนั่นแน่นแรงๆ ทีหนึ่ง “เวย์อุตส่าห์รีบมาหาคุณแทบแย่ กลัวว่าคุณจะหิว ยังจะมาแกล้งกันอีก ไม่กินแล้วใช่มั้ยคะข้าวน่ะ” “กิน แต่กินคุณก่อน” เห็นรอยยิ้มผุดพรายกับประกายตาวามวาว เวนิกาก็รู้ชะตากรรมว่าวันนี้ยังไงเธอก็ไม่รอด “ไม่เบื่อบ้างเหรอคะ กินแต่ของเดิมๆ ซ้ำซากจำเจ” เธอยกมือลูบซีกหน้าหล่อเหลาเกลี่ยไล้เบาๆ เธออยู่กับเขามาสามปีแล้ว เคยจินตนาการอยู่หลายครั้งว่าปรินธรจะโยนเช็คใส่หน้า แล้วไล่เธอออกไปในสักวันหนึ่ง... แต่สิ่งที่คิดก็ไม่เคยเกิดขึ้น ผู้ชายที่มีทั้งเงินและอำนาจ อยากได้ผู้หญิงแบบไหน ก็มีสาวสวยมากหน้าหลายตาที่ดีกว่าเธอพร้อมสนองปรนเปรอเขาอย่างถึงใจ แต่ไม่รู้ว่าทำไมปรินธรถึงยังคงให้เธออยู่เคียงข้างเขามาจนถึงวันนี้ ซ้ำตั้งแต่มีเธอ เขาก็ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนไหนเลย ไม่น่าเป็นไปได้ที่ผู้ชายมีความต้องการสูงอย่างเขาจะหยุดอยู่ที่เธอแค่คนเดียว ยิ่งในแวดวงที่เขาและเธออยู่มีแต่ผู้หญิงสวยรายล้อมไม่เคยขาด ผู้ชายคนไหนบ้างล่ะที่จะอดใจไหวไม่หลงไปกับสิ่งเร้าสวยๆ งามๆ แต่จนแล้วจนรอดเขากลับไม่เคยมีเรื่องผู้หญิงคนอื่นเข้ามาสร้างความหนักใจให้เธอเลยสักครั้ง เวนิกาไม่เคยละเมอเพ้อพกคิดว่าเขารักเธอ เป็นไปได้ไหมว่าเพราะเขามีคู่หมั้นแล้ว จึงไม่อยากมีเรื่องยุ่งยาก แค่เลี้ยงดูอีหนูไว้บำเรอความใคร่สักคนก็พอ... เธอรู้เรื่องนี้เพราะลลิตามักพูดกรอกหูให้ฟัง แถมเคยได้ยินนักข่าวพูดแว่วๆ ลอยเข้าหูมาบ้างว่าปรินธรมีว่าที่คู่หมั้นอยู่แล้ว ไม่รู้ว่าเกิดจากความรักหรือแค่เรื่องของธุรกิจที่เอื้อต่อกัน แต่อย่างไรเขาก็ไม่ใช่ของเธออยู่ดี แม้เธอจะเป็นสิ่งของๆ เขาก็ตาม แต่เธอไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไรทั้งนั้น กฎเหล็กของคนเป็น ‘เมียลับ’ คือต้องอยู่อย่างไร้ตัวตนและ ‘ห้ามรัก’ เสี่ยเลี้ยงอย่างเด็ดขาด เพราะถ้าหากฝ่าฝืน...จะมีแค่เธอที่เจ็บและตายสถานเดียว! เวนิกาหมั่นเตือนใจให้อยู่ในจุดยืนของเธอ ไม่อยากรู้หรือล้ำเส้นเข้าไปในจุดยืนของเขา ที่ผ่านมาเธอจึงขีดเส้นเขาอย่างชัดเจน ไม่ให้ความสัมพันธ์ทางกายมีอิทธิพลต่อหัวใจจนถลำลึก เธอมองปรินธรเป็นเพียงลูกค้า ส่วนตัวเองเป็นคนขาย เป็นแค่อาชีพหนึ่งที่แม้ไม่มีเกียรติ แต่ไม่ผิดกฎหมายหรือศีลธรรม เพราะเขายังคงสถานะโสดอยู่ ระหว่างเรามีเพียง ‘หน้าที่’ ที่เธอมอบบริการและสร้างความพึงใจให้เขาอย่างสูงสุดเพื่อประโยชน์ของตัวเอง เธอจึงพยายามเอาอกเอาใจเขาให้มาก จดจำสิ่งที่เขาชอบให้ได้ทุกอย่าง อะไรที่เขาไม่ชอบเธอจะไม่แตะต้อง ทำตัวน่ารักว่านอนสอนง่าย ใส่ใจอารมณ์ของเขาอย่างละเอียดถี่ถ้วนและฉลาดที่จะปรับตัว ไม่ทำให้เขาหงุดหงิดหัวเสียหรือลำบากใจ แต่เป็นเหมือนเซฟโซนที่ทำให้เขาผ่อนคลายสบายใจยามที่แวะเวียนมาหาเธอ ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ประมาท กอบโกยทุกอย่างจากเขาให้ได้มากที่สุด เพราะไม่มีหลักประกันอะไรบอกได้ว่าปรินธรจะนึกเบื่อเธอแล้วเฉดหัวทิ้งกันวันไหน เธอไม่อยากให้ตัวเองลำบากหากวันนั้นมาถึงจริงๆ อย่างน้อยตอนนี้เธอก็มีเงินมากพอที่จะรักษาพี่ชายได้อีกนับปี ส่วนเหตุผลลึกๆ ที่คิดจะชิ่งไปก่อนที่เขาจะทิ้งเธอนั้น เวนิกาหวั่นใจเกินกว่าที่จะนึกถึงมัน... “ยังไม่เบื่อ ตอนนี้อยากมาก ไม่ได้ปล่อยของมาหลายวันแล้ว” หญิงสาวละความสนใจมายังเสี่ยหนุ่มที่ยกเรียวขาเธอขึ้นพาดกับต้นขาแกร่ง จนชายกระโปรงร่นมาถึงโคลนขาอ่อน เขาลูบคลำบีบคลึงไม่หนักไม่เบา แต่ยั่วยุเย้ายวนกระตุ้นเลือดในตัวเธอให้คุกรุ่นได้ไม่ยาก เพราะรู้จุดอ่อนไหวไวสัมผัสกันดีทุกส่วนของร่างกายเหมือนที่เธอรู้ใจเขา มือหนาตวัดเอวคอดรั้งตัวเธอเข้ามาเสียดสีกับท่อนลำโป่งพองคับเป้ากางเกงจนปวดหนึบ แววตาที่มองกันอัดแน่นเต็มไปด้วยราคะเข้มข้นรุนแรง สามารถฉีกทิ้งกระแทกกระทั้นตัวเธอได้ในวินาทีนี้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม