EP.6 ถูกชะตา(แนะนำตัวละคร)

1482 คำ
แนะนำตัวละคน ______________ เมื่อกะหรี่ผู้กร้านโลกที่เกิดในซ่อง อายุยี่สิบแปดปี ต้องตื่นขึ้นมาในร่างเด็กสาวผู้อ่อนแอ อายุสิบแปดปี ผู้ถูกบูลลี่และมีปัญหาต่างๆ จากรอบด้านจนสุดท้ายตัดสินใจโดดน้ำฆ่าตัวตาย แต่พอเธอฟื้นลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง... "ถึงหน้าไม่คมแต่กูอมไม่คายนะคะ" _______________ พระเอกเรื่องนี้พูดกู-มึงหยาบถ่อยสถุน แต่เป็นแนวตลก ฮาแตกแตน!! ฝั่งเเสบ ดอกรัก สาวสวยวัย 27 ย่าง 28 ปี สูง 165 หน้าตาจัดว่าสวย ปากจัดจ้านสุดในย่านนี้ สิ่งเดียวที่เธอกลัวคือที่แคบและความมืด พ่อของเธอตายเพราะพิษสุรา ส่วนแม่ก็ผันตัวมาเป็นกะหรี่ จนวันหนึ่งแม่ก็ป่วยเป็นมะเร็ง ดอกรักจึงต้องหาเงินรักษาแม่โดยการทำอาชีพเดียวกับแม่ แต่สุดท้ายก็ยื้อแม่เอาไว้ได้ไม่นาน นิยาม "ถึงหน้ากูไม่คมแต่กูอมไม่คายนะคะ" ไลลา เด็กสาววัย 18 ปี รูปร่างสวยสูง 160 เธอกำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย ชีวิตเธอน่าเศร้ามาตลอดเพราะโดนคนอื่นรังเเกมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะเธอเป็นคนอ่อนแอและไม่สู้คน นิยาม "สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม" ผิง สาวสวยบอบบาง สูง 164 เป็นคนปากร้าย อายุ 18 ปี เธอเป็นเด็กกำพร้าซึ่งอาศัยอยู่ใต้สะพานลอย เรียนกศน.วัดจนจบม.6 ทั้งยังมีความสามารถพิเศษในการย่องเบา จึงขโมยทุกอย่างได้อย่างเนียบเนียน นิยาม "ขโมยตับไตไม่ไหว แต่ถ้าขโมยหัวใจถนัดมาก" ครองแคลง ชื่อขนมไทย สาวอวบหน้าหวาน สูง 156 เธออยากเป็นเชฟทำอาหาร แต่มีโรคประจำตัวแต่เกิดคืออัลไซเมอร์แทรกซ้อน เธอมักลืมเหตุการณ์สำคัญหลัง 24ชม. ผ่านไป จึงต้องพกสมุดเล็กๆ ติดตัวไว้เพื่ออ่านบันทึกย้อนหลังทุกวัน นิยาม "ความจำสั้น ส่วนสูงก็เช่นกัน" ฝั่งซวย คิงส์ ชายหนุ่มวัย 21 สูง 187 หล่อเนี้ยบสไตล์เกาหลี หน้าตาดุดัน เป็นนักล่าเเต้มฟาดสาวไม่ยั้ง ทางบ้านรวยจะทำอะไรก็ได้ การเหมาผับปี้สาวจึงเป็นงานอดิเรก นิยาม "หล่อ รวย เอ็นเท่าเสา แข็งกว่าเหล็ก ฟาดจนขาเตียงหัก ขนาดพี่ 9 นิ้วน้องไหวเหรอ" เอส หนุ่มมาดเข้ม สันดานดิบ เพื่อนสนิทคิงส์ตั้งแต่มอปลาย รวยจัด สูง 185 เท่เนี้ยบ นิยาม "เอาใจไม่เก่ง แต่เอาเก่งนะ" ตี๋ หนุ่มหน้าใส สูง 186 เป็นเพื่อนสนิทกับคิงส์เช่นกัน ค่อนข้างกะล่อน ติดตลกจนสาวๆ หลงแถมรวยยับ เป็นคนขี้เล่นอารมณ์ดีปี้ตลอด จนได้ฉายาว่าตี๋หิด นิยาม "ถ้าหิวให้ไปห้องครัวถ้าอยากเสียตัว ให้มาห้องพี่" ____________ EP.6 ถูกชะตา บ้านไลลา บนรถ "ขอบคุณนะคะที่มาส่ง" ไลลาหันไปขอบคุณคิงส์หลังจากลงจากรถ “เสียเวลากูจริงๆ ถือว่าทำบุญ!” คิงส์ตอบกลับเสียงขรึม “ค่ะ!” เด็กปากดี น่าฟาดด้วยไม้หน้าสาม แม้จะหล่อฉิบหายแต่คำพูดกับสายตาดูเหยียดสุดๆ "จะมองอีกนานไหม กูจะได้สตาฟตัวเองไว้เลย" คิงส์จ้องดุ ปัง! ไลลากลอกตาแทนคำตอบก่อนจะปิดประตูรถ ห้องนอนไลลา "คุณหนูเป็นยังไงบ้างคะ? ไปรายงานตัววันแรก" บัวบานถามด้วยรอยยิ้ม “ก็ดี และก็ซวยคอนเเทคเลนส์หาย” ไลลาตอบกลับเซ็งๆ “ตายแล้ว! แล้วทำไงคะ?” “ช่างเถอะ เรื่องมันยาวเหนื่อยอะอยากพัก” พูดเสร็จเธอก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอย่างอ่อนแรง “งั้นเดี๋ยวบัวบานไปยกข้าวมาให้คุณหนูนะคะ” บัวบานคลี่ยิ้มก่อนจะเดินออกไป หลังจากดอกรักอาบน้ำและกินข้าวเย็นเสร็จ เธอก็มานั่งอ่านไดอารี่อีกหลายเล่ม ในนั้นเต็มไปด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับคนรอบตัวของไลลาที่จดเอาไว้ "พ่อเด็กนี่มีชู้ไปแต่งงานใหม่ แล้วก็ไม่เคยกลับมาอีกเลยเหรอ นี่แหละนะผู้ชายไม่รู้จักพอ" ไลลาพึมพำกับตัวเอง เวลา22.40น. พึก เด้งตัวลุกนั่ง "นอนไม่หลับแหะ ทำไมถึงคิดถึงแต่หน้าไอ้เด็กบ้านั่น หรือเพราะไลลาจะชอบผู้ชายคนนั้นมาก เลยส่งผลต่อความรู้สึกของเราด้วย?” ไลลาขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด “ทั้งหยิ่งทั้งกวนตีนไม่เห็นจะน่าชอบตรงไหน แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่า...โครตเเข็ง คนอะไรแข็งขนาดนั้น ตอนเอามดลูกไม่ต้องคลานหาหมอเลยเหรอวะ ฮ่าๆ" ไลลาส่ายศีรษะไปมาไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัว ก่อนจะล้มตัวลงนอนต่อ เช้าต่อมา หลังจากเคี้ยวอาหารหมดปากไลลาก็หันไปพูดกับบัวบานที่ยืนอยู่ใกล้ๆ "วันนี้อยากไปซื้อเสื้อผ้าสักหน่อย ที่พี่บัวบานบอกอะ สนามพาราก้อนอะไรนั่น" “สยามพารากอนค่ะคุณหนู แล้วแน่ใจเหรอคะว่าไม่ให้พี่ไปด้วย” บัวบานถามย้ำอย่างเป็นห่วง “ไม่อะ พี่บัวบานพักเถอะ เดี๋ยวหนูไปเอง” ฉันตอบกลับอีกฝ่ายไป แน่นอนว่าตัวฉันเรียกพี่บัวบานได้อย่างไม่อายปาก เพราะพี่บัวบานเองก็อายุ 32 ปีแล้ว สยาม “โอ๊ยย แบกไม่ไหว ซื้อเสื้อผ้าเครื่องสำอางมาซะเยอะ ไม่ดูสังขารตัวเองเลยวุ้ย” ไลลาบ่นขณะหอบหิ้วของพะรุงพะรังที่เลือกซื้อมา “ว่าแต่...ถ้าตรงนี้เป็นใจกลางเมือง ซ่องเจ๊ศรีจะยังอยู่ไหม อืม..ประเด็นคือมันผ่านมากี่ปีเเล้ววะ” หญิงสาวครุ่นคิดขณะนึกถึงหน้าเจ๊ศรี ดอกรักอยากรู้ว่าสถานที่ที่เธอเคยอยู่ยังเปิดทำการอยู่ไหม หลังจากนั่งครุ่นคิดว่าซ่องเจ๊ศรีอยู่เเถวไหนก็เริ่มนึกขึ้งได้ลางๆ เธอจึงรีบตรงดิ่งไปที่นั่นทันที ฟิ๊ววว เสียงลมพัดแรง "กลายเป็นตึกร้างบ้านเอียงเลย สภาพเหมือนผ่านไป 100 ปี เฮ้ออ" ไลลาถอนหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง ก่อนจะตัดใจเดินถือของออกมาจากปากซอยเพื่อรอรถ เพียะ! เสียงตบหน้าดังสนั่น '"อีสัส กูบอกว่าไงให้ตามใจกูเสือกมาแรด" เสียงชายวัยกลางคนด่ากราดหญิงสาวตรงหน้าอยู่ข้างรถหรู ฮืออ ฮึกก "หนูกลัวเเล้วค่ะเสี่ย ฮืออ" สาวที่โดนตบร่ำไห้ขณะยกมือไหว้ มุมข้างๆ "ไอ้ผู้ชายเหี้ย ใจเย็นๆ ท่องไว้ๆ พี่บัวบานบอกห้ามวุ่นวายกับใครเพราะไลลาเป็นเด็กเรียบร้อย" ไลลาพยายามยิ้มสะกดข่มอารมณ์ตัวเองให้เย็นลง ปึก หญิงสาวคนนึงเดินชนเสี่ย "ขอโทษค่ะ" เสียงใสๆ เอ่ยออกมาก่อนจะรีบเดินออกไป “เดินยังไงวะอีเหี้ย!” เสี่ยพุงพลุ้ยหันไปด่าหญิงสาวที่เดินชนตามหลังไป ดอกรักสังเกตเห็นบางอย่างที่ทำให้เธอประหลาดใจ เพราะหญิงสาวที่ใส่เสื้อผ้ามิดชิดมีผ้าคลุมปกปิดใบหน้าครึ่งนึง เธอเดินชนเสี่ยคนนั้นพร้อมกับหยิบบางอย่างจากเสี่ยด้วยความรวดเร็วและแนบเนียนก่อนจะเดินออกไป ซอกตึก ตึก ตึก ตึก เสียงเดิน "หายไปไหนวะ เห็นเเวบๆ ตะกี้เลย" ไลลาขมวดคิ้วพึมพำ แฮ่มม! "ตามมาทำไมไม่ทราบ" เสียงใสเอ่ยถามด้วยแววตาเย็นชา “เชี่ย! ไปอยู่ทำไมบนหลังคา” ไลลาสะดุ้งเฮือกมองคนตรงหน้าที่แวบไปอยู่บนหลังคาอย่างอึ้งๆ ตึก หญิงคนนั้นโดดลงมา "ถามว่า...ตามฉันมาทำไม" อีกฝ่ายคาดคั้นด้วยน้ำเสียงดุดัน ไลลารีบยกมือขึ้นพร้อมกับเผยสีหน้าเป็นมิตร “ฉันชื่อไลลา พอดีเห็นน่ะ ว่าเธอหยิบอะไรมาจากไอ้เสี่ยนั่น” "จะมาจับเหรอ เป็นสายตำรวจหรือไง" เสียงใสเอ่ยถามด้วยแววตาฉายแววประหลาด “ตลกละ แค่อยากเป็นเพื่อนด้วย เธอเก่งดี ชื่อไรอะ?” ไลลาส่ายหัวพร้อมกับเอ่ยถามคนตรงหน้า สาวเสียงใสยืนนิ่งขณะสบสายตาไลลาอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง แล้วดึงผ้าที่ปกปิดใบหน้าไว้ครึ่งนึงออก "ชื่อ ผิง ไม่อยากมีเพื่อนหรอกนะ" หญิงสาวพูดเสียงเรียบ “โกหก! ถ้าไม่อยากเป็นเพื่อนฉัน เธอคงไม่เปิดหน้าให้ดูหรอก ฮ่าๆ” ไลลาหัวเราะ คนอะไรปากไม่ตรงกับใจ ตึก ตึก ผิงเข้าใกล้ไลลาขณะเพ่งมอง "อายุก็น่าจะใกล้ๆ กันแต่ดูฉลาดเกินวัยจริงนะ" ผิงจดจ้องขณะครุ่นคิด “ฉลาดดีนิ!” ไลลากระตุกยิ้มมุมปากบางๆ ฉันถูกชะตาเด็กคนนี้ หน้าตาหวานขัดกับบุคลิก เป็นคนที่ดูมั่นใจในตัวเองสูงมาก แน่นอนว่าฉันไม่ค่อยสนใจใครมากนักหรอก แต่กับเด็กคนนี้มีบางอย่างที่ดึงดูดสายตาแปลกๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม