BAD SAVAGE #4
ซีเนียร์หันออกไปมองนอกกระจกพร้อมกับยิ้มออกมาบางๆ “กรุงเทพเปลี่ยนไปเยอะมากเหมือนกันนะคะ สองปีที่แล้วที่ซีกลับมา รถไฟฟ้าบนนี้ยังไม่มีด้วยซ้ำ” ก่อนจะหันไปยิ้มให้พัตเตอร์ที่มองมาที่เธอได้สักพัก
“อื้ม” พัตเตอร์พยักหน้าพร้อมกับยิ้มบางๆตามหญิงสาว “ตื่นเต้นขนาดนั้นเลยหรอไง”
ซีเนียร์หัวเราะออกมาเบาๆ “ก็ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะแค่มันแปลกๆตานิดหน่อย” พร้อมกับหันไปมองด้านนอกต่อ
“กินกล้วยทอดมั้ยคะ” ซีเนียร์หันไปถามพัตเตอร์ด้วยสีหน้าตื่นเต้น ก่อนจะหันไปกดกระจกลงโดยไม่ฟังคำตอบจากชายหนุ่ม “2 ถุงค่ะคุณลุง”
“นี่ค่ะ” ซีเนียร์ยื่นถุงกล้วยถอดไปตรงหน้าพัตเตอร์ “ไม่กินหรอคะ” หญิงสาวเอียงคออย่างสงสัย “อย่าบอกนะว่าไม่เคยกินอะ”
“มันอร่อยขนาดนั้นเลยหรอไง”
หญิงสาวพยักหน้ารัวพร้อมกับยื่นถุงกล้วยทอดไปตรงหน้าอีกครั้ง “ลองกินดูค่ะ” ก่อนจะยื่นอีกถุงไปให้ฟลุ๊คที่นั่งอยู่ด้านหน้า
“ขอบคุณครับ” ฟลุ๊คส่งยิ้มให้หญิงสาวก่อนจะรับถุงกล้วยทอดไป
พัตเตอร์มองคนข้างๆที่นั่งจ้องมาที่ตนเองด้วยแววตาจดจ่อ
“อร่อยมั้ยคะ”
ชายหนุ่มมองสีหน้าคนตรงหน้าก่อนจะยิ้มออกมาเล็กน้อย “อื้อ ก็ดี”
ซีเนียร์ยิ้มกว้างอย่างดีใจพร้อมกับยื่นถุงกล้วยทอดไปไว้ในมือชายหนุ่ม “ถือว่าเป็นค่าตอบแทนที่เฮียพัตมาส่งซีนะคะ” พร้อมกับหันไปสะกิดฟลุ๊คด้วยสีหน้าสดใส “ขอบคุณมากนะคะ” แล้วเปิดประตูลงไปทันที
พัตเตอร์ส่ายหัวยิ้มๆ ก่อนจะหยิบกล้วยทอดขึ้นมากินต่ออย่างอารมณ์ดี
“กล้วยทอดอร่อยมั้ยครับนาย” ฟลุ๊คเอ่ยแซวขึ้นพร้อมกับมองเจ้านายผ่านกระจกหลัง
“เสือก” พัตเตอร์พูดเสียงนิ่ง
“คุณซันกับน้องสาวนี่ต่างกันมากเลยนะครับ คนนึงดูอ่อนหวาน อีกคนดูแสบๆน่ารักดี”
พัตเตอร์มองหน้าลูกน้องผ่านกระจกหลังด้วยแววตานิ่งเรียบ ก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่นโดยไม่พูดอะไร
-หลายวันต่อมา-
Soon pub
“พริกแกง” ซีเนียร์เดินมาสะกิดเพื่อนสาวพร้อมกับนั่งลงตรงเก้าอี้หน้าบาร์ “ไหวปะเนี่ย” ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง
“ไหว” พริกแกงพยักหน้าก่อนจะกระดกเหล้าเข้าปาก พร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาช้าๆ
“ฉันว่าไม่น่าไหวนะ” ซีเนียร์ลุกขึ้นยืนพร้อมกับดึงเพื่อนรักเข้ามากอดเบาๆ “ไม่ไหวก็คือไม่ไหว ไม่ต้องฝืน”
“ฮึกก ฮื้อออ” พริกแกงโอบกอดคนตรงหน้าพร้อมกับปล่อยโฮออกมา “มันเจ็บ ฮึก มันเจ็บอะซี ทำไมวะ ฮึก ทำไมแม่งต้องนอกใจฉันด้วย ฮื้อออ”
“ไม่เป็นไร” ซีเนียร์กอดปลอบเพื่อนสาว “อยากจะกินก็กิน แต่แค่วันนี้นะ วันต่อไปอย่าทำร้ายตัวเองแบบนี้เด็ดขาด” ก่อนจะถอยหลังมานั่งที่เดิมมองเพื่อนสาวที่เอาแต่กระดกเหล้าไม่หยุด
-หนึ่งชั่วโมงผ่านไป-
“พริก” ซีเนียร์สะกิดแขนเพื่อนสาวที่ฟุบหลับไปบนบาร์ “พริกแกง”
“ไม่ต้องปลุกหรอกครับ เพื่อนคุณคงหลับยาวดูจากปริมาณเหล้าที่ทานเข้าไป” บาร์เทนเดอร์พูดขึ้นยิ้มๆ
ซีเนียร์หันไปส่งยิ้มเจือนๆก่อนจะเรียกเช็คบิลแล้วพยายามประคองเพื่อนรักไปที่รถ
หมับ!
“อ๊ะ!” หญิงสาวสะดุ้งพร้อมกับมองไปยังชายหนุ่มที่ถือวิสาสะเดินมาโอบเอวจากทางด้านหลัง
“ผมช่วยมั้ยครับ ท่าทางเหมือนจะไม่ไหวนะ” ชายหนุ่มพูดขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มๆ
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณ” ซีเนียร์พูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ พร้อมกับปัดมือชายหนุ่มออก
พลั่ก!
ฟุบบ!
“เดี๋ยวดิ ไม่เคยเห็นหน้าเลยอะ” ชายหนุ่มเดินเข้ามารั้งแขนซีเนียร์ไว้พร้อมกับส่งยิ้มมุมปาก “ขอไลน์หน่อยได้ปะ อยากรู้จัก”
“ปล่อย!” หญิงสาวพูดขึ้นพร้อมกับปัดมือด้วยท่าทีโมโห “อย่ามายุ่งกับฉัน! ฉันไม่อยากรู้จัก!” ก่อนจะหันไปขอความช่วยเหลือจากพนักงานเสิร์ฟ “รบกวนช่วยประคองพะ...”
หมับ!
ฟุบบ!
ซีเนียร์มองเพื่อนสาวที่ถูกชายชุดดำคนหนึ่งกระชากไปประคองไว้ด้วยความตกใจ “ปล่อยเพื่อนฉันเดี๋ยวนี้!” ก่อนจะหันไปตะคอกกับชายหนุ่มที่ยืนลอยหน้าลอยตาอยู่ข้างๆ “ฉันบอกให้ปล่อย!”
“ดุจริงๆ หึ” ชายหนุ่มพูดเสียงนิ่งก่อนทำท่าจะจับไปที่แก้มของหญิงสาว
หมับ!
“อร๊ากกก! เชี่ยไรวะ!” ชายหนุ่มคนดังกล่าวร้องขึ้นเมื่อถูกดึงมือแล้วบิดไปไขว้ด้านหลัง
“เป็นอะไรมั้ย” พัตเตอร์เดินเข้ามาหาซีเนียร์ที่ยืนนิ่งด้วยสีหน้าตรงใจ “ซี!”
“คะ..คะ..อะไรนะคะ”
“โอเครึป่าว” พัตเตอร์ถามพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้หญิงสาว
“โอเคค่ะ ซี..ซีโอเค” ก่อนจะมองไปที่พริกแกงแล้วทำท่าจะเดินเข้าไปประคองเพื่อนรัก
หมับ!
พัตเตอร์คว้าแขนหญิงสาวไว้ พร้อมกับดันไปไว้ด้านหลัง ก่อนจะหันไปมองหน้าฟลุ๊ค
ฟลุ๊คพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินไปดึงพริกแกงมาประคองไว้ด้วยสีหน้านิ่งๆ
“เห้ย!” ชายหนุ่มคนดังกล่าวตะโกนขึ้นพร้อมกับพยายามสะบัดแขนให้หลุดจากลูกน้องของพัตเตอร์ “ปล่อยดิวะ ปล่อย!”
“ปล่อยมัน” พัตเตอร์พูดเสียงนิ่ง
“กูเจอก่อน คนนี้กูเจอก่อน!” ชายหนุ่มชี้หน้าพัตเตอร์พร้อมกับทำท่าจะเดินเข้ามา
“เฮียพัต..” ซีเนียร์ดึงเสื้อของคนตรงหน้าไว้แน่น
พัตเตอร์เหลือบไปมองเล็กน้อยก่อนจะผลักอกคนตรงหน้าออกไป “อย่ายุ่งกับเธอ ถ้ามึงไม่อยากเดือดร้อน”
“ทำไมกูต้อง..”
แกร๊ก!
“หะ..เห้ย ใจเย็นดิ” ชายหนุ่มคนดังกล่าวยกมือขึ้นอย่างจำนนเมื่อถูกลูกน้องพัตเตอร์เอาปืนมาจ่อด้านหลัง
“นี่ไม่ใช่คำเตือน แต่เป็นคำสั่ง” พัตเตอร์พูดพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้ชายหนุ่มตรงหน้า “เพราะถ้ามีอีกรอบ มันจะไม่ใช่แค่จ่อมึงไว้ มันจะฝั่งไปในตัวมึงแทน” ก่อนจะหันหลังไปคว้ามือหญิงสาวแล้วเดินออกไปทันที
“จะไปไหน”
“คะ?” ซีเนียร์เงยหน้าขึ้นไปถามอย่างงงๆ
“จะให้ไปส่งที่ไหน บ้าน?” พัตเตอร์ยืนกอดอกถามหญิงสาว “หรือเอารถมา”
“ป่าวค่ะ แต่ว่าซีกลับได้ แค่นี้ก็เกรงใจจะแย่อยู่แล้ว แหะๆ” ซีเนียร์ส่งยิ้มเจือนให้ชายหนุ่ม
“กลับด้วยสภาพนี้หรอ” พัตเตอร์พูดพร้อมกับตวัดสายตาไปมองพริกแกงที่ยังคงไม่ได้สติ “เป็นผู้หญิงไม่ควรกินเหล้าแล้วทิ้งตัวแบบนี้ มันอันตราย”
ซีเนียร์พยักหน้านิ่งๆ พร้อมกับเหลือบไปมองเพื่อนรัก แล้วหันไปสบตาพัตเตอร์พร้อมกับส่งยิ้มเจือนๆ
“ขึ้นรถ เดี๋ยวไปส่ง” ชายหนุ่มพูดเสียงนิ่งก่อนจะเดินไปเปิดประตูรถ “ยืนทำไม ขึ้นไปสิ”
“อะ..เอ่อ..ค่ะ” ซีเนียร์พยักหน้าก่อนจะยอมขึ้นรถไปโดยดี