บทที่ 4
ห้ามพลาด
จรัสรักกลับมาถึงบ้านตอนเจ็ดโมงเช้า สีหน้าและแววตาอ่อนล้าจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ ด้วยได้นอนเพียงแค่สองชั่วโมงก็ต้องรีบเช็กเอาต์ออกจากโรงแรม เพื่อเดินทางกลับบ้านซึ่งอยู่นนทบุรี โชคดีที่ปัจจุบันมีรถไฟฟ้าเข้าถึง จึงเดินทางสะดวกและไม่เสียเงินไปกับค่าโดยสารมากนัก
“โหพี่รัก ทำไมกลับเช้าอีกแล้วเนี่ย” จารวีซึ่งกำลังนั่งปอกกระเทียมช่วยผู้เป็นยายเอ่ยทักขึ้นทันที เมื่อเห็นพี่สาวแท้ ๆ อย่างจรัสรักเดินหิ้วถุงอาหารพะรุงพะรังเข้ามาในบ้าน เด็กสาวในชุดนักเรียนมอปลายรีบลุกขึ้นไปรับถุงต่าง ๆ มาจากคนเป็นพี่ “พี่ซื้ออะไรมาเยอะแยะ”
“ซื้อกับข้าวมาไว้ให้ยายกับแม่กินตอนเที่ยง แล้วนี่กินข้าวเช้ากันหรือยัง”
จารวีส่ายหน้า “ยังไม่ได้กินเลย ยายบอกว่ารอพี่รักก่อน”
“ยายคิดว่าเอ็งต้องซื้อเข้ามา เลยไม่ให้ไอ้กิ๊ฟต์ทำกับข้าว” ยายศรีจันทร์ซึ่งยังนั่งปอกกระเทียมอยู่ที่เดิมเอ่ยขึ้นมาบ้าง
จรัสรักพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะบอกให้คนเป็นน้องไปหยิบถ้วยจากในครัวออกมาสี่ใบ จากนั้นก็ช่วยกันแกะโจ๊กที่ซื้อมาเทลงไป ระหว่างนั้นก็ถามน้องสาวถึงสมาชิกอีกคนซึ่งนอนอยู่บนฟูกกลางบ้านเพราะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
“กิ๊ฟต์เช็ดตัวให้แม่แล้วใช่ไหม”
“เรียบร้อยหมดทุกอย่างแล้วพี่ เหลือแค่กินข้าวกับกินยา”
“อืม เดี๋ยวพี่จัดการต่อเอง กิ๊ฟต์รีบกิน จะได้รีบไปโรงเรียน” คนเป็นพี่บอกพลางเปิดกระเป๋าสตางค์และหยิบธนบัตรสีเทายื่นให้น้องสาว “จำได้ว่ากำหนดจ่ายค่ากิจกรรมวันนี้วันสุดท้ายใช่ไหม เอานี่ไปจ่าย แล้วที่เหลือก็เก็บไว้ซื้อของส่วนตัว”
“พี่รักมีเงินใช้อยู่ใช่ไหม” จารวีรับเงินมา แต่ก็มิวายถามคนเป็นพี่ด้วยความเป็นห่วง ที่ผ่านมาเธอรู้ว่าพี่สาวทำงานหนัก เพื่อหาเงินใช้หนี้ซึ่งสะสมมาตั้งแต่ตอนที่พ่อยังมีชีวิตอยู่ ส่วนแม่ก็ยังเดินเหินได้ปกติ เธอพยายามช่วยแบ่งเบาด้วยการประหยัดให้ได้มากที่สุด แต่บางทีกิจกรรมภายในโรงเรียนก็เป็นอะไรที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
“วันนี้พี่เพิ่งเบิกเงินค่าจ้างมา เจ้าของร้านใจดีให้เบิกเงินออกมาใช้ก่อน” จรัสรักไม่กล้าสบตาน้องสาว ด้วยกลัวถูกจับได้ว่าตนกำลังโกหก จารวีรู้เพียงแค่ว่าเธอทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านเหล้า แต่ไม่รู้รายละเอียดที่มากกว่านั้น “แล้วก็ได้ทิปจากลูกค้ามาด้วย”
“จริงเหรอ ดีจัง ให้กิ๊ฟต์ไปทำด้วยดีไหม จะได้ช่วยกันหาเงินให้ได้เยอะ ๆ”
“กิ๊ฟต์เพิ่งอายุสิบแปดปีเอง ยังไม่ถึงยี่สิบเลย ที่ร้านไม่รับหรอก” จรัสรักว่าพลางยิ้มบาง ๆ ให้น้องสาว ขณะที่มือกำลังคนโจ๊กในถ้วยให้คลายความร้อน “อีกอย่างถ้ากิ๊ฟต์ออกไปทำงาน แล้วใครจะดูแลแม่กับยาย ไหนจะต้องไปโรงเรียนอีก”
พูดจบจรัสรักก็ลุกเดินไปหามารดา ประคองให้ลุกขึ้นนั่ง เดินไปหยิบโต๊ะที่พิงผนังไว้ออกมากางคร่อมขาเล็กลีบเพราะไม่มีเลือดไปหล่อเลี้ยง จากนั้นก็วางถ้วยโจ๊กลงเพื่อให้ผู้เป็นแม่ตักกิน
จารวีช่วยด้วยการเทน้ำและจัดยาหลังอาหารไปวางเตรียมไว้ให้ ก่อนจะเอ่ยเหมือนที่เคยเอ่ยเป็นประจำ “กินให้หมดนะแม่ จะได้แข็งแรง ๆ”
“จ้ะ รีบไปกินข้าวเถอะ ใกล้ถึงเวลาไปโรงเรียนแล้ว” คนเป็นแม่ยิ้มตอบลูกคนเล็ก เงยหน้าขึ้นไปมองลูกสาวคนโตด้วยรอยยิ้มบางเบาด้วยความรู้สึกผิดที่ติดอยู่ในใจ จากนั้นก็ก้มหน้าก้มตากินข้าวไปเงียบ ๆ
จรัสรักและจารวีกลับมานั่งแล้วเริ่มตักโจ๊กในถ้วยตัวเองกิน พร้อมคนเป็นยายที่วางมือจากการปอกกระเทียม ขยับมานั่งล้อมวงกินมื้อเช้าพร้อมหลานสาวทั้งสอง
เมื่อคนอายุน้อยสุดกินเสร็จและยกถ้วยเข้าไปเก็บในครัว ยายศรีจันทร์จึงล้วงเงินทั้งหมดที่มีในกระเป๋าเสื้อยื่นให้หลานสาวคนโต พร้อมเอ่ยเรื่องเครียดขึ้นมา
“อาทิตย์นี้ยายรับจ้างปอกกระเทียมได้พันนึง เอ็งเบิกเงินล่วงหน้ามาได้เท่าไร พอจ่ายยอดวันนี้หรือเปล่า เดี๋ยวสาย ๆ มันก็ขี่รถมาเก็บกันแล้ว”
“พอจ้ะยาย” จรัสรักพยักหน้า พยายามพูดให้น้อยที่สุด จะได้ไม่เป็นที่สงสัย แต่ถึงกระนั้นก็หนีไม่พ้นอยู่ดี
“งานที่เอ็งบอกว่าเพื่อนชวนไปทำ มันได้เงินเยอะขนาดนั้นเลยรึ”
“ทำงานเสิร์ฟที่ร้านเหล้าในเมืองจ้ะยาย ได้ค่าจ้างวันละพัน ไม่รวมทิป” หญิงสาวจำเป็นต้องโกหกเรื่องค่าจ้าง เพื่อไม่ให้ยายสงสัยเรื่องที่มาของเงิน
“ถ้าไม่ใช่งานที่ต้องเปลืองเนื้อเปลืองตัวก็ดีไป” หญิงวัยชราเอ่ยราวกับพูดลอย ๆ แล้วก้มหน้ากินโจ๊กต่อ ทว่าคนได้ยินกลับรู้สึกเสียวสันหลังวาบด้วยมีชนักติดหลัง
จากนั้นก็ไม่พูดอะไรต่อ เพราะจารวีเดินออกมาพอดี สาวน้อยหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายเตรียมตัวไปโรงเรียน สิ่งที่เด็กสาวทำเป็นประจำก่อนออกจากบ้านคือการเดินเข้าไปกอดและหอมแก้มผู้เป็นยายที่เลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะ
“กิ๊ฟต์ไปโรงเรียนก่อนนะยาย”
“เอ้อ ไปเถอะ ไปดีมาดีล่ะ”
“ไปก่อนนะพี่รัก”
จรัสรักยืนยิ้มโบกมือส่งน้องสาวอยู่ประตูหน้าบ้าน ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี จารวีก็ยังเป็นน้องสาวที่ร่าเริงและสดใสในสายตาเธอเสมอ น้องเธอเป็นเด็กดี แบ่งเบางานบ้านได้ทุกอย่าง เลิกเรียนก็ไม่เคยไปเที่ยวเถลไถลที่ไหน ผลการเรียนอยู่ในระดับดีเยี่ยม
จารวีย์คือตัวแทนของเธอในด้านการศึกษา หกปีก่อนจรัสรักพลาดโอกาสเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีเพราะปัญหาด้านการเงิน เธอจึงต้องหยุดเรียนและออกมาหางานทำด้วยวุฒิมอหก เพื่อให้น้องได้เรียนต่อ ซึ่งน้องก็ไม่เคยทำให้เธอผิดหวัง
หญิงสาวจึงตั้งใจเอาไว้ว่า นอกจากหาเงินใช้หนี้ เธอจะทำทุกวิถีทาง เพื่อผลักดันให้จารวีได้ทำตามความฝันของตัวเอง
จรัสรักคิดเสมอว่าความสำเร็จของน้องก็เท่ากับความสำเร็จของเธอ