ปาฏิหาริย์ร้ายนายคู่หมั้น1 เหนื่อย
@มหาวิทยาลัยPK
หญิงสาวใบหน้าหวานสวยในชุดนักศึกษาถูกระเบียบตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า กำลังนั่งอ่านหนังสือฆ่าเวลา เพื่อรอดารินเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเธออยู่โต๊ะม้าหินอ่อนหน้าคณะ
“ทำไมวันนี้ดารินมาสายจัง เพิ่งเปิดเทอมวันแรกเองจะสายแล้วเหรอเนี่ย” อันวากำลังบ่นพึมพำให้กับดารินเพื่อนของตัวเองเพราะว่าปกติเพื่อนสาวของเธอจะมาเรียนสายมาก เพราะว่าเธอสองคนเคยเรียนด้วยกันมาแล้วหลายปีสมัยเรียนมัธยมปลายเลยจะรู้นิสัยของเพื่อนตัวเองดี
“อันวา!”
“โอ๊ย! ดาเราตกใจหมดเลยมาไม่ให้ซุ่มให้เสียง สายอีกตามเคยเลยนะ”
“พอดีว่าเพิ่งย้ายของกลับมาอยู่คอนโดแล้วจัดของดึกไปหน่อยเลยตื่นสาย”
“ปิดเทอมตั้งนานไม่ทำ เพิ่งจะมาทำวันก่อนที่จะมาเรียน”
“บ่นเหมือนแม่เลย”
“แล้วกินข้าวมารึยัง นี่เรารอกินพร้อมเธอเลยนะ กลัวว่าถ้าเรากินก่อนดาจะไม่มีเพื่อนกิน”
“สมกับเป็นเพื่อนรักของฉันเลยอันวา ฉันยังไม่ได้กินเลยอะหิวมาก ๆ”
“งั้นไปกัน”
โรงอาหารประจำคณะ
“กิน’ไรดีอัน” พอทั้งสองคนเดินเข้ามาในโรงอาหารประจำคณะ ดารินก็เอ่ยถามเธอทันทีว่าจะกินอะไรกันเพราะว่าร้านอาหารในคณะมีเยอะมาก
“เราเอาข้าวผัดหมู”
“ดาเอาข้าวผัดกุ้งดีกว่า”
“งั้นดาไปซื้อน้ำนะ เดี๋ยวเราไปซื้อข้าวให้เอง ซื้อน้ำเสร็จก็ไปจองโต๊ะรอเลยนะเพราะกว่าเราจะได้ข้าวก็อีกนาน”
“โอเค”
ทั้งสองคนแยกย้ายกันไป ดารินไปซื้อน้ำส่วนเธอเดินมาร้านอาหารตามสั่งเพื่อจะสั่งอาหาร
“ข้าวผัดหมู1 ข้าวผัดกุ้ง1 ค่ะคุณป้า”
“รอแป๊บนึงนะลูกเดี๋ยวป้าผัดให้”
“ค่ะ” ระหว่างรออาหาร อันวาล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋าขึ้นมาเล่นรอ ไม่สนใจรอบข้างว่ามีใครมายืนอยู่ด้านหลังตัวเอง
“เอาอะไรดีจ๊ะพ่อหนุ่ม” เสียงคุณป้าร้านอาหารตามสั่งพูดคุยกับลูกค้าที่มาสั่งอาหารต่อจากเธอ
“ข้าวผัดหมูครับคุณป้า” อันวาที่กำลังเล่นโทรศัพท์ได้ยินคนข้างหลังกำลังสั่งอาหารเธอเลยขยับมายืนข้างร้านแทน
“ได้แล้วจ๊ะลูกข้าวผัดหมูกับข้าวผัดกุ้ง”
“นี่เงินค่ะคุณป้า” หญิงสาวยื่นเงินให้กับคุณป้า เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า เดินกลับมาเอาจานข้าวผัดที่คุณป้าร้านอาหารยื่นให้ หันหลังจะเดินออกมาแต่เธอลืมว่ามีคนยืนอยู่ด้านหลัง เลยชนเข้าแต่ดีที่เธอจับจานไว้แน่นเธอเลยรีบก้มหัวลงเพื่อขอโทษทันที
“ขอโทษค่ะฉันไม่ได้ระวัง” อันวากล่าวขอโทษคนที่เธอเดินชน พร้อมกับเงยหน้าขึ้นเพื่อแสดงความรู้สึกผิด
“ไม่เป็นไร”
“ถ้าไม่เป็นไรฉันขอตัวนะคะ” พูดจบอันวาก็เดินออกมาจากตรงนั้นมองหาโต๊ะที่ดารินนั่ง ไม่ได้รู้เลยว่ามีสายตาคู่หนึ่งมองตามไปตลอดทาง
“ทำไมช้า”
“พอดีว่าคุณป้าทำคนเดียว อะนี่ข้าวผัดกุ้งของดา”
“ขอบใจจ้า นี่น้ำเปล่าของเธอ”
“จะถึงเวลาเรียนแล้วเรารีบ ๆ กินกันดีกว่า”
“อืม”
หลายชั่วโมงต่อมา...
“เหนื่อยโฮก! ไม่คิดว่าเรียนวันแรกจะสูบพลังงานขนาดนี้ ดีนะวันนี้มีแค่คาบเช้าถ้ามีคาบบ่ายด้วยฉันตายแน่” ดารินบ่นอุบหลังจากสิ้นสุดการเรียบคาบเช้า เพราะแม้ว่าวันนี้มีแค่เรียนคาบเช้าแต่เรียนติดกันสามชั่วโมงเลย
“วันแรกยังเรียนหนักขนาดนี้เราจะจบกันไหมดาริน” อันวาพูดติดตลกให้ดารินขำ
“จบสิ เธอเก่งจะตาย ฉันเนี่ยจะจบไหม” ดารินพูดพลางชี้เข้าหาตัว
“จบเหมือนกันแหละน่า”
“อ้อ อันฉันยังไม่เคยบอกแกใช่ไหมว่าฉันมีลูกพี่ลูกน้อง”
“ทำไมเหรอ”
“เขาเรียนที่คณะนี้เหมือนกันอยู่ปีสาม”
“แล้วหล่อปะ”
“หล่อสิหล่อมาก ๆ เขาเคยเรียนที่โรงเรียนเก่าเราด้วยนะ แต่ตอนนั้นฉันไม่แนะนำให้แกรู้จักหรอกเพราะกลัวว่าพี่เขาจะมาจีบแก แล้วคนไม่ค่อยรู้ด้วยว่าเราเป็นญาติกัน”
“เขาชื่อ-”
“หวัดดีพวกเธอ” ดารินยังพูดไม่จบก็มีเสียงใครอีกคนพูดแทรกขึ้นมาก่อน เมื่อมองไปตามเสียงก็พบว่าเป็นหนึ่งในเพื่อนร่วมคลาสเรียน
“ดีจ้า/หวัดดี” สองสาวเอ่ยทักทายเพื่อนใหม่
“พวกเธอมาจากโรงเรียนเดียวกันเหรอ” หญิงสาวผู้มาใหม่เอ่ยถามด้วยความกระตือรือร้น
“ใช่/ใช่จ้ะ”
“ว้าวดีจัง งั้นเราขอเป็นเพื่อนกับพวกเธอได้ไหมอ่า พอดีว่าเราไม่มีเพื่อนเลยเราชื่อฟ้าใสนะ พวกเธอชื่ออะไรกัน”
“เราชื่อดารินส่วนนี่อันวาเพื่อนสนิทเราเรียนด้วยกันตั้งแต่มัธยม แล้วก็เลือกมาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยนี้ด้วยกัน”
“ยินดีที่ได้รู้จักพวกเธอนะ ฉันมาเรียนที่นี่คนเดียวไม่มีเพื่อนเลย”
“เรามาเป็นเพื่อนกันนะ”
“ยินดีจ้า”
@ห้างสรรพสินค้า
หลังจากที่พวกเธอทำความรู้จักกันแล้ว ต่างก็ชวนกันมากินข้าวที่ห้างเพราะว่าไม่มีเรียนต่อคาบบ่าย
“แล้วนี่พวกเธอกลับยังไง”
“ฉันคงกลับกับดารินเพราะดาเอารถมา”
“แล้วฟ้ากลับยังไงให้เราไปส่งไหม”
“ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวเรากลับแท็กซี่ก็ได้”
“ไม่เอาเดี๋ยวเราไปส่งเอง แค่บอกทางมา”
“ก็ได้”
“บ้านหลังสีฟ้าข้างหน้านั่นแหละบ้านเรา มันเล็กมากเลยใช่ไหม”
“ทำไมพูดแบบนั้นล่ะฟ้าเราไม่ได้คบเพื่อนที่ฐานะนะ”
“ฉันขอบใจพวกเธอมากเลยนะตั้งแต่ฉันเรียนมาฉันไม่ค่อยมีเพื่อนเพราะว่าบ้านฉันจน”
“อย่าคิดมากเลยฟ้า เข้าบ้านได้แล้วไป ฉันจะไปส่งยัยอันต่อ”
“โอเคจ้ะ” ฟ้าใสเดินลงจากรถไป
“ต่อไปจะไปส่งแกที่บ้านแล้วนะยัยอันวา”
“...” พอพูดถึงบ้านแล้วอันวาก็ถอนหายใจออกมา
“ทำไมพอพูดถึงที่บ้านแล้วถอนหายใจแบบนั้นมีเรื่องอะไรไม่สบายใจบอกฉันได้นะ”
“พ่ออันบอกว่าการเงินทางบ้านกำลังมีปัญหา”
“อะไรนะ!”
“พ่อบอกว่าให้เตรียมตัวไว้ บ้านเรากำลังจะล้มละลาย”
“แกไม่ต้องคิดมากนะ มีอะไรให้บอกฉันเดี๋ยวฉันจะช่วยแกเอง”
“พ่อกับแม่อันทะเลาะกันทุกวันเลยได้ยินพวกเขาพูดกันว่าจะหย่ากันทุกครั้งที่ทะเลาะกัน”
“มันคงไม่ใช่เรื่องใหญ่ขนาดนั้นหรอกมั้ง อาจจะเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ที่เราเป็นเด็กเราไม่ควรรู้”
“เด็กเหรอ อันอายุ19 แล้วนะอันว่าอันไม่เด็กแล้ว”
“.....”
“อันเหนื่อยมากเลยดา” พอเห็นเพื่อนพูดแบบนั้นขึ้นมา ดารินเลยเข้าไปกอดปลอบเพื่อน มือขาวลูบหลังเบา ๆ เพื่อให้อันวาผ่อนคลาย
ฝากกดหัวใจ❤️+คอมเมนต์?+เพิ่มเข้าชั้น?ให้เราด้วยนะคะ