ตอนที่ 3 พาแม่ใหม่มาเปิดตัว

1524 คำ
“นี่คุณน้าผกามาศ สวัสดีเขาสิ..ไอรีน” ว่าแล้วเชียวว่ายัยนี่ต้องเป็นผู้หญิงคนใหม่ของพ่อ แต่ยอมรับเลยว่าเธอสวยมากแต่สวยน้อยกว่าแม่ของเธอหน่อยนะ สองมือเล็กยกมือขึ้นสวัสดีไปยังผู้หญิงคนนั้นอย่างมีมารยาทเพราะเดี๋ยวถ้าไม่ไหว้เธอจะหาว่าไม่มีมารยาทเอา “สวัสดีค่ะ คนนี้แฟนใหม่ของพ่อหรือคะ” ไอรีนมองไปยังผู้หญิงคนนั้นที่กำลังยิ้มอย่างเขินอายเมื่อโดนเธอพูดแบบนั้นใส่และเมื่อคิดว่าคงไม่ได้คำตอบจากปากของเธอคนนี้แน่ ไอรีนจึงหันไปถามพ่อตัวเอง ทั้งที่..ก็รู้อยู่เต็มอกว่าเธอต้องใช่ผู้หญิงคนใหม่ของพ่อแน่ๆแต่ทว่าพ่อยังไม่ทันที่จะตอบกลับใดๆ เสียงหวานของผู้หญิงคนนั้นก็ดังแทรกพูดขึ้นเสียก่อน ใบหน้าสวยยิ้มหวานมองไอรีนอย่างเอ็นดู... “หวัดดีจ้ะหนูไอรีน น้าชื่อผกานะคะ ยินดีที่ได้มารู้จักกับสาวน้อยที่หน้าตาน่ารักอย่างหนูนะคะ” เสียงหวานพูดเพราะหน้าตาสะสวยแบบนี้นี่เองถึงทำให้พ่อของเธอหลงรักหัวปักหัวปําจนต้องรีบทำเรื่องขอหย่ากับของแม่ “ขอบคุณค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักน้าผกาเช่นกันนะคะ” ไอรีนทำทีเป็นยิ้มตอบกลับไปทั้งที่ในใจไม่ได้อยากที่จะรู้จักเธอสักนิด “พ่อกับน้าผกากำลังจะแต่งงานกันในเร็วๆนี้” พ่อพูดต่อจากผู้หญิงคนนั้นอีกทั้งมือหนาของพ่อก็โอบกอดเอวบางของเธอไว้แน่น โอ๊ย อยากจะบ้าตายจะมาโชว์หวานกันอะไรตรงนี้แล้วก็นะจะมาบอกกันทำไม จะแต่งก็แต่งไปในเมื่อเธอทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว แต่คำพูดของพ่อก็ทำให้เธออดที่จะรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมกับแม่ของเธอไม่ได้อยู่ดี “ยังไม่ทันจะได้ไปหย่ากับแม่เลยนะพ่อ!” ไอรีนพูดขึ้นเพราะเธอรู้สึกว่ามันเร็วเกินไป งั้นขอเธอต่อสู้พูดเพื่อแม่ของตัวเองสักหน่อยเถอะ เกลียดจริงๆไม่รู้จะรีบแต่งงานกันไปถึงไหน อยากจะรีบย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันมากนักหรือไง ทีเมื่อก่อนทำไมถึงทนได้ล่ะทั้งที่แยกกันอยู่แบบนั้น ใบหน้าสวยของลูกสาวทำเอาคนเป็นพ่อรู้สึกได้ถึงความไม่ชอบใจของเธอ... “พ่อก็แค่พูดเอาไว้ก่อน แล้วนี่กินข้าวมาแล้วหรือยัง” พ่อพูดเสียงนุ่มชวนฟัง เข้าใจในสิ่งที่ลูกกำลังรู้สึก แต่เขาก็แค่อยากให้ทั้งไอรีนและผกาได้ลองใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในบ้านหลังนี้ดู ไอรีนจะได้รู้ว่าผกาเป็นผู้หญิงที่ดีมากคนหนึ่ง “กินมาแล้วค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ” ไอรีนหันไปบอกพ่อตัวเอง สองเท้าเล็กเดินตรงไปยังบันไดทางขึ้นห้องนอนของเธอ บนห้องนอน หลังจากที่เดินเข้ามาในห้องส่วนตัวของตัวเองแล้ว ไอรีนก็รีบวางกระเป๋านักเรียนแล้วเดินตรงไปนั่งบนเตียงนอนหรู ใบหน้าสวยกลั้วหัวเราะในลำคอพลางนึกขึ้นได้ว่าผู้หญิงคนนั้นมีลูกติดที่เป็นผู้ชายด้วยนี่แล้วทำไมวันนี้ไม่พามันเข้ามาเย้ยเธอไปพร้อมๆกันเลยละ “หึ~ เริ่มพากันมาเปิดตัวแล้วสินะและทำไมไม่พาลูกชายเข้ามาหาพ่อด้วยเลยล่ะ เฮ้อ ชั่งๆไม่อยากสนใจแล้ว” ไอรีนสะบัดหัวไปมาเมื่อคิดได้ว่ามันเรื่องอะไรที่เธอต้องมานั่งคิดถึง 2แม่ลูกนั่นด้วย ครืด~ จังหวะนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น ร่างเล็กเอื้อมไปหยิบกระเป๋านักเรียนเพื่อที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือของตัวเองออกมาและเมื่อเธอได้เห็นว่าใครที่กำลังโทรเข้า ใบหน้าสวยก็ฉีกยิ้มออกมาทันที “โอ๊ะ! แม่โทรมาพอดีเลย” เธอรีบกดรับสายแม่ตัวเอง “ฮัลโหลค่ะแม่” (เป็นยังไงบ้างลูก ไปเรียนสนุกหรือเปล่า) “ก็ดีค่ะแม่ ไอรีนมีเพื่อนที่ดีที่คอยอยู่เคียงข้าง เอ่อ..แม่คะ แม่รู้อะไรไหม วันนี้พ่อได้พาผู้หญิงคนใหม่เข้ามาแนะนำให้ไอรีนได้รู้จักด้วยนะ” (แล้วลูกคิดยังไง ผู้หญิงคนนั้นมองลูกด้วยสายตาแบบแม่เลี้ยงในละครหรือเปล่า) “อืม ก็ไม่นะคะแต่ของแบบนี้ต้องดูกันไปยาวๆค่ะ” ไอรีนทำสีหน้าครุ่นคิดก็พบว่าเธอคนนั้นเพียงแค่ยิ้มๆไม่ได้แสดงอาการอะไรแต่เรื่องแบบนี้ต้องดูกันไปยาวๆเพราะเธออาจจะยังไม่แสดงตัวตนก็เป็นได้ (วันพรุ่งนี้ แม่ต้องไปจดทะเบียนหย่ากับพ่อของลูกแล้วนะ) “ไอรีนทำใจพอได้แล้วค่ะ ขอแค่แม่อย่าทิ้งไอรีนไปเลย อย่างน้อยแม่ต้องทักมาหาไอรีนทุกวันด้วยนะ ไอรีนจะรอแม่ทักมา” (แม่อยากให้ลูกมาอยู่กับแม่ด้วยซ้ำ ลูกไม่อยากไปเรียนต่อที่ต่างประเทศบ้างเหรอ) “แม่คะ ไอรีนอยู่ม.6แล้วนะคะและไอรีนก็อยากใช้ชีวิตกับเพื่อนในรั้วมหาวิทยาลัยที่ไทยค่ะ แม่เข้าใจไอรีนใช่ไหมคะ” (อืม แม่เข้าใจ เอาไว้แม่จะโทรหาลูกทุกวันแล้วกันนะ) “แม่คะ ไอรีนรักแม่นะ แม่ย้ายไปอยู่ที่โน้นแม่ต้องรักษาสุขภาพด้วยนะ อากาศยิ่งหนาวๆอยู่” (แม่ขอบใจลูกมากนะที่เข้าใจแม่) “งั้นแค่นี้ก่อนนะคะ ไอรีนขอตัวไปอาบน้ำก่อน” ติ้ด~ เมื่อกดวางสายแม่ตัวเองไปแล้วเธอก็ลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำทันที 5 เดือนผ่านไป ในตอนนี้ความรู้สึกของฉันดีขึ้นมาแล้วเพราะมันก็ผ่านเลยมาถึง 5 เดือนเข้าไปแล้ว พ่อกับแม่หย่ากันไปแล้ว ต่างคนก็ต่างแต่งงานใหม่ แม่แต่งงานกับนักธุรกิจชาวต่างชาติท่านเลยต้องย้ายไปอยู่กับสามีใหม่ที่อังกฤษ ส่วนพ่อพอแต่งงานกับน้าผกาก็พาเธอเข้ามาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในบ้านหลังนั้นแต่ที่น่าแปลกก็คือวันงานแต่งรวมมาถึงจนตอนนี้ฉันยังไม่เคยได้เห็นหน้าลูกชายของเธอเลย วันงานแต่งแม่ตัวเองก็ไม่มาร่วมพิธีไม่รู้ว่าเป็นเด็กแบบไหนกันแน่ ช่างเถอะ มันไม่ใช่เรื่องของฉัน... ณ โรงอาหารของโรงเรียน “แกว่าวันนี้ยัยเชอจะมาโรงเรียนไหวปะ” ไอรีนถามขึ้นในขณะที่ริมฝีปากกำลังเคี้ยวอาหารด้วยความเอร็ดอร่อยและที่เธอถามออกไปแบบนั้นก็เป็นเพราะยัยเชอรีนนั้นไม่สบายจนต้องหยุดเรียนไปแต่เชื่อฉันไหมว่ายัยนั่นต้องมีเรื่องเครียดอะไรสักอย่างแต่ยังไม่ยอมบอกพวกเรา 2 คน “ฉันว่าไหว ดูนั่นสิเธอเดินมาโน้นแล้ว” เพียวชี้มือไปยังข้างหลังของไอรีน ทำให้ไอรีนรีบหันไปมองก่อนที่จะพบว่ายัยเชอกำลังเดินเข้ามาหาพวกเรา เชอรีนฉีกยิ้มเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองของตัวเองที่กำลังนั่งรับประทานข้าวกันอย่างเอร็ดอร่อย “เรามาแล้ว~” เสียงหวานเอ่ยบอกเพื่อนรักซึ่งทั้งสองต่างก็หันหน้ามองไปทางเชอรีน ไอรีนกวักมือเรียกเชอรีนให้ไปนั่งลงข้างกายเธอ “มาแล้วเหรอ กินอะไรมาหรือยัง หน้าแกยังดูซีดๆอยู่เลย มานั่งนี่เร็ว!” ไอรีนมองไปยังใบหน้าของเพื่อนสนิทซึ่งหน้าของยัยนั่นยังคงดูซีดๆอยู่เลย “เดี๋ยวเราก็หายแล้ว อยากมาเจอหน้าพวกแกน่ะอยู่ห้องคนเดียวน่าเบื่อจะตาย~” เชอรีนส่งเสียงหวานเดินไปนั่งตามคำเชิญของเพื่อน ใบหน้าเธอยังคงดูเศร้าและอิดโรยทำเอาไอรีนกับเพียวต่างก็มองด้วยความสงสัย ไอรีนกับเพียวมองหน้ากันแล้วก็เป็นเพียวที่เป็นฝ่ายถามเชอรีนออกมา “มีอะไรที่อยากจะเล่าให้พวกฉันฟังหรือเปล่า” มือของเพียวจับเข้าที่มือเชอรีน เชอรีนมองมือนั้นที่เพื่อนของเธอกำลังจับอยู่ ฮึบ! ไม่ว่าอย่างไรเธอต้องเข้มแข็งในเมื่อมีเพื่อนทั้งสองที่อยู่ข้างกายและคอยเป็นกำลังใจให้เธอแบบนี้ เชอรีนสูดลมหายใจเข้าปอดอย่างเต็มที่ เธอเลือกที่จะบอกเพื่อนรักไปตามความจริงเพราะเธอไม่มีอะไรที่จะต้องปกปิดอยู่แล้วต่อไปยังไงทุกคนก็ต้องรู้เข้าสักวัน งั้นก็ขอให้รู้จากปากของเธอเลยก็แล้วกัน “เราเลิกกับเวหาแล้ว!!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม