บทที่ 1-3

1573 คำ
เหอลี่หมิงช้อนสายตาขึ้นมองคนตรงหน้าอย่างตื่นตระหนก แววตาของนางเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น นี่ขนาดว่านางเพิ่งจะฟื้นคืนสติขึ้นมา คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีของเจ้าของร่างกลับไม่มีท่าทางแยแสห่วงใยอาการของคนที่ยังขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาเลยสักนิด แบบนี้แล้ว ถ้านางขอความเมตตา คนตรงหน้าคงจะไม่มีทางมอบมันให้นางอย่างแน่นอน แต่ถึงกระนั้น นางคงต้องลองเสี่ยง คนหลงยุคอย่างนางคงไม่มีทางให้เลือกมากนัก อะไรที่เป็นหนทางสู่การเอาตัวรอดนางก็ต้องไขว่คว้าเอาไว้ เหอลี่หมิงขยับตัวลุกจากเตียง ร่างของนางเซไปนิดแต่เซี่ยเถิงเการีบช่วยเข้ามาประคอง ส่วนหวงเสี่ยวฉีทำเพียงมองนางด้วยสายตาเย็นชา จนกระทั่งเหอลี่หมิงสามารถทรงตัวได้เอง นางจึงหันไปบอกสาวใช้คนสนิท “ขอบใจเจ้ามาก ตอนนี้ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว” เซี่งเถิงเกาขยับถอยห่างออกไปอย่างรู้หน้าที่ สาวใช้ขยับถอยจนกระทั่งไปหยุดที่ตำแหน่งเดิม มือสองข้างประสานกันเอาไว้ด้านหน้า ศีรษะก้มลงต่ำอย่างนอบน้อม เหอลี่หมิงจึงหันมาหาหวงเสี่ยวฉีที่มีสีหน้าเคร่งขรึม “วอนคุณชายสี่โปรดฟังข้าสักนิด” สรรพนามที่เรียกขานต่างไปจากเดิมทำให้คิ้วหนาที่พาดเหนือดวงตาเรียวรีขมวดเข้าหากัน จินชุ่ยเวยที่ยืนเยื้องไปทางด้านหลังก็แสดงสีหน้าแปลกใจ แต่ก็มิกล้าเอ่ยอะไรออกมา ส่วนเซี่ยเถิงเกามิได้แปลกใจแต่อย่างใดเพราะก่อนหน้านี้เหอลี่หมิงบอกนางว่าจำอะไรไม่ได้ ดังนั้นจึงมิใช่เรื่องแปลกที่นางเรียกหวงเสี่ยวฉีแตกต่างไปจากเดิม ดวงตาคมกริบดุจมีดดาบกวาดสายตามองนางตั้งแต่ศีรษะก่อนจะค่อยๆ ไล่ลงมาจนถึงปลายเท้า แล้วไล่สายตาขึ้นมาที่ใบหน้าของนางอีกครั้ง นางก็ยังคงเป็นเหอลี่หมิง ผู้ที่กำลังจะกลายเป็นอดีตภรรยาของเขา เพียงแค่นางจรดปลายพู่กันพร้อมน้ำหมึกลงบนหนังสือหย่าเท่านั้น เว้นเพียงแต่ดวงตากลมโตสุกใสที่มองมาที่เขาคล้ายต้องการร้องขอความเห็นใจ มิใช่แววตาที่เคยเต็มเปี่ยมไปด้วยความร้ายกาจเฉกเช่นเดิม แม้จะรู้สึกประหลาดใจกับคำพูดและแววตาของนาง แต่ร่างสูงไม่คิดจะใส่ใจเพราะอาจเป็นเพียงมารยาสาไถยของนางที่ต้องการร้องขอความเห็นใจจากเขาก็เป็นได้ ความร้ายกาจของนางไม่เพียงแต่เป็นที่โจษจัณฑ์ไปทั่วทั้งจวน แต่ทว่ายังโจษจัณฑ์ไปถึงนอกจวน ชาวบ้านต่างหวาดกลัวกับความร้ายกาจของนาง แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังพลาดท่าถึงกับต้องแต่งนางเข้าสกุลหวงอย่างจำใจ ตัวเขาเป็นน้องเล็กของบ้าน ยังมิทันได้มีพี่สะใภ้เพราะพี่ชายทั้งสามคนมิทันได้ออกเรือน แต่ตัวเขาเองกลับต้องมาออกเรือนก่อนกับสตรีที่ไม่ได้มีใจปรารถนา มันช่างน่าขายหน้ายิ่งนัก พอมาถึงตรงนี้ แววตาของหวงเสี่ยวฉีก็ราวกับว่ามีลูกไฟแล่นอยู่ในนั้น แต่ตอนนี้เขายังใจเย็นพอ อยากจะรู้ว่านางจะมาไม้ไหนกัน “เจ้ามีอะไรก็รีบๆ พูดมาเถอะ ข้ามิอยากอยู่ตรงนี้นานนัก” น้ำเสียงและทีท่าที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่ารังเกียจ ทำให้เหอลี่หมิงต้องหลุบสายตาลงต่ำ นางทำใจอยู่พักใหญ่กว่าจะสามารถช้อนสายตาขึ้นมองคนตรงหน้าได้อย่างเต็มตา “ข้าอยากจะขอเวลาอยู่ที่นี่ต่อสักเจ็ดชั่วราตรีได้หรือไม่ พอให้ข้าได้ฟื้นตัว ตอนนี้ข้ารู้สึกไม่สบายตัวยิ่งนัก ร่างกายของข้าก็ร้อนดั่งมีไฟสุม น่าจะเป็นผลพวงมาจากการที่ข้าจมน้ำ” หวงเสี่ยวฉีหรี่ตามองเหอลี่หมิงคล้ายต้องการจับผิด แต่ทว่าแววตาของนางแสดงแต่ความจริงใจ ไม่มีแววเสแสร้งดังก่อนหน้านี้ แต่เป็นอีกครั้งที่เขาเลือกมองข้ามไป “พูดถึงเรื่องนี้ก็ดีแล้ว ข้าอยากจะรู้อยู่เหมือนกันว่าเจ้าจมน้ำได้อย่างไร” “คือว่าข้า...” ทีท่าอึกอักของเหอลี่หมิงสร้างความหงุดหงิดรำคาญใจให้หวงเสี่ยวฉีเป็นอย่างมาก เขาเลยตัดความรำคาญเป็นฝ่ายเอ่ยออกมาเสียเอง “เอาละๆ ข้าไม่อยากจะรับรู้เรื่องของเจ้านักหรอก แต่ที่ข้าต้องการบอกเจ้านั่นก็คือ หากเจ้าต้องการจากโลกใบนี้ไปละก็ ขอให้เจ้าจากไปด้วยสกุลเดิมของเจ้า อย่าได้มาแปดเปื้อนสกุลหวงของข้า” แม้ว่านางจะมิใช่เหอลี่หมิงตัวจริง แต่ทว่าอดที่จะเห็นใจเจ้าของร่างมิได้ เพราะเหตุใดกันคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีถึงได้แสดงทีท่าจงเกลียดจงชังนางมากขนาดนี้ หรือเป็นเพราะว่าบางทีเขาต้องการมีภรรยาหลวงใหม่ก็เลยหาทางกำจัดนางก็เป็นได้ แต่นี่ไม่ใช่เรื่องที่นางต้องไตร่ตรอง เรื่องที่นางควรจะต้องกังวลคือเรื่องที่ร้องขอเขาไปต่างหาก “แล้วเรื่องที่ข้าขออยู่ที่เรือนนี้ต่อไปอีกเจ็ดชั่วราตรี ท่านจะยินยอมหรือไม่” ดวงตาคมกริบดุจพญาเหยี่ยวกวาดสายตามองดวงหน้าของเหอลี่หมิงอีกครั้ง เขากำลังชั่งใจว่าควรจะอนุญาตดีหรือไม่ เพราะครั้งก่อนๆ ที่เขายินยอมให้นางอยู่ต่อ นางก็เล่นแง่บ่ายเบี่ยงไม่ยอมลงนามในหนังสือหย่า จวบจนกระทั่งตอนนี้ เพราะเห็นท่าทีคล้ายลังเลของอีกฝ่าย เหอลี่หมิงจึงรีบเอ่ยเพิ่มเติม “ข้ามิได้ปด ร่างกายของข้าร้อนดั่งมีไฟสุม หากท่านมิเชื่อจะลองสัมผัสดูก็ย่อมได้” ว่าจบเหอลี่หมิงก็ยื่นแขนออกมาตรงหน้า หวงเสี่ยวฉีทำเพียงปรายตามองท่อนแขนของนาง ก่อนจะยกมือขึ้นสะบัดหมายใจจะให้ท่อนแขนของนางพ้นจากตัวเพราะปลายมือของนางห่างจากลำตัวของเขาเพียงไม่ถึงหนึ่งชุ่น* แต่ช่วงจังหวะที่ปลายนิ้วของเขากับปลายนิ้วของนางสัมผัสกัน กลับให้ความรู้สึกประหลาดที่พุ่งเข้าไปยังส่วนลึกของหัวใจและเหอลี่หมิงเองก็รู้สึกเช่นเดียวกัน สองร่างไม่สามารถขยับเขยื้อนไปได้ชั่วขณะ ก่อนที่เหอลี่หมิงจะเป็นฝ่ายชักมือกลับ ใบหน้างดงามก้มลงต่ำ แล้วเอ่ยอย่างนอบน้อม “ท่านเห็นแล้วใช่หรือไม่ว่าร่างกายของข้านั้นร้อนยิ่งนัก ข้าใคร่ขอความเมตตาและหวังว่าท่านจะมอบมันให้ข้า” “ข้าให้เจ้าได้เพียงสามชั่วราตรี ไม่มากไปกว่านี้” แม้ว่าจะถูกอาการประหลาดที่ไม่อาจอธิบายได้รบกวนจิตใจหลังจากที่ได้สัมผัสเหอลี่หมิง แต่เป็นอีกครั้งที่หวงเสี่ยวฉีเลือกที่จะตัดมันทิ้งไป แล้วเอ่ยกับนางด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ใบหน้าของเหอลี่หมิงซีดขาว ในอกของนางเต็มไปด้วยความประหวั่นพรั่นพรึง แต่ฉุกคิดได้ว่าคงประวิงเวลาได้เพียงเท่านี้ นางมิได้อยู่ในฐานะที่จะสามารถต่อรองได้ แต่ว่านางควรต้องมีหลักประกันเพื่อมิให้เขาขับไล่นางออกจากเรือนก่อนจะครบสามชั่วราตรี “ขอบคุณในความเมตตาของท่าน ส่วนเรื่องหนังสือสัญญาหย่านั้น ข้าขอลงนามก่อนที่ข้าจะออกจากเรือนหลังนี้ หวังว่าท่านจะเมตตา” “นี่เจ้า!” หวงเสี่ยวฉีเอ่ยเสียงสะบัด แววตาคู่คมวาววับ มองนางด้วยสายตาเย็นเยียบ ก่อนจะมีรอยหยักผุดขึ้นบริเวณมุมปาก “ได้ ข้าอนุญาต แต่หวังว่าเจ้าจะไม่บ่ายเบี่ยงอีก และนี่จะเป็นโอกาสสุดท้ายของเจ้า” ว่าจบร่างสูงก็สะบัดชายเสื้อ แล้วเดินตัวปลิวจากไป โดยมีจินชุ่ยเวยตามไปติดๆ ก่อนที่เขาจะชะงักเท้าที่หน้าเรือนทิศตะวันออก หันมามองเบื้องหลังอีกครั้งด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยโทสะ ก่อนจะเอ่ยกับจินชุ่ยเวยเสียงหนัก “ให้คนมาเฝ้านางเอาไว้ ข้าเกรงว่านางจะก่อเรื่องแย่ๆ ขึ้นมาอีก เจ้ารู้ใช่หรือไม่ ที่ข้าต้องการให้นางลงนามในหนังสือหย่าเป็นเพราะเหตุใด” “ทราบขอรับ” จินชุ่ยเวยรับคำอย่างนอบน้อม หวงเสี่ยวฉีหันหน้ากลับมาทางเดิม ตั้งใจจะมุ่งหน้ากลับไปที่เรือนเหลียนฮวาซึ่งเป็นเรือนของตน แต่ทว่าบางอย่างที่ผุดเข้ามาในหัวทำให้เขาต้องหยุดเท้า แสดงสีหน้าครุ่นคิด ก่อนจะออกคำสั่งกับจินชุ่ยเวยอีกครั้ง “มิต้องแล้ว” “มิต้องอะไรหรือขอรับ” “มิต้องตามคนมาเฝ้านาง” “ทำไมขอรับ” “ข้าว่านางมีทีท่าแปลกๆ ข้าไม่วางใจ พิษสงของนางเยอะนักเจ้าก็แจ้งอยู่แก่ใจ” จินชุ่ยเวยทำเพียงรับฟังแต่มิได้ออกความเห็น ทั้งที่แจ้งแก่ใจดีว่าสิ่งที่ออกมาจากปากของหวงเสี่ยวฉีเป็นเรื่องจริง ถึงอย่างไรเหอลี่หมิงก็มีศักดิ์เป็นนาย ตนเป็นแค่บ่าวจึงมิกล้าออกความเห็น ทำเพียงรับฟังจึงจะดีที่สุด “แล้วคุณชายจะจัดการอย่างไรขอรับ” “สามราตรีต่อจากนี้” “...” “ข้าจักเฝ้านาง ด้วยตัวข้าเอง”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม