ร่างกายเจ้าเป็นของข้า

1111 คำ
ตอนที่ 4 ร่างกายเจ้าเป็นของข้า "อิ่มแล้วรึ?" เสียงนุ่มทุ้มต่ำเอ่ยถาม เมื่อเห็นหญิงสาวเลื่อนถาดสำรับออกห่างจากตัว ข้าวในจานหมดเกลี้ยง แต่หน้าสวยก็ยังคงบูดบึ้ง เมื่อเงยขึ้นมองสบตาเขา "ข้าอยากกลับบ้าน ป่านนี้พ่อกับแม่ข้าคงเป็นห่วงแน่ ๆ" แม้อีกฝ่ายไม่บอกว่าจุดประสงค์ว่าที่จับตัวเธอมาต้องการอะไร แต่เมื่อนึกถึงสีหน้าของผู้เป็นพ่อกับแม่ที่ตอนนี้คงร้อนใจในการหายตัวไปและคงกำลังติดตามหาเธอเป็นแน่แท้ "ไม่ต้องห่วงดอกเจ้าได้กลับแน่ แต่ต้องเป็นหลังจากเลยวันกำหนดฤกษ์งานแต่งของเจ้าแล้ว" ร่างหนาเหยียดกายลุกขึ้น แล้วเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ทว่าถ้อยคำนั้นของชายหนุ่มก็ทำให้ การะเกด ตาเบิกโพลงอย่างตระหนก "ฤกษ์วันแต่งงานของข้าตั้งอีกเดือนนึง อย่าบอกนะว่าเจ้าจะกักขังข้าที่นี่ไว้เป็นเดือนสองเดือน พ่อกับแม่ข้ามิอกแตกตายเลยรึ?" หญิงสาวขยับเข้าไปใกล้ แล้วดึงข้อมือของอีกฝ่ายไว้ เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มจะเดินหันหลังออกจากห้องไป หัวคิ้วของ จเร กระตุกเล็กน้อย เมื่อความอ่อนนุ่มบดเบียดเข้ามาใกล้ชิด "เวลาที่นี่กับเวลาด้านนอกต่างกันหลายชั่วยามนัก อีกไม่กี่เพลาก็จะถึงกำหนดวันงานแต่งของเจ้าแล้ว" "อ๊ะ ...อะไรนะ!" เป็นไปไม่ได้!!! เธอเพิ่งจะหลับไปหนึ่งคืนแล้วตื่นขึ้นมา แล้วเวลาด้านนอกจะล่วงเลยผ่านไปหนึ่งเดือนกว่าแล้วได้อย่างไรกัน นี่เป็นเรื่องเหลือเชื่ออย่างที่สุด!! "เจ้ากินข้าวให้อิ่มและพักผ่อนนอนหลับให้เต็มที่ อีกไม่นานเจ้าจะได้กลับบ้าน" "ดะ...เดี๋ยว! เจ้าจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ จะมาทำลายงานแต่งของข้าได้ยังไง พ่อกับแม่ข้าเป็นคนมีชื่อเสียงในจังหวัดสุรินทร์และแถบอีสานใต้ ป่านนี้พวกท่านจะเป็นกังวลแค่ไหน" งานแต่งของเธอกับ กำนันสิงห์ ผู้กว้างขวางและมีเชื้อสายเจ้าพระยาเมืองท่าตะมะของลุ่มแม่น้ำมูล ถูกวางแผนไว้เป็นอย่างดี และผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการทั้งกลุ่มข้าราชการชั้นผู้ใหญ่กลุ่มนักธุรกิจค้าไม้ และเหล่าบรรดาลูกศิษย์ลูกหาของพ่อครูไกรศร ล้วนทราบเรื่องราวนี้เป็นอย่างดี แต่ชายตรงหน้ากำลังทำให้ทุกอย่างพังทลายลง "ยังไงเจ้าก็ไม่มีทางได้แต่งกับใครหน้าไหนทั้งนั้นอยู่แล้ว และตอนนี้เจ้าเป็นเมียข้าแล้ว ถ้าจะยังกล้าไปแต่งงานกับผู้ชายคนอื่นอีกรึ?" ดวงตาคู่สีนิลเข้มดั่งรัตติกาลดำมืดลง มือหน้าโอบกอดรอบเอวคอดกดร่างบางให้แนบชิดกับลำตัว หัวใจของการะเกดเริ่มเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะ "ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้! ยังไงข้าก็ต้องแต่งงานกับกำนันสิงห์ เพื่อชื่อเสียงวงศ์ตระกูลของข้า สิ่งที่เสียไปกับเจ้าข้าจะถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น" "เช่นนั้นรึ?" นิ้วเรียวแข็งไล้ยังเรียวปากอิ่มจิ้มลิ้มช่างเจรจา ประกายบางอย่างปรากฏชัดในแววตาของเขา "อีกอย่างสิ่งที่เกิดขึ้นมันคือความผิดพลาด ข้าไม่ถือว่าเจ้ากับข้ามีความผูกพันอะไรกันทั้งสิ้น" น้ำเสียงเย็นชาจากริมฝีปากนุ่มนั้น ทำให้กรามของชายหนุ่มบดเบียดเข้าหากันแน่นจนเป็นสันนูนเด่น "เจ้าคงลืมทุกอย่างที่เคยพูดไว้กับข้าจริงๆ ไม่เป็นไรข้าจะสัมผัสเจ้าบ่อยๆ จนกว่าเจ้าจะจำมันได้" "ไม่มีทาง อื้อ..." ไม่ทันจะเอ่ยอะไรต่อริมฝีปากหยักก็บดจูบยังเรียวปากอิ่มของเธออย่างรวดเร็ว เพียงหญิงสาวเผยอปากออกลิ้นสากร้อนก็สอดแทรกยังโพรงปากนุ่ม ตวัดดูดคลึงลิ้นเล็กอย่างดูดดื่ม มือหนาฟอนเฟ้นไปทั่วร่างของเธอ ไม่นานนักชุดผ้าไหมเนื้อดีของเธอก็ถูกปลดเปลื้องออกจากร่างอย่างรวดเร็ว และช่างน่าแปลกนักที่การะเกดไม่อาจจะต้านทานความเร่าร้อนจากเรือนร่างกำยำแน่นเครียดของเขาได้ ร่างของเธอถูกดันไปจนชิดกับผนังห้อง ความเย็นวาบที่แตะแผ่นหลังเปลือยเปล่านั้น ทำให้หญิงสาวเริ่มจะขัดขืน ทว่ากลับถูกเขารวบมือเธอขึ้นไว้เหนือศีรษะด้วยมือหนาเพียงข้างเดียว “ถ้าทำไปหนึ่งครั้งแล้วยังไม่ตราตรึงในใจของเจ้า ข้าจะได้ทำอีกครา” ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย เมื่อหลุบตามองสองปทุมขาวสล้างอวบอิ่มแสนงดงาม ใบหน้าหล่อเหลาโน้มลงหยอกล้อผิวกายละเอียดนุ่ม ลิ้นร้อนเลียละเลียดครอบครองดอมดมความหวานล้ำยอดทรวงอก จนกายสาวแอ่นเอนรับริมฝีปากเขา ความเสียวซ่านแผ่กระจายไปทั่วร่างยามเขาดูดดุนยอดสีทับทิมจนเป็นใตแข็งชูชัน เรียวขางามของเธอถูกแยกออกร่างหนาเข้ามาแทรก ขณะริมฝีปากอุ่นร้อนไล้จูบพรมเธอไปทั่วร่าง เสียงลมหายใจของการะเกดหอบถี่กระชั้นอีกครั้ง แม้จะรู้สึกเดียดฉันท์กับการกระทำที่แสนอุกอาจเอาแต่ใจนี้เพียงใด ทว่าร่างกายของเธอกลับโอนอ่อนอย่างง่ายดาย “จะ..เจ้ารังแกข้า” “ร่างกายของเจ้าเองก็ต้องการข้า เหมือนที่ข้าต้องการ” ลมหายใจอุ่นร้อนของเขาพรมไปทั่วเรือนร่าง จนเธอร้อนรุ่มดั่งโดนไฟนาบ ทุกส่วนในร่างกายถูกประโลมด้วยปากและลิ้นสากร้อน เสียงจูบอันดูดดื่ม ดึงสติของการะเกดให้ดำดิ่งไปรสสัมผัสวาบหวาม ก่อนที่แก่นกลางกายที่แข็งชูชันและเต็มไปด้วยหยาดน้ำใสจะจ่อทาบยังกลีบเนื้อสาวที่ฉ่ำชุ่ม “ข้าไม่เคยต้องการเจ้า” “เจ้าปฏิเสธร่างกายตัวเองไม่ได้ดอก” อุ้งมือหนาตรึงสะโพกเธอไว้แน่น และสอดตัวตนเข้าไปจนสุดก่อนจะแช่ค้างไว้เพียงครู่ ความรู้สึกจุกร้อนแผ่ซ่านไปทั่วร่างของการะเกด จนต้องเอื้อมมือจับบ่าหนา สองขาเรียวตวัดรัดรอบสะโพกเพรียวไว้แน่น ร่างเล็กโอนไหวและหอบแรงตามจังหวะโยกของสะโพกเพรียว ความวาบหวามแผ่ซ่านไปทั่วร่างของเธอ ริมฝีปากอิ่มจิ้มลิ้มเม้มเข้าหากันแน่น “ขะ ..ข้าเกลียดเจ้านักจเร” “หึ!! เจ้าเกลียดผัวตัวเองงั้นรึ?” “อื้อ....” “จำไว้ว่า ...ร่างกายและจิตวิญญาณของเจ้าเป็นของข้าคนเดียว” . . “เฮือก!!” ร่างบางสะดุ้งโหยงเมื่อกระพริบตาอีกครั้ง พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเรือนใหญ่รัตนบุรีบ้านของนายฮ้อยเพลิงผู้เป็นพ่อ เสียงเซ็งแซ่ดอื้ออึงของผู้คนมากมายที่คุ้นชินดังอยู่รอบตัว “ฟื้นแล้วๆ นายน้อยการะเกดฟื้นแล้ว!!” *************
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม