คนพิเศษของท่านประธาน

2021 คำ
ตอนที่ 6 "เป็นไงบ้างเจ้าขา" พี่นุ้ยหัวหน้าฝ่ายการตลาดเดินเข้ามาถามฉันหลังจากที่ปล่อยให้ฉันศึกษาระบบงานคร่าวๆ ด้วยตัวเองมาได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว "ก็ปวดหัวนิดหน่อยค่ะ" แต่ก็โชคดีที่ว่าบริษัทของพี่เตอร์กับบริษัทของฉันมีระบบงานคล้ายๆ กัน ต่างกันแค่นิดหน่อยเท่านั้น ฉันจึงต้องศึกษาความต่างตรงนั้นให้เข้าใจ ก็เลยรู้สึกปวดหัวนิดๆ แล้วตอนนี้ถ้าฉันจะบอกว่าฉันเข้าใจระบบงานของที่นี่หมดแล้ว ทุกคนจะเชื่อไหม แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแหละ เพราะว่าฉันเข้าใจมันหมดแล้วจริงๆ "จะพักก่อนก็ได้นะ แต่พี่ให้พักได้แค่สิบนาทีพอ เพราะถ้าพี่ทำให้เจ้าขาเข้าใจไม่ได้ พี่โดนท่านประธานหักเงินเดือนแน่ๆ " "พี่เตอร์โหดขนาดนั้นเลยเหรอคะ" ฉันถามไปอย่างสงสัย แต่จากที่ฉันสัมผัสมาก็ไม่น่าสงสัยเลยนะ ก็ทำหน้าดุใส่ฉันขนาดนั้น พนักงานที่ไหนจะไม่กลัว แต่ที่ถามก็เพราะว่าอยากรู้มุมมองของคนในบริษัทเฉยๆ "เดี๋ยวนะ เรียกพี่เตอร์เลยเหรอเจ้าขา ห้ามเรียกแบบนั้นเลยนะ ต้องเรียกท่านว่าท่านประธานเท่านั้นนะเจ้าขา" พี่นุ้ยรีบดุฉันทันทีที่ฉันเรียกพี่เตอร์แบบนั้น "นั่นสิ คนที่นี่ไม่มีใครกล้าเรียกท่านประธานอย่างอื่นเลยนะ เดี๋ยวโดนเรียกไปปรับทัศนคติ" พี่กี้ พี่ในแผนกพูดขึ้นมาอีกคน "ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เจ้าขากับพี่เตอร์เราสนิทกัน" ฉันบอกพวกพี่ๆ ไป แต่ขอโทษนะคะที่ต้องโกหก มันจำเป็นจิงๆ "ถึงสนิทท่านประธานก็ไม่ให้เรียกนะ" พี่นุ้ยพูด "แต่พี่เตอร์ก็ไม่ได้ว่าอะไรเจ้าขานะคะ ก่อนลงมาที่นี่เจ้าขาก็เรียกพี่เตอร์แบบนี้" พอฉันพูดไปแบบนั้นทุกคนในแผนกก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที เกิดอะไรขึ้น "เอ่อ...เจ้าขาคงเป็นคนพิเศษของท่านประธานสินะ ถึงได้เรียกท่านประธานแบบสนิทสนมได้" พี่นุ้ยพูด เริ่มมีลางที่ดีขึ้นมาแล้วสิ ที่มีสีหน้าเปลี่ยนไปนี่ คงจะคิดกันไปเองสินะว่าฉันคือคนพิเศษของพี่เตอร์ หึๆ "ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ พี่นุ้ยก็...-//-" ฉันทำทีเป็นเขินอายเพื่อให้สมบทบาทการเป็นคนพิเศษของพี่เตอร์ ขอโทษนะคะพี่เตอร์ พอดีสถานการณ์มันพาไปน่ะ แหะๆ "ไม่ต้องทำเป็นเขินเลยนะเราน่ะ ถ้าไม่พิเศษจริงท่านประธานก็คงไม่ปล่อยไปง่ายๆ หรอกนะ" พี่กี้พูด ค่ะ ไม่ปล่อยเลยค่ะ ไม่ปล่อยจริงๆ TT "แล้วที่ผ่านมา ก็ไม่มีใครได้เรียกท่านประธานแบบสนิทสนมสักคน เป็นแบบนี้จะไม่ใช้พวกพี่คิดว่าเราเป็นคนพิเศษได้ยังไง" พี่กี้พูดต่อ ว่าแต่...ขนาดนั้นเลยหรอวะ จะไม่มีใครเคยได้เรียกแบบสนิทเลยสักคนเหรอ "ใช่ๆ " พี่นุ้ยเสริม "แล้วอีกอย่างนะ เมื่อก่อนท่านประธานค้านหัวชนฝาเลยนะ เรื่องรับนักศึกษาฝึกงานเนี่ย..." "เออจริงด้วยว่ะ" พี่ป๊อบพูดขึ้นมาอีกคนพลางทำหน้าเหมือนกำลังคิดตามที่พี่กี้พูด "แต่กลับรับเจ้าขาเข้ามา คนแรกและคนเดียว ยังไงๆ " พี่กี้แซวฉัน ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลย ว่าบริษัทพี่เตอร์ไม่เคยรับนักศึกษาฝึกงาน แต่ก็ช่างเถอะ เพราะคิดว่ายังไงฉันก็ไม่ได้พิเศษอยู่แล้ว และที่รับฉันก็คงเป็นเพราะเฮียเจ้าขุนนั่นแหละ ฉันก็ยังแกล้งทำท่าทางยิ้มเขินๆ อยู่ ขอเล่นตามน้ำไปเลยแล้วกันนะ เพราะตอนนี้ฉันเริ่มจะคิดอะไรดีๆ ออกแล้ว จากนั้นฉันกับพี่ที่ฝ่ายก็คุยเล่นกันไปสักพัก แถมยังดูเหมือนพวกพี่ๆ จะเกรงใจฉันอยู่หน่อยๆ นะเวลาจะพูดอะไร บางคนถึงขั้นประคบประหงมฉันเลยก็ว่าได้ เป็นคนพิเศษ (แบบปลอมๆ) ของพี่เตอร์นี่มันดีแบบนี้นี่เอง และก็ทำให้ฉันรู้ว่า จริงๆ แล้วคนในฝ่ายนี้ ก็ไม่ได้เคร่งเครียดกับงานขนาดนั้นหรอก แต่ที่ต้องทำเป็นเครียดตอนแรก ก็เพราะว่ายายเจ๊ปากแดงอยู่น่ะสิ ก็เลยต้องทำเป็นเหมือนเครียดกับงาน เพราะถ้ายายเจ๊เห็นว่าคุยกันหรือไม่ตั้งใจทำงาน ยายเจ๊อาจจะเอาไปฟ้องพี่เตอร์ได้ เพราะฝ่ายอื่นโดนกันเยอะแล้ว ก็เลยต้องระวังเป็นพิเศษ "ว่าแต่เจ้าขาเข้าใจแล้วจริงๆ เหรอ" พี่นุ้ยถามฉันย้ำขึ้นมาอีกครั้งเป็นรอบที่แปดได้แล้วมั้ง "ค่ะ เจ้าขาเข้าใจหมดแล้ว ถ้าพี่ไม่เชื่อพี่ถามเจ้าขามาได้เลยค่ะ" และฉันก็ตอบแบบนี้เป็นรอบที่แปดแล้วเหมือนกัน ก็พี่นุ้ยไม่เชื่อฉันน่ะสิว่าฉันเข้าใจทุกอย่างแล้วจริงๆ คงจะกลัวพี่เตอร์หักเงินเดือนนั่นแหละ แต่ฉันก็เข้าใจพี่นุ้ยนะ เพราะระบบงานมันเยอะและวุ่นวายมากจริงๆ มันคงเป็นไปได้ยากที่เด็กฝึกงานที่บอกว่าทำอะไรไม่เป็นเลย จะสามารถทำความเข้าใจได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง "พี่ถามจนไม่มีคำถามจะถามแล้วล่ะ" ใช่แล้วค่ะ พี่นุ้ยทดสอบความเข้าใจของฉันแทบจะทุกอย่างแล้ว และฉันก็ตอบได้ทุกข้อคำถามที่พี่นุ้ยถามมา "เจ้าขาเข้าใจแล้วจริงๆ ค่ะ พี่นุ้ยไม่ต้องห่วง" ฉันบอกย้ำพี่นุ้ยไปอีกที เพื่อให้พี่เขาสบายใจ "เราเก่งมากๆ เลยเจ้าขา ทำเอาพี่ทึ่งเลยจริงๆ " "ใช่ๆ ขนาดพี่ยังต้องใช้เวลาเป็นเดือนๆ เลย ถึงจะเข้าใจหมด แต่เรากลับทำได้ภายในวันเดียว ไม่สิ ไม่ถึงวันเลยด้วยซ้ำ สมแล้วที่เป็นคนพิเศษของท่านประธาน" พี่กี้พูดขึ้นอีกคน ส่วนฉันก็ไม่ได้พูดอะไร ได้แต่นั่งฟังและส่งยิ้มเขินๆ ไปให้พวกพี่ๆ ไม่ได้เขินอะไรนะ เขินตรงที่ว่าเป็นคนพิเศษนี่แหละ มันรู้สึกกระดากหูยังไงไม่รู้ ก็ไม่ได้เป็นจริงๆ สักหน่อย "พอๆ อย่าแซวน้องเยอะ น้องเขินแล้วเห็นไหมนั่น" พี่นุ้ยหันไปพูดกับพี่กี้ "ง่ะ" "งั้นถ้าเราเข้าใจหมดแล้ว พี่จะแจ้งให้ท่านประธานทราบ เผื่อจะได้เริ่มงานอื่นต่อเลย" "คะ!? เอ่อ...คือ..." ฉันทำหน้างงขึ้นมาทันที ก่อนจะคิดหาข้ออ้าง ต้องแจ้งให้พี่เตอร์ทราบด้วยเหรอวะ แล้วจะให้ทำงานอื่นต่อเลยเนี่ยนะ "มีอะไรหรือเปล่า" พี่นุ้ยถามเมื่อเห็นสีหน้าและท่าทางลนลานของฉัน "เอ่อ...คือ...พี่ไม่ต้องบอกพี่เตอร์หรอกค่ะ ดะ…เดี๋ยวเจ้าขาบอกเองดีกว่า พอดีเจ้าขาอยากจะเซอร์ไพรส์น่ะค่ะ" "อ๋อ ที่แท้ก็อยากเซอร์ไพรส์นี่เอง" "ค่ะๆ เจ้าขาอยากเซอร์ไพร้พี่เตอร์ด้วยตัวเอง แหะๆ " "โอเคๆ พี่เข้าใจละ แล้ววันนี้เราต้องอยู่ถึงหนึ่งทุ่มด้วยใช่ไหม" พี่นุ้ยพูดและถามฉันต่อ "ไม่ค่ะ เจ้าขาคงไม่ต้องอยู่ดึกขนาดนั้นแล้ว..." ฉันโกหก "เอ๋…? " พี่นุ้ยทำหน้าสงสัยอีกครั้ง "ก็พี่เตอร์น่ะสิคะ เปลี่ยนใจให้เจ้าขากลับเวลาปกติ เจ้าขาก็ยังงงๆ อยู่เลยว่าทำไม พี่เตอร์เพิ่งบอกเจ้าขาเมื่อกี้นี้เองค่ะ" นี่ก็ไม่ใช่เรื่องจริงอีกค่ะ "จริงเหรอ" แต่พี่นุ้ยก็ยังสงสัยอยู่ "ถ้าไม่เชื่อ เดี๋ยวเจ้าขาเปิดไลน์ให้ดูก็ได้ค่ะ" ฉันพูดพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ออกมา "ไม่เป็นไรๆ พี่เชื่อๆ " ถึงจะดูก็ไม่มีให้ดูหรอกนะ แค่แอ๊บเนียนแค่นั้นเอง แล้วฉันก็ไม่มีหรอกนะ ไลน์ของพี่เตอร์น่ะ จากนั้นพี่นุ้ยก็เดินกลับเข้าไปที่โต๊ะทำงานตัวเอง ฉันก้มลงมองนาฬิกาข้อมือ อ่า...บ่ายสามแล้วนี่ อีกสักพักพี่เตอร์ก็จะออกจากบริษัทแล้วสินะ ใช่แล้วค่ะ! ยายเจ๊ปากแดงบอกฉันว่าพี่เตอร์ต้องออกไปพบคู่ค้าตอนสามโมงครึ่ง นั่นก็หมายความว่าหลังจากสามโมงครึ่งเป็นต้นไป คือทางสะดวก อันที่จริงยายเจ๊ก็ไม่ได้อยากบอกหรอกนะ แต่ฉันมีของเซ่นไหว้น่ะสิ ยายเจ๊ก็เลยยอมบอกฉัน "อ้าวพี่ป๊อบ? พี่กี้? ยังไม่กลับบ้านกันเหรอคะ" ฉันเอ่ยถามขึ้นเมื่อเดินกลับมาจากห้องน้ำ แต่ยังเห็นพี่ป๊อบกับพี่กี้ยังนั่งทำงานอยู่ ทั้งๆ ที่มันเป็นเวลาเลิกงานแล้ว "งานพี่ยังไม่เสร็จน่ะสิ นี่พี่ต้องรีบไปรับลูกแล้วคืนนี้พี่มีนัดกับสามีต่ออีก" พี่กี้บ่นหน้าเครียดๆ "พี่ก็ไม่เสร็จเหมือนกัน" พี่ป๊อบพูด "แล้วเอากลับไปทำที่บ้านไม่ได้เหรอคะ" ฉันถามขึ้นมาอย่างสงสัย เพราะปกติถ้างานไม่เสร็จมันสามารถเอากลับไปทำบ้านได้นี่ "เอากลับได้ แต่ข้อมูลที่จะใช้น่ะมันอยู่ที่นี่ พี่เลยเอากลับไปทำไม่ได้" พี่กี้พูด "ของพี่ป๊อบก็เหมือนกันเหรอคะ" "ใช่ๆ งานพี่มันต่อจากงานของกี้น่ะ ต้องใช้ข้อมูลที่กี้ทำ" "แล้วต้องเสร็จก่อนวันไหนคะ" "พรุ่งนี้จ๊ะ พรุ่งนี้ก่อนบ่ายโมงพี่ต้องส่งขึ้นให้ท่านประธานเซ็น" พี่ป๊อบตอบ "แล้วเหลืออีกเยอะเลยเหรอคะ" ฉันถามต่อ "เยอะเลยเจ้าขา พี่ว่าพี่ทำไม่ทันแน่ๆ พี่คงต้องยกเลิกนัดกับสามีวันนี้" พี่กี้พูดขึ้นมาเสียงหงอยๆ "แต่วันนี้ครบรอบแต่งงานของกี้ไม่ใช่เหรอ แถมยังเป็นวันเกิดลูกกี้อีก จะยกเลิกได้ยังไง" พี่ป๊อบหันไปพูดกับพี่กี้ "ก็งานมันไม่เสร็จนี่ มันไม่มีทางเลือก" พี่กี้ทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้ "นั่นสิ" "เอ่อ...เจ้าขาขอดูหน่อยได้ไหมคะว่าเหลืออะไรบ้าง เผื่อเจ้าขาจะช่วยได้" ฉันพูดขึ้นมาหลังจากที่ยืนฟังพี่ๆ คุยกันได้สักพัก ถ้าพอช่วยได้ฉันก็จะช่วยนะ เพราะฉันก็เข้าใจและเห็นใจพวกพี่ๆ อยู่ ก็วันสำคัญทั้งที ใครๆ ก็อยากอยู่กับครอบครัวทั้งนั้นแหละ "ไม่เป็นไรหรอกเจ้าขา พี่เกรงใจน่ะ อีกอย่างถ้าท่านประธานรู้ว่าพี่โยนงานให้เจ้าขาทำ ท่านประธานเอาพี่ตายแน่ๆ " พี่กี้พูด "ไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ เจ้าขาไม่ได้จะช่วยพี่ฟรีๆ สักหน่อย อีกอย่างถ้าพวกพี่ไม่พูด เจ้าขาไม่พูด พี่เตอร์ก็ไม่รู้หรอก จริงไหมคะ? " ใช่แล้วค่ะ ถึงจะเห็นใจแต่ก็ไม่ได้จะช่วยใครฟรีๆ หรอกนะ เคยได้ยินประโยคนี้กันไหมคะ 'ของฟรีไม่มีในโลก' อีกอย่างงานที่พวกพี่ๆ ทำกันอยู่น่ะ ฉันสามารถทำให้เสร็จทันเวลาได้แน่นอน และนี่อาจจะเป็นช่องทางการหารายได้ของฉันอีกหนึ่งทางก็ได้นะ ถึงแม้มันจะได้ไม่มาก แต่ถ้าทำหลายๆ ครั้ง มันก็รวมเป็นเงินที่เยอะมากๆ เหมือนกันนะ หลังจากที่ตกลงเรื่องราคากับพวกพี่ๆ เสร็จสรรพ พวกพี่ๆ ก็ขอตัวกลับกัน แล้วยังกำชับอีกว่าห้ามให้พี่นุ้ยรู้ ไม่งั้นต้องโดนบ่นแน่ๆ อ้อ! แล้วตอนคุยน่ะ พี่นุ้ยไม่อยู่หรอกนะ พี่นุ้ยไปประชุม แล้วพอประชุมเสร็จพี่นุ้ยก็กลับบ้านไปเลยเหมือนกัน เพราะคิดว่าไม่ต้องรออยู่ดูแลฉันแล้วไง "ทีนี้ก็ถึงทีเจ้าขากลับบ้างสินะ คิๆ " จากนั้นฉันก็เก็บของใส่กระเป๋าเป้แล้วมองนาฬิกา อีกสามสิบนาทีก็จะถึงเวลาที่ฉันนัดกับไอ้เอกเอาไว้ จากนี่ไปถึงสนาม ก็คงต้องได้พึ่งพี่วินมอเตอร์ไซค์สินะ ไม่งั้นไปไม่ทันแน่ๆ _____โปรดติดตามตอนต่อไป_____ ฝากกดหัวใจให้ด้วยน้าา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม