“อะไรนะ!ที่จริงแล้วเธออายุเยอะกว่าพวกฉันเหรอ” ตะวันพูดอย่างตกใจหลังจากเพื่อนใหม่เพิ่งเจอกันวันแรกเล่าเรื่องของตัวเองให้พวกตัวเองฟัง
“ยัยตะวัน แกจะตะโกนทำไมยัยอันตกใจหมดแล้ว” รันพูดรีบปรามเพื่อน
“เฮ้ยเรียกแบบนั้นจะดีเหรอยังไงก็อายุเยอะกว่านะ” ตะวันไม่มั่นใจกับสรรพนามแทนตัวที่รันเรียกเพื่อนใหม่
“ไม่เป็นไร ฉันโอเคเรียกแบบนั้นก็ได้อีกอย่างฉันอยากเป็นเพื่อนกับพวกเธอ”
“เป็นไง อีกอย่างนะถ้าคนไม่รู้คงคิดว่าพวกเราเป็นรุ่นพี่ยัยอันมากกว่า...แล้วนี่ยัยข้าวหายหัวไปไหนของมัน” รันมองหาเพื่อนสนิทของตัวเองอีกคน
“จะไปไหนได้ถ้าไม่ไปหาสามีสุดที่รักของมัน”
คำพูดของตะวันทำให้อันนาสงสัยเพราะคิดว่าเพื่อนใหม่มีสามีแล้วเหรอ
“เอ่อ...ข้าวมีสามีแล้วเหรอ”
คำถามของอันนาทำให้ตะวันและรันหันมองหน้ากันก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดัง ทำเอาคนในโรงอาหารของคณะมองมาที่พวกเขา
“ฮ่าๆ แค่แฟนนะ แต่สองคนนั้นชอบทำตัวคลั่งรักเหมือนผัวเมียแต่งงานข้าวใหม่ปลามัน พวกเราเลยพูดแบบนี้”
“อ่อออ” คำตอบของรันทำให้อันนาถึงบางอ้อทันที
“ยัยข้าวนะในปีของเราเรียกว่าฮอต มีหนุ่มหลายคณะมาจีบสุดท้ายยัยนั่นก็เลือกตกลงปลงใจกับหนุ่มนิเทศ แต่ฉันว่าตอนนี้ตำแหน่งของยัยข้าวคงต้องให้คนอื่นแล้วเพราะแกมาแย่งไป” ตะวันที่นั่งมองอันนาอยู่นานก็พูดขึ้น
“ฉันควรดีใจใช่ไหม” คนที่ถูกชมยิ้มขำขัน
“แกมีแฟนยัง ฉันจะให้พี่ชายมาจีบได้หรือเปล่าอยากมีพี่สะใภ้สวยๆ อ่ะ” ตะวันถามจริงจังมาก
“ยังไม่มี...แต่ถ้าอยากจีบคงต้องผ่านพี่ก่อนนะครับ”
ตะวันหันหน้าไปมองคนที่แทรกบทสนทนาระหว่างตัวเองกับอันนา
“พี่พอร์ช!!...สวัสดีค่ะ” พอเห็นว่าเป็นใครเธอก็รีบทักทายรุ่นพี่ รันที่เห็นแบบนั้นก็ทักทายตามและได้รอยยิ้มตอบกลับมา
“พอร์ชมาทำอะไรเหรอ” อันนาถามพอร์ชอย่างสนิทสนมทำให้เพื่อนใหม่ทั้งสองคนมองทั้งคู่สลับกันไปมา
“มาหาอันไง แล้วนี่กินเสร็จหรือยัง”
“ยังเลยอันเพิ่งมากิน นั่งด้วยกันไหม” เธอขยับตัวให้เขานั่งด้วยกัน
“ไม่เป็นไร มะปรางกับณคุนรอพอร์ชอยู่คณะ ที่มาเพราะกลัวว่าจะอยู่คนเดียวแต่ถ้าอันมีเพื่อนแล้วพอร์ชก็สบายใจ”
“ถ้างั้นพอร์ชไปหาเพื่อนเถอะ อันมีเพื่อนแล้วอยู่ได้” เธอเข้าใจดีว่าเขาคงเป็นห่วงมากเลยมาดูการเป็นอยู่ของเธอ
“เฮ้อ~ พอร์ชโดนทิ้งแล้วสินะ” พอร์ชทำท่าทางน้อยใจ นั่นยิ่งทำให้เพื่อนใหม่ของอันนายิ่งมองหน้ากันหนักกว่าเดิม
“ฮ่าๆ เจ้าหมูอ้วน อย่างอนนะ”
“เจ้าหมูอ้วน!!” ตะวันกับรันพูดพร้อมกันเสียงดัง ทำให้คนอยู่ในโรงอาหารหันมอง
“ชู่ว~~~” พอร์ชทำสัญญาณเตือนให้รุ่นน้องทั้งสองคนพูดเบาๆ
“ขอโทษค่ะ” รุ่นน้องทั้งสองคนรีบเงียบทันที
“ไหนบอกจะเลิกเรียกพอร์ชว่าเจ้าหมูอ้วนไง หนูน้อย” พอร์ชไม่ได้มีท่าทางโกรธเลยแม้แต่น้อย แถมยังยิ้มอย่างเอ็นดูคนตรง
“หยุดเลยนะ...พอร์ชกลับไปหาเพื่อนเลย” พอฉายาตัวเองถูกเปิดเผยเธอก็ทำท่าบึ้งตึงใส่เขา
“โอเคครับ เดี๋ยวตอนกลับพอร์ชรออยู่หน้าตึกBนะ”
“โอเค”
“ยัยอันทำไมถึงสนิทกับพี่พอร์ชขนาดนั้น”
ตะวันที่เห็นพอร์ชเดินออกไปไกลก็รีบถามอันนาที่กำลังตักข้าวเข้าปากทันที
“ก็รู้จักกันตั้งแต่เด็ก”
“งั้นเธอต้องรวยมากสินะ” รันพูดขึ้น
“ทำไมคิดแบบนั้น”
“ก็พี่พอร์ชเป็นลูกชายของเจ้าของฟาร์มไข่มุกใหญ่ไม่ใช่เหรอ นักศึกษาที่คณะก็ไปดูงานที่นั่นบ่อยๆ เจ้าของเกาะถึงสองเกาะจะไม่รวยได้ยังไง”
“พอร์ชรวยแต่ฉันอาจจะไม่รวยก็ได้” อันนาบอกยิ้มๆ
“พวกแกฉันกลับมาแล้ว” เสียงของข้าวฟ่างดังขึ้นขัดจังหวะการซักไซ้
“โห่~ ฉันก็นึกว่าแกวิ่งตามผู้ชายจนจะไม่กลับมาหาเพื่อนแล้ว” ตะวันบ่น
“ทำไมเพื่อนเลิฟ คิดถึงฉันเหรอ” ข้าวฟ่างกอดคอตะวัน
“แกไม่กินข้าวเหรอ”
“ไม่ฉันกินมาแล้ว”
“เมื่อกี้พี่พอร์ชของแกมาที่นี่ด้วย”
คำพูดของตะวันทำเอาอันนาเงยหน้ามองข้าวฟ่างอย่างสงสัย
“กรี๊ดดดดพี่เขามาทำไม วันนี้ปี 3 ไม่ได้มีนัดอะไรที่คณะเรานิ”
“มาหายัยอันพูดเรื่องกลับบ้านด้วยกัน”
“ห๊ะ!! เดี๋ยวนะอันทำไมแกถึงต้องกลับกับพี่พอร์ช”
อันนาสะดุ้งตกใจเล็กน้อยเมื่อข้าวฟ่างเป้าหมายมาเป็นตัวเธอแทน
“พักอยู่บ้านเดี๋ยวกันเลยกลับด้วยกัน”
“อะไรนะ!!!”
ไม่ใช่แค่ข้าวฟ่างที่ตกใจรันกับตะวันก็เหมือนกันและเป็นอีกครั้งที่คนในโรงอาหารหันมามองกลุ่มพวกเธอ บรรยากาศตอนนี้ทำให้เธอรู้สึกอยากกลับบ้านมากเพราะหลังจากนั้นทั้งวันเธอถูกเพื่อนใหม่ทั้งสามคนซักไซ้แต่เรื่องของพอร์ช ตกลงทั้งสามคนอยากเป็นเพื่อนเธอหรืออยากเป็นเพื่อนพอร์ชกันแน่และดูเหมือนการเรียนวันแรกของชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยจะผ่านไปได้ด้วยดี แม้รู้สึกว่าเพื่อนทั้งสามคนจะดูแปลกก็เถอะ เธอหวังว่ามันจะเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนเรียนจบอย่าได้มีเรื่องอะไรเลย ขอให้ทุกอย่างหลังจากนี้มีแต่แสงสว่างทีเถอะ