“เราจะไม่ถูกจับใครได้จริงๆ ใช่ไหมชัญ”
“แกจะกังวลอะไรนักหนาหยา ตามฉันมานี่”
ชัญญาคว้าข้อมือของปั้นหยาที่มีสีหน้าลำบากใจอยู่แล้วส่วนให้เดินตามไปยังโซนหลังเวทีจัดงาน เสียงดนตรีที่ลอยเข้ามาในโสตประสาททำให้ชัญญารู้สึกตื่นเต้นอยู่มาก ในขณะที่ปั้นหยาเองก็รู้สึกแบบนั้นแต่ความกังวลใจที่มีมากกว่าทำให้หล่อนมีสีหน้ากระอักกระอ่วน ปั้นหยาเดินตามชัญญามาเรื่อยๆ จนกระทั่งทั้งคู่หยุดเท้าบริเวณหน้าห้องแต่งตัว ชัญญาปล่อยมือปั้นหยาแล้วชะเง้อชะแง้ลอบมองเข้าไปด้านใน ที่มีนางแบบหลากหลายเชื้อชาติกำลังแต่งหน้าทำผม บางคนก็กำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า
“ชัญ ฉันว่าเราออกไปจากตรงนี้เถอะ” ปั้นหยากระตุกแขนเสื้อของชัญญา
“ฉันบอกแล้วไงว่าไม่เป็นอะไรหรอกน่า เราแค่มาดูพวกเขาแต่งตัวอีก แกดูดิเสื้อผ้าสวยๆ ทั้งนั้นเลย แล้วนางแบบแต่ละคนก็สวยมาก”
ตอนที่เอ่ยชัญญาไม่ได้หันมามองปั้นหยาเลยด้วยซ้ำ สายตาของหล่อนยังคงจับจ้องอยู่ด้านในห้องแต่งตัวด้วยสายตาเป็นประกาย แบบนั้นยิ่งทำให้ปั้นหยารู้สึกไม่สบายใจ
“ชัญฉันว่าเราไปจากตรงนี้กันเถอะ เผื่อถูกจับได้ขึ้นมา ถูกไล่ออกมันจะแย่นะ”
เรื่องนี้คือเรื่องที่ปั้นหยาค่อนข้างกังวลใจ อาจจะไม่ร้ายแรงถึงขั้นไล่ออก แต่ก็อาจถูกตักเตือนและหักเงินได้ ซึ่งปั้นหยาเองก็ไม่อยยากให้เป็นเช่นนั้น เพราะเงินทุกเหรียญมีค่ากับหญิงสาวมาก ปั้นหยาตั้งใจจะเก็บเงินแล้วไปเรียนแฟชั่นดีไซน์ซึ่งเป็นความใฝ่ฝันที่ทำให้หล่อนเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาก็เพื่อสิ่งนี้ ซึ่งที่ปั้นหยาตั้งใจเอาไว้เบื้องต้นก็คืออย่างน้อยๆ หล่อนต้องได้เรียนแฟชั่นดีไซน์หลักสูตรระยะสั้นซึ่งใช้เวลาเรียนราวเจ็ดถึงแปดสัปดาห์
“ไม่ร้ายแรงขนาดนั้นหรอกน่าหยา แกจะกังวลอะไรขนาดนั้น ถ้าแกกลัวมากขนาดนั้นแกก็กลับไปเถอะ ฉันอยู่คนเดียวก็ได้”
น้ำเสียงของชัญญาเจือความไม่พอใจเอาไว้ด้วย ปั้นหยาจึงเลิกเซ้าซี้เพราะทราบดีว่าเพื่อนของหล่อนนั้นหัวรั้นมากแค่ไหน หญิงสาวลอบถอนหายใจ
“งั้นฉันจะไปทำความสะอาดห้องน้ำนะ มีอะไรแกก็ไปหาฉันที่นั่นก็แล้วกัน”
“อื้อๆ”
ชัญญารับคำอย่างส่งๆ ปั้นหยามองเพื่อนพลางส่ายหน้าน้อยๆ อย่างเหนื่อยใจ แต่ถึงกระนั้นหล่อนก็ไม่ได้เซ้าซี้ชัญญาอีก
ปั้นหยากำลังเช็ดกระจกในห้องน้ำหากแต่ต้องชะงักไปนิดเมื่อจู่ๆ มีผู้หญิงผมสีบลอนซ์ทองรูปร่างปราดเปรียวในชุดสูทแบบกางเกงเข้ารูปสีครีมอ่อนกับรองเท้าส้นสูงเกือบสามนิ้ว มองแวบเดียวปั้นหยาก็จำได้ทันทีว่าอีกฝ่ายคือดีไซน์เนอร์ชื่อดังจากห้องเสื้อเลอโบ ซึ่งอีกฝ่ายเป็นทั้งดีไซน์เนอร์และเจ้าของห้องเสื้อ
อีแลน เลอโบ
หัวใจของปั้นหยาเต้นแทบไม่เป็นจังหวะ ทั้งตื่นเต้นทั้งประหม่าจนเผลอทำขวดน้ำยาเช็ดกระจกหลุดในมือหลุดลงกระแทกกับเคาน์เตอร์หินอ่อนสีดำวาว และนั่นก็เป็นเหตุทำให้อีแลนที่กำลังคุยโทรศัพท์หันมามอง
“ขอโทษค่ะมาดาม”
“เธอเป็นคนไทยรึเปล่า”
อีแลนลดโทรศัพท์ในมือลงก่อนจะเดินมาหยุดตรงหน้าปั้นหยาที่หน้าหดเหลือแค่สองนิ้วเพราะคิดว่าจะถูกอีกฝ่ายเอาเรื่อง ปั้นหยารีบละล่ำละลักตอบ
“ค่ะ ฉะฉันเป็นคนไทย”
“งั้นก็ดีเลย ตามมาฉันมา ฉันมีอะไรให้เธอช่วยหน่อย”
พูดจบอีแลนก็คว้าหมับที่ข้อมือของหญิงสาว ปั้นหยาอยู่ในอาการงุนงงอย่างคนที่จับต้นชนปลายไม่ถูก แต่ถึงกระนั้นเท้าทั้งสองข้างของหล่อนก็ขยับรัวๆ ตามอีแลนที่แทบจะวิ่งแทนการเดินไปแบบติดๆ
ชัญญามองภาพตรงหน้าอย่างงุนงงเมื่อเห็นอีแลนลากปั้นหยาเข้าไปในห้องแต่งตัว หล่อนพยายามจะถามเพื่อนแต่ก็ไม่ได้รับโอกาสนั้น ปั้นหยาเองก็มองเพื่อนอย่างงุนนงและเป็นเชิงบอกผ่านทางสีหน้าและแววตาว่าไม่รู้เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น
ปั้นหยาถูกจับให้นั่งลงที่เก้าอี้ตรงหน้าของหญิงสาวคือกระจกบานใหญ่ อีแลนเดินมาหยุดตรงหน้าของหล่อนและวางมือทั้งสองข้างลงบนไหล่ของปั้นหยา
“ช่วยฉันก่อน หลังจากจบงานนี้เธออยากได้อะไรบอกฉันได้ นางแบบของฉันเกิดป่วยกะทันหัน และโชคดีจริงๆ ที่พระเจ้าส่งเธอมาให้ฉัน”
“แต่ฉันไม่เคยเดินแบบเลยนะคะ ถ้าคุณต้องการคนเดินแบบให้เพื่อนฉันดีไหมคะ เธอรักการเดินแบบมาก และฉันก็คิอว่าเธอน่าจะทำได้ดี”
ปั้นหยาไม่พูดเปล่าหล่อนเหลียวหลังแล้วชี้ไปที่ชัญญาที่ยืนอยู่ทางประตู ชัญญาเองที่ได้ยินปั้นหยาบอกแบบนั้น หญิงสาวก็ก้าวเท้าออกมาเพื่อให้อีแลนได้เห็นตัวเองเต็มสองตา
“ขอโทษที ฉันต้องการนางแบบผิวสีน้ำผึ้งแบบเธอ ไม่ใช่ผิวขาวจัดแบบเพื่อนของเธอ”
ปั้นหยาสีหน้ากระอักกระอ่วนตอนที่สบสายตากับชัญญา อีกฝ่ายเองก็มองกลับมา วูบหนึ่งที่แววตาของชัญญาสั่นไหว ก่อนที่หล่อนจะขยับยิ้มกว้างแล้วพยักหน้าให้ปั้นหยาเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร ปั้นหยาจึงหันกลับไป
“เธอไม่เคยเดินแบบไม่ใช่ปัญหา และนี่เป็นงานเดินแบบการกุศลคิดซะว่าเธอกำลังทำบุญ และฉันมีเวลาบรีฟเรื่องการเดินแบบแบบให้เธอสิบห้านาทีก่อนที่เธอจะขึ้นเวที ช่วยหน่อย เธอคือนางแบบคนพิเศษของฉัน ว่าแต่เธอชื่ออะไรนะ”
“ปั้นหยาค่ะ ฉันชื่อปั้นหยา เรียกว่าหยาก็ได้ค่ะ”
“โอเคหยา ไม่มีอะไรที่เธอจะต้องกังวล เธอแค่ทำตามที่ฉันบอกก็พอ ส่วนฉันชื่อ…”
“ฉันรู้จักคุณค่ะ มาดามอีแลน เลอโบ เจ้าของห้องเสื้อเลอโบ”
“ว้าว เพอร์เฟ็ค”
อีแลนบอกเพียงแค่นั้นระหว่างที่ทั้งคู่ยิ้มให้กันก่อนที่อีแลนจะถอยออกไปปล่อยให้หน้าที่ต่อจากนี้เป็นของช่างแต่งหน้าทำผมโดยอีแลนยังคงยืนกำกับอยู่ข้างๆ เพื่อให้นางแบบของหล่อนออกมาอย่างที่ต้องการ ชัญญาที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดค่อยๆ ถอยออกมาอย่างเงียบเชียบ แว่บหนึ่งที่แววตาริษยาอัดแน่นในดวงตาของหญิงสาว แต่ก็เป็นเพียงชั่วเสี้ยวนาทีก่อนจะเลือนหายไป