“หิวกันหรือยัง แม่ให้พี่ฝนจัดโต๊ะไว้ให้แล้ว แต่ต้องทานกันสองคนน่ะเพราะแม่เพิ่งทานข้าวเช้าไปเอง” มารดาของลูกแพร์ส่งยิ้มให้อย่างผู้ใหญ่ใจดี
“แพร์บอกภีมแล้วค่า”
“งั้นแพร์ก็พาภีมไปที่โต๊ะได้แล้ว เดี๋ยวเส้นจะอืดก่อน”
“ค่า” ลูกแพร์พยักหน้าให้มารดา แล้วเดินนำภีมไปที่โต๊ะ เธอเลือกที่จะเดินไปนั่งฝั่งด้านนอกโดยให้ภีมนั่งด้านใน “เป็นก๋วยเตี๋ยวนะภีมกินได้มั้ย? หรืออยากได้ข้าวเพิ่ม”
“กินได้” ภีมมองก๋วยเตี๋ยวเป็ดถ้วยใหญ่ที่อยู่ตรงหน้า หยิบตะเกียบกับช้อนส่งให้คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม “พ่อไม่อยู่?”
“ไม่อะ ออกไปคุยกับโรงงานตั้งแต่เช้า ทำไมอยากเจอพ่อเรา? ถ้าภีมไม่รีบกลับก็น่าจะได้เจอ ไม่น่าจะเกินบ่ายสองพ่อเราก็น่าจะกลับ”
“อือ เราไม่รีบ”
คำตอบของภีมทำให้ลูกแพร์เงยหน้าขึ้นไปมอง ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อเห็นพริกป่นที่อยู่ในถ้วยก๋วยเตี๋ยวของอีกฝ่าย
“ลืมบอกว่าพริกป่นร้านเราเผ็ดมาก แล้วจะกินได้มั้ยนั้น” ลูกแพร์พูดขึ้นอย่างกังวล คิดว่าภีมไม่น่าจะทานก๋วยเตี๋ยวถ้วยนั้นได้ เลยจะยกถ้วยของตัวเองให้ “เอาของเราไปเลยเดี๋ยวเราไปบอกให้พี่ฝนทำให้ใหม่”
“เรากินได้” ภีมมองดูพริกในถ้วย ปกติเขาก็ใส่พริกประมาณนี้ คิดว่าไม่น่าจะเป็นปัญหา แต่ทว่าแค่คำแรกที่ตักเข้าปากก็แทบอยากจะดื่มน้ำตาม
พริกบ้าอะไร แม่งเผ็ดฉิบหาย
“แน่ใจนะว่ากินได้?”
“อือ” พยักหน้าทั้งที่ใบหน้าเริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ
ลูกแพร์เงียบ ไม่พูดต่อ นั่งมองดูภีมกินก๋วยเตี๋ยวในถ้วยของตัวเองไปเงียบๆ แค่คำที่สามที่เห็นสีหน้าของคนบอกว่ากินได้ เธอก็รู้ได้ทันทีว่ารสชาติมันเป็นยังไง
ลูกแพร์บรื้นปากพร้อมกับทำเสียง ‘หึ’ ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นเดินกลับไปที่ด้านหลังร้าน ไม่ถึงสองนาทีก็เดินกลับมาพร้อมกับก๋วยเตี๋ยวถ้วยใหม่ จัดการปรุงรสให้เสร็จสรรพก่อนจะส่งให้คนตรงหน้า
“อะ เราปรุงให้แล้ว จะปรุงเพิ่มก็ได้แต่ต้องชิมก่อน”
ภีมยกยิ้มพอใจ เลื่อนก๋วยเตี๋ยวถ้วยเดิมออกไปด้านข้าง ขยับถ้วยใหม่ที่ลูกแพร์ปรุงรสให้เข้ามาแทนที่ รู้ดีว่าถ้ายังฝืนดันทุรังกินก๋วยเตี๋ยวถ้วยนั้นต่อ ก็คงไม่พ้นต้องไปต่อที่โรงพยาบาลหลังจากกินเสร็จ
ทางที่ดี เขาไม่ควรเสี่ยง
“อร่อย ครั้งหน้าก็ปรุงให้ด้วย”
“ได้สิ”
ลูกแพร์พยักหน้าตอบทั้งที่ตะเกียบยังอยู่ที่ปาก ภีมมองคนตรงหน้าที่ทั้งกินทั้งตอบอย่างเอ็นดู อยากจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเก็บเอาไว้ แต่ก็กลัวว่าคนตรงหน้าจะเขิน เมื่อมองจนพอใจแล้วก็ก้มหน้าจัดการกับก๋วยเตี๋ยวในถ้วยของตัวเองทันที
แม่ง ก๋วยเตี๋ยววันนี้โคตรอร่อย
เกือบชั่วโมงที่ภีมกับลูกแพร์นั่งทานก๋วยเตี๋ยวด้วยกัน ทานไปคุยไปไม่เร่งรีบปล่อยทุกอย่างไปตามธรรมชาติ โดยที่ลูกแพร์ทานหมดไปหนึ่งถ้วยใหญ่ส่วนภีมทานหมดไปสองถ้วย (ไม่รวมถ้วยแรกที่ทานไปได้แค่สามคำ) โดยที่ทั้งสองถ้วยลูกแพร์เป็นคนปรุงรสให้
ลูกแพร์ที่กำลังขยับตัวลุกขึ้นยืนถึงกับเลิกคิ้วสูง หรี่ตามอง เมื่อเห็นภีมหยิบกระเป๋าเงินใบหรูออกมาจากกระเป๋ากางเกงยีนส์ การกระทำคล้ายกับลูกค้าที่กำลังจะควักเงินจ่ายหลังจากที่ทานก๋วยเตี๋ยวเสร็จนั้นทำให้ต้องถามออกไป
“ภีมจะทำอะไร? จ่ายตังค์? ถ้าจ่ายตังค์ครั้งหน้าก็ไม่ต้องมากินที่ร้านเราอีกนะ”
“ถ้าไม่จ่ายก็แสดงว่าครั้งหน้ามาได้?”
“ได้ ตกลงจะจ่ายมั้ย ถ้าจ่ายเราก็จะไปเอาเครื่องคิดเลขมาคิดตังค์ แล้วต่อไปภีมก็ไม่ต้องมากินก๋วยเตี๋ยวร้านเราอีก” ลูกแพร์หน้ามุ่ย จ้องมองภีมด้วยสายตาตานิ่ง รอฟังว่าภีมจะตอบว่าอะไร
“พูดแล้วนะ” มุมปากของภีมกระตุกยิ้มหลังจากที่เก็บกระเป๋าเงินไว้ในกระเป๋ากางเกงตามเดิม
“อะไร?”
“ถ้าเราไม่จ่าย จะมากินที่ร้านเธอบ่อยแค่ไหนก็ได้?”
คำพูดและรอยยิ้มของภีมทำให้ลูกแพร์ต้องเอียงหน้ามอง เริ่มไม่แน่ใจว่า ‘บ่อยแค่ไหนก็ได้’ ของเขามันบ่อยขนาดไหน ทว่าความสงสัยของลูกแพร์ก็ต้องหยุดลงเมื่อได้ยินเสียงของบิดาที่ดังมาก่อนตัว ก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะเดินเข้ามาในร้านตรงไปที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์จุดที่มารดากับพี่ลูกหว้านั่งอยู่
“เพื่อนลูกแพร์มาเหรอ? อยู่ไหนล่ะ?"
“คุณแซม...” ลูกแพร์เรียกบิดา แล้วเดินนำภีมเข้าไปหา เมื่อไปถึงก็แนะนำทั้งสองคนให้รู้จักกัน “ภีมเพื่อนแพร์ค่า ภีมนี่คุณแซมพ่อเราเอง”
ลูกแพร์กับพี่สาวติดที่จะเรียกบิดาว่า ‘คุณแซม’ สาเหตุก็เนื่องมาจากเวลาที่มีคนโทรเข้ามาหาบิดาที่ร้านหรือแม้แต่ที่บ้าน ก็มักจะพูดขึ้นด้วยประโยคเดียวกันคือ ‘ที่นี่ใช่เบอร์ก๋วยเตี๋ยวเป็ดลุงแซมหรือเปล่าครับ/ค่ะ’ และ ‘ขอสายคุณแซมครับ/ค่ะ’ ลูกแพร์หรือพี่สาวที่รับโทรศัพท์ก็จะไปตามบิดามารับสายโดยบอกว่า ‘คุณแซมรับโทรศัพท์’ พอได้เรียกบ่อยเข้าก็กลายเป็นความเคยชิน
ทว่าก็ไม่ใช่ทุกครั้งที่เธอกับพี่สาวจะเรียกบิดาว่าคุณแซม การเรียกมันขึ้นอยู่กับสถานการณ์และบริบท
“สวัสดีครับ”
“สวัส...ดี กินอะไรกันหรือยังล่ะ” คนอยากเจอเพื่อนลูกสาวถึงกับนิ่งไปทันที ก็เห็นอยู่ว่าบนโต๊ะที่ทั้งสองเพิ่งเดินมามีถ้วยก๋วยเตี๋ยวที่ทานหมดไปสามถ้วย ทว่าเพราะยังตกใจไม่หายก็เลยไม่รู้จะถามอะไร
ใครจะนึกว่าเพื่อนลูกสาวที่ภรรยาบอกจะเป็นเพื่อนผู้ชาย และผู้ชายที่ว่าก็ยังดูเป็นหนุ่มกว่าอายุไปมาก แถมหน้าตาท่าทางก็ยัง...
อา...ไม่น่าไว้ใจ
คุณพ่อจอมหวงลูกสาวหนวดกระตุกขึ้นมาทันที
“กินก๋วยเตี๋ยวไปแล้วค่า นี่แพร์ก็กำลังจะพาภีมไปที่บ้าน มีโจทย์คณิตกับฟิสิกส์ที่แพร์ไม่เข้าใจภีมเลยจะช่วยติวให้”
“ดีแล้วลูก ไม่เข้าใจตรงไหนก็ช่วยกันติวจะได้เข้าจะ...ใจ อะ อะไรนะ...ไปติวหนังสือที่บ้าน?”