~ ปัจจุบัน ~
หลังจากวันนั้นมาจนถึงวันนี้ก็หลายปีแล้วที่ปิ่นทำงานกับสายลมแต่อีกคนก็ยังคงเฉยชา และตึงใส่เธออยู่ตลอดเวลา
ร่างบางเดินถือเอกสารเข้ามาให้สายลมในห้องทำงาน อย่างเช่นทุกครั้ง
“ เอกสารเงินเดือนของพนักงานในบ่อนทุกคนค่ะ คุณลมตรวจความถูกต้องอีกรอบนะคะ ” มือเรียววางเอกสารไว้บนโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ พลางเอ่ยบอกออกไป ปิ่นที่ทำงานกับสารลมมานานจากคนที่ไม่รู้เรื่องอะไร เธอกลับเรียนรู้งานได้เร็วและคล่องแคล่วจนสายลมเองยัง งง เธอรู้ใจสายลมแทบทุกอย่างแม้แต่อาหารการกินว่าเขาชอบหรือไม่ชอบอะไร เป็นคนที่กระตือรือร้นเป็นอย่างมาก เฟยจะคอยช่วยสอนงานส่วนนั้น ส่วนนี้ให้กับเธอ สำหรับเฟยปิ่นก็เหมือนน้องสาวคนนึงของเขา
“ คุณลมค่ะ ปิ่นสมัครเรียนต่อเอาไว้แล้ว ช่วงกลางวันปิ่นจะขอไปเรียนเลิกเรียนแล้วปิ่นรีบกลับมาช่วยงานนะคะ “ ปิ่นเอ่ยบอกสายลมออกไป กระบอกตาคมจ้องมองไปยังอีกคนนิ่งเมื่อได้ยินว่าอีกคนจะไปเรียนต่อ
” ถ้าฉันไม่อนุญาต “ สายลมเอ่ยถามออกไป การมีเธออยู่ช่วยงานทำให้สายลมกับเฟยสบายตัวขึ้นมาก งานเอกสารที่น่าปวดหัวเป็นปิ่นที่รับหน้าที่แทนทั้งหมด
“ แต่หนูสมัครเรียนไปแล้วจ่ายค่าเทอมไปแล้วนะคะ ” ปิ่นเอ่ยบอกออกไปอีกครั้ง
“ ออกไป ” สายลมไม่เอ่ยหรือพูดอะไรออกมา กลับไล่อีกคนให้ออกจากห้องไป กระบอกตาคมจ้องมองไปยังปิ่นนิ่งเมื่อเห็นอีกคนยังยืนนิ่งไม่ยอมขยับกายไปไหน เธอต้องการได้ยินคำอนุญาตจากปากของเขาก็เท่ากัน
“ หนูขอไปเรียนต่อนะคะ ” เป็นอีกครั้งที่ปิ่นเอ่ยขอออกไป ยังไงวันนี้เธอต้องได้คำตอบ เพราะเธอวางแผนเรื่องการเรียนต่อปริญญาโทมานานมาก มันเป็นความฝันของเธอ หากมีโอกาสเธอก็อยากจะเรียนให้สูงที่สุดเท่าที่จะเรียนได้
“ ไปเรียนโดยใช้เงินของพี่ชายฉัน ? “ สายลมเอ่ยถามออกไป พลางยกยิ้มมุมปาก
” หนูมีเงินของหนูค่ะ การไปเรียนครั้งนี้หนูจะไม่รบกวนคุณพายุกับคุณรินค่ะ “ กระบอกตาสวยฉายแววความน้อยใจออกมาทันทีเมื่อได้ยินประโยคนั้นกับรอยยิ้มหยันของสายลม พลางเอ่ยบอกคนตรงหน้าออกไป เงินเดือนจากการทำงานของเธอมันมากพอให้เธอได้เก็บสะสมเพื่อเป็นทุนการศึกษาให้กับตัวเอง
” เก่งแล้ว ? “ สายลมเอ่ยขึ้นอีกครั้ง คำถามกวนๆสั้นๆของเขามันทำให้ความรู้สึกน้อยใจก่อนหน้าหายไปเปลี่ยนเป็นหมั่นไส้ขึ้นมาทันที เธออยากจะกางกรงเล็บของเธอออกแล้วข่วนหน้าหล่อๆนั้นให้แหกไปซะ
” ถ้าคุณไม่อนุญาตหนูไปขออนุญาตจากคุณพายุก็ได้ค่ะ “ ปิ่นเอ่ยขึ้นอย่างไม่คิดจะยอม แม้เธอจะพูดน้อย เรียบร้อยในสายตาใครต่อใครแต่สายลมรู้ดีว่าลึกๆแล้วคนตัวเล็กตรงหน้าดื้อรั้นเอามากๆ เขาอยู่กับเธอมานานเขารู้จักเธอดี ภายใต้ความเกรงกลัวของเธอที่มีต่อเขามันยังมีความรั้นและเอาชนะซ่อนอยู่ในนั้นเธอจะเอามันออกมาใช้กับเขาอยู่บ่อยครั้ง ในระหว่างที่ทั้งสองฟาดฟันกันทางสายตาอยู่นั้น…
แกร๊ก….
เสียงประตูห้องทำงานหรูของสายลมก็เปิดเข้ามาตามมาด้วยร่างหนาของพายุและรินลดาเดินเข้ามา
“ คุณพายุ คุณรินสวัสดีค่ะ ” มือเรียวสองข้างยกมือไหว้ทั้งสองอย่างมีมารยาท
“ เรียกคุณอีกแล้วพี่บอกว่าให้เรียกพี่ไง ” รินลดาเอ่ยขึ้น เธอบอกปิ่นอยู่ประจำว่าให้เรียกพี่แต่อีกคนก็ยังเรียกคุณอยู่นั่น
“ ค่ะ พี่ริน เออ…คุณพายุคะ ปิ่นขออนุญาติไปเรียนต่อนะคะ ปิ่นสมัครเรียนเอาไว้แล้ว “ ปิ่นรีบบอกพายุทันที กระบอกตาคมหันไปมองยังน้องชายที่นั่งพิงเก้าอี้ทำงานราคาแพงนิ่งอยู่ สายลมไม่เอ่ยไม่พูดอะไรออกมา
” อือ ไปสิส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายในการเรียนเดี๋ยวฉันจัดการเอง “ พายุเอ่ยบอกออกไปอย่างใจดี
” ไม่เป็นค่ะ ปิ่นมีเงินเก็บอยู่ค่ะ “ เมื่อได้ยินประโยคนั้นของพายุ ประโยคที่สายลมพูดกับเธอไปก่อนหน้านี้ลอยเข้าสมองเธอทันที
* ไปเรียนโดยใช้เงินของพี่ชายฉัน ? *
“ ทำตามที่ฉันบอก ตั้งใจเรียนให้จบค่าใช้จ่ายฉันจะจัดการเอง ” พายุเอ่ยขึ้นอีกครั้ง ปิ่นก็ไม่กล้าขัดอะไรอีก สายลมนั่งนิ่งไม่เอ่ยไม่พูดอะไรออกมาอีกทั้งที่อยากบอกใจจะขาดว่า ไม่อนุญาต
“ งั้น …. รินไปเรียนกับน้องปิ่นนะคะ ” รินลดาเอ่ยขึ้นเธอก็อยากเรียนต่อหากมีเพื่อนเรียนด้วย
“ ไม่ครับเมียพี่ขี้เกียจไปตามเฝ้า ” พายุแค่คิดว่าถ้าเมียไปเรียนต่อเขาก็เริ่มปวดหัวขึ้นมาทันที หากเขาจะต้องไปตามเฝ้า ตามหวงเมีย สายลมได้แต่นั่งฟังทุกอย่างนิ่ง พลางทอดสายตาไปมองยังปิ่นที่ยืนยิ้มกริ่มอยู่
ร่างบางเมื่อได้คำตอบก็เดินออกจากห้องทำงานของสายลมไปอย่างอารมณ์ดี หารู้ไม่ว่าอีกคนกำลังนั่งคาดโทษเธออยู่ในใจ
“ ทำไม ปิ่นขอไปเรียนต่อแล้วมึงไม่อนุญาต “ พายุเอ่ยถามสายลมออกไป
” เสียเวลา งานการไม่ต้องทำรึไงแล้วจะจ่ายเงินเดือนให้เพื่อ “ สายลมเอ่ยถามพี่ชายขึ้น
” งั้นในระหว่างที่ปิ่นเรียนมึงก็ไม่ต้องจ่ายเงินเดือนให้ปิ่น เดี๋ยวที่เหลือกูจัดการเองแล้วพูดกับเขาดีๆหน่อยกี่ปีแล้วที่เขาทนอยู่กับมึง ” พายุเอ่ยบอกน้องชายออกไป
“ แล้วใครใช้ให้ทน ผมก็ไม่ได้บอกให้ยัยนั่นทนนี่ ” สายลมเอ่ยขึ้นอีกครั้ง พลางยักไหล่ใส่พี่ชายอย่างไม่ยี่หระ
“ ถ้าเขาจะไปอยู่ที่อื่นมึงอนุญาต ? ” พายุเอ่ยถามน้องชายขึ้นออกไป กระบอกตาคมจ้องมองไปยังในตาของน้องชายนิ่ง พายุกับสายลมอยู่ด้วยกันตั้งแต่เล็กจนโตทำไมเขาจะไม่รู้ว่าน้องชายคิดอะไรอยู่
“ จะไปไหนก็เชิญ ผมไม่ได้สนใจอยู่แล้ว ” สายลมเอ่ยตอบพายุออกไป คำพูดกับน้ำเสียงทำราวกับไม่ได้แยแสอีกคน
“ ได้ เดี๋ยวกูบอกปิ่นให้ลาออกจากที่นี่แล้วไปสมัครงานที่บริษัท ดีเหมือนกันปิ่นจะได้ทำงานให้ตรงสายที่เรียนมา ” ประโยคนั้นของพายุมันทำให้ใจแกร่งของสายลมคันยุบยิบไปทันทีแต่แม้จะหงุดหงิดใจแค่ไหนร่างหนาก็ยังนั่งนิ่งไม่แสดงท่าทีใดๆออกมา
” พี่มาที่นี่มีอะไร “ สายลมเปลี่ยนเรื่องทันที เขารู้สึกว่ายิ่งคุยเรื่องปิ่นมันยิ่งทำให้เขาหงุดหงิดจึงเอ่ยถามพี่ชายขึ้น
“ พ่อให้กูมาบอกให้มึงไปงานแทน เขาบอกมึงต้องไปให้ได้ห้ามไม่ไปเด็ดขาด ” พายุเอ่ยบอกสายลมออกไป สายลมไม่ค่อยไปออกงานที่ไหนเลยถ้าไม่จำเป็น ส่วนใหญ่จะเป็นท่านชัยยุทธผู้เป็นพ่อที่ต้องไปออกงานหรือพายุบ้างเป็นครั้งคราว
“ งานอะไร ทำไมพ่อไม่ไป ทำไมพี่ไม่ไปเอง ” คนที่ไม่ชอบออกงานสังคมเอ่ยถามพี่ชายขึ้น คิ้วคมเลิกขึ้นอย่างต้องการคำตอบ
“ กูไม่รู้ พ่อให้มึงไป พรุ่งนี้ที่โรงแรม xxx แล้วพาปิ่นไปด้วย ” พายุเอ่ยขึ้น พอต้องไปออกงานทีไรสายลมเริ่มจะมีปัญหาแบบนี้ทุกที
“ น่ารำคาญชิบหาย งานอะไรนักหนาวะ ” ปากหนาเอ่ยพึมพำออกมา เข้าเกลียดการต้องไปปั้นหน้าและไม่ชอบตอบคำถามอะไรใคร พายุได้แต่ส่ายหัวเบาๆให้กับน้องชาย
“ แล้วทำไมต้องพาปิ่นไป ” สายลมเอ่ยถามขึ้นอีกครั้งเมื่อนึกขึ้นได้ว่าพี่ชายให้พาปิ่นไปด้วย
“ เขาเชิญให้ไปเป็นคู่มึงจะไปคนเดียวแล้วไปหาสาวหน้างานควงแก้เขินก็เรื่องของมึง ” พายุเอ่ยบอกขึ้นอีกครั้ง ใจอยากจะแจกมะเหงกน้องชายสักทีข้อหาหมั่นไส้ ปีๆนึงเป็นเขากับทอรุ้งที่ต้องเดินสายออกงานแทนผู้เป็นพ่อไม่รู้กี่งานต่อกี่งาน นานๆจะให้มันไปสักทีมันยังจะมีปัญหา
^^