ร่างบางสาวเท้าเดินเข้ามาในคอนโดที่อยู่ไม่ไกลจากบ่อนมากนัก คอนโดแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยที่พายุเป็นคนซื้อให้เธอและกรรมสิทธิ์ก็เป็นของเธอ เพียงแค่เธอให้เลือดกับรินลดาในวันนั้นชีวิตเด็กสาวที่ต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากความยากลำบาก เด็กที่คิดว่าชีวิตตัวเองคงดีขึ้นกว่านี้ไม่ได้แล้ว เด็กสาวที่เพิ่งเรียนจบ ม.6 มาจากโรงเรียนรัฐบาลต้องมาหาเช้ากินค่ำเลี้ยงตัวเองใช้ชีวิตโดดเดี่ยวในบ้านเก่าๆโทรม ๆ เธอเข้าไปทำงานในร้านอาหารแห่งนึงจากเด็กล้างจานพาตัวเองขึ้นมาช่วยอยู่ในครัว เธอค่อยช่วยงานทุกอย่างในครัวบวกกับเป็นคนชอบทำอาหารเลยแอบดู แอบจำตำราอาหารเมนูต่างๆในครัวมาและมาฝึกฝนทำอาหารจนฝีมือการปรุงของเธอเทียบชั้นกับเชฟเลยทีเดียว ปิ่นทำทุกอย่างที่ได้เงิน รวมทั้งการเป็นพนักงานร้านกาแฟเล็กๆ
ชีวิตเธอเปลี่ยนไปในชั่วพริบตาเธอมีคอนโดอยู่ที่เป็นชื่อของตัวเอง เธอได้กลับมาเรียนหนังสืออีกครั้งจนจบ เธอมีงานและมีเงินเก็บจากเงินที่พายุคอยโอนให้ทุกเดือนในช่วงที่กำลังเรียนอยู่ จากนิสัยกินประหยัด ใช้ประหยัด เธอไม่รู้จักแบรนด์เนม ไม่รู้จักกระเป๋าแพงๆ เธอรู้แค่ว่า ความจนมันน่ากลัว มากสำหรับเธอ
ร่างบางสาวเท้าเดินเข้าห้องมาก่อนจะทิ้งสะโพกลงบนโซฟากลางห้อง มือเรียวหยิบรูปแม่ที่จากเธอไปอย่างไม่มีวันกลับออกมาจากกระเป๋าสะพายใบเล็ก เป็นรูปแม่รูปเดียวที่เธอมี ต่อให้แม่จะติดการพนันหนักแค่ไหน แม่ต้องโดนซ้อมจนตายเพราะเป็นนี้บ่อนยังไงเธอก็ไม่เคยคิดโกรธเพราะแม่ก็คือแม่ แม่ที่ทำทุกอย่างเพื่อหาเลี้ยงเธอ …
“ แม่ทิ้งให้หนูอยู่คนเดียว หนูเหงามากนะคะ โดดเดี่ยวมากแต่หนูชินแล้ว ถ้าไม่มีคุณพายุกับคุณรินป่านนี้หนูก็คงจะต้องลำบากดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอดอยู่ที่ไหนสักแห่ง แม่สบายดีใช่ไหมคะ“ ปากเรียวเอ่ยพึมพำออกมากับรูปภาพผู้เป็นแม่ที่ถืออยู่ในมือ เธอมักจะพูดคุยกับรูปภาพใบนี้อยู่เสมอจนดึกที่ปิ่นนั่งพูดคุยกับรูปแม่ตัวเอง
07:30 น. ของเช้าวันใหม่
” ตายๆ สายแล้วยัยปิ่น โดนมองตาเขียวปั๊ดแน่ๆ” ร่างบางวิ่งวุ่นอยู่ในห้องเพราะนอนตื่นสาย มือเรียวหยิบชุดเดรสสีชมพูหวานมาสวมใส่ ก่อนจะรีบวิ่งไปหยิบกระเป๋าแล้ววิ่งออกจากห้องไปทันที
ริมถนนเส้นหลักมีปิ่นที่กำลังยืนรอรถประจำทางอยู่ ใบหน้านวลสวยหันซ้ายหันขวามองหารถที่ในช่วงเช้าของวันรถค่อนข้างติดสะสม ก่อนจะก้มหน้าลงไปมองนาฬิกาข้อมือที่ตัวเองสวมใส่อยู่ 20 นาทีก็แล้ว 30 นาทีก็แล้วจนเวลาล่วงเลยมาถึง 8 โมง เท้าเล็กทั้งสองข้างเริ่มยืนไม่ติดพื้น ในจังหวะนั้นเอง…
เอี๊ยด !!!
เสียงรถสปอร์ตคันหรูขับมาจอดตรงหน้า กระบอกตาสวยที่เห็นรถคันนั้นก็เบิกตากว้างขึ้นทันที
“ น้องปิ่นขึ้นรถ ” เฟยลดกระจกฝั่งข้างคนขับลงแล้วเอ่ยบอกปิ่นออกไป ปิ่นได้แต่ยืนมองสายลมที่นั่งอยู่เบาะหลังผ่านกระจก
“ น้องปิ่นขึ้นรถเร็ว ” เฟยที่เห็นอีกคนยืนนิ่งก็เอ่ยเรียกขึ้นอีกครั้ง
“ ออ ค่ะ ” ร่างบางรีบเปิดประตูขึ้นไปนั่งลงเบาะข้างคนขับ ใจดวงน้อยเต้นแรงราวกับจะขาดใจตาย ในใจเอาแต่คิดมาสายไม่พอ ดันต้องมากับเจ้านายอีก
“ คุณลม สะ สวัสดีค่ะ ” ใบหน้านวลสวยหันไปสวัสดีสายลมที่นั่งนิ่งอยู่ด้านหลัง กระบอกตาคมเอาแต่จ้องปิ่นไม่วางตา เฟยที่ทำหน้าที่ขับรถคอยลอบมองสายลมอยู่บ่อยครั้ง เขารู้สึกกลัวสายตานั้นแทนปิ่นเสียจริงๆ
“ ทำงานกี่โมง “ สายลมเอ่ยถามปิ่นออกไป
” ขอโทษนะคะคุณลม คือปิ่นตื่นสายและรอรถนานค่ะ “ ปิ่นเอ่ยตอบออกไป เพราะมัวแต่นั่งคุยกับแม่เมื่อคืนนี้เธอเลยตื่นสาย แถมเช้ามาก็รอรถนานจนสายโด่ง
” ไม่ใช่เด็กที่จะมานั่งอ้างว่าตื่นสาย ถ้าบริหารเวลาของตัวเองไม่ได้เธอก็… “
” นายครับ เดี๋ยวผมส่งคนมารับน้องปิ่นทุกวันก็ได้นะครับจะได้ไม่ต้องยืนรอรถนานๆในตอนเช้า“ เฟยที่รู้ว่าสายลมจะพูดอะไรรีบเอ่ยขัดขึ้นทันที
” เป็นอะไรทำไมต้องมารับ อยู่สบายเกินไปไหม“ สายลมเอ่ยเสียงเย็นออกมาทันทีเมื่อได้ยินประโยคนั้นของเฟย เฟยก็เงียบไม่กล้าพูดอะไรอีก ภายในรถปกคลุมไปความเงียบจนผู้โดยสารที่ร่วมทางมาด้วยรู้สึกอึดอัดขึ้นมา
ปิ่นได้แต่นั่งตัวแข็ง มือเรียว 2 ข้างกำเข้าหากันแน่น เมื่อนึกไปถึงดวงตาสีเทาคู่นั้นกับน้ำเสียงเย็นยะเยือกที่เปล่งออกมา
ไม่นานรถสปอรต์คันหรูขับเข้ามาจอดยังที่จอดรถของบ่อนร่างหนาของผู้เป็นนายไม่รอให้เฟยเดินมาเปิดประตูรถให้อย่างเช่นทุกวัน รีบเปิดประตูลงจากรถเดินเข้าบ่อนไปทันที ปิ่นที่เห็นการกระทำนั้นจากที่เกร็งอยู่แล้วเกร็งหนักเข้าไปอีก
“ พี่เฟยวันหลังไม่ต้องแวะรับปิ่นนะคะ คุณลมเขาไม่ค่อยชอบปิ่น ” ปิ่นหันไปบอกเฟยที่นั่งมองตามสายลมนิ่งอยู่
“ ปะ อย่าคิดมากเลย ” เฟยก็ไม่รู้จะพูดยังไงให้อีกคนรู้สึกดีเพราะการกระทำของนายมันชัดเจนเหลือเกิน
ปิ่นเดินตามหลังเฟยเข้ามาในบ่อนเงียบๆ วันที่ 2 ของการมาทำงานที่นี่แต่มันช่างอึดอัดใจซะเหลือเกิน ร่างบางเดินมานั่งยังโต๊ะทำงานของตัวเองที่อยู่หน้าห้องทำงานของสายลม
ร่างหนาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หนังราคาแพงภายในห้องทำงานหรูเอาแต่จ้องมองอีกคนด้านนอกไม่วางตา ปิ่นเองที่นั่งอยู่ด้านนอกรู้ว่าอีกคนในห้องกำลังนั่งมองเธอ ความอึดอัดมันทำให้คนตัวเล็กใจกล้าสาวเท้าเดินเข้าไปในห้องทำงานของสายลมทันที
“ คุณลมคะ คือปิ่นขอโทษนะคะกับเรื่องที่ผ่านมา ปิ่นรู้ว่าปิ่นผิด แต่ตอนนี้ปิ่นสำนึกแล้ว “ ปากเรียวเอ่ยบอกสายลมออกไป
สายลมเอาแต่นั่งเงียบไม่เอ่ยไม่พูดอะไรออกมา กระบอกตาคมยังคงจ้องมองไปยังคนตัวเล็กนิ่ง ก่อนจะกวาดสายตามองลงมายังชุดเดรสสีชมพูหวานที่อีกคนสวมใส่อยู่ เข้าคุ้นชุดนี้ เขาเคยเห็นมันที่ไหน
“ คุณรินให้ปิ่นมาค่ะ ” ปิ่นที่เห็นสายตาสงสัยของอีกคนก็เอ่ยบอกออกไป ชุดสวยๆแพงๆมากมายที่เธอมีเป็นรินลดาที่เป็นคนขนมาให้เธอ
” ขอเวลาให้ปิ่นได้พิสูจน์ตัวเองนะคะ ปิ่นจะทำให้คุณเชื่อว่าปิ่นรู้สึกผิดจริงๆกับเรื่องที่ผ่านมา “ ปิ่นเอ่ยบอกสายลมออกไปอีกครั้ง เธอไม่ชอบสถานการณ์หน้าอึดอัดแบบนี้และเขาก็น่ากลัวมากๆเหมือนที่ใครต่อใครเขาพูดกันจริงๆ เมื่อเห็นอีกคนไม่พูดอะไรปิ่นก็เดินออกจากห้องทำงานของสายลมไปทันที
ร่างบางมานั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของตัวเองจะปรึกษาใครได้บ้างก็ไม่มี เพราะเธอไม่มีครอบครัว ไม่มีใครเลย มือเรียวหยิบรูปผู้เป็นแม่ออกมาจากกระเป๋าสะพาย
“ หนูจะอดทน หนูจะทำให้เขารู้ว่าหนูสำนึกผิดได้จริงๆ หนูจะรับผิดชอบการกระทำที่ผิดพลาดของหนู “ ปิ่นเอ่ยพึมพำออกมากับภาพถ่ายในมือ แต่หารู้ไม่ว่าทุกคำพูดที่เธอพูดไปคนที่นั่งอยู่ในห้องได้ยินมันชัดทุกคำผ่านกล้องวงจรปิด สายลมนั่งฟังในสิ่งที่อีกคนพูดนิ่ง เขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับคำพูดพวกนั้นของเธอ
^^