หายไปที่ใดกัน

1498 คำ
ตู้หยวนก็ตกตะลึงจนไม่รู้จะเอ่ยถามสิ่งใด ได้แต่พาน้องสาวเข้าไปด้านในเสียก่อน “ท่านแม่บอกกล่าวแม่นมตู้ไว้แล้วหรือยังเจ้าคะ” หรูอวี้นางต้องการกลับเข้าไปในมิติเพื่อจัดการแผลของนางอีกรอบ “แม่บอกนางแล้ว” “เสี่ยวซี สิ่งที่เจ้าเห็นต่อไปนี้อย่าเพิ่งเอ่ยถาม ไว้ข้าจะบอกเจ้าในภายหลัง” เสี่ยวซีแม้ไม่รู้ว่าเรื่องที่หรูอวี้นางพูดคือเรื่องอันใด แต่นางเชื่อมั่นในตัวคุณหนูของนาง จึงได้พยักหน้ารับอย่างแข็งขัน หรูอวี้พาทุกคนเข้ามาภายในมิติของนางทันที แม้แม่นมตู้และเสี่ยวซีจะเผลอกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ แต่นางก็ไม่มีเวลาให้หยุดสนใจทั้งสองคนแล้ว ด้วยจำนวนเลือดที่ไหลเพิ่มขึ้น ทำให้นางมึนหัวไม่น้อย ไหนจะฤทธิ์ยาที่เพิ่งกินเข้าไป ดวงตาของนางก็แทบจะลืมไม่ขึ้นแล้ว “ท่านพี่ ฝากท่านจัดหาที่พักให้แม่นมตู้กับเสี่ยวซีด้วย มีเพียงสองห้องที่ข้าขอไว้ อย่าได้เข้าไปเด็ดขาด” ทั้งสองห้องเป็นห้องทำงานและห้องเก็บอาวุธของนาง แม้แต่ห้องนอนของนาง นางก็ไม่คิดจะให้ผู้ใดเข้าไปยุ่งวุ่นวาย ตู้หยวนพยักหน้ารับ แม้ใจอยากจะไปช่วยน้องสาวเสียมากกว่า ตัวเขาก็กังวลไม่น้อย เมื่อห้องพักภายในเรือน มีเพียงแค่สามห้อง ทั้งสามห้องก็ล้วนแต่เป็นห้องของสามคนแม่ลูกทั้งสิ้น ตัวแม่นมตู้พักอยู่ห้องเดียวกับมารดาได้ แต่เสี่ยวซีเล่าจะให้นางพักที่ห้องใด ห้องของหรูอวี้นางก็ไม่ต้องการให้ผู้ใดเข้าไป จะเป็นห้องของเขาก็แล้วใหญ่ยิ่งเป็นไปไม่ได้ ความประหลาดของมิติ พวกเขาก็เพิ่งจะค้นพบอีกเรื่องก็วันนี้ เมื่อจำนวนห้องพักเพิ่มเป็นห้าห้อง พอดีกับจำนวนคนที่จะเข้าพักพอดี ความหนักใจของตู้หยวนจึงนับว่าหมดลงเสียที “แล้วบ่าวต้องไปดูคุณหนูหรือไม่เจ้าคะ” เสี่ยวซีเป็นห่วงหรูอวี้ไม่น้อย ด้วยนางบาดเจ็บแล้วตอนนี้ก็หายไปที่ใดไม่รู้ “ไม่ต้อง เจ้าอยู่เป็นเพื่อนท่านแม่ไปก่อน ข้าจะไปรอนางเอง” ตู้หยวนเดินไปนั่งรอที่ห้องโถง ห้องที่หรูอวี้นางเข้าไปด้านใน นางเคยขอไว้ว่าไม่ให้ผู้ใดเข้าไปเด็ดขาด แม้แต่ตัวเขาหรือมารดาที่เข้ามาในมิติบ่อยครั้งแล้วก็ยังไม่เคยได้เข้าไปสำรวจ ว่าด้านในมีสิ่งใดกันแน่ หรูอวี้จำต้องเริ่มตัดไหมเย็บแผลที่เย็บไว้ก่อนหน้านี้ออก แล้วเริ่มเย็บใหม่อีกครั้ง บาดแผลของนางอักเสบไม่น้อย กว่านางจะเย็บบาดแผลเสร็จก็แทบอยากจะทิ้งตัวนอนในห้องทำงานเสียแล้ว หรูอวี้แข็งใจเดินกลับห้องนอนของตนเอง ตู้หยวนเมื่อเห็นน้องสาวเดินออกมา เขาก็รีบเข้าไปช่วยประคองนางทันที “อวี้เออร์ ไหวหรือไม่” เขาเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง คราบเลือดที่แขนเสื้อมีไม่น้อย บ่งบอกว่านางต้องได้รับบาดเจ็บมากทีเดียว “ยังไหวเจ้าค่ะ” นางเอ่ยออกมาเสียงเบาจนตู้หยวนแทบจะไม่ได้ยิน เมื่อเห็นว่าฝีเท้าของนางแทบจะก้าวไม่ออก เขาจึงช้อนตัวของนางขึ้น แล้วรีบพากลับไปห้องนอนของนาง หรูอวี้ดวงตาของนางแทบจะลืมไม่ขึ้นแล้ว จึงได้ยินยอมให้พี่ชายอุ้มพากลับไปที่ห้อง “ให้พี่เรียกเสี่ยวซีมาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เจ้าดีหรือไม่” “ไม่ต้องเจ้าค่ะ ข้าจะจัดการเอง” “อวี้เออร์ น้องแทบจะไม่ไหวแล้ว ให้เสี่ยวซีกับแม่นมตู้เปลี่ยนให้เจ้าเถิด” ตู้หยวนเอ่ยตำหนินางที่ดื้อรั้นไม่เลิก “เจ้าค่ะ” นางตอบรับเสียงเบา ตู้หยวนวางตัวนางลงบนที่นอน ก่อนจะไปตามเสี่ยวซีกับแม่นมมาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้หรูอวี้ ตู้เหลียนนางจึงได้ตามมาด้วย พอถอดเสื้อผ้าของนางออก จึงได้เห็นผ้าพันอยู่ที่แขนของหรูอวี้ แม้จะไม่รู้ว่าบาดแผลที่ได้รับเป็นเช่นไร แต่ก็เดาไม่ยากว่านางคงได้รับบาดเจ็บไม่น้อยเลย “อวี้เออร์” ตู้เหลียนเอ่ยเรียกหรูอวี้เสียงสั่นเทา นางต้องยกมือขึ้นปิดปากไว้แน่น ด้วยกลัวว่าเสียงร้องของนางจะหลุดออกมาจนหรูอวี้ที่นอนไม่ได้สติได้ยินเข้า “คุณหนูของบ่าว เหตุใดถึงได้เจ็บตัวมากถึงเพียงนี้” เสี่ยวซีสะอื้นออกมาไม่ขาด แม่นมตู้ก็ไม่ต่างกัน หรูอวี้นอนหลับสนิท นางไม่ได้ยินเสียงสะอื้นของทั้งสามคน เมื่อจัดการเปลี่ยนชุดให้นางเรียบร้อยแล้วตู้เหลียนกับแม่นมตู้ก็กลับไปพักที่ห้องของนาง เหลือเพียงเสี่ยวซีที่ไม่ยอมกลับออกไป เพราะเป็นห่วงกลัวว่าหรูอวี้นางจะเกิดเป็นไข้ขึ้นมา แล้วก็เป็นเช่นที่ทุกคนคิด เพียงไม่นานหรูอวี้นางก็เพ้อด้วยพิษไข้ เสี่ยวซีที่ไม่รู้จะทำเช่นไร ได้แต่คอยเช็ดตัวให้ผู้เป็นนาย ยาต้มที่นางเคยใช้ยามนี้ก็ไม่มี มีแต่เม็ดอันใดไม่รู้ที่อยู่บนโต๊ะตรงหัวเตียง นางก็ไม่กล้าเอาให้คุณหนูของนางกิน จ้าวลู่ฉือ พอทหารพาตัวท่านหมอมาถึงที่พักแล้ว เขาก็เดินนำไปที่กระโจมพักของตู้เหลียนทันที “อาเหลียน ข้าพาหมอมาแล้ว” เขาร้องบอกนางอยู่ที่หน้ากระโจม รออยู่ครู่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับของทั้งนายและบ่าว แม้แต่ตู้หยวนที่สมควรจะต้องออกมาก็ไม่เห็นเช่นกัน เขาจึงถือวิสาสะเดินเข้าไปด้านในทันที “...” ภายในห้องไร้เงาของสามแม่ลูกรวมทั้งสาวใช้สองคนที่ติดตามมาด้วย ยังดีที่เขามิได้ให้ท่านหมอเข้ามาด้านในด้วยอีกคน “เจ้าเฝ้าอยู่ที่นี่ตลอดหรือไม่” เขาเดินออกมาถามทหารที่อยู่หน้ากระโจม “ขอรับ ข้าน้อยยังไม่ได้เดินห่างทางเข้ากระโจมแม้แต่น้อย” ด้วยคำสั่งของท่านแม่ทัพ ผู้ใดจะกล้าขัดกันเล่า “เจ้าพาท่านหมอไปรักษาให้ทหารที่บาดเจ็บก่อน ข้าจะอยู่ที่นี่เอง” ครั้งนี้เขาต้องรอดูให้ได้ว่าพวกนางหายไปที่ใด “ขอรับ” นายทหารรับคำแล้วพาท่านหมอเดินออกไปทันที ยังดีที่ก่อนหน้านี้จ้าวลู่ฉือสั่งการให้ทหารฝังร่างของนายทหารที่เสียชีวิต ทั้งยังให้ลากร่างที่ไร้วิญญาณของมือสังหารไปทิ้งให้ไกลแล้ว แม้แต่เรื่องการสอบสวนเขาก็สอบสวนจนได้รู้ตัวการที่อยู่เบื้องหลัง จึงไม่มีเรื่องใดให้จัดการต่อ สามารถอยู่เฝ้าที่กระโจมว่าเมื่อใดคนทั้งหมดจะกลับมา จ้าวลู่ฉือเดินวนดูร่องรอยที่รอบกระโจม ทั้งยังตรวจหาความผิดปกติด้านใน แต่ก็ไม่พบว่าคนทั้งหมดจะออกไปด้านนอกกระโจมสักนิด เหมือนเช่นเดียวกับตอนที่หรูอวี้นางหายไปไม่มีผิดเพี้ยน เรื่องที่มีมือสังหารเข้ามาในที่พักในคืนนี้ก็ไม่เกี่ยวกับสามคนแม่ลูก แต่เป็นเรื่องที่เขาเดินทางเข้าเมืองหลวงมาแจ้งเรื่องกับฮ่องเต้ คนที่อยู่เบื้องหลังคงไม่อาจจะนิ่งเฉยได้อีกต่อไป เมื่อจ้าวลู่ฉือตรวจพบหนอนที่แฝงตัวอยู่ในกองทัพ ขายข่าวของแคว้นฉีให้กับแคว้นหาน และดูเหมือนเรื่องนี้จะเกี่ยวพันถึงตระกูลสวีด้วย เพียงแต่หลักฐานที่มีอยู่ยังไม่มากพอเท่านั้น มือสังหารที่ถูกสอบสวนเพียงบอกว่าผู้ใดเป็นคนว่าจ้าง รู้เพียงแค่เป็นคนฝ่ายเดียวกันกับตระกูลสวี แต่ก็ยังไม่อาจจะสาวไปถึงตัวได้ เขาได้แต่ครุ่นคิดไม่รู้ตก ว่าคนทั้งหมดจะหายไปอย่างไร้ร่องรอยจนเขาและทหารที่มีอยู่หลายสิบนายจะไม่รู้ได้อย่างไร “หายไปที่ใดกัน” เขานั่งลงที่เก้าอี้แล้วเอ่ยขึ้นมาอย่างไม่เข้าใจ หรูอวี้ที่อยู่ในมิติยามนี้นางไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด ได้แต่เพ้ออย่างไร้ทิศทาง ภาพยามที่นางเป็นเด็กที่ต้องฝึกหนักวนเข้ามาภายในหัว แม้แต่ภารกิจสุดท้ายที่นางทำก่อนที่จะถูกระเบิดร่าง ก็วนเวียนจนนางอยากจะอาเจียนออกมา ความรู้สึกของนางเพียงเหมือนอยากจะอาเจียน แต่ความจริงแล้วนางอาเจียนออกมาจนเลอะไปทั่วทั้งตัว จนเสี่ยวซีต้องวิ่งวุ่นเปลี่ยนเสื้อผ้าเช็ดตัวให้นางวุ่นวายเสียทั้งคืน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม