"พี่ภีมคะ ขออัยย์นั่งด้วยนะคะ"
ใบหน้าหล่อเงยขึ้นมองเธอเล็กน้อย ก่อนจะกระตุกยิ้มบางเบาบนริมฝีปากนั้น
"อ่าครับ..."
ตัวเล็กถึงกับเม้มปากข่มกลั้นรอยยิ้มของตัวเองเมื่อเห็นรอยยิ้มของเขา ตอนเขาทำหน้านิ่งมันดูหยิ่งมากแต่เวลาที่เขายิ้มมันก็ดูดึงดูดมากเช่นเดียวกัน ถึงแม้จะเป็นการยิ้มที่บางเบามากก็ตาม
"นั่งได้ใช่ไหมคะ หรืออัยย์รบกวนพี่หรือเปล่า" อัยย์เอ่ยถามคนเป็นพี่เมื่อนั่งลงในฝั่งตรงกันข้าม พี่ภีมมองหน้าเธอก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มๆ
"พี่นึกว่าเราอยากจะนั่งกับแฟน..."
อ่า... เมื่อกี้พี่ภีมคงได้ยินตอนเธอคุยกับคุณพลสินะ แต่เขาก็น่าจะรู้นี่นาว่าเธอแค่พูดเล่นเพื่อให้คุณพลไม่เซ้าซี้เธอ หรือเขาแค่แซวเธอเล่น?
แบบนี้คงต้องแซวกลับ... ว่าแล้วก็แกล้งยื่นหน้าไปใกล้เขาจนพี่ภีมชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงหวานๆ
"อัยย์ไม่มีแฟนค่ะ หรือพี่ภีมจะเป็นให้ดีคะ คิกๆ" ในตอนแรกก็คิดว่าเขาจะเขินตัวบิด แต่พี่ภีมกลับจ้องหน้าเธอนิ่งเสียอย่างนั้น จนเธอต้องรีบดึงตัวเองกลับมานั่งอย่างบนเก้าอี้อย่างเรียบร้อย...
เมื่อกี้เขายังยิ้มอยู่เลย เธอพูดประโยคนั้นออกไปแต่เขากลับไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้เธอเลย หรือเขาจะไม่ชอบให้เธอแซวแบบนั้น
"...." ใบหน้าหล่อแต่นิ่งๆ ของเขามันทำหน้าเธอหดเหลือสองนิ้วแล้วเนี่ย
"อ่า ขอโทษค่ะ ไม่ได้ตั้งใจจะแซวพี่..."
คนตัวเล็กเอ่ยบอกเขาไปด้วยน้ำเสียงแผ่ว บางทีเธออาจจะอยู่ในช่วงวัยรุ่นตอนต้น ส่วนเขาวัยรุ่นตอนปลายหรือกำลังจะเข้าสู่ช่วงวัยทำงาน ความจริงจังของชีวิตอาจแตกต่างกันนิดหน่อย เธอคงต้องระวังพวกคำพูดให้มาก
แต่เมื่อเขาเห็นใบหน้าเจื่อนๆ ของเธอถึงหลุดขำออกมาเล็กน้อย
"หึ เป็นแฟนพี่คงต้องเหนื่อยหน่อย"
จากที่นั่งก้มหน้าอยู่ เมื่อได้ยินเขาพูดประโยคนั้นออกมา ก็ทำเธอใจชื้นรีบเงยหน้าขึ้นมองเขาทันที
เมื่อกี้เขาหน้านิ่งแกล้งเธอใช่ปะ? ตกใจหมดเลยนึกว่าจะไม่ชอบเธอแล้วซะอีก
"อัยย์เป็นผู้หญิงอดทนค่ะ" คนตัวเล็กรีบโพล่งออกไปทันที
"รู้เหรอครับ ว่าเหนื่อยแบบไหน" เขาอมยิ้มพลางเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
สำหรับพี่ภีมเหนื่อยคงไม่กี่อย่างหรอกมั้ง ถ้าจะเหนื่อยกับเขาอย่างมากก็...
"อ่า ต้องทนต่อการพูดน้อยของพี่ใช่ไหมคะ หรือทนต่อการใจแข็งของพี่ดี" คงมีเท่านี้นี่แหละที่เธอต้องเหนื่อยหน่อย
พี่ภีมหัวเราะในลำคอเล็กน้อย ก่อนจะยกแก้วอเมริกาโน่ฮันนี่เลม่อนขึ้นจิบ แล้ววางมันลงหัวคิ้วของเขาเลิกขึ้นอีกครั้ง
"แล้วรู้ได้ไงว่าพี่ใจแข็ง" รอยยิ้มบางเบาปรากฏขึ้นที่ข้างมุมปาก เธอไล้สายตามองการกระทำที่แสนนิ่งแต่ก็ให้ความรู้สึกน่าเกรงขามมากพอสมควร
"ก็... พี่ดูนิ่งมาก"
ตอนนี้ก็ยังคงนิ่ง เหมือนว่าเขากำลังประมวลผลเธอเป็นทีละขั้น นั่งมองเธออย่างพิจารณา...
หรือว่าเขากำลังรออะไรจากเธอยังไงอย่างนั้น
"พี่ไม่ได้นิ่ง ตอนนี้ยังขยับได้ทุกส่วน"
ยังดีที่เขายังมีอารมณ์ขัน ไม่ใช่ทำหน้าขรึมอยู่ตลอด แต่มันก็อดแซวเขาไม่ได้อีกเช่นกัน
"แต่มีอีกส่วนที่ไม่ขยับเลย..."
เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาแต่เขาอยู่ใกล้มาก และนั่นก็ทำให้เขาเลิกคิ้วถามเธอพร้อมกับอมยิ้มอยู่บนใบหน้าหล่อๆ นั่น
"ส่วนไหนครับที่พี่ไม่ขยับ?"
นี่เขากล้าพูดย้อนเธอด้วยคำพูดแบบนั้นด้วยเหรอ แต่ก็เป็นเธอที่ไม่กล้าพูดมันออกมา
"เอ่อ ไม่พูดดีกว่า"
อ่า... ไม่คิดว่าคนหน้านิ่งแบบพี่ภีมจะกล้าแซวเธอกลับ หรือบางทีเขาอาจจะไม่ได้นิ่งในแบบที่เธอคิด...
เพราะท่าทางเขาเหมือนคนสุภาพสุขุมทั่วไป แต่ก็แฝงไปด้วยกลิ่นอายความเร่าร้อนในดวงตาคู่คมนั้น ภายนอกเขาแต่งตัวดูดีมาก แต่เธอก็ยังคงเห็นรอยเจาะที่หูของเขาที่มีมากกว่าหนึ่ง หัวคิ้วของเขาก็มีรอยเจาะเพียงแต่เขาไม่ได้ใส่จิ๋วแค่นั้น
พี่ภีมเมื่อก่อนคงไม่ได้เป็นผู้ชายเรียบร้อยใช่หรือเปล่า หรือเขาแค่ซ่อนตัวตนไว้ภายใต้ความสุภาพที่แสดงออกมา
คนตัวเล็กหายใจไม่ทั่วท้องทันทีเมื่อเขาลองขยับปกเสื้อไปทางฝั่งขวา... ทำไมเห็นเหมือนมีรอยสักแว๊บๆ หรือเธอตาฝาด? ในขณะที่ใช้สายตาลอบสำรวจเขาเงียบๆ ก็รู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมาแล้วสิ เหงื่อเธอเริ่มซึมออกมาเล็กน้อยเลยต้องรวบผมขึ้นจนเผยลำคอขาวๆ ให้เขามองเล่นๆ
แต่สายตาพี่ภีมคงดีมากเกินไปนี่สิ
"ทำไมผื่นยังขึ้นอยู่ ได้ทายาหรือเปล่า"
เพราะไม่ได้ทานยาซ้ำ หรือทายาแก้ผดผื่นต้นคอและช่วงหน้าอกของเธอเลยมีผื่นแดงขึ้นอยู่ แต่มันไม่ได้คันเหมือนเมื่อวานแล้ว
"ลืมซื้อยามาทาน่ะค่ะ"
"ทำไมเราขี้ลืมขนาดนี้" หัวคิ้วของเขาขมวดขึ้นอีกแล้ว
"เดี๋ยวอัยย์ค่อยไปซื้อก็ได้ค่ะ"
เธอคิดจะไปซื้อต่อจากนี้นี่แหละ ยิ่งเขามองต้นคอขาวๆ เธอก็ยิ่งร้อนรุ่ม ทั้งที่อ่อยเขาไปเมื่อวานเธอยังไม่เขินเท่าตอนที่เขาใช้สายตานั้นมองสำรวจผิวของเธอเลย
และคำพูดต่อมาของเขานั้น...
"ไม่ต้องซื้อ... มาห้องพี่ไหม เดี๋ยวพี่ทายาให้..."
อ่อย... พึ่งเคยได้ยินเขาชวนด้วยน้ำเสียงอ่อยเธอมากขนาดนี้ น้ำเสียงที่เขาพูดเมื่อกี้ทั้งดูหวานและเซ็กซี่อย่างบอกไม่ถูก
พี่ภีมเชื้อเชิญเธอเหรอ? หวังได้หรือเปล่า...
พี่ภีมคนนิ่งของเธอหายไปไหนแล้ว ในตอนนี้มีแต่พี่ภีมสายอ่อยเท่านั้น!!
.
.
.