เช้าวันต่อมา หลังจากที่ฟาริดาตื่นนอนและทำกิจวัตรประจำวันเสร็จเรียบร้อย หญิงสาวก็ลงมาจากชั้นบนด้วยท่าทางไม่รีบร้อน ก่อนที่เธอจะสะดุ้งเมื่อเห็นเอลเลริคนั่งเอนกายพิงโซฟาอยู่ด้วยท่าทางสบายใจ
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ” เท้าเล็กก้าวลงตามขั้นบันไดช้าๆ
“อรุณสวัสดิ์ครับ” ใบหน้าคมเงยขึ้นสบตากับเจ้าของบ้านสาวที่มองมายังเขา
“พูดตามตรงค่ะ มุกคิดว่าคุณกลับไปแล้ว” มือเล็กวางกระเป๋าลงบนโต๊ะหน้าโซฟาก่อนจะหย่อนตัวนั่งลง
“ผมก็ไม่ได้คิดว่าผมจะหลับยาว อันที่จริงผมไม่คิดว่าผมจะหลับสนิทได้ ผมไม่เคยค้างคืนบ้านใครแม้แต่ครั้งเดียว” เขาไหวไหล่น้อยๆ
“เว่อร์ไปค่ะ แล้วคุณอีธานล่ะคะ”
“ไม่เคยเลย”
“.....ทำไมคะ”
“ไม่ชอบ นอนไม่หลับ”
“.....” คนตัวเล็กกว่าชะงักไปอึดใจ เพราะที่เธอเห็นเมื่อคืนคือเขาหลับสนิท ท่าทางสบายใจเสียด้วยซ้ำ หรือเธอเข้าใจอะไรผิดไป
“ขอกาแฟดำหน่อยได้ไหม”
“อ้อ ได้ค่ะ สักครู่นะคะ” หญิงสาวมองเขาที่ยกขาขึ้นไขว่ห้างด้วยอิริยาบถสบายๆด้วยแววตาไม่ค่อยแน่ใจในสิ่งที่เขาพูด แต่เธอก็เดินหายเข้าไปด้านในบ้านแต่โดยดี
สายตาคมดุมองตามร่างบอบบางไปพลางครุ่นคิด สิ่งที่เขาบอกเธอคือเรื่องจริง เขาไม่เคยค้างคืนที่ไหนเลยแม้แต่ครั้งเดียว อาจจะเป็นเพราะเขาเป็นคนที่โลกส่วนตัวสูงและค่อนข้างไว้ตัว เลยไม่อยากคลุกคลีกับใครมากก็ไม่ผิดนัก แต่เขาเองก็ไม่เข้าใจ ว่าทำไมตัวเขาถึงหลับสนิทที่นี่ได้ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นอะไรกับฟาริดาก็ตาม
ไม่นานฟาริดาก็เดินกลับมาพร้อมกับถาดที่มีแก้วกาแฟ 2 ใบอยู่ในมือ ถาดใบเล็กถูกวางลงบนโต๊ะอย่างเบามือ แก้วกาแฟ 1 ใบถูกหยิบจากเจ้าของร่างหนาที่ยื่นมืออกมาหยิบเองโดยไม่ได้ถือมารยาทอะไร ส่วนแก้วกาแฟอีก 1 ใบก็ถูกยกขึ้นจิบโดยเจ้าของบ้านตัวเล็กที่เดินไปชงมาเองกับมือ
“พอได้ไหมคะ” เสียงหวานใสดังขึ้นหลังจากที่กาแฟดำหอมกรุ่นถูกจิบเบาๆ
“ได้นะ ระดับเจ้าของร้านอาหารชงเอง”
“คุณเรย์ มุกเปิดร้านอาหารนะคะ ไม่ใช่คาเฟ่”
หญิงสาวส่งค้อนให้เขาอย่างไม่จริงจังนัก เมื่อเขาเริ่มพูดเล่นกับเธอก่อน ดวงตากลมโตมองสบกับเขาเมื่อเห็นรอยยิ้มเล็กน้อยปรากฏขึ้นบนใบหน้าคนตรงข้าม
สองหนุ่มสาวนั่งจิบกาแฟจากแก้วในมือของตัวเองเงียบๆ ราวกับต่างคนต่างอยู่ในโลกของดตัวเอง แต่แปลกที่เอลเลริคไม่รู้สึกหงุดหงิด และตัวฟาริดาเองก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัด
ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังจมอยู่ในภวังค์ของตนเอง เสียงโทรศัพท์ของฟาริดาก็ดังขึ้น หญิงสาวสะดุ้งแต่เก็บอาการทัน แต่ก็ไม่พ้นสายตาของเอลเลริคที่มองเห็นและชื่นชมความมีสติตลอดเวลาของหญิงสาวอยู่ดี
“ค่ะ คุณอีธาน”
“คุณมุก”
“คะ”
“เย็นนี้คุณมีนัดไหมครับ ผมจะชวนไปหาอะไรทาน”
“เอ่อ เย็นนี้มุกมีนัดไปทำงานกับคุณเรย์แล้วค่ะ” ฟาริดาตอบแบ่งรับแบ่งสู้ เพราะเธอไม่อยากอยู่ตามลำพังกับอีธาน จึงหยิบยกชื่อของเอลเลริคขึ้นมาอ้าง พลางส่งสายตาขอโทษขอโพยไปที่เจ้าของชื่อ
“.....” สายตาคมมองสบดวงตากลมหวานซึ้งพลางขมวดคิ้ว ดูเหมือนว่าฟาริดาจะไม่ได้คิดอะไรกับอีธานแม้แต่น้อย
“ทำงานกับเรย์เหรอ งานอะไรครับ” เสียงดังออกมาจากโทรศัพท์ให้เอลเลริคที่นั่งอยู่ได้ยิน ชายหนุ่มส่งสัญญาณบอกฟาริดาว่าเขาจะเป็นคนบอกเอง
“เดี๋ยวคุณเรย์น่าจะบอกคุณนะคะ พอดีคุณเรย์ขอความช่วยเรื่องงานมุกน่ะค่ะ” ใบหน้าสวยหวานขยับตอบรับ ก่อนจะตอบปลายสาย
“อ๋อ ครับ งั้นเดี๋ยวเย็นนี้ผมไปหาพวกคุณที่บริษัทเรย์ก็ได้ แล้วเจอกันนะครับ”
“ค่ะ”
หลังจากอีธานวางสายไป ฟาริดาแอบถอนหายใจออกมาเบาๆ แต่ก็ไม่รอดพ้นสายตาคมดุของเอลเลริคไปได้
“ดูท่าทางคุณจะอึดอัดกับอีธานนะ”
“ไม่ถึงกับอึดอัดหรอกค่ะ แต่มุกไม่ชอบการที่เขาพยายามรุกเข้าหามุกมากเกินไป”
“คุณไม่ได้สนใจอีธานอยู่หรอกเหรอ”
“ไม่เลยค่ะ มุกว่ามุกอยู่แบบนี้ก็สบายดีอยู่แล้วนี่คะ มุกไม่อยากใช้ผู้ชายร่วมกับใครค่ะ”
ฟาริดาตอบตามตรง อันที่จริงเธอก็ใช้ชีวิตตัวคนเดียวก็สบายใจดีอยู่แล้ว ไม่ได้อยากเปิดใจให้ใครเข้ามาในชีวิตของเธอ อีกอย่างไม่ใช่ว่าเธอไม่รู้ ว่าอีธานมีข่าวอะไรบ้าง ในเมื่อสาวๆที่เขากินส่วนใหญ่ ก็สาวๆในแวดวงเพื่อนร่วมรุ่นของเธอทั้งนั้น
“คุณรู้เหรอ”
“รู้สิคะ ข่าวของพวกคุณธรรมดาเสียเมื่อไหร่ สาวๆที่พวกคุณกินก็แวดวงร่วมรุ่นมุกทั้งนั้น”
“คุณนี่ไม่ธรรมดาเลยนะ”
“ทำไมคะ มุกมี 3 ตาเหรอ”
“.....”
“.....”
“พร้อมหรือยัง เดี๋ยวผมไปส่งที่ร้าน ตอนบ่ายผมเข้าไปรับคุณไปที่บริษัทตามที่คุณบอก”
หญิงสาวมองเขาพร้อมกับกระพริบตา จนเอลเลริคอมยิ้มน้อยๆ ก่อนจะวางแก้วลงบนโต๊ะ แล้วเอ่ยชวนหญิงสาวน้ำเสียงนุ่มนวล
“ค่ะ ตรงนี้เดี๋ยวป้าดามาจัดการต่อเอง” คนตัวเล็กขยับลุกขึ้นยืนหลังจากที่บอกให้เขารู้พลางหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายบ่า
ใบหน้าหล่อเหลาขยับ ก่อนจะรอจนฟาริดาพร้อม จึงพากันเดินออกไปพร้อมกัน ตรงไปยังรถที่จอดทิ้งเอาไว้เมื่อคืน ไม่กี่นาทีก็เคลื่อนตัวหายออกไปจากบ้าน พร้อมกับดาหลาที่เดินเข้ามาทำหน้าที่ต่อ หลังจากรอให้ผู้เป็นเจ้านายได้มีเวลาส่วนตัว
“นาย คุณจิรัชยามารออยู่ข้างล่างครับ” อีริคพูดด้วยน้ำเสียงร้อนใจ หลังจากที่เขาติดต่อเอลเลริคไม่ได้ แล้วเจ้านายหนุ่มก็ไม่มาเสียที จนเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของผู้เป็นเจ้านายเดินออกมาจากลิฟต์ก็โล่งใจ
“เหรอ ปล่อยหล่อนรอไป”
“เกรงว่าคุณเขาจะบุกขึ้นมาน่ะสิครับ”
“ถ้าบุกขึ้นมาก็ลากออกไป”
“นาย.....” อีริคครางเรียกผู้เป็นเจ้านายด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ
“เดี๋ยวก่อน ปล่อยรอไปก่อน ก่อนเที่ยงไปรับคุณมุกมา ให้เธอลงข้างหน้า”
“นายจะลงไปรับเธอเหรอครับ”
“อย่าพูดมาก พอใกล้ถึงก็โทรมาด้วย”
“ครับๆ เชิญไปเซ็นเอกสารด่วนด้วยครับ”
“.....” เอลเลริคมองหน้าลูกน้องสายตาคาดโทษก่อนจะเปิดประตูห้องทำงานหายเข้าไป
ทางด้านฟาริดา หลังจากที่เอลเลริคมาส่งเธอที่ร้านก็รีบเข้าไปในห้องทำงานของเธอ เพื่อดูรายการของและงานที่ต้องทำของทุกเช้าในแต่ละวัน
“บ่ายวันนี้มีคิวจองจัดเลี้ยงที่ร้านนี่” เสียงหวานใสพึมพำเบาๆหลังจากที่ดูปฏิทินตั้งโต๊ะ
มือเล็กหยิบโทรศัพท์ภายในขึ้นมากดต่อสายเข้าไปยังห้องครัว ก่อนที่จะสอบถามและสั่งงานตามรายละเอียดบางอย่างที่ทางลูกค้าได้กำชับเอาไว้ เสร็จแล้วจึงวางสายไปและทำงานอย่างอื่นที่อยู่บนโต๊ะทำงานของเธอต่อ
ตลอดทั้งช่วงสายจนใกล้เที่ยง ลูกน้องของหญิงสาวเดินเข้าออกห้องทำงานของเธอจนหญิงสาวเริ่มมีอาการล้า จึงปิดเปลือกตาลงแล้วเอนกายพิงพนักเก้าอี้ทำงานเพียงตั้งใจจะพักสักเล็กน้อย แต่ก็ได้พักเพียงไม่กี่นาที เมื่อมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น พร้อมกับร่างของลูกน้องคนสนิทที่เดินเข้ามา
“คุณมุก มีคนมาขอพบค่ะ บอกว่าเป็นคนของคุณเอลเลริค”
“ค่ะ บอกเขาว่าเดี๋ยวมุกออกไปค่ะ”
หญิงสาวตอบรับโดยไม่ได้ลืมตาขึ้นมามองแม้แต่น้อย ไม่นานก็ขยับนั่งตัวตรง คว้ากระเป๋าสะพายกับโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะแล้วเดินออกไป
“สวัสดีครับคุณมุก”
“สวัสดีค่ะคุณอีริค”
“เชิญครับ”
“ค่ะ”
เท้าเล็กก้าวนำหน้าไปตามที่ผู้ช่วยหนุ่มของเอลเลริคเชิญให้เธอเดินนำออกไปก่อน แต่เพียงไม่กี่ก้าว หญิงสาวก็ชะลอเพื่อให้เดินเสมอกัน
“ไหนคุณเรย์ว่ามารับตอนบ่ายไงคะ”
“ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ นายบอกให้ผมมารับคุณผมก็ออกมาเลย”
“เจ้านายคุณนี่อารมณ์แปรปรวนจังเลยนะคะ” เสียงหวานใสหัวเราะเบาๆ
“นายไม่ได้เป็นแบบนี้กับคนอื่นนะครับ” อีริคบอกหญิงสาวเป็นนัย แต่ฟาริดาก็ไม่ได้เอะใจอะไร
เมื่อเดินมาถึงที่ร้าน หญิงสาวขึ้นไปนั่งบนรถยนต์คันหรูตามที่อีริคเปิดประตูให้เธอ เพียงไม่กี่นาทีรถก็เคลื่อนออกไป
กว่าชั่วโมง รถยนต์คันหรูก็มาจอดที่หน้าตึกสูง หญิงสาวลงจากรถตามที่อีริคบอกว่าต้องไปทำธุระให้เอลเลริคต่อ เธอไม่ได้คิดมากอะไร จึงลงจากรถและเดินเข้าไปภายในตึกตมที่อีริคได้บอกกับเธอ
“ทานอะไรมาหรือยัง” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นทันทีที่หญิงสาวก้าวพ้นประตูอัตโนมัติ
“คุณเรย์ ตกใจหมดเลยค่ะ” เสียงหวานใสสูงขึ้นเล็กน้อย เมื่อเธอตกใจจริงๆ
“โทษที ผมมารอคุณ”
“รอมุก รอทำไมคะ”
“ก็อีริคไปทำธุระให้ผม ลิฟต์ที่นี่มีตัวเดียวที่ขึ้นไปชั้นบนได้คือลิฟต์ส่วนตัว ผมเลยลงมารับคุณ”
“อ๋อ ค่ะ มุกก็แปลกใจ เมื่อเช้าคุณว่าจะมารับมุกตอนบ่าย”
“เปลี่ยนเวลานิดหน่อย ขึ้นไปเถอะ สนใจชิมอาหารของพ่อครัวที่นี่ไหม”
“ได้นะคะ”
“งั้นไป”
สองหนุ่มสาวคุยกันระหว่างพากันเดินไปที่ลิฟต์ สายตาคมดุเหลือบมองไปที่ร่างหญิงสาวผู้หนึ่งที่ยืนมองอยู่ไกลๆเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะทำเหมือนไม่เห็นหล่อน แล้วเดินหายเข้าไปในลิฟต์พร้อมกับฟาริดา