หลังจากที่ฟาริดาได้ไปพูดคุยกับเพื่อนสนิทเธอก็เข้าสู่ช่วงวุ่นวาย จึงไม่ได้มีเวลาไปพบกับเอบเลริคเลยแม้แต่ครั้งเดียว ถึงแม้ว่าเขาจะส่งอีริคมารับเธอก็ตาม
อาทิตย์กว่า ที่หญิงสาววุ่นวายอยู่ที่ร้านอาหารรวมทั้งเรื่องอื่นๆจนทำให้เหนื่อยล้า หลายวันที่ผ่านมา ยามฟาริดากลับถึงบ้าน เธอแทบจะหลับทันทีที่ร่างกายได้แตะบนที่นอนนุ่ม จึงไม่ได้รู้เลยว่า เอลเลริคเริ่มรู้สึกร้อนใจกับการที่เธอหายไป ถึงแม้ว่าเขาเองก็รู้ดีว่าเธอไม่ได้หายไปไหนเลยก็ตาม
“ในที่สุดก็ได้หยุดพัก” เสียงหวานใสพึมพำหลังจากที่เธอต้องเหน็ดเหนื่อยมาหลายวัน แล้วได้หยุดพักตื่นสายเสียที
หลังจากตื่นนอน วันนี้ฟาริดาไม่ลุกจากเตียงเหมือนเช่นทุกวัน เธอหยิบโทรศัพท์มากดดูนั่นดูนี่ไปเรื่อย แต่สายตาไปสะดุดกับข้อความที่เธอไม่ได้กดเข้ามาดูหลายวันก็ต้องแปลกใจ เมื่อมีข้อความแจ้งว่ามีเบอร์แปลกติดต่อหาเธอกว่า 50 สายในช่วงเวลา 1 อาทิตย์
จนเมื่อกดเข้าไปเช็กดูถึงรู้ว่าเป็นเบอร์ส่วนตัวของเอลเลริคที่ส่งข้อความหาเธอแล้วเธอไม่ตอบกลับ เขาจึงโทรมารัวๆตลอด 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา
ฟาริดาตั้งสติแล้วรีบโทรออก แต่รออยู่นานก็ไม่มีใครรับสาย หญิงสาวจึงวางโทรศัพท์เอาไว้ข้างตัวแล้วตั้งใจจะนอนเล่น แต่ก็ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถือไว้ในมืออีกครั้ง เมื่อมีเสียงของสายเรียกเข้า
“สวัสดีค่ะ”
“คุณมุก”
“คะ”
“หายไปนานเลยนะครับ”
“มุกไม่ว่างเลยค่ะ วันนี้เพิ่งได้หยุด”
“งั้นเดี๋ยวผมแวะไปหา”
“คะ.....”
สายโทรศัพท์ถูกตัดไปหลังจากปลายสายพูดจบ ในขณะที่เจ้าของมือเล็กยังถือโทรศัพท์แนบใบหูด้วยความงุนงง
“อะไร จะมาจริงเหรอ” เสียงหวานใสพึมพำอย่างไม่มั่นใจ
พักใหญ่ กว่าที่คนตัวเล็กจะลุกขึ้นจากเตียงนอนแล้วเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า หญิงสาวยืนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าอยู่นาน ดวงตากลมโตมองไปที่เสื้อผ้าหลากหลายชุดด้วยความลังเลว่าเธอควรจะใส่ให้เรียบร้อย หรือใส่ตามปกติของเธอในช่วงวันหยุด
คิดอยู่ไม่นานก็หยิบเอาเสื้อยืดตัวหลวมโคร่งกับกางเกงขาสั้นมาสวม ก่อนจะรวบผมมัดขึ้นเป็นโดนัท เทแป้งฝุ่นใส่มือเพียงเล็กน้อย แล้วลูบไล้จนทั่วใบหน้า ทาลิปสติกสีนู้ดตามที่เธอชอบทา แล้วเดินออกจากห้องนอนไป
เมื่อลงมาถึงข้างล่าง เท้าเล็กก็ชะงักไป เมื่อเห็นชายหนุ่มลูกครึ่งที่เพิ่งบอกเธอว่าจะมา นั่งไขว่ห้างด้วยท่าทางสบายๆอยู่บนโซฟา
“มานานแล้วเหรอคะ”
“สักพัก ป้าดาเอาผลไม้มาให้รองท้องก่อน ระหว่างรอคุณลงมา”
“ไม่เข้าใจค่ะ”
“ผมยังไม่ได้ทานมื้อเช้า ตอนโทรหาคุณ ผมเพิ่งตื่น”
“.....งั้นทานมื้อเช้าเลยไหมคะ”
“อืม”
ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง หญิงสาวยืนกระพริบตาปริบเมื่อเห็นท่าทางของเขาดูสบายๆเป็นกันเองกว่าครั้งที่แล้วที่ได้เจอกัน
ก่อนที่จะสะดุ้ง เมื่อท่อนแขนเรียวถูกมือหนาจับเบาๆเพื่อให้เธอเดินนำไปที่ห้องรับประทานอาหาร หญิงสาวเดินช้าๆโดยที่แขนของเธอยังถูกจับเอาไว้อยู่
“แล้ววันนี้คุณไม่ไปไหนเหรอคะ”
“ไป ก็มาหาคุณนี่ไง”
“.....มุกหมายถึง คุณไม่มีนัดไปไหนเหรอคะ”
“ไม่มี วันนี้เคลียร์เวลา”
“อ๋อ ค่ะ”
เมื่อมาถึงโต๊ะอาหาร ฟาริดานั่งลงก่อนตามด้วยเอลเลริคที่นั่งลงตรงข้ามกัน ก่อนจะลงมือจัดการมื้อเช้าด้วยท่าทางผ่อนคลาย
หลังมื้ออาหาร สองหนุ่มสาวพากันมานั่งเล่นอยู่ที่โซฟา โดยที่ต่างคนต่างอยู่ในโลกของตัวเอง ฟาริดาดูหนังในโทรศัพท์ เอลเลริคนั่งทำงานบ้าง เช็กนั่นนี่บ้าง สายตาคอยมองหน้าจอ ยามพักสายตาก็มองไปที่เจ้าของบ้านสาวที่นั่งมองหน้าจอไม่สนใจเขาแม้แต่น้อย แววตาที่เคยคมดุอ่อนโยนขึ้นแบบที่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ตัว
ทั้งสองคนไม่มีความรู้สึกอึดอัดแม้แต่น้อย ที่ต้องอยู่กับคนอื่นโดยที่ไม่ได้คุยกัน ต่างกับยามที่ฟาริดาอยู่กับอีธาน ถึงแม้ว่าจะนั่งคุยกันอยู่ในร้านอาหารของเธอ แต่เธอก็มีความรู้สึกอึดอัดไม่น้อย แต่กับเอลเลริคเธอไม่เป็น
ทางด้านเอลเลริคเอง ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกในใจว่าตัวเขาไม่หงุดหงิดหญิงสาวคนนี้แม้แต่น้อย ถึงแม้ว่าเธอไม่ได้มาเอาอกเอาใจหรือตามใจเขาก็ตาม กลับกัน ยามที่เธอไม่สนใจเขา เขากลับรู้สึกหงุดหงิดมากกว่า
“แล้วคุณจะเข้าไปเริ่มลงของวันไหน” เขาถามเสียงทุ้ม เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กละสายตาจากหน้าจอแล้ว
“น่าจะเดือนหน้าค่ะ มุกเพิ่งเคลียร์งานที่ร้านเสร็จ”
“อีก 2 อาทิตย์”
“ใช่ค่ะ”
“สนใจให้ผมร่วมหุ้นด้วยไหม ผมแค่ร่วมลงทุน แต่ผมจะไม่เข้าไปยุ่งการบริหารและการทำงานของคุณ”
“ได้นะคะ แล้วแต่คุณสะดวกเลยค่ะ”
“ผมรับส่วนแบ่งแค่ 10 เปอร์เซ็นพอ”
“น้อยไปไหมคะ”
“ไม่นะ คิดเสียว่ามันเป็นค่าเช่าพื้นที่ก็แล้วกัน”
“ทำเลทองเลยนะคะ”
“ใช่ คุณทำการตลาดดีๆ เจาะกลุ่มลูกค้า รับรองว่ากำไรสูงกว่าทุนหลายเท่า”
“มุกว่าจะทำร้านช่วงกลางวันเป็นร้านนั่งชิลล์ค่ะ ส่วนช่วงเย็นเป็นต้นไปจะเน้นบรรยากาศ และราคาก็จะอัพจากช่วงกลางวันนิดหน่อยค่ะ”
“ได้นะ คุณเคยเห็นบรรยากาศช่วงกลางคืนไหม”
“ยังไม่เคยเห็นเลยค่ะ”
“วันไหนคุณว่างเดี๋ยวผมพาไป”
“ได้ค่ะ วันนี้มุกว่าจะไปหาไอศกรีมทาน ไปไหมคะ”
“ไปสิ”
เอลเลริคไม่ชอบทานของหวาน แต่การที่เขารับปากเธอมันก็คุ้ม เมื่อเขาได้รับรอยยิ้มดีใจจากฟาริดา มันน่ามองจนเขาแอบหวั่นไหว
“งั้นมุกไปเอากระเป๋าก่อน”
“เดี๋ยวนะ คุณจะไปชุดนี้เหรอ”
“ค่ะ มันสบายดีนะคะ”
“ตามใจ”
ฟาริดารีบวิ่งขึ้นไปบนห้องนอน หยิบกระเป๋าสะพายใบเล็กขึ้นมาสะพายข้าง รีบหยิบโทรศัพท์กับกระเป๋าสตางค์ใส่กระเป๋า แล้วรีบปิดประตูห้อง เดินลงบันไดไปด้วยความเร็ว
“พร้อมค่ะ”
หญิงสาวแวะเข้าไปในห้องเก็บรองเท้าตรงข้างประตู ก่อนจะส่งเสียงบอกเอลเลริคเพื่อให้เขาลุกเดินมา
“น่ารักไหมคะ” คนตัวเล็กกว่าขยับเท้าให้เขาดูว่ารองเท้าคู่เก่งของเธอสวยแค่ไหน
“น่ารัก” ดวงตาคมแทบไม่ได้มองที่รองเท้า เมื่อเป้าหมายสายตาของเขาอยู่ที่ใบหน้าหวาน
“ไปค่ะ”
สิ้นเสียงชวน เจ้าของร่างเล็กก็เดินนำออกไปโดยมีเอลเลริคเดินตาม เขาไปที่รถที่จอดอยู่แล้วขับวนมารับหญิงสาว เธอก้าวขึ้นรถแล้วคาดเข็มขัดนิรภัยราวกับเคยชินกับรถของเขาแล้ว หร้อมกับพยักหน้าเมื่อเธอพร้อม
รถยนต์คันหรูเคลื่อนออกจากบ้านไปโดยมีดาหลามองตามด้วยรอยยิ้มน้อยๆ หล่อนรู้ดีว่าเจ้านายสาวไม่เคยเปิดเผยความเป็นตัวเองกับใคร และไม่เคยให้ใครเข้าออกบ้านของเธอแบบนี้เลย เอลเลริคคือคนแรกที่เธอยินยอมให้เข้าออกบ้านหลังนี้
เมื่อมาถึงที่ห้างสรรพสินค้า หญิงสาวพาเจ้าของร่างสูงเดินเข้าออกร้านนั้นร้านนี้ด้วยความสนุกสนาน หญิงสาวหลายคนที่รู้จักชื่อเสียงชายหนุ่ม เห็นเขาเดินตามที่ฟาริดาดึงไปก็มองเขาด้วยสายตาตกใจ
พนักงานร้านต่างๆหลายคนที่รู้กิตติศัพท์เขา มองเขาด้วยสายตาเชิญชวน แต่ก็ไม่ได้รับการชายตามองแม้แต่น้อย ในเมื่อในสายตาของเขาตอนนี้ เห็นเพียงแต่ฟาริดาโดยที่เขาเองก็ไม่ทันรู้สึกตัว
“คุณ มุกหิว”
“หิวข้าวหรือขนม” เอลเลริคถามกลั้วหัวเราะด้วยความเอ็นดู เมื่อเริ่มรู้จักนิสัยของหญิงสาว
“ขนมค่ะ” เสียงหวานใสกระเง้ากระงอดอ้อนเขาอย่างเป็นธรรมชาติ
“งั้นก็ไปกินขนม”
“อยากกินไอศกรีมค่ะ”
“งั้นก็ไปสิ”
“คุณกินด้วยนะ”
“ดูก่อนนะ”
“.....”
“.....ก็ได้”
หญิงสาวมองเขานิ่ง กระพริบตาปริบใส่จนเขาต้องยอมรับปาก เธอถึงยิ้มหวานออกมา มือเล็กจับท่อนแขนแข็งแรงที่ช่วยเธอถือของให้เดินตามเธอไปยังร้านที่เธอต้องการด้วยความพอใจ
“จูงเด็กเหรอคุณ”
“เปล่าค่ะ จูงคนแก่”
“.....”
ราวกับโดนช็อต เอลเลริคหัวเราะเสียงดังเมื่อได้ยินฟาริดาพูดกับเขา ไม่เคยมีใครกล้าล้อเล่นกับเขาแบบนี้เลย
“ร้ายจังเลยนะคุณ”
“น้อยกว่าคุณค่ะ”
“เถียงเก่งจัง”
“เขาเรียกว่าแสดงความคิดเห็นค่ะ”
เอลเลริคส่ายหน้ากับความขี้เล่นของหญิงสาว เขาเดินตามเธอจนมาถึงร้านที่เธอต้องการ วางถุงข้าวของที่ถือมาบนเก้าอี้ แล้วเข้าไปนั่งตรงข้ามกับเจ้าของร่างเล็กที่ตอนนี้ดูอารมณ์ดีอย่างเห็นได้ชัด
“มุกสั่งให้นะคะ”
“ไม่เอาสตรอเบอร์รี่นะ” เขารีบเบรกเธอเอาไว้เพราะกลัวโดนเธอแกล้ง
“โธ่ รู้แล้วล่ะค่ะ”
ฟาริดาส่งค้อนให้เขาเล็กน้อย ก่อนจะสั่งเมนูที่เธอต้องการ ทั้งของเอลเลริคและของตัวเธอเองเมื่อพนักงานเดินเข้ามารับออเดอร์ ก่อนจะนั่งมองหน้าคนตรงข้ามนิ่งจนเขาต้องเลิกคิ้วเป็นเชิงถามเธอ
“.....”
“เปล่าค่ะ”
“แน่ใจ?”
“มุกแค่แปลกใจ ว่าทำไมคุณตามใจมุก”
“เพราะคุณไม่งี่เง่า ไม่เรื่องเยอะล่ะมั้ง”
“ยังไงคะ”
“.....”
เขาไม่ตอบเธอ ทำเพียงแค่ไหวไหล่แล้วก้มหน้าเช็กข้อความจากโทรศัพท์มือถือ ปล่อยให้ฟาริดานั่งมองเขาอยู่แบบนั้น