ตอนที่ 12 โลกของอีกฝ่าย

1555 คำ
“อ้าว ไหนว่าช่วงนี้ไม่ว่างไง” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นท่ามกลางเสียงพูดคุย “อ้าว มากับใคร” ฟาริดาเงยหน้าขึ้นมอง เธอมีสีหน้าแปลกใจ “มากับพี่คิว” เธอตอบเพื่อนสนิทพลางหันไปพยักหน้าทักทายเอลเลริค “มานั่งด้วยกันไหม” หญิงสาวถามพลางมองสบตาคนตรงข้าม เขายิ้มน้อยๆให้เธอ “ได้ เดี๋ยวฉันไปหาเรียกพี่คิวก่อน” หทัยชนกพยักหน้าแล้วหมุนตัวเดินออกไป “โอเค” หลังจากที่หทัยชนกเดินออกไปแล้ว เอลเลริคก็มีสีหน้าแปลกใจ เมื่อสิ่งที่จับใจความได้ คือทั้งสองสาวเรียกได้ว่าน่าจะเป็นเพื่อนสนิท แต่เขาไม่เคยเห็นอีธานพูดถถึงเลยว่าเพื่อนสนิทของฟาริดาคือดาราสาวหทัยชนก “คะ” “ไม่ยักรู้ ว่าเพื่อนของคุณเป็นดารา” “น้อยคนที่รู้ค่ะ นานๆครั้งเราถึงจะนัดเจอกัน เพราะยัยเฟิร์นยุ่งมาก แต่ช่วงนี้เหมือนจะเริ่มอยากเฟดตัวออกจากวงการ” “ไม่ใช่แบบนั้น ผมไม่เคยได้ยินเรื่องนี้จากอีธาน” “ก็คุณอีธานไม่รู้นี่คะ” “จีบคุณตั้งนาน แต่ไม่รู้เรื่องของคุณเหรอ” “มุกไม่ได้ให้ใครมารับรู้โลกของมุกง่ายๆนะคะ” “งั้นเหรอ” “คุณพูดเหมือนไม่เชื่อ” “เปล่านี่” “.....” ฟาริดามองค้อนเขาไปเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะเบาๆ “มาแล้ว” “คุณเรย์ นี่ยัยเฟิร์น เพื่อนสนิทคนเดียวของมุก กับพี่คิว แฟนยัยเฟิร์น แล้วก็ทั้งสองคน นี่คุณเรย์ เอลเลริค” “ไม่เจอกันนานนะครับ” เอลเลริคเป็นฝ่ายทักทายก่อน เมื่อเขามากับฟาริดา และทั้งสองคนเป็นฝ่ายเข้ามานั่งรวมกับเขา “นานอยู่ครับ สบายดีนะครับ” วชิรวิษยิ้มรับและทักทายเอลเลริคเมื่อเขารู้จักกันอยู่แล้ว “สบายดีครับ คุณล่ะ สบายดีนะ” “สบายดีครับ” ไม่นานหทัยชนกก็พาแฟนหนุ่มเข้ามานั่งด้วย ฟาริดาแนะนำหทัยชนกกับวชิรวิษให้เอลเลริครู้จัก แต่ก็ต้องผิดคาด เมื่อทั้งคู่รู้จักกันอยู่แล้ว “พวกคุณรู้จักกันเหรอคะ” ฟาริดาถามทั้งคู่ หลังจากที่เธอกับหทัยชนกมองหน้ากันด้วยความแปลกใจ “แวดวงธุรกิจนะคุณ ยังไงก็ต้องรู้จักกัน แล้วรถผมทุกคัน ซื้อมาจากคุณคิวทั้งหมด” เอลเลริคอธิบายให้ฟาริดาเข้าใจ “อ๋อ ค่ะ คนกันเองนะคะเนี่ย” “ก็ประมาณนั้น” ฟาริดาขยับตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วย้ายข้าวของกับตัวเองมานั่งข้างเอลเลริค เพื่อให้หทัยชนกกับวชิรวิษนั่งข้างกัน โดยที่หทัยชนกนั่งตรงข้ามเธอ และวชิรวิษนั่งตรงข้ามเอลเลริค “แล้วไหนว่าช่วงนี้ไม่ว่างไง” หทัยชนกรีบถามฟาริดาหลังจากนั่งลงเรียบร้อยแล้ว “ก็เพิ่งว่างนี่ไง รู้ไหมว่าวุ่นวายทั้งอาทิตย์จนไม่รับการติดต่อจากใครเลย” “ผมก็โดนด้วย” เอลเลริครีบบอกหทัยชนกว่าเขาเองก็โดนฟาริดาเมินเช่นกัน “เอ๊ะ คุณนี่.....” ฟาริดาขมวดคิ้วใส่คนข้างๆ “อะไร ผมไม่รู้ไม่ชี้” เขาแกล้งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ใส่ฟาริดา ทำให้หทัยชนกหัวเราะออกมา “คุณนี่ ไม่เหมือนคนที่ผมเคยรู้จักเลย” วชิรวิษเองก็ยังอดแปลกใจไม่ได้ “ปกติผมก็เป็นแบบที่คุณเห็นนั่นแหละ แต่พอดีวันนี้มันไม่ปกติ” เอลเลริคพูดเป็นนัย ที่วชิรวิษกับหทัยชนกได้ฟังก็พอเดาออก “ทำไมคะ วันนี้คุณถูกหวยเหรอ” ฟาริดาถามเขาอย่างคนไม่คิดอะไร “ผมไม่คุยกับคุณแล้ว” ชายหนุ่มแกล้งงอนเธอบ้าง “อ้าว.....” “เธอนี่นะ” หทัยชนกได้แต่อ่อนใจกับเพื่อนสนิท “อะไรล่ะ” หญิงสาวก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี “ช่างเถอะ สั่งอาหารกันดีกว่า” หทัยชนกเหนื่อยกับความไม่สนใจอะไรของฟาริดา จึงชวนเปลี่ยนเรื่องไป หลังจากจัดการอาหารและของหวานกันเสร็จ ทั้ง 4 คนก็แยกย้ายกันไป วชิรวิษกับหทัยชนกพากันไปซื้อของ ส่วนเอลเลริคกับฟาริดาตรงกลับบ้านเลย เมื่อมาถึงบ้านของหญิงสาว เอลเลริคหยิบข้าวของทั้งหมดมาวางบนโต๊ะหน้าโซฟาแล้วล้มตัวลงไปนอนบนโซฟาด้วยท่าทางหมดแรง “แค่นี้หมดแรงแล้วเหรอคะ” ฟาริดาหัวเราะแซว “โถ่คุณ ของไม่ใช่น้อยเลยนะ” เขาบ่นน้ำเสียงไม่จริงจัง “ดื่มอะไรไหมคะ” น้ำเสียงอ่อนหวานยามถามเขา “อะไรก็ได้ครับ” เขายิ้มให้เธอ “ได้ค่ะ” ฟาริดาลุกขึ้น เดินหายเข้าไปด้านในบ้าน ไม่นานก็กลับออกมาด้วยน้ำส้มที่คั้นสด พร้อมกับจานผลไม้ที่แช่เย็นเอาไว้ แก้วน้ำส้มถูกส่งให้กับมือหนาที่ยื่นมารับหลังจากที่เจ้าอของร่างบอบบางวางถาดที่ถือมาลงบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว “คุณคั้นเองเหรอ” “ใช่ค่ะ ทำไมคะ” “กำลังดีนะ ใส่เกลือตัดรสชาติไหม” “ไม่ค่ะ มุกไม่ชอบ คิดว่าให้มันคงรสชาติของมันเอาไว้ดีกว่า” “ใช่ ตัวของมัน รสชาติของมันเองนั่นแหละ ดีที่สุด” “คุณนี่เป็นคนละเอียดเหมือนกันนะคะเนี่ย” “ผมละเอียดมากกว่าที่คุณคิด” “คงงั้นค่ะ เดินเล่นในบ้านได้นะคะ มุกไม่ได้จำกัดให้คุณอยู่แต่ในห้องรับแขกนะ” “ด้วยความยินดีเลยครับ” หญิงสาวแกล้งค้อนใส่เขา แต่ก็นั่งลงแล้วนั่งคุยเล่นกัน รอจนต่างฝ่ายต่างหายเหนื่อย เอลเลริคจึงขอตัวกลับก่อน “อีริค” “ครับนาย” “ตัดการติดต่อจากจิรัชยาทุกทาง ถ้าหล่อนมาข้างล่าง ก็ปล่อยให้หล่อนรอไป แต่ถ้าหล่อนสร้างความวุ่นวาย ก็จัดการไล่ออกไปได้เลย” เอลเลริคสั่งงานลูกน้องคนสนิทหลังจากที่เข้าบริษัทแต่เช้า “มีอะไรเหรอครับนาย” “หล่อนล้ำเส้นน่ะสิ” “เรื่องคุณมุกเหรอครับ” “ไม่เชิงหรอก วุ่นวายเวลาส่วนตัวมากกว่า นายก็เห็น ไม่ว่าใครก็ตาม ถ้าฉันไม่ได้เรียกก็ไม่มีสิทธิ์มาหา” “ครับ คุณจิรัชยาล้ำเส้นมากเกินไป” “จัดการตามนั้น” “ครับ” หลังจากสั่งอีริคเสร็จ เอลเลริคก็ถอดเสื้อสูทออกแล้วแขวนเอา ก่อนจะเปิดคอมพิวเตอร์แล้วเข้าสู่ช่วงเวลาของการทำงาน ตอนนี้เครื่องเพชรคอลเลคชั่นใหม่เริ่มเป็นรูปร่างมากขึ้น หลังจากที่ให้บรรดานักออกแบบได้สัมผัสกับบุคคลต้นแบบด้วยตัวเอง ทั้งเขาและฟาริดาไม่ได้มีเวลามาพบเจอกันเป็นอาทิตย์ จนกระทั่งเมื่อวาน และหลังจากที่เขาได้คลุกคลีกับฟาริดามากขึ้น ก็ทำให้รู้สึกว่าตัวเองคิดถูกที่มีเธอเป็นต้นแบบคอลเลคชั่นนี้ “นาย ได้เวลาประชุมแล้วครับ” อีริคเปิดประตูเข้ามาตามผู้เป็นเจ้านาย หลังจากไปทำตามคำสั่งแล้วกลับขึ้นมาตอนใกล้เวลาเข้าประชุม “อืม” ร่างสูงใหญ่ลุกขึ้นยืน วันนี้เขาตั้งใจจะไม่สวมใส่เสื้อสูทลงไปประชุม เพราะวันนี้ประชุมพนักงานประจำเดือน ที่นี่จะมีการประชุมใหญ่เดือนละ 3 ครั้ง ครั้งละ 3 แผนก เพื่อเป็นการพบกับพนักงานทุกฝ่ายและรับทราบปัญหาต่างๆในการทำงาน หรือแม้แต่เป็นการทำให้พนักงานมีกำลังใจในการทำงานก็ตาม หลายชั่วโมงกว่าที่การประชุมจะจบลง เอลเลริคต้องการพูดคุยและฟังการพูดคุยของหัวหน้าแผนก หัวหน้าฝ่ายต่างๆด้วยตัวเอง เป็นการประเมิณคุณภาพของพนักงานระดับสูงไปในตัว เมื่อการประชุมจบลง ชายหนุ่มก็ตรงกลับขึ้นห้องทำงานทันที เขาตั้งใจว่าจะสั่งงานอีกนิดหน่อยและออกไปหามื้อเที่ยงทานข้างนอก และเป้าหมายของเขาก็ไม่พ้นร้านอาหารของฟาริดา “ฉันอาจจะไม่กลับเข้ามานะ มีอะไรด่วนก็โทรไป” “ครับนาย” หลังจากสั่งงานอีริคเสร็จ ก็ก้าวเท้ายาวๆตรงไปยังลิฟต์และกดไปชั้นจอดรถส่วนตัว ร่างสูงตรงไปยังรถยนต์คันหรูที่เป็นคันโปรดของเขา ไม่นานก็ทะยานออกไปด้วยความเร็ว “สวัสดีค่ะ ได้จองไว้ไหมคะ” “จองเจ้าของร้านเอาไว้ครับ แจ้งว่าเอลเลริคจอง” “เอ่อ สักครู่นะคะ” พนักงานมีอาการเลิ่กลั่ก เมื่อได้ยินสิ่งที่ชายหนุ่มพูด หล่อนรีบยกหูโทรศัพท์ตรงหน้าเคาน์เตอร์พนักงานกดต่อสายหาเจ้าของร้านสาวทันที ‘ว่าไง’ “คุณมุกคะ คุณเอลเลริคมาค่ะ บอกว่าจองเอาไว้แล้วค่ะ” ‘งั้นเหรอ เดี๋ยวฉันออกไป หาโต๊ะด้านในที่ค่อนข้างส่วนตัวให้คุณเรย์ด้วย’ “รับทราบค่ะ” หลังจากที่รับคำสั่งเจ้านายสาวเสร็จ พนักงานต้อนรับก็เดินกลับมาหาเอลเลริคและเชิญเขาไปยังโต๊ะด้านในตามที่ฟาริดาสั่ง และกลับออกมายืนรอเจ้านายสาวที่ตำแหน่งเดิม ไม่นานฟาริดาก็เดินออกมา “คุณเรย์ล่ะ” “โต๊ะวีไอพีค่ะ” “โอเค” เท้าเล็กก้าวช้าๆแต่มั่นคง เดินตรงไปยังโต๊ะวีไอพีที่พนักงานบอกไว้ ซึ่งความหมายของโต๊ะวีไอพีดังกล่าวก็คือโต๊ะที่เธอชอบออกมานั่งหลังจากร้านปิดนั่นเอง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม